Inside Dara
“ชาคริต” เปิดใจอยากให้รักรอด! บอกยังรัก “วุ้นเส้น” แต่ตบมือข้างเดียวคงไม่ดัง!!

“ชาคริต” เผยอยากให้ขาเตียงแข็งแรง รับแยกบ้านแยกเตียงเพราะเวลาที่ไม่ตรงกัน ย้ำต้องปรับกันทั้งคู่ บอกตบมือข้างเดียวไม่ดัง! เปิดใจห่วงความรู้สึกแม่ ไม่อยากเสี่ยงต่อการสูญเสีย ขอร้องอย่าเพิ่งมโน ชี้ปัญหามีทุกบ้าน ขอเอาความรักเป็นที่ตั้ง เชื่อต้องผ่านไปได้ แต่ถ้าไปต่อไม่ได้ ตนทำดีที่สุดแล้ว เปิดใจยังไม่ล้มเลิกความคิดมีลูก

ถูกจับตามองว่าระยะหลังๆ รักเริ่มมีปัญหา จากคู่ที่รักกันดูดดื่มกลายเป็นคู่ที่แยกบ้าน แยกห้องนอน สำหรับคู่หวาน “ชาคริต แย้มนาม” กับ “วุ้นเส้น วิริฒิพา แย้มนาม” โดยฝ่ายหญิงออกมาเปิดใจว่ารักมีปัญหาอยู่ในช่วงประคับประคอง ลดกระทบกระทั่งเพราะอยากให้ชีวิตคู่ไปกันตลอดรอดฝั่ง ด้านฝ่ายชายนั้นพยายามเปลี่ยนตัวเอง แต่มีบางอย่างถ้าเปลี่ยนไม่ได้ อาจทำให้รักไปต่อไม่ได้

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเปิดใจ “ชาคริต” ถึงกระแสดังกล่าว โดยเจ้าตัวเผยว่าอยากให้เรื่องครอบครัวของตนจบแค่วันนี้ อย่าเพิ่งมโนกันไปไกล เพราะไม่อยากให้กระทบกระเทือนจิตใจคุณแม่ บอกตอนนี้เสี่ยงต่อการสูญเสีย

“ก็พูดเรื่องเดิมๆ เลยครับ อย่างที่บอกทุกคู่มีทั้งสุขและทุกข์ มีปัญหาด้วยกันทั้งหมดแหละ สำหรับผม ผมเป็นคนค่อนข้างหัวโบราณ เรารู้จักกันมานานก็คงไม่ต้องพูดเยอะว่าผมเป็นคนยังไง อย่างที่บอกความรักสำหรับผม ผมให้เต็มที่ ยิ่งเป็นการแต่งงาน การมีคู่ครอง แต่ปัญหามันมีทุกบ้าน การที่เรารักกัน ตัดสินใจแต่งงานกัน ก็เพื่อที่เราจะได้ดูแลซึ่งกันและกัน เราต้องทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น มีปัญหาเรื่องเวลา เรื่องงานที่มันเยอะ หรือของผมที่ยังต้องมีคุณแม่ที่สุขภาพไม่ค่อยจะดี ตอนนี้ผมต้องโฟกัสหลายอย่าง แต่ด้วยความที่ผมและวุ้นเรารักกัน เราก็ต้องพยายามทำทุกอย่างให้มันดี และจะต้องทำให้มันดีขึ้น”

“สาเหตุเกิดจากอะไรผมไม่รู้ ผมไม่ได้ซีเรียสอะไร งี่เง่าอ่ะ ยังไงเราก็ยังต้องการซึ่งกันและกัน ทั้งหมดที่มันเกิดขึ้น สาเหตุมันก็เกิดจากความรัก และก็ต้องการซึ่งกันและกันด้วยกันทั้งคู่ เวลาก็ไม่ตรงกัน เอาเป็นว่าทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น มันก็เกิดจากความรัก ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรสักอย่าง แต่เราก็จะทำให้มันดีที่สุด เพราะว่าเรารักกัน”

