Inside Dara
“ฟ้าใส-อรจิรา” เล่าชีวิตหลังแต่งงาน เป็นคุณนายผู้ว่าฯ อุดร พร้อมทำงานเพื่อสังคม

เป็นอีกหนึ่งนักแสดงสาวที่โลดเล่นในวงการบันเทิงมาพักใหญ่ สำหรับสาว ฟ้าใส-อรจิรา ศิริมงคล ที่ตอนนี้กำลังมีผลงานละครเรื่อง “เวราอาฆาต” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่แอปพลิเคชัน AIS PLAY เท่านั้น ซึ่งในเรื่องสาวฟ้าใสต้องสวมบท สมร สาวสวยที่วีนเหวี่ยงไม่เลือกหน้า แต่บทบาทในชีวิตจริงเธอนั้นตรงกันข้ามกับบทละครสิ้นเชิง เพราะเธอได้ทำงานอุทิศตนเพื่อสังคมในตำแหน่ง ที่ปรึกษาเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี และเป็นภรรยาสาวของ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี จนหลายคนถามเข้ามาเยอะว่า เธอจะถึงขั้นอำลาวงการบันเทิงเพื่อไปลุยงานทางด้านสังคมเต็มตัวเลยหรือไม่ วันนี้ทีมบันเทิงไทยรัฐมีบทสัมภาษณ์แบบเปิดอกกับเธอคนนี้มาให้อ่านกัน...

“กระแสตอบรับดีมากๆค่ะ ขนาดชาวบ้านที่อุดรเค้าก็ดูกัน ก็มาทักว่า คุณนายแสดงละครเรื่องนี้ใช่มั้ย แต่เราก็เขินๆ เพราะบทบาทในละครร้ายมากๆ เขาก็จะบอกว่าดูละครคุณนายด้วยนะ สนุกมาก แต่เขาก็ไม่ได้มาว่า หรือคอมเมนต์อะไรไม่ดี เขาก็จะบอกละครแซ่บนะ อะไรประมาณนี้ รวมๆก็ยังโอเคอยู่”

“ยากมากค่ะ ถ้าเป็นเรื่องของบทก็คือไม่ถนัดเลย ด้วยความที่ตัวละครตัวนี้มีพื้นฐานเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ มีลูกเล่นแพรวพราว บวกกับสไตล์ของผู้กำกับอย่างป๋าบุ๋ม เขาจะมีความเรียลเยอะ เราต้องใช้พลังเยอะมากกว่าอีกเท่าหนึ่ง เรื่องนี้ทุกคนร้ายหมด ก็เลยคิดว่าตอนเล่นมันก็มีความสนุกตรงที่ทุกคนได้ระเบิดใส่กันจัดเต็มใส่กันแบบไม่ยั้ง สิ่งที่ได้ก็คือได้สกิลหลายอย่างเพิ่ม มันต้องมีจริตจะก้านเยอะแยะเต็มไปหมด ก็เลยทำให้เรารู้สึกว่า ได้ฝึกเหมือนกัน แล้วเราต้องเล่นให้ได้ในทุกๆแบบ”

ชีวิตหลังแต่งงานเป็นอย่างไรบ้าง?

“ดีค่ะ ปรับตัวเยอะหน่อย ก็ได้เปลี่ยนบทบาท ได้ทำงานที่เกี่ยวกับการกุศลเป็นหลัก เพราะเป็นงานช่วยเหลือคน 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยความที่เป็นงานส่งเสริมสังคมก็ไม่ได้มีเงินเดือนอะไรนะคะ เราทำด้วยใจจริงๆ แค่เพียงมันมาด้วยตำแหน่ง แต่งงานกับผู้ว่าฯ ข้อหนึ่ง มันก็เลยเป็นตำแหน่งของเรา เป็นความรับผิดชอบของเรา ก็คือเราไปเยี่ยมในพื้นที่ไกลๆ ไปมอบของเพื่อช่วยเหลือ ส่วนใหญ่ก็จะได้เจอคนแก่ คนพิการ คนยากไร้ พอพวกเขาเจอเรา เขาก็จะดีใจที่เราไปเยี่ยม ไปหาเขาด้วยใจ เขาก็ดีใจแล้ว คือคนลำบาก เขาก็ลำบากมากจริงๆ”

ตำแหน่งนี้ คือตำแหน่งอะไร?

