Inside Dara
‘ท็อป จรณ’ พระเอก หน้าไทย หัวใจนักสู้

ช่วงนี้เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักพระเอกคนนี้ “ท็อป-จรณ โสรัตน์” นักแสดงหนุ่มจากละครเรื่อง “ชาติพยัคฆ์” ที่วันนี้นั่งแท่นพระเอกเต็มตัว เรียกว่าได้ขึ้นแท่นขวัญใจสาว ๆ ของคนทั้งประเทศไปแล้ว และนอกจากนั้นในเรื่องของข่าวคราวความรัก ก็กำลังน่าจับตามอง เป็นอย่างมากกับไฮโซสาว “มินท์-ภัทรศยา ยงรัตนมงคล” เอาละวันนี้เราขอคิวหนุ่มท็อป มาพูดคุยชนิดจับเข่าคุยกันถึงทุกเรื่องราว เอาละ ว่าแล้วไปคุยกับหนุ่มท็อป กันเลยดีกว่า

“ชาติพยัคฆ์ เรื่องนี้ผมเรียกว่าเป็นพระเอก ที่มีบทนำคือเป็นตัวเดินเรื่อง บอกเลยว่ากดดันมาก ตอนแรกที่เราอ่านแค่บทมันสนุก อ่านแล้วอยากจะไปถ่ายเลย แต่พอเอาเข้าจริง เปิดกล้องเริ่มถ่ายปุ๊บ โอ้...รู้สึกเลยว่ามันกดดันมากเพราะว่ามันมีเราทุกซีนเลย แล้วเราต้องทำให้ดีด้วย คือพี่นก (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) บอกเลยว่าท็อปต้องตั้งใจให้มาก และต้องเล่นให้ดี มาก ๆ เพราะนักแสดงคนอื่น ๆ ที่ร่วมแสดงกับเรารุ่นใหญ่หมดเลยและทุกคนเก่งกันมาก ๆ ถ้าเราเบาเราจะสู้เขาไม่ได้และละครมันจะดูดร็อปไปเลย เราก็เครียดหนักกว่าเดิมอีก ก็คิดว่าเราต้องตั้งใจให้มากกว่าเดิม และทำการบ้านให้มากขึ้นก่อนที่จะไปถ่าย แต่บางทีพอเราพยายามมากเกินมันก็ออกมาดูแข็ง ไม่ดี ก็ต้องหาจุดตรงกลางให้เจอ อย่างวันแรกยังดูแปลก มันดูไม่ใช่ แต่ก็ถือว่าโชคดี ที่เราหาตัวละครของกล้าเจอเร็ว ด้วยความที่มันมีทุกซีน พอเข้าคิวที่ 4 ที่ 5 ก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง และได้พี่นก (ฉัตรชัย) ค่อย ๆ ปรับ ค่อย ๆ สอนเราจนเข้าที่เข้าทาง”

เรื่องนี้ต้องไปเรียนมวยด้วยมั้ย เพราะในเรื่องมีต่อยมวย?

“ต้องไปเรียนด้วยครับ ก่อนที่จะไปถ่ายพี่นก ส่งไปเรียนมวยไชยา กับครูดำ 6 เดือน คือตอนนี้ถามเป็นมวยเลยไหม ก็เป็นเลยครับ สัญชาตญาณยังมีอยู่ ดูแลตัวเองได้ แต่ความคล่องความอะไรอาจจะลดน้อยลงกว่าตอนที่ถ่ายละคร เพราะในกองถ่ายต้องซ้อมมวยตลอด เพื่อให้ออกมาสมจริงที่สุด การที่เราได้เรียนมวยไชยา ผมว่าโชคดีมากครับ เพราะว่าเป็นมวยไทยอีกสาขาที่เราควรจะอนุรักษ์เอาไว้ และที่สำคัญ มวยไชยา เขาจะสอนให้เราเรียนไปเพื่อปกป้องตัวเองและคนอื่น ไม่ได้สอนให้เราเอาไปทำร้ายใคร คือเป็นกฎเลยว่า เป็นมวยแล้วไม่ให้ใจร้อน ซึ่งตรงนี้ผมชอบมาก เพราะเขาไม่ได้ว่าจะสอนให้ทุกคนนะครับ ต้องมีการผ่านการคัดและดูความประพฤติด้วยครับ ว่าต้องเป็นคนที่ไม่ใจร้อน มีวินัย มีความกตัญญู เขาถึงจะสอนให้ อาจารย์ทุกคนจะสอนตรงนี้กับศิษย์ทุกคน”

ตอนนี้เรียกว่าละครเสียงตอบรับดีมาก?

“ตรงนี้ดีใจมากครับและขอบคุณทุก ๆ คนมากครับที่ติดตามชมกัน คือเอาจริง ๆ คนจะชมมาก ว่าโปรดักชั่นดี แสงสวย ภาพสวย แปลกตา ดูเล่าเป็นหนังฝรั่งมากเลย และมีที่แบบชมเราบ้างว่าเออ หุ่นดีขึ้น นมใหญ่ กางเกงสั้น คือชมแบบตลก (หัวเราะ)”

เขินมั้ยที่ต้องถอดเสื้อแทบจะทั้งเรื่อง แถมกางเกงก็สั้นมาก?