ลั่นตบมือข้างเดียวไม่ดัง ต้องเปลี่ยนกันทั้งสองฝ่าย

“ผมว่ามันก็คงไม่ใช่ผมคนเดียว คนเราตบมือข้างเดียวไม่ดัง มันก็ต้องไปด้วยกัน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะทำอยู่ฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้ มันก็เป็นเรื่องปกติครับ”

“ถ้าบอกว่าเป็นปัญหาซ้ำๆ ที่เกิดขึ้น มันไม่เคยหลายครั้ง หลายครั้งคืออะไรผมไม่เข้าใจว่าไปฟังกันมายังไง ผมก็เหมือนเดิม ไม่เคยมานั่งพูดถึงครอบครัวอะไรมากนัก มันก็เป็นเรื่องที่บ่งบอกเอง เราก็อยู่กันมานานแล้ว น่าจะเข้าใจผมอยู่”

แยกบ้านแยกห้องเพราะงานและเวลาที่ไม่ตรงกัน ลั่นตนต้องดูแลแม่ ต้องถนอมน้ำใจแม่ ไม่อยากให้กระทบเสี่ยงต่อการสูญเสีย

“มันเป็นเรื่องของงานและเวลาที่ไม่ตรงกัน ผมเองก็ต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่ แล้วอีกอย่างตอนนี้ผมก็มีคุณแม่ที่ต้องคอยดูแล ผมก็จำเป็นต้องถนอมน้ำใจเขานิดหนึ่ง เพราะอะไรที่มันกระทบตอนนี้มันก็ค่อนข้างเสี่ยงสำหรับผมกับการสูญเสีย เพราะฉะนั้นก็อย่าเพิ่งมโนกันไปเยอะ ให้มันแค่ตรงนี้ดีกว่า หลายคนด้วยความที่เขาเป็นห่วง เขาก็มาพูด แต่พอมันมากระทบถึงแม่ผม ฉะนั้นผมว่าหยุดไว้ตรงนี้ดีกว่า เพราะมันค่อนข้างละเอียดอ่อน”

“อย่างที่บอกว่ามันเป็นเรื่องของเวลาที่มันมีน้อยด้วยแหละ แต่เราก็พยายามกันเต็มที่ เราทั้งคู่ต้องการอยากที่จะทำให้มันดีขึ้น ผมก็ว่าจะลองไปเที่ยวกัน ก็ไปมาแล้ว ซึ่งมันก็โอเคดี การพูดอะไรเยอะมันไม่ใช่สิ่งที่ดี สำหรับผมตอนนี้ผมขอโฟกัสเรื่องการดูแลอะไรหลายๆ อย่างสำหรับตัวผมเอง และที่สำคัญผมไม่อยากมีอะไรที่มันไปกระทบคุณแม่ผม”

ปรับจูนไม่เยอะ ตราบใดที่ยังรักกัน หวังให้ไปตลอดรอดฝั่ง เชื่อเอาความรักเป็นที่ตั้ง ทุกอย่างจะผ่านไปได้ ถ้าไปต่อไม่ได้คงเศร้า

“ก็ไม่เยอะหรอก คนเราถ้ามันจะอยากอยู่ด้วยกัน เราก็ต้องทำให้มันดี ปัญหานี้มีทุกครอบครัวแหละ แต่ตราบใดที่เรารักกัน เราก็อายุขนาดนี้แล้ว จะไปทำอะไรบ้าๆ บอๆ อีเหละเขะขะ เละเทะมันก็ไม่ได้ เราต้องรับผิดชอบงาน และทุกอย่าง ซึ่งที่ผ่านๆ มา ผมกับพี่ๆ นักข่าวเรารู้จักกันมากี่ 10 ปีแล้วคงไม่ต้องมานั่งพูดกันเยอะ”

“เรื่องปรับจูนก็ต้องทั้งคู่แหละครับ ทุกคนก็ต้องหวังให้มันดีขึ้น การแต่งงานมันเป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ เราต้องการที่จะทำให้มันดีที่สุด เพราะสิ่งที่เราตัดสินใจกันตั้งแต่วันแรก มันก็เป็นเรื่องของเราสองคน อยู่ที่ว่าเราสองคนที่จะทำให้มันไปได้ตลอดรอดฝั่ง เราอยู่กันมาตั้ง 4 - 5 ปี การมีความรักและความเข้าใจเป็นที่ตั้ง ผมเชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี”

