Inside Dara
“พีค” ขอใช้เวลาพิสูจน์รักแท้

เป็นอีกหนึ่งคนที่มีความรักกุ๊กกิ๊กเสมอจนน่าอิจฉา สำหรับสาว พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ ที่วันนี้เธอได้เผยถึงมุมมองความรักกับแฟนหนุ่ม เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ที่สวยงามได้เพราะความเข้าใจ พร้อมกับบอกเล่าตัวตนของเธอ ที่ ณ วันนี้ไม่เคยคิดแข่งขันกับใคร แต่ขอทำตัวเองให้ดีที่สุด และดียิ่ง ๆ ขึ้นไปในทุก ๆ วันด้วย

ถามถึงผลงานหนัง “เคาท์ดาวน์” หน่อย เป็นยังไงบ้าง?

“ตั้งแต่ที่มีตัวอย่างออกมาก็ค่อนข้างดีเลยค่ะ ซึ่งหนังวัยรุ่นแนวแบบนี้ในไทยยังไม่ค่อยมี คือในเรื่องพีคบทเป็น “แพม” เป็นสาวที่เซ็กซี่ โผงผาง พูดอะไรไม่แคร์คนอื่น จะใช้ชีวิตแบบสุด ๆ บทนี้ก็ยากมาก จริง ๆ คาแร็กเตอร์ส่วนใหญ่จะแตกต่างจากตัวพีคเลย คือเขาจะดิบ ๆ เถื่อน ๆ แต่เราไม่ได้เถื่อนแบบนั้น เรื่องการพูดจาเราก็เลยต้องปรับหมดเลยค่ะ”

คิดว่าวงการบันเทิงให้อะไรมากที่สุด?

“จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้มีความคิดว่าจะเป็นคนมีชื่อเสียง แต่เราโชคดีตรงที่มีโอกาส และก็ได้ใช้โอกาสทำมาเรื่อย ๆ จนถึงวันนี้พีคได้ร่วมงานกับคนดี ๆ เยอะมาก รู้สึกสนุกมากในการทำงาน แต่ตอนแรกก็ยังเป็นเด็ก ๆ อยู่ เลยอาจจะมีความเหนื่อยบ้าง ดังนั้นเราก็เลยจะได้ความอดทนด้วย ตอนนี้พีคอึดมากค่ะ เคยทำงาน 7 วันมาหลายปี เราก็ผ่านตรงนั้นมาได้ และอีกอย่างที่พีคได้คือเรื่องของความมีวินัย ความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา ซึ่งทุกอย่างมันก็ต้องการเรียนรู้เหมือนกันนะ ยิ่งโตขึ้นเราก็จะอยู่ในวงการได้เป็นขึ้น เวลาเจอสิ่งที่เราทำไม่ถูกเราก็จะคิดได้เองว่าอันนี้ไม่ดี แต่ว่าตัวพีคก็ไม่ได้ไปทำอะไรที่มันไม่ดีแบบใหญ่โตหรอก เพราะว่าพีคจะมีคนคอยเตือน คอยดูแลตลอดทั้งคุณพ่อคุณแม่ และพี่เต๋อ ดังนั้นพีคก็จะไม่ได้ทำอะไรที่โลดโผนอะไรขนาดนั้นค่ะ”

หลายคนมองว่าพีคก็เซ็กซี่ ส่วนตัวคิดว่าตัวเองเซ็กซี่มั้ย?

“ที่คนคิดว่าเซ็กซี่กันคงเพราะติดภาพมาจากหนัง “สายลับจับบ้านเล็ก” ที่ลุคอาจจะดูเซ็กซี่ แต่ส่วนตัวพีคก็คิดว่าตัวเองปกตินะคะ อันนี้แล้วแต่คนมอง ถามว่าพีคแฮปปี้มั้ยที่คนมองลุคเราเซ็กซี่ พีคได้หมดเลยค่ะ แล้วแต่คนจะมองว่าเราเป็นแบบไหน เพราะตัวตนพีคเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว คนมองเซ็กซี่พีคก็ชอบนะคะ เพราะถือว่าเป็นคำชม”

ท่ามกลางดาราหน้าใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย เราคิดว่าอะไรที่ทำให้เรายืนอยู่ในวงการได้นานและมั่นคงที่สุด?

