Inside Dara
'แชมป์ ชนาธิป' น้ำตาคลอ! เล่ามรุสมพ่อเป็นมะเร็ง-ลูกหนี้ไม่คืนเงิน

มรสุมชีวิตที่ “แชมป์ ชนาธิป โพธิ์ทองคำ” โดยก่อนหน้านี้คุณพ่อเกิดอุบัติเหตุรถชน แล้วคู่กรณีไม่รับผิดชอบ จนต้องมีการขึ้นโรงขึ้นศาลฟ้องร้องกัน ซึ่งเรื่องราวจบลงด้วยดี เมื่อคู่กรณีรับผิดชอบค่าเสียหาย แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เมื่อครอบครัวตรวจพบว่าคุณพ่อเป็นมะเร็งปอดระยะลุกลาม ต้องใช้เงินค่ารักษาจำนวนมาก และมีสำคัญเงินก้อนหนึ่งที่ช่วยแบกเบาได้กับถูกคนที่สนิทที่ยืมเงินไปไม่คืน ทวงแล้วทวงเล่า ก็ไม่ได้คืน ซึ่ง “หนุ่มแชมป์” ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้

"ก่อนอื่นผมต้องขอชี้แจงก่อนกลัวคนเข้าใจผิดเรื่องนี้กับเรื่องที่คุณพ่อเคยโดนรถชนในอดีตที่ผ่านมาคนละเรื่องกันเลยนะครับผมเป็นคนละเรื่องกันไม่เกี่ยวกันเลยครับแล้วตอนนี้คือคุณพ่อผมป่วยเป็นมะเร็งครับระยะสุดท้ายครับ

ผมค่อนข้างเครียดนิดนึงช่วงนี้ตอนนี้ผมก็ต้องขายสิ่งที่เรารักครับเพื่อเอาเงินมาเตรียมใช้ในการรักษาคุณพ่อครับ

ตอนแรกคุณพ่อปวดหลังตรงบริเวณคอแล้วก็ปวดมาเรื่อยๆไม่หนักมากแต่อยู่ๆมันก็หนักมากขึ้นมาเลยก็เลยไปตรวจเพราะคิดว่าเป็นกระดูกทับเส้นประสาทแล้วมาตรวจละเอียดที่โรงพยาบาลคุณหมอบอกว่าคุณพ่อมีก้อนเนื้อที่ปอดและได้มีการเจาะก้อนเนื้อไปตรวจตามขั้นตอนและได้ผลว่าคุณพ่อเป็นมะเร็งตอนนี้มะเร็งอยู่ในขั้นไม่อยากเรียกว่าขั้นสุดท้ายเรียกว่าขั้นลุกลามแพร่กระจายเป็นมะเร็งที่ปอดและแพร่กระจายไปที่กระดูกสันหลังก็เลยทำให้ปวดมาก"

ตอนนี้คุณพ่ออาการเป็นยังไง?

"ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับตอนนี้ก็คืออยู่ในขั้นตัดสินใจว่าคุณพ่อจะรักษาต่อหรือไม่ เพราะบางวันคุณพ่อใจสู้จะยอมไม่ได้ผมก็จะพาคุณพ่อลุกขึ้นมาทานข้าวเดินเล่นที่บริเวณสวนหน้าบ้านแต่ว่าบางวันก็คือท่านก็ค่อนข้างอ่อนแอนอนทั้งวันและไม่ค่อยทานข้าวครับซึ่งตอนนี้รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี"

ตอนนี้มีการวางแผนไว้คร่าวๆในการรักษายังไงบ้าง?

"ตอนนี้คุณพ่อได้รับผลตรวจเลือดมาก็คือร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะให้คีโมก็ต้องให้คุณพ่อทานข้าวเยอะๆประมาณสัปดาห์นึงแล้วไปตรวจใหม่แต่ตอนนี้ก็อยู่ที่การตัดสินใจของคุณพ่อเพราะบางครั้งเขาปวดมากจริงๆบางครั้งมันต้องใช้มอร์ฟีนที่เป็นเม็ดถ้าผ่านไปแป๊บนึงแล้วมันยังไม่หายก็ต้องให้มอร์ฟีนที่เป็นน้ำ"

คนรอบข้างให้กำลังใจคุณพ่อยังไงบ้าง?

