Inside Dara
'ณเดชน์-ญาญ่า'ฮอตอีก 'ธรณีฯ'วิวสวยเสริมท่องเที่ยว

หลังเจอแฟนๆ เรียกร้องกันมามาก ในที่สุดช่อง 3 ก็เปิดทางให้ละคร 'ธรณีนี่นี้ใครครอง' ละครที่ฮอตตั้งแต่ยังไม่ถ่ายทำ เพราะมีพระนางคู่ขวัญ 'ณเดชน์ คูกิมิยะ' กับ 'ญาญ่า'อุรัสยา สเปอร์บันด์ มารับบท 'อาทิจ' กับ 'ดรุณี' พระนางในเรื่อง ได้ออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ซึ่งประเดิมเรียกน้ำย่อยกันไปแล้วตอนแรกเมื่อวานนี้(29 มิ.ย.)

ทั้งนี้ 'ป้าแจ๋ว'ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์ ผู้กำกับฯ เผยว่า 'สำหรับ 'ธรณีนี่นี้ใครครอง' เป็นละครแนวฟีลกู๊ด เราได้หยิบเรื่องที่ในหลวงเริ่มต้นทำไว้เกี่ยวกับเกษตรบวกใส่เข้าไป ปีนี้เป็นปีสำคัญของท่าน อยากทำอะไรแด่พระองค์ เราก็เอาเรื่อง อย่างการอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียง หรือโครงการหลวง มา สอดแทรก โดยไม่พยายามทำให้ดูเป็นการยัดเยียดเกิน'

'ธรณีนี่นี้ใครครอง' เป็นนิยายที่ผู้จัดสาว 'แหม่ม'ธิติมา สังขพิทักษ์ เคยดึงทำเป็นละครมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 14 ปีก่อน พอหยิบกลับมาทำใหม่ ป้าแจ๋วรับว่า 'ตอนแรกรู้สึกเกร็ง แต่เราคิดได้ว่าเราก็เคยผ่านความรู้สึกแบบนี้มาแล้วตอนทำ 'วนิดา' เราไม่ควรเครียด เวอร์ชั่นที่แล้วเราดูน้อยมาก ซึ่งสิ่งที่เขาทำในสมัยก่อนกับสิ่งที่เราทำมันไม่เหมือนกัน ฉะนั้นดูไปก็ไม่มีประโยชน์สำหรับเรา สู้สร้างสรรค์จากสิ่งที่เราอ่านจากนวนิยายขึ้นมาใหม่ดีกว่า เพราะมีบางอย่างที่บทเขียนมาแล้วเวอร์ชั่นที่แล้วไม่มี บทคราวที่แล้วเน้นทางตลกหน่อย แต่คราวนี้จะเน้นความน่ารักสดใสของพระ นาง และสิ่งที่เป็นอยู่จริงในชีวิตปัจจุบันของการทำไร่แบบพอเพียง'

ถามว่าทำไมถึงจับ 'ณเดชน์' กับ 'ญาญ่า' มาคู่กันอีกครั้ง หลังเคยคู่กันในละคร 'ดวงใจอัคนี' ผู้กำกับฯ ฮอตกล่าวว่า 'ตอนแรกไม่ได้คิดถึงละครเรื่องนี้เลย เพราะตอนถ่าย 'ดวงใจอัคนี' รู้สึกว่าคู่นี้น่าจะพอแค่นี้แล้ว แต่ระหว่างนั้น พี่แหม่ม(ธิติมา) คิดยังไงไม่รู้ เอานิยายเรื่อง 'ธรณีนี่นี้ใครครอง' มาให้อ่าน แล้วถามว่าควรจะรีเมกละครที่ตัวเองทำไหม'

'หลังอ่านจบก็ถามพี่แหม่มเลยว่า ที่เอามาให้อ่านเพราะตัวละครอาทิจกับดรุณี เหมือนณเดชน์กับญาญ่าใช่ไหม อ่านปุ๊บรู้เลยว่าใครควรเป็นคนเล่น ณเดชน์กับญาญ่าเหมาะกับตัวละครในนิยายมาก อ่านนิยายแล้วหน้าทั้งคู่ลอยมาเลย'

คิดว่า 'อาทิจ' และ 'ดรุณี' เหมือน 'ณเดชน์' และ 'ญาญ่า' ตรงไหน ป้าแจ๋วอธิบายให้ฟังว่า 'อาทิจเหมือนณเดชน์ตรงที่เป็นคนที่มาจากต่างจังหวัด มุ่งมั่น ซื่อ มีน้ำใจ และมีอารมณ์ขันนิดหน่อย ส่วนญาญ่าจริงๆ ไม่ค่อยตรงนิสัยของดรุณีเท่าไร แต่เชื่อว่าญาญ่าจะเล่นเป็นดรุณีที่เหวี่ยงวีน ขี้อิจฉาได้ดีแน่นอน ที่สำคัญวัยของญาญ่าตรงกับดรุณีในนิยายพอดี แล้วพอได้ถ่ายทำไปแล้วยิ่งรู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกทั้งสองคนมาเล่นคู่กัน'