“ของฟ้าใสขึ้นตรงกับสภากาชาด ความจริงฟ้าใสยังไม่ได้รับมอบตำแหน่งอย่างจริงจัง 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่ายังไม่ได้อยู่ในช่วงแต่งตั้ง การแต่งตั้งจะถูกแต่งตั้งโดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เรียกว่าต้องมีการถวายตัวเลย เขาก็จะเรียกว่านายกเหล่ากาชาด ก็จะเป็นตำแหน่งที่มาของเรา เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงโควิดก็เลยยังไม่ได้มีการจัดพิธีแต่งตั้งค่ะ ตอนนี้ฟ้าใสก็เลยดำรงตำแหน่งที่เรียกว่าที่ปรึกษาเหล่ากาชาด เรียนรู้งานไปก่อน”

เสียงตอบรับของชาวบ้านเป็นอย่างไรบ้างที่มีต่อเรา?

“ก็ดีนะคะ มีคนเคยดูละครของเราด้วยนะ แต่เขาก็จะตื่นเต้นในมุมที่เราเป็นดาราแล้วก็มีอายุน้อย เพราะว่าส่วนใหญ่ ภรรยาผู้ว่าฯก็จะ 50 บวก แต่อันนี้สามีฟ้าใสเขาก็เด็กแหละในสายงานเขา อย่างฟ้าใสก็เด็กลงมาอีก ห่างกัน 20 ปี ก็เลยจะดูไม่ค่อยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ กลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เขาก็จะตื่นเต้นกัน ได้เห็นอะไรใหม่ๆ โชคดีตรงที่ว่าเราเป็นนักแสดง ถนัดอยู่แล้วในเรื่องของการเดินสาย เราก็เลยมีความกล้าที่จะเข้าหาคนหรือคุยกับชาวบ้านอยู่แล้วค่ะ”

ตอนนี้เราเป็นภรรยาเต็มตัวแล้ว เรามีการดูแลสามีอย่างไรบ้าง หรือมีบทบาทหน้าที่ไหนเพิ่มไหม?

“มีค่ะ ก็ช่วยๆกัน แต่ด้วยความที่คุณสามีมีความเป็นส่วนตัวสูง เราแค่มีหน้าที่ถามเขาว่าอยากกินอะไร ส่วนใหญ่ก็จะสั่งอาหารจากข้างนอกเข้ามาทาน เราก็จะเป็นคนจัดเตรียมอาหารให้ อุ่นให้ทาน ก็ปกติเหมือนอยู่กับแฟนทั่วไปแหละค่ะ”

งานแสดงจากนี้จะเป็นอย่างไร จะลาวงการเลยไหม?

“คิดว่าถ้ามีโอกาส แต่ด้วยบริบทของเราที่เปลี่ยนไป เราอาจจะเล่นบทร้ายๆเหมือนเดิมไม่ได้ สังคมใหม่ของเราเขาก็จะมีทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ถ้าคนรุ่นใหม่ก็อาจจะเข้าใจ แต่บางทีคนรุ่นเก่าเขาอาจจะมองว่า อ้าว คนนี้ภรรยาเจ้านาย เราก็มีความกังวลในส่วนนี้ ว่าเขาอาจจะไม่แฮปปี้ บางทีคนใหญ่คนโตมากๆ อย่างคนในวัง บางทีเขาก็ไม่อยากให้เสียภาพลักษณ์ สรุปก็คือจริงๆก็ยังรับงานได้ แต่อาจจะไม่สามารถร้ายมากหรือถึงเนื้อถึงตัวได้ขนาดนี้แล้ว เพราะในมุมทำงานของเรามีเงื่อนไขเยอะ แต่ส่วนของวงการ ไม่ทิ้งค่ะ แต่ถ้าวันหนึ่งมีโอกาส ก็เดี๋ยวดูอีกทีค่ะ”.