Inside Dara
บุ๋ม ปนัดดา น้ำตาซึม เผยหมดเปลือกสาเหตุเลิกสามี เอก เอกริน

พิธีกร-นักแสดงสาวดีกรีนางงาม บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้เปิดใจถึงสาเหตุที่เลิกรากับอดีตสามีอย่างเทรนเนอร์หนุ่ม เอก เอกริน นิลเศรษฐี ในระหว่างถ่ายทำรายการ "ตกมันส์บันเทิง" ณ สตูดิโอ 1 บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมีสื่อมวลชนมาร่วมทำข่าวเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งขอเคลียร์ดราม่าเรื่องแต่งหน้าระหว่างไปแสวงบุญที่ประเทศอินเดียด้วย

ถามถึงเรื่องเลิกกับเอก?

"จริงๆ เราพยายามประคับประคองกันในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ช่วงปีหลังมีคุยเรื่องเลิกกันหลายครั้ง เพื่อที่จะได้ทำตามสิ่งที่ตัวเองชอบมากขึ้นแล้วมันไม่เกลียดกันน่ะ บุ๋มกลัวว่าคนที่เราเคยรักมากแล้ววันนึงไปกันไม่ได้ คุยกันไม่รู้เรื่อง จะกลายเป็นทะเลาะ มันไม่ใช่เหตุผล

บุ๋มกลัวจะเสียคนที่บุ๋มรักมากไป พอรักมากแล้วมันไม่ใช่ มันกลายเป็นเกลียด มันคงไม่ใช่แล้ว และบุ๋มไม่อยากฟูมฟายร้องไห้ต่อหน้าลูก ดังนั้นเมื่อวันนี้มันไม่ดี มันก็ต้องคุยกันว่าอะไรที่ไม่ดี แล้วจะทำยังไงให้มันดี ถ้าต่างคนต่างอยู่ดีกว่ามั้ย ไม่ต้องคาดหวังกัน ก็เลยสรุปกันว่าต่างคนต่างอยู่ดีกว่า และเรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน"

ก่อนที่เอกจะไป เราอยู่บ้านในสถานะเพื่อนมากี่เดือน?

"จริงๆ มันไม่ได้ระบุคำแบบนั้น แต่ด้วยความรู้สึก การใช้ชีวิต มันเริ่มจะถอยออกมาสักพัก แล้วสะกิดเขามานั่งคุยกันว่าคุณจะเล่นเกมแบบนี้ใช่มั้ย ฉันจะทำงานเพื่อสังคม แล้วคุณงอนฉันแบบนี้ใช่มั้ย มันเลยแบบแล้วจะยังไงต่อ ที่ผ่านมาก็เลยประคับประคองมา

ข้อเสียของบุ๋มคือ เวลาบุ๋มรักใครมาก แล้วเขาทำอะไรที่มันไม่ใช่ ไม่ถูกต้อง มักจะไม่พูดตรงๆ เพราะไม่อยากทำร้ายใครด้วยคำพูด เขาก็เลยไม่รู้ตัว"

ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เลิกคืออะไร?

"พูดไม่ถูก มันเป็นอะไรที่ยิบย่อยและสะสมมากกว่า เพราะถ้าเป็นเรื่องใหญ่คงทะเลาะกัน และ ณ วันนี้คงยังไม่คุยกัน แต่ตอนนี้เรายังคุยกันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยังทำธุรกิจด้วยกัน ที่ผ่านมาเขามีจุดยืนของเขา แล้วบุ๋มทำองค์กรทำดีพร้อมกับคบกับเขา บางครั้งกว่าจะเสร็จงานก็ดึก แต่มันทำให้เขารู้สึกว้าเหว่

เขารู้สึกว่าเราไม่สนใจเขามากพอ แต่เราคิดว่าแค่คืนเดียวที่เราไม่ได้อยู่กับเขา แต่อีก 6 วันอยู่กับเขา แล้วได้ช่วยชีวิตผู้หญิงกลับมา บุ๋มว่ามันคุ้มกว่า เพราะบุ๋มมองเขาในระยะยาว เราอยากคบเขาจนวันตายค่ะ"

ชีวิตคู่ที่จบครั้งที่ 2 มีน้ำตามั้ย?