“เราต้องการให้ทุกอย่างมันดีขึ้นอยู่แล้ว ถ้ามันไปได้ตลอดรอดฝั่ง มันจะเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ และสวยงามที่สุด แต่ถ้าเกิดมันไปไม่ได้ เราทำดีที่สุดแล้ว มันก็คงเป็นเรื่องเศร้าเท่านั้นเอง แต่ว่าชีวิตคนเราก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป เราจะมาหยุดมาตายกันวันนี้ แล้วคนอื่นที่ยังอยู่ข้างหลังเราอีกหลายคนก็คงเดือดร้อน”

“ผมไม่มีโอกาสหรือมีเวลาที่จะมานั่งเหนื่อยเลยในตอนนี้ ปรึกษาใครผมยังปรึกษาไม่ได้เลยสักอย่าง ผมต้องไปด้วยตัวผมเอง ตัดสินใจด้วยตัวผมเอง มีผมเป็นที่พึ่งแห่งตน ไหนจะเรื่องครอบครัว เรื่องธุรกิจ มันหลายอย่าง”

ประกาศรักเดียวใจเดียว ยังต้องการแค่วุ้นเส้น บอกอย่าเพิ่งมโนกันไป เปรยอยากให้ขาเตียงแข็งแรง

“ก็ผมเป็นคนง้องแง้ง ก็ไม่รู้อ่ะ ไปอ่านสิ่งที่ผมเคยพูดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่เราเคยคบกันมา ทุกอย่างก็เห็นอยู่แล้วว่าผมเป็นคนยังไง ต้องปรับมั้ยก็ไม่รู้สิ ผมไม่รู้(หัวเราะ) ผมรักเดียวใจเดียวนะ ผมยังต้องการเขาอยู่คนเดียว มันหลายๆ อย่าง ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันก็มีเรื่องที่โอเคตั้งเยอะ อย่ามโนกันไปเยอะเลย”

“ที่เขาบอกว่ากำลังอยู่ในช่วงประคับประคอง ก็ดี (เสียงสูง) ว่างก็ไปดูหนัง ไปเที่ยวต่างประเทศ มีเวลาก็ไป ขาเตียงแข็งแรงมั้ยก็อยากให้แข็งแรง เรื่องอนาคตมันอยู่ที่เจตนาแล้วแหละ อันนี้ผมตอบไม่ได้ คุณเองก็ทำข่าวกันมานาน คนมันจะไปในทิศทางไหน คุณก็ต้องเห็นแนวทางแบบไหน ก็ช่วยบอกด้วยนะ เพราะผมก็ต้องเต็มที่แบบนี้ ถามว่ารักเขามั้ยก็รักดิ รักเหมือนเดิม”

ไม่ปรับตัวก็บ้า! เรื่องลูกยังไม่ล้มเลิกแต่ไม่ใช่ตอนนี้

“ไม่รู้เหมือนกันว่าข่าวคือเรื่องอะไร ไม่รู้ว่าเขาให้แค่ไหน ผมไม่ได้อ่านข่าวเลย ก็ไม่ต้องมีข่าวเลย ง่ายนิดเดียว ก็คุยกัน เขาบอกว่าเขาพูดกลางๆ ที่เหลือให้ไปถามนักข่าวเอง แต่ก็ไม่เป็นไร เราเข้าใจ เพราะรู้จักกันมานาน เรื่องปรับตัวก็ต้องปรับสิ ไม่ปรับก็บ้าแล้ว”

“ก็มีทั้งที่ได้เจอกันและไม่ได้เจอกัน แค่นี้ดีกว่า ผมไม่อยากพูดอะไรมาก แต่ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ผมเองก็ทำเต็มที่ (เรื่องลูกมีส่วน?) เรื่องลูกยังไม่ใช่ตอนนี้ครับ แต่ก็ยังไม่ล้มเลิก ตอนนี้เอาทีละสเต็ปดีกว่า”