“ส่วนตัวพีคไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้เลย พีค รู้สึกว่าการที่เราได้ทำงานด้านนี้ตั้งแต่แรก ก็เป็นโอกาสที่ดี การทำงานนี้เหมือนเป็นชีวิตประจำวันพีคเลย เราก็พยายามพัฒนาให้ดีที่สุด ตอนนี้เราแค่สนุกกับสิ่งที่เราทำให้มากที่สุด เพราะหลังจากนี้พีคถือว่าเป็นกำไร พีคไม่เคยคิดแข่งขันกับคนอื่นอยู่แล้ว พีคจะเป็นคนที่คิดว่าไม่ว่าจะทำอะไร ส่วนใหญ่ก็จะดูแค่ที่ตัวเราทำ ส่วนคนอื่นก็เป็นแต่ละคนไป”

แล้วความฝันสูงสุดของพีคคืออะไร?

“การมีครอบครัวที่มีความสุขเป็นความฝันของพีคค่ะ การมีลูก ๆ ที่น่ารัก มันคงเป็นความสุขที่สุดในชีวิตพีคแล้ว คือพีคมองเห็นภาพตัวเองเป็นคุณแม่มาตั้งแต่เด็กเลย ถ้าถึงวันนั้นชีวิตเราคงมีความสุขมาก และพีคคงทำหน้าที่คุณแม่ให้ดีที่สุด แต่นั่นมันยังเป็นเรื่องของอนาคตค่ะ”

เวลาที่ท้อแท้ใจที่สุด สิ่งยึดเหนี่ยวที่สร้างพลังให้พีคคืออะไร?

“เอาจริง ๆ พีคถือว่าชีวิตเราดีมาก เพราะว่าเวลาที่เราดูข่าวหรือฟังเรื่องราวคนอื่น เขาน่าสงสารมาก มีคนที่เขาไม่มีโอกาสเหมือนเรา ลำบากกว่าเราเยอะแยะ ดังนั้นมันเลยทำให้พีครู้สึกว่าแค่ปัญหาเล็กน้อยแค่นี้เองเราจะท้อแล้วเหรอ มันเทียบไม่ได้เลยนะกับปัญหาที่คนอื่นต้องเจอ ที่เขาต้องแบกรับมากมายกว่าเรา เราต้องรับปัญหาของเราให้ได้ค่ะ ซึ่งพอเราคิดได้แบบนี้ส่วนใหญ่พีคก็จะไม่ค่อยท้อแท้ หรือถ้าสิ่งที่เราทำมามันพลาดไปแล้ว มันไม่ดี เราก็ไม่มัวมาคิดว่าถ้าอย่างนู้นถ้าอย่างนี้ เพราะว่ามันย้อนกลับไปไม่ได้ คือเราก็ต้องทำวันนี้ พรุ่งนี้ให้ดีที่สุด ทำมันให้ดีขึ้น ส่วนอะไรที่เราทำไม่ดี ก็ต้องจำไว้เป็นบทเรียนที่เราจะไม่ทำมันอีกค่ะ”

ปีใหม่นี้มีแพลนทำอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า?