"มีแน่นอนค่ะ แต่ด้วยความที่ได้ไปแสวงบุญที่อินเดีย ซึ่งวางไว้นานแล้ว วันนั้นที่สุวรรณภูมิ บุ๋มนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว มันแบกความรู้สึกไม่ไหว เราไม่อยากเจอคนอื่นด้วยสภาพน้ำตาท่วมหน้า ถามว่าอ่อนแอมั้ย มันก็ต้องมีบ้าง"

ตอนที่เอกขนของออกจากบ้าน ทำให้กลั้นน้ำตาไม่ไหว?

"ใช่ค่ะ เพราะเห็นสภาพบ้านที่มันโล่งเนอะ แล้ววันพุธนี้เตียงที่สั่งไว้จะมาส่ง แต่กลายเป็นเราต้องนอนคนเดียว ถามว่ามียื้อไว้มั้ย ไม่ค่ะ เพราะคิดกันมาหลายวัน คนที่บ้านก็รู้ และเราพยายามไม่ทะเลาะต่อหน้าลูกเด็ดขาด"

เรื่องธุรกิจยังทำด้วยกัน?

"หลักๆ เขายังดูแล บุ๋มเป็นหุ้นส่วนน้อย คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่ถ้าเขารู้สึกตะขิดตะขวงใจ บุ๋มคงยกให้เขาหมดค่ะ"

เสียดายมั้ยเวลา 4-5 ปี?

"ไม่เสียดายค่ะ เรื่องเงินบุ๋มไม่ได้ลงทุนเยอะเท่าเขา ที่ผ่านมามันเป็นสิ่งที่บุ๋มสร้างมากับมือ บุ๋มไม่อยากให้มีปัญหา แต่หลักๆ เขาดูแลทั้งหมดอยู่แล้วค่ะ"

มีโอกาสกลับมามั้ย เพราะเลิกกันด้วยดี?

"อนาคตคงเป็นเรื่องอนาคต เพราะวันนี้บุ๋มเองก็ไม่คิดว่าจะต้องสัมภาษณ์เรื่องเลิกกับสามี ไม่มีใครอยากให้ชีวิตคู่ล้มเหลว ไม่รู้ว่าอนาคตจะกลับมาคุยกันมั้ย แต่บุ๋มยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อเขาอยู่นะ"

กำลังใจรอบตัวมีเยอะมาก?

"กำลังใจนอกเหนือจากแฟนๆ ที่ส่งกันมาเยอะมากๆ อันนี้ต้องขอบคุณจริงๆ ค่ะ น้องอันดามัน คือ กำลังใจสำคัญมากๆ สำหรับบุ๋ม เขาก็บอกว่าเขาเชื่อในการตัดสินใจของเราอยู่แล้วค่ะ"

หลังจากที่ไปอินเดีย ได้อะไรกลับมาบ้าง?

"บุ๋มว่าบุ๋มโชคดีนะที่ ณ วันที่เลิกกัน บุ๋มได้ไปแสวงบุญที่อินเดีย เลยทำให้จิตใจกลับมาเข้มแข็งเร็วมาก วันแรกร้องไห้หนักมาก หลังจากนั้นจิตเริ่มนิ่งมากขึ้น เริ่มเห็นว่ามีมาก็ต้องมีจาก บุ๋มโชคดีที่มีพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี นำทางบุญ สอนอะไรหลายอย่าง ทำให้ใจนิ่งเร็วขึ้นมาก ไม่งั้นคงแย่เหมือนกัน"

คนคอมเมนต์เรื่องแต่งหน้าตอนไปอินเดีย?

