Inside Dara
'พุฒ-พุฒิชัย' ไม่หวั่นกระแสเม้าท์ "ขาลง" ฟุ้งคบ 'จุ๋ย' มีความสุขได้โดยไม่ต้องระบุ "แฟน"

ปล่อยให้แฟนๆฟินจิกหมอนเบาๆ กับลีลาหนุ่มเจ้าชู้ สายปาร์ตี้อย่าง ดีเจพระเอกหนุ่มพุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน พระเอกหนุ่มจากซีรีส์ละครเรื่อง U-Prince Series ตอนสิบทิศ ทางช่อง GMM25 โคจรมาเจอกับ สาวเอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา อีกครั้ง ความสนิททำลายกำแพงของความเขิน กว่าจะนัด “พระเอก คิวทอง” บอกเลยยากส์ โดยเปิดใจชีวิตการทำงานและความรักกับสาวรุ่นพี่ จุ๋ย-วรัทยา กำลังงอกงาม เป็นคนคุยแล้วสบายใจแต่ยังไม่ถึงเวลาระบุสถานะ “แฟน” เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น...น ลุ้นกันต่อไปจ้า!!

พุฒต้องกระชากวัยกลับไปเป็นนักศึกษาอีกแล้ว

“ครับ ปีที่แล้วพี่เสือก็เป็นนักศึกษา ปีนี้คงเป็นนักศึกษาอยู่ คงเนียนๆ ได้อยู่นะแหละ แต่พอเราดูตัวเองจะรู้สึกเป็นเด็กโข่งมาก ดูโตกว่าสิ่งที่เรากำลังเป็น แล้วน้องๆ ที่ร่วมงานเป็นนักศึกษาทุกคนน้องพุฒกันหมดเลย เราเป็นพี่ใหญ่สุดแหละ เอสเธอร์ อายุ 22 น้องบ้านก็ 22-23 มีเรานี่แหละโตกว่าเค้า บทนำพาให้เราสู่ยุคนักศึกษาอยู่แล้ว เวลาเล่นเราก็ไม่รู้สึกนะ แต่เรายังกระดี๊กระด๊าจีบสาวถึงแม้จะจบไปแล้ว” ถือว่าลีลาจีบเรายังแพรวพราว “เรื่องนี้แพรวพราวน้อยกว่าพี่เพื่อนหน่อย สิบทิศสไตล์เพลย์บอย เจอสาวๆ เน้นสายตามากกว่า อยากจะขย้ำ แต่พี่เสือ มีอ่อย แรดไปเรื่อยเปื่อย (ยิ้ม)” เล่นแนวนี้แอบขำตัวเอง “มีบ้าง กับเอสเธอร์ เล่นด้วยกัน เพื่อเธอ สนิทกัน เข้าฉากเป็นซีนง่ายๆ แค่มองตาก็หัวเราะ 4-5 เทก หลุดขำหัวเราะ ด้วยความสนิท ด้วยความขี้เล่น มันข้ามคำว่าเขินไปแล้ว เรื่องนี้สนุกสบายๆ” ร่วมงานกับสองสาวระหว่างฝ้าย-ณัฏฐพัชร กับเอสเธอร์เป็นยังไงบ้าง “ฝ้ายนี่จะเป็นสายแซ่บ ตัวจริงก็เปรี้ยวแซ่บและฮาด้วย โก๊ะด้วยและนางใจบุญ ไปถ่ายละครแถวสวนผึ้ง เจอหมาแถวนั้นเอาอาหารให้หมาแล้วพากลับไปเลี้ยงที่บ้านด้วย ส่วนเอสเธอร์ ตอนร่วมงานเรื่องแรกนิ่งๆหน่อย มาเรื่องนี้ทำลายกำแพงหมดแล้วกลายเป็นพี่ทำงานกับน้องก็ไม่ค่อยมีความเกร็งกัน สนุกครับ”