“ตอนนี้ก็คิด ๆ อยู่ พีคมีทำเสื้อยืดกับพี่เต๋อชื่อว่า “คัพ-ที” ปีหน้าเราคงขยายกิจการขึ้น คือเสื้อยืดนี้เราเริ่มทำกันมาตั้งแต่ต้นปี ขายทางออนไลน์ ก็มีหุ้นส่วน 3 คน จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจนี้คือเราคิดจะทำเสื้อที่สามารถใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงนั่นคือการทำเสื้อยืด และก็คิดเป็นธีมสัตว์ ที่เป็นสไตล์พีคและพี่เต๋อก็คือน่ารักแบบกวน ๆ ซึ่ง 1 ปีที่ผ่าน มาฟีดแบ็กดีมากเลย เรามีลูกค้าประจำเยอะมากเลย ส่วนเรื่องการวางขายหน้าร้าน มันต้องมีปัจจัยเพิ่มหลายอย่าง พีคว่ามันจะลำบาก แต่การขายแบบนี้บริการมันก็ทั่วถึงแล้ว ก็เลยคิดว่ามันยังไม่จำเป็นที่ต้องเปิดร้าน แต่ก็คิดที่จะขยายแบบให้มีไซซ์สำหรับเด็ก ๆ จะได้มีไว้ใส่กันทั้งครอบครัว ก็เป็นแพลนที่เราจะทำกันปีหน้าค่ะ ถามว่าทำธุรกิจกับพี่เต๋อมีปัญหาบ้างมั้ย จริง ๆ ไม่มีปัญหาเลยนะ เพราะเวลาที่คิดอะไรก็จะมีเหตุผล และฟังกันและกัน แต่ส่วนใหญ่พีคกับพี่เต๋อก็จะคิดอะไรคล้าย ๆ กันอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการเงินกลัวมีปัญหารึเปล่า จริง ๆ เราไม่ได้ทำหวังมารวย แค่คิดทำเพราะอยากจะสนุก แต่พอขายดี เพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนอีกคนก็จะจัดการเรื่องบัญชี ซึ่งก็มีความระบบชัดเจนมาก คือเราไว้ใจกันค่ะ”

เห็นว่างานอดิเรกชอบทำขนม ทำไมถึงติดใจการทำขนมล่ะ?

“ที่ติดใจทำเพราะพีคชอบกินขนมมาก เลยตัดสินใจไปลงเรียน เพื่อฝึกฝนตัวเองจะได้ทำขนมได้หลาย ๆ อย่าง ซึ่งพี่เต๋อก็ชอบนะคะเวลาที่ได้ชิมขนมพีค เขาก็จะมีของโปรดของเขา หลัง ๆ พีคก็จะมีสูตรของพีคเอง ซึ่งพี่เต๋อก็ชอบที่พีคทำหมดเลยนะคะ แต่ที่พิเศษ เช่น ทาร์ตมะม่วง พี่เต๋อเองก็มีช่วยคิดสูตรเหมือนกัน แต่ขอเก็บเป็นความลับก่อน ส่วนเรื่องการเปิดร้านเบเกอรี่ตอนนี้ยังไม่แน่ เพราะ ณ วันนี้เราขอฝึกฝนตัวเองให้ชำนาญกว่านี้ก่อนค่ะ”

ความรักล่ะเป็นอีกคู่ที่หวานสม่ำเสมอ มีวิธีดูแลความรักยังไง?

“จริง ๆ ไม่มีวิธีอะไรมาก เพราะเวลาเราคบกัน ก็เข้าใจกันและกันมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งพีคโชคดีอย่างหนึ่งที่พี่เต๋อเขาโตกว่า ดังนั้นเขาก็จะเหมือนรู้ว่าควรรับมือกับเรายังไงตั้งแต่เริ่มคบกัน ยิ่งมาถึงทุกวันนี้มันก็เหมือนว่าเรายิ่งเข้าใจกันมาก ๆ เพราะเราก็เรียนรู้กันมาเยอะ ยิ่งคบกันมันก็ยิ่งทำให้เห็นอกเห็นใจกันมาก แคร์กันมาก พอคนเราเข้าใจกันมาก ๆ ก็จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร อยู่ด้วยกันก็มีความสุขค่ะ ซึ่งทุกวันนี้แทบไม่มีเรื่องต้องปรับเลยนะคะ แต่พี่เต๋อก็เคยพูดเหมือนกันว่าเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน มันก็ต้องเรียนรู้กันไปตลอดชีวิต มันอาจจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็ทำให้เรายิ่งเข้าใจกันมากขึ้นค่ะ”

จริง ๆ ใครเป็นคนที่โรแมนติกมากกว่ากัน แล้วเรื่องขี้หึงล่ะใครเป็นมากกว่ากัน?