"ที่ไปอินเดียแล้วแต่งหน้า เนื่องจากบุ๋มไม่ได้บวชนะคะ บุ๋มไปเป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์ แล้วไปช่วยทริปนำบุญ ไปเอ็นเตอร์เทน คือไปแบบกึ่งทำงานมากกว่า ไปดูแลลูกทัวร์ 50 คน วันแรกที่ไปร้องไห้หนักมากเลย วันที่ 2 มันเห็นหน้าตัวเองในกระจก แล้วบุ๋มคิดว่าจะออกไปทำงานด้วยสภาพหน้าแบบนี้เหรอ ก็เลยต้องแต่งหน้าช่วยค่ะ"

อนาคตจะเปิดใจให้ใครมั้ยหรือเพียงพอแล้ว?

"ณ วันนี้ไม่กล้าคิดค่ะ เพราะว่าเจ็บอยู่เหมือนกันค่ะ พอมีคนมาจีบปุ๊บ วันแรกที่มีข่าวออกมา ข้อความมาเยอะเลย เรากลับรู้สึกกลัว เข็ดนิดๆ เพราะเวลาเรารักใครเราทุ่มเต็มที่ แต่พอมันไม่ใช่เราจะรู้สึกกลัว คงต้องใช้ระยะเวลามากกว่านี้ อยู่กับลูกกับหมาที่บ้านดีกว่าค่ะ"

ยืนยันว่าจะทำงานเพื่อสังคมต่อไป ทั้งที่รู้ว่ามันอาจเป็นจุดที่ทำให้คนที่เข้าหาเรามีเวลากับเราน้อยลง?

"มันคงต้องทำต่อ เพราะบุ๋มมีความสุขที่ได้ช่วยคน เวลาได้เห็นคำขอบคุณ เห็นคนมีชีวิตใหม่ เรารู้สึกว่านี่คือสิ่งที่เรามีความสุข แต่ที่ผ่านมาด้วยสไตล์ของเขาไม่ได้ชอบแนวนั้น เราก็ไม่ว่าอะไรเลยไม่ได้พาเขาไป หรือจะให้บุ๋มไปเที่ยวกับเขาอย่างเดียวก็ไม่ใช่ค่ะ มันมองกันคนละมุมค่ะ"

เขามีง้อมั้ย?

"เขาก็มีพูดนะคะ แต่บุ๋มก็ถามเขาว่าแล้วมันจะกลับมาเหมือนเดิมเหรอ ถ้ากลับมาแล้วจะทะเลาะกันอีกมั้ย มันมีคำถามที่หาคำตอบไม่ได้อีกเยอะมาก บุ๋มเลยยังไม่อะไรมากกว่านี้ค่ะ"

ยังรักเขาอยู่มั้ย?

"รู้สึกผูกพันมากกว่า 5 ปีมันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะคะ กับการคบกับใครสักคนที่อยู่ด้วยกันตลอด ดูแลกันมาตลอดค่ะ"

อยากบอกอะไรแฟนๆ คนให้กำลังใจเยอะมาก?

"ก็แปลกใจเหมือนกันเพราะคิดว่าจะโดนด่าเยอะ แต่กลับกลายเป็นว่ากำลังใจเยอะกว่า เข้าใจเยอะมาก ทุกคนบอกว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ยังเห็นว่าบุ๋มมีคุณค่าในการทำงานเพื่อสังคมมากกว่าฟูมฟายเรื่องความรัก และมาเตือนสติบุ๋มเยอะมากเลย บุ๋มต้องขอขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่ส่งกำลังใจเยอะขนาดนี้ ขอบคุณครอบครัวของบุ๋มด้วย ขอบคุณคุณเอกและครอบครัวที่เข้าใจและไม่ต่อว่าอะไรเลย ยังยินดีที่จะให้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ"