Inside Dara
'น้ำตาล' พอ นางงาม โดดลงละคร

เป็นนางงามขวัญใจมหาชนของแท้สำหรับสาวสวยจากสมุทรปราการ น้ำตาล–ชลิตา ส่วนเสน่ห์ เพราะเธอเข้าประกวดเวทีขาอ่อนมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ด้วยหน้าตาสวยแบบไทยๆ แต่สรีระแขนขายาวสไตล์อินเตอร์ ทำให้เธอเข้าตากรรมการ และแซงนางงามตัวเก็งปาดหน้าคว้ามงกุฎไปครอง ท่ามกลางดราม่าร้อนฉ่าว่ามีล็อกโผ!

หลังจากคว้ามงมาสวมสำเร็จ น้ำตาล ได้เล่าให้ฟังว่า เธอมีคุณแม่เป็นแรงบันดาลใจในการก้าวขึ้นเวทีขาอ่อนครั้งนี้ เนื่องจากตอนที่แม่ยังเป็นสาวๆ แม่ก็เคยขึ้นประกวดเทพีสงกรานต์มาก่อน เมื่อแม่คลอดลูกสาวซึ่งก็คือ น้ำตาล จึงดีใจนักหนา ตั้งใจจะต้องปั้นให้มาสานฝันตัวเองให้ได้ เมื่อโตเป็นสาวเต็มตัว น้ำตาล จึงยื่นใบสมัคร โดยมีแม่ทำหน้าที่พี่เลี้ยงรีดน้ำหนักจาก 60 กก. ลงมาเหลือ 54 กก. จากนั้นก็ฝึกซ้อมท่วงท่าการเดินเหินให้ดูสวยสง่าแบบนางงาม จนในที่สุด น้ำตาล ก็สานฝันของแม่ให้เป็นจริง

แต่การจะก้าวสู่เวทีที่ยิ่งใหญ่อย่างมิสยูนิเวิร์ส 2016 ซึ่งเป็นการประชันขาอ่อนของนางงามทั่วโลกนั้นถือว่าเกินฝัน แต่ น้ำตาล ก็มุ่งมั่นที่จะทำให้ดีที่สุด ฝึกฝนหนักขึ้นทั้งการฝึกพูดออกเสียง ฝึกการเดิน เรียนการแสดงออกและความมั่นใจ น้ำตาล มุ่งสู่เวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส ณ ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยความพร้อมเต็มร้อย ขณะที่คนไทยก็ติดตามความเคลื่อนไหวของ น้ำตาล ผ่านโซเชียลกลายเป็นกระแสฮอตที่สุด ณ เวลานั้น ซึ่ง น้ำตาล ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อทะลุเข้าถึงรอบ 6 คนสุดท้ายได้สำเร็จในรอบ 28 ปี ต่อจาก สาวิณี ปะการะนัง แม้จะพลาดคว้ามงกุฎไปอย่างน่าเสียดายแต่ทุกคนให้กำลังใจ น้ำตาล อีกทั้งยังให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเกินคาด

เส้นทางหลังจากนี้กลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิด กลับโรยด้วยตะปูเรือใบและขวากหนาม จนทำให้ชีวิตของน้ำตาลสะดุดเมื่อมีข่าวว่ามีปัญหากับกองประกวดฯเรื่องผลประโยชน์ ถึงขั้นนางงามรุ่นพี่ออกมาโพสต์ตำหนิ แต่น้ำตาลก็ปฏิเสธเรื่องนี้ จนกองประกวดฯได้ตัดสินใจออกมายุติดราม่าด้วยการปฏิเสธเรื่องการมีปัญหาคาใจกับน้ำตาล และยืนยันว่าไม่มีการปลดแต่อย่างไร

ช่วงอยู่ในสัญญากับกองประกวดฯเหมือนเป็นช่วงพักร้อน พอหมดสัญญาปุ๊บ น้ำตาลก็โดดลงวงการบันเทิงทีวี เป็นดารารับเชิญขัดเกลาฝีมือไปก่อน จากนั้นจึงรับงานแสดงละครเรื่องแรก “สาปกระสือ” ทางช่อง 8 หลายคนร้องยี้จากที่เคยเป็นถึงมิสยูนิเวิร์ส แต่กลับมาแสดงเป็น “ผีกระสือ” มีแต่หัวกับไส้ ไม่เสื่อมเสียเกียรติไปหน่อยเหรอ แต่อย่าลืมว่าเกียรตินั้นกินไม่ได้ แต่งานนี่สิทำให้มีเงิน เลี้ยงปากเลี้ยงท้องคนในครอบครัวได้ เคยได้ยินมั้ย “อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา”

คนอื่นเห็นว่าเป็นดาราแล้วสบาย น้ำตาล อยากจะบอกว่าให้คิดซะใหม่ เพราะแค่ละครเรื่องแรก “สาปกระสือ” ก็ทำเอาเธอถึงขั้นอ้วกกลางกองถ่ายมาแล้ว โดย น้ำตาล เล่าว่า ฉากที่กระสือกินไส้ ทีมงานหาไส้หมูมาแล้วนำมาคลุกกับน้ำแดง คือหวังดีคิดว่าตนจะได้กินง่ายๆ แต่ตอนแสดงจริงมันไม่ยังงั้นน่ะสิ มันแหวะมากแค่เห็นก็พะอืดพะอมแล้ว ยิ่งพอก้มหน้าลงไปกัดกินได้ซักพักก็เริ่มจะไม่ไหวแต่ก็ต้องฝืนไว้ จนผู้กำกับสั่งคัตเท่านั้นแหละ หันหน้าอ้วกแทบไม่ทัน พอหลังจากนั้นทีมงานเห็นว่าไม่ไหวจริงๆจึงปรานีเราหน่อย เปลี่ยนจากไส้หมูมาเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่คลุกน้ำแดงแทน

ย้อนวันเวลาไปนับจากวันที่ น้ำตาล คว้ามงกุฎ ชีวิตของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ซึ่ง น้ำตาล เล่าว่า “3 ปีที่ผ่านมาชีวิตมันย่อมเปลี่ยนแปลงแน่นอนค่ะ จากเด็กวัยรุ่นทั่วไป ไปเรียนหนังสือเสร็จก็กลับบ้าน ก็ต้องรับผิดชอบหน้าที่มากขึ้น แล้วทำให้ความคิดเราโตขึ้น มีวุฒิภาวะ จะพูดจะทำอะไรต้องคิดก่อน การที่ได้เจอผู้คนมากมายก็ทำให้พูดเก่งขึ้น ได้แง่คิดมุมมองที่โตขึ้นด้วย” และอีกหนึ่งโอกาสใหญ่ในชีวิตที่วันนี้ได้ขึ้นหน้า 1 คอลัมน์ “มาลัยไทยรัฐ” น้ำตาล สวยด้วยเสื้อผ้า Asava Milin Bare By Canitt

ที่ผ่านมา น้ำตาล โดนดราม่ามามากมาย หลายครั้งก็หนักหนาสาหัส แต่เธอก็ผ่านมาได้ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ตนผ่านเรื่องราวดราม่ามาเยอะ เจอมาเรียกว่าแทบจะทุกรูปแบบก็ว่าได้ พอมาถึงจุดหนึ่งทำให้คิดได้ว่า เป็นมนุษย์ต้องรู้จักปล่อยวางบ้าง ไม่งั้นเดี๋ยวจะเป็นบ้าเอา

ส่วนเรื่องหัวใจนั้น น้ำตาลบอกว่าเซย์โน ไม่มีแฟน ไม่มีความรัก ไม่มีคนเข้ามาในชีวิตเลยหลายคนไม่เชื่อ แต่ไม่มีจริงจริ๊ง

อ๊ะ จริงเหรอๆ แล้วนายแบบหล่อชาวฮ่องกง ริชาร์ด ควน ที่สนิทสนมกันตอนน้ำตาลไปทำงานที่ฟิลิปปินส์น่ะ ไม่มีซัมติงจริงๆเหรอ อุ๊ปส์!