“เรื่องขี้หึงแรก ๆ พี่เต๋อจะเป็น ซึ่งช่วงนั้นเราจะคุยกันเลย คือเวลาที่พีคคบใครมันก็ต้องเชื่อใจ มั่นใจ ไว้ใจ เพราะว่าเราเลือกแล้ว ฉะนั้นพีคจะสบายใจ แล้วก็อยากให้เขาสบายใจเหมือนเรา คิดอย่างเดียวกับเรา ซึ่งพอคุยกันครั้งนั้นเขาก็เข้าใจนะ เพราะเวลาที่เรามีอะไรเราก็จะคุยกัน และเวลาก็จะทำให้เขามั่นใจในตัวพีคไปเอง ส่วนเรื่องความโรแมนติกตอนแรกพีคว่าพีคโรแมนติกนะ แต่ไป ๆ มา ๆ พี่เต๋อน่าจะโรแมนติกกว่าค่ะ เขาจะสร้างความประทับใจให้เราตลอดเลยค่ะ”

คิดว่าอะไรจะเป็นสิ่งบั่นทอนความรักระหว่างคนสองคน?

“ส่วนใหญ่คู่พีคไม่มีเรื่องบั่นทอนนะคะ เพราะเราจะไม่ปล่อยให้เกิดปัญหานั้นขึ้น พีคมีอะไรก็จะไม่เก็บ คุยกันเลย เคลียร์แล้วก็จบ สำหรับคู่พีคนะถ้าพี่เต๋อมีความสุขพีคก็มีความสุข ในทางกลับกันถ้าพีคมีความสุข เขาก็มีความสุขเหมือนกัน ดังนั้นเราเลยไม่เกิดเรื่องบั่นทอน เพราะถ้าเวลาที่เราทำอะไรแล้วเขาไม่ชอบ เขาก็บอกเหตุผล เราเข้าใจ พีคก็จะเลี่ยงที่จะไม่ทำสิ่งนั้น เพราะทำแล้วเราก็จะไม่มีความสุขไปด้วย คือเราจะคิดถึงกันและกันตลอดค่ะ”

สิ่งที่พีคประทับใจที่สุดในตัวเต๋อคืออะไร

“พี่เต๋อเป็นคนจิตใจดีตั้งแต่แรกที่เรามองเห็น เป็นคนที่น่ารักสำหรับพีคตั้งแต่ที่เจอเลย พีคอยากคุยด้วย อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ ปลอดภัย นี่คือสิ่งที่พีครู้สึกตั้งแต่แรก ๆ จนถึงวันนี้พี่เต๋อก็ยังเข้าใจเรามาก เขาไม่ใช่คนที่ดีสม่ำเสมอนะคะ แต่เขาเป็นคนที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เลย เขาน่ารักมาก ๆ สำหรับพีคค่ะ”

เชื่อเรื่องของรักแท้หรือพรหมลิขิตมั้ย แล้วกับเต๋อคิดว่าเข้าข่าย 2 อย่างที่บอกรึเปล่า?

“เชื่อค่ะ เพราะรู้สึกว่าคนเราคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน ถ้าคนเราเกิดมาแล้วมาเจอกันได้ และรักกันมากพอ มันคงไม่มีอะไรที่จะมาพรากจากกันได้ง่าย ๆ แต่มันก็ต้องอยู่ที่คู่ของเราด้วยนะ ถามว่าพี่เต๋อเข้าข่ายคู่แท้รึเปล่า พีคไม่รู้ค่ะ เพราะว่าถ้าเราแคล้วกันก็แปลว่าเราไม่ใช่คู่กัน คือมันเป็นเรื่องที่เรายังไปไม่ถึง แต่ ณ ตอนนี้เราก็ทำทุกวันนี้ให้มีความสุขที่สุดค่ะ”

แต่เห็นความรักสวยงามของทั้งคู่แบบนี้แล้ว เชื่อได้ว่าหนุ่มเต๋อคงไม่แคล้วจากสาวพีคแน่นอน...