นอกจากความกรุ้มกริ่มจีบสาวที่เห็นๆ ได้ทำอะไรแปลกใหม่เยอะมั้ย

“สิ่งที่เราไม่เคยทำคือขี่ม้า เรื่องนี้สิบทิศเก่งหลายด้าน ยิงปืน ขี่ม้า ได้ทำสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำขี่ม้า ไปหัด ไปเรียนก่อนเปิดกล้องมา ตอนแรกกลัวตัวม้าแต่ครูบอกว่าอย่าไปกลัวเพราะถ้ากลัวจะตกจริงๆ” มีไปกระซิบข้างหูม้าเพื่อทำความคุ้นเคยกันก่อน “มีครับ ตอนแรกไม่เชื่อ ครูฝึกบอกให้คุยกับม้าจะสร้างความคุ้นชินกับเราได้ ม้ามีการตอบสนองเค้าตั้งใจฟังเรา บางทีม้ามีอาการหงุดหงิดๆ เราก็บอกใจ เย็นๆขอถ่ายซีนนี้ก่อนเค้าก็ให้นะ ถ่ายจนเสร็จ” ปกติคนที่ลงจากหลังม้าใหม่ๆจะขาถ่าง พุฒล่ะเป็นแบบนั้นมั้ย “วันแรกที่ไปเรียน กลับมาเจ็บช่วงสีข้าง เพราะเป็นครั้งแรกและเราก็เกร็งไม่เคยอยู่บนหลังม้ามาก่อน ม้าเดินเราก็กลัวตกก็เกร็งตัว เกร็งขาต้องหนีบกับตัวม้าห้ามอ้าออกมันจะหล่น ลงจากหลังม้าเวลาเดินเหมือนคนกางเกงในเข้าวินเดินไม่สบายตัว (หัวเราะ)”

ถือว่าเป็นพระเอกคิวทองงานล้นหลาม

“มีงานเรื่อยๆ ดีกว่าไม่มีงาน ตอนนี้มีถ่ายละครเกมมายาก็ใกล้จะปิดกล้องแล้ว กลางปีน่าจะได้ดู” หลังๆรับละครแน่นๆอยู่นะ “ปีนี้ไม่ค่อยแน่นแล้ว ไปเรื่อยๆ และเดี๋ยวรอเปิดคลับฟรายเดย์ที่เป็นหมอเจี๊ยบ” ตอนนี้เอาดีนักแสดงเต็มตัว “เรียกว่าลุยเต็มที่แต่เราก็ไม่ทิ้งงานดีเจยังทำอยู่ พุฒคุยตั้งแต่แรกขอจัดรายการวิทยุ จะให้เวลาหลังจากจัดวิทยุเสร็จ เราค่อยไปถ่ายละคร ดึกได้แต่เลิกตีสามบางทีไม่ไหวนะ บางทีดึกเกินค่อนไปทางเช้าบางทีทำให้คุณภาพการทำงานน้อยลง แต่เพิ่งมีเวลาว่างเพราะครึ่งปีที่แล้วจนก่อนสงกรานต์ทำงาน 7 วันตลอด” จากที่ทำงานทุกวันพอมีวันว่างเรารู้สึกอะไรโหว่งๆมั้ย “วีกแรกนะ ชีวิตแฮปปี้ เราได้ไปออกกำลังกาย ได้เตะบอล เข้าฟิตเนส ดูหนัง พอว่างหลายๆ วันก็เริ่มคิดแหละจากคนทำงาน อยู่ดีๆไม่รู้ไปไหนต่อเริ่มอยากทำงาน”

ปีนี้ตั้งใจลดงานเหรอ

“ตั้งใจอย่างนั้นครับ เพราะเรารู้ตัวเอง ทำงาน 7 วัน ถ่ายละคร ซ้อนกันสองเรื่องมันไม่ได้เป็นผลดีต่อตัวเราด้วยและต่องานที่เราทำด้วย มันขาดการทำการบ้าน ไม่ได้ดูแลตัวเอง กลับบ้านมานอนตายแล้ว เวลาที่จะไปทำอย่างอื่นกับชีวิตมันก็น้อยลง ตอนนี้เลยรับละครให้มันคาบเกี่ยวกัน เรื่องนี้จะปิดค่อยรับอีกเรื่องจะไม่รับละครซ้อนกันพร้อมกันสองเรื่อง เปิดกล้องพร้อมกันมันหนักจริงๆ” เราลดงานคนอื่นไม่เข้าใจอาจคิดแง่พุฒขาลง กลัวคนคิดแบบนั้นมั้ย “ผมว่าเป็นเรื่องปกติ ทุกคน ทุกงาน ทุกอาชีพ มีขาลงของมันอยู่แล้วและเราไม่ได้อยากเป็นคนอยู่บนฟ้าตลอดเวลา มันต้องมีอยู่บนพื้นดินปกติธรรมดาบ้าง งานไม่ได้ลดแต่เราเลือกรับและมีเวลาที่จะใส่หรือเพิ่มอะไรบางอย่างเป็น ประสบการณ์ เป็นแรงบันดาลใจในงานชิ้นต่อๆไป ทำน้อยแต่คุณภาพดีกว่าทำเยอะแต่ไร้คุณภาพ”