“เขินมากครับ (หัวเราะ) คือกางเกงสั้นมากจริง ๆ เราก็กังวลมากว่าตอนนั้นจะเซฟตัวเองยังไง เดินก็เสียว แล้วตอนถ่ายจะถามพี่ตากล้องว่าพี่โป๊มั้ยครับ เขาก็บอกว่านั่งไปเหอะ ไม่เห็น เพราะมีบางฉากที่แบบต้องนั่งชันเข่า เราก็แบบอาศัยว่ามืด ๆ เหมือนกัน (หัวเราะ) เพราะว่าในเรื่องมันมอมแมมมาก ไม่มีหน้าใสอะไรเลย (หัวเราะ) แต่สำหรับผมนะ กล้าเขาจะหล่อในแบบของเขา มีความเท่ ความหล่อของตัวเองด้วยคาแรกเตอร์ นิสัย ความคิด ความรู้สึก” คิดว่าวันนี้เรามาไกลแล้วหรือยัง? “ก็คิดว่ามาไกลกว่าที่คิดครับ เอาจริง ๆ คือเราไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องมีชื่อเสียงอะไรมากมาย เราแค่อยากทำงานอย่างต่อเนื่อง ได้เล่นละครทำงานที่เรารัก แค่นี้ก็ดีใจแล้ว แต่พอความสำเร็จมันเข้ามาเรื่อย ๆ ที่มันไม่ได้หวือหวาหรือว่าตูมตามมากแต่มันก็คือก้าวบันไดที่เราค่อย ๆ ก้าวขึ้นไป ซึ่งมันก็ดีมากแล้วครับ”

คนเราเขาบอกว่าถ้ามีชื่อเสียงมาก ๆ มันจะทำให้เราเหลิง?

“ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ บางทีคนมาห้อมล้อมมาก ๆ มันก็เป็นธรรมดาที่คนเราจะมีเหลิง เผลอตัวไปบ้าง ก็อาจจะมีบ้าง แต่ก็อยู่ที่คนรอบข้างเรา คนที่รักเรา ถ้าเขารักเขาจะเตือนเรา คอยพูด ตอนนี้ผมยังไม่เหลิงนะ (หัวเราะ)”

วันนี้ต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตหรือการดูแลตัวเองมั้ย?

“ไม่เปลี่ยนเลยครับ คือเวลาจะออกจากบ้านก็ทำตัวเหมือนเดิม แต่งตัวปกติ เพราะคนเขาเห็นเราในละคร มอมแมม ผมก็เลยสบายครับ ออกจากบ้านก็มอมแมมอย่างนั้นแหละ (หัวเราะ) แต่เราก็ต้องรู้กาลเทศะด้วยครับ ว่าไปงานไหน ทำอะไร แต่ถ้าเดินห้างผมก็แต่งตัวธรรมดา รองเท้าผ้าใบ นาน ๆ ทีถึงจะใส่รองเท้าแตะ ขาสั้น แต่ผมชอบแต่งตัวสบาย ๆ อยู่แล้ว”

มาถึงความรักบ้าง ช่วงนี้ข่าวว่าอินเลิฟอยู่กับ มินท์- ภัทรศยา ยงรัตนมงคล?

“ผมไม่ได้เปิดตัวอะไรเลย มันเป็นจังหวะมากกว่าที่เจอคนถ่ายรูป ผมก็ไม่ได้โกหกอะไร เราก็คุยกัน แต่ไม่ได้เปิดตัวอะไร แต่เราก็คุยกันแบบพี่ ๆ น้อง ๆ ก็คุยกันไปไม่รีบร้อน จริง ๆ คือเราก็เจอกันนานแล้ว แต่ไม่ได้คุยกัน แต่คนมันจะได้คุยกันอะครับ คือผมไม่ได้มองว่าเราจะจีบผู้หญิงคนนี้หรือว่าอะไร ด้วยความที่เรารู้จักน้องเขามานานแล้ว แล้วพอได้มาเล่นละครเรื่องเดียวกัน เขามีโอกาสมาคลุกคลีกับทางละคร คือทางเขาถ่ายพวกโฆษณาอะไรอย่างนั้น แล้วพอมาถ่ายละครเขาก็จะไม่คุ้นเคย เขาก็จะอยู่แต่ในมุมของเขา เห็นแล้วก็สงสารเขา ก็อยากให้เขามาสนุกสนานกับทีมงาน และด้วยความที่เราคุ้นเคยกับกองถ่ายนี้ เราก็เลยชวนเขาคุย ดึงเขาออกมาจากมุมของเขา คือเราเข้าใจ เพราะเราเคยเป็นมาก่อน ก็อยากจะให้สนุกสนานกับการทำงาน ก็เริ่มต้นจากตรงนั้นก็เลยคุยกันมาเรื่อย ๆ”

ได้เคยเจอฝั่งพ่อแม่ เขาแล้วหรือยัง?

“ก็เคยเจอครับ เขาก็ไม่ได้อะไร คุณพ่อ คุณแม่เขาก็น่ารัก คือเราไม่ได้ไปเปิดตัวอะไรเขาก็สบาย ๆ ส่วนคุณแม่เราเขาก็เคยเจอ เพราะแม่ไปหาที่กองฯ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ ก็คุยกันแบบพี่ ๆ น้อง ๆ กันไป เพราะอนาคตมันไม่แน่นอน คุยกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ดีกว่า มีความสุขดี ส่วนอนาคตก็ให้เป็นเรื่องอนาคตดีกว่าครับ”

ได้คำตอบกันแล้วนะจ๊ะสาว ๆ แต่อย่างไรเสียก็ต้องให้กำลังใจหนุ่มท็อป ในเรื่องการแสดงกันต่อไปนะจ๊ะ เพราะละครเรื่องต่อไป กุหลาบตัดเพชร ก็สนุกมันไม่แพ้ ชาติพยัคฆ์ แน่นอนจ้า.“