ผู้กำกับฯ ยืนยันว่า การเลือกณเดชน์กับญาญ่ามาเล่นคู่กัน ไม่เกี่ยวกับกระแสที่มาแรงของทั้งคู่ 'ความตั้งใจเราอยากทำให้คนดูรู้สึกแตกต่าง แต่ด้วยบรรยากาศในละคร 'ธรณีนี่นี้ใครครอง' คนอาจนึกไปถึง 'ดวงใจอัคนี' เพราะเป็นบรรยากาศบ้านไร่เหมือนกัน แต่โดยเนื้อเรื่องแล้วไม่เหมือน เนื้อเรื่องของ 'ธรณีฯ' ใหญ่กว่า 'ดวงใจอัคนี' เยอะเลย'

มาถึงโลเกชั่นที่ใช้ถ่ายทำซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญถึงเป็นอย่างมากว่าสวยงาม ป้าแจ๋วกล่าวว่า 'ต้องยกความชอบให้พี่แหม่มที่ยอมทุ่มทุน ไม่ว่าจะ ไปไกลไปลำบาก แค่ไหนก็ยอม'

'อย่างนาข้าวที่บ้านแม่กลางหลวง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ในเรื่องเอาโอบีเข้าไปไม่ได้ ต้องเป็นกล้องเล็กๆ 3 ตัว ที่สำคัญอยู่ไกลมากแล้วต้องไป 2 ครั้ง คือ นาเขียว กับนาเหลืองเตรียมเกี่ยวแล้ว ต้องย่อส่วนทีมงานจาก 30 คน เหลือ 10 กว่าคน นั่งเครื่องบินไปต่อ รถตู้แล้วก็เดินด้วยเท้าเข้าไปอีก ภาพที่เห็นออกมาสวยๆ เบื้องหลังสมบุก สมบันมาก'

'ส่วนไร่ในละครใช้โลเกชั่นเยอะมาก คนดูจะไม่เชื่อเลยไร่ส้มอยู่ฝาง ไร่ สตรอว์เบอร์รี่อยู่ดอยอ่างขาง ไร่กะหล่ำอยู่ภูทับเบิก ทางเดินระหว่างทางที่มีนางพญาเสือโคร่งอยู่ดอยปุย ตัวบ้านอยู่สันกำแพง ทางเดินและโรงเก็บรถแทรก เตอร์อยู่ปากช่อง'

ที่ใช้โลเกชั่นเยอะขนาดนี้ ป้าแจ๋วให้เหตุผลว่า 'เพราะละครเรื่องหนึ่งจะสมบูรณ์ได้ไม่ใช่แค่เนื้อเรื่องหรือนักแสดง โลเกชั่นก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนดูรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ในนิยายได้อธิบายไว้ ความที่เราอยากซื่อสัตย์ต่อนิยายเลยจงใจที่จะเลือกโลเกชั่นว่าจะไปที่ไหน'

'อย่างภูทับเบิก ทีแรกไม่อยากไป เพราะทางขึ้นลำบาก แต่ทีมงานบอก กะหล่ำยักษ์ไม่มีไร่ที่ไหนใหญ่เท่าที่นี่แล้ว ภาพที่ออกมาสวยสมใจและคุ้มมาก ยิ่งละครไทยตอนนี้ไปบูมที่เมืองจีนด้วย ก็อยากให้คนจีนตามมาดูสถานที่สวยงามในบ้านเราบ้าง เรียกว่าส่งเสริมการท่องเที่ยวได้เลย'

สุดท้าย ผู้กำกับฯ มากฝีมือ เผยถึงแง่คิดที่ได้รับจากการชมละครว่า 'แง่คิดคือเอาพระราชดำริในหลวงเรื่องพอเพียงมาใช้ จะ สามารถทำอะไรให้งอก เงยขึ้นได้ การตะเกียก ตะกายไปหาสิ่งที่ไม่ใช่เราไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง อยากให้อาทิจกับดรุณีเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ ทำให้เห็นว่าเราสามารถเป็นเกษตรกร เป็นคนดีของประเทศนี้ได้'

'ที่สำคัญต้องขอบคุณแผ่นดินเกิดที่ทำให้เรามีกินอยู่ในทุกวันนี้ อย่าลืมว่าพื้นฐานประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ซึ่งตอนนี้กำลังจะหายไปจากประเทศไทยแล้ว อยากให้น้องๆ ที่เลือกเรียนเกษตรได้ภาคภูมิใจในวิชาชีพของตัวเองด้วย'

เชื่อว่าใครได้ชมละคร เป็นต้องอยากเป็นชาวไร่อย่าง 'ณเดชน์' กับ 'ญาญ่า' กันเป็นแถว