กับโฟโต้บุ๊กพุฒบ้างมีแต่คนฟินภาพแช่ออนเซ็น

“ถือว่าดีนะครับ มีแฟนๆ ไปตามซื้อตามไปให้เราเซ็นที่ตึกแกรมมี่เยอะเหมือนกัน” กับภาพฮือฮาแช่ออนเซ็น “ผมว่ามันเป็นไฮไลต์ เพราะว่าเราถ่ายทำที่ญี่ปุ่นเราอยากได้ช็อตแบบนี้” เป็นแฟชั่นครั้งแรกที่ไม่มีเสื้อผ้าหรือเปล่า “มีนิดหน่อย แต่คนญี่ปุ่นจริงๆ เค้าจะไม่ใส่อะไรเลย แต่อันนี้ต้องเซฟอยู่แล้ว (หัวเราะ) เราไม่ได้อยู่คนเดียวมีพี่ทีมงานตากล้องเข้าไปด้วย” นึกว่าใจเด็ดไง “โอ้ยยยไม่ไหวครับ โชว์นมชมพู กล้ามอกไป หลังจากโฟโต้บุ๊ก ออกไปก็ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น บางคนอาจจะเข้าใจเราดูคุณชาย แต่จริงๆ เราเป็นคนธรรมดามาก ชีวิตปกติที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะเหมือนกัน อยากให้ลองอ่านครับ”

หลังๆ เห็นแต่งตัวเป็นแฝดกันมาก

“เฉพาะตอนไปเที่ยวกัน มันเหมือนกับสีสัน สนุกดี คิดไว้เสื้อผ้าโทนนี้ ถ่ายรูปสวยดี ชุดแดงกับหิมะขาวโดดเด่น” คนไม่คิด แบบนั้นมองมุมสวีตนะทำอะไรเหมือนกัน “ก็สนุกดีครับ ยิ้มๆครับ” เตรียมทริปหวานครั้งหน้า “ยังครับ ตอนนี้ต่างคนต่างทำงานจุ๋ยเองก็ถ่ายละครสองเรื่อง คิวแน่นๆ อย่างบวกๆ มีรายการของเวิร์คพอยท์ 4 รายการหนักกว่าของผมอีก” ตอนนี้ใช้คำว่าแฟนกันได้มั้ย “ถือว่าเป็นคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจ” เปิดตัวขนาดยังไม่ยอมใช้คำว่าแฟนกั๊กหรือเปล่า “ไม่ต้องใช้คำนี้ก็ได้ มันก็มีความสุขในแบบที่เป็นอยู่ไม่ต้องไปขีดเส้นใต้ให้มันดีกว่า” หวงใช้คำว่าแฟนรึเปล่า “ไม่ได้หวงแต่ปล่อยไปตามเวลา ไปตามสิ่งที่มันควรจะเป็น วันนึงพร้อมที่จะพูดเดี๋ยวก็คงพูดออกมาเอง” ตอนนี้ความรักระดับความหวาน “ก็แฮปปี้ยิ้มแย้ม เหมือนเป็นเพื่อนกันด้วย ทำงานด้วย แชร์ประสบการณ์ซึ่งกันและกันได้หมด” มองอนาคตสร้างครอบครัว “ครับ พุฒก็ 30 แล้ว คงอีกแป๊บจริงๆ เริ่มสร้างบางอย่าง เราก็โตแล้วด้วย ความคิดเราก็เปลี่ยนไปทุกๆ ปี ค่อยเป็นไปตามสเต็ปตามอายุ ตามความรู้สึกจะเป็น” สร้างคือสร้างเรือนหอรึเปล่า “ไม่ใช่ครับ คือสมัยก่อนเราหมดเงินกับอะไรไม่รู้ แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องมีตัดทิ้งไม่ต้องมี เก็บเงินก้อนดีกว่า รู้จักใช้เงิน หลังๆซื้อเท่าที่จำเป็น เริ่มมองอะไรใหญ่ๆมากขึ้น ซื้อที่ดิน พ่อจะบอกมีที่ตรงนี้ซื้อมั้ย อะไรแบบนี้มากกว่า”.