"ก็ (นิ่ง) เวลาเข้าบ้านเราก็ทำตัวเหมือนเดิมก็พยายามกระตุ้นตัวเองกระปรี้กระเปร่าให้สดใสผมมีพี่สาว 2 คนก็ทำเหมือนกันค่ะก็พยายามหาวิธีการต่างๆบอกให้คุณพ่อทานข้าวให้ออกจากบ้านไปเดินเล่นเขาชอบทำตัวชอบขับรถชอบอะไรก็พยายามพาเขาไปนั่งรถเล่น"

ค่ารักษาสูงประมาณไหน?

"เยอะครับเยอะมากมันมียาตัวนึงซึ่งผมจำชื่อไม่ได้ถ้าเกิดว่าใช้ยาตัวนี้ผลข้างเคียงมันจะน้อยกว่าน้อยกว่าคีโมแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันขึ้นอยู่กับร่างกายและจิตใจของคุณพ่อว่าเขาพร้อมไหมแต่คือยาตัวนี้ต่อ 1 โดสมันราคาสูงมากค่าใช้จ่ายต่อโดสมันสูงมากซึ่งต้องใช้เป็นคอร์สเลยครับผมก็เลยต้องเตรียมทุกอย่างไว้ก่อน"

พอจะประมาณคร่าวๆได้ไหมว่ายาต่อ 1 โดสประมาณกี่หลัก?

"ต่อ 1 เข็มประมาณ 6 หลักซึ่งยังไม่ทราบว่าจะต้องใช้กี่เข็มผมมีรุ่นพี่ที่เป็นหมอเขาก็บอกว่าเตรียมไว้เลยแชมป์เตรียมไว้เลย"

ขอถามถึงคดีเรื่องของอุบัติเหตุของคุณพ่อ?

"คดีอุบัติเหตุของคุณพ่อจบแล้วนะครับคู่กรณีได้จ่ายค่าต่างๆเรียบร้อยเขารับผิดชอบทุกอย่างแต่สิ่งที่ผมขึ้นโพสต์ไปมันเป็นคดีใหม่ซึ่งเขาผิดสัญญาประนีประนอมแล้วผมก็ทวงๆๆเขาก็เหมือนกับผลัดไปเรื่อยๆ ก็เลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความขึ้นมากับทางเขาซึ่งเขาก็มีการเซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วทีนี้พอเซ็นปั๊บเขาก็ยังไม่มีการจ่ายเงินมาตามสัญญาผมก็เลยปรึกษาพี่ทนายตั้ม"

ระยะเวลาที่เขาไม่ทำตามสัญญามันนานแค่ไหน?

"ผมทวงมาหลายเดือนเหมือนกันทวงมาสักพักนานแล้วซึ่งเงินที่เขาติดเราไว้ประมาณ 7 หลักซึ่งมันเป็นเงินก้อนที่เราต้องใช้คือบ้านผมต้องบอกก่อนว่ามีคนแก่อยู่หลายคนมีคุณยายมีคุณแม่และคุณพ่อแล้วตอนนี้คือคุณแม่ไปตรวจร่างกายแล้วเจอก้อนเนื้อในปอดอีกคนนึงเมื่อประมาณอาทิตย์ที่ผ่านมาก็กำลังจะเจาะก้อนเนื้อนี้ไปตรวจว่าเป็นหรือเปล่าเพราะคุณแม่ผมเป็นครูแล้วใช้ชอล์คมาทั้งชีวิต"

ได้คุยกับเขาไหม?

“ถ้าบอกได้ผมก็คืนเงินผมเถอะครับ ผมมีเรื่องต้องใช้เงินจริงๆ ครับ ถ้าคุณแม่ผมป่วยอีกคนก็ต้องเตรียมเงินเยอะ ภาวะตอนนี้ที่บ้านถ้าถามว่าโอเคไหม ผมก็ยังมีงานอยู่ครับ ตอนนี้ก็ยังก้ำกึ่งๆ แต่ถ้าวันใดวันนึงต้องใช้เงินก้อนใหญ่ๆ ก็คงต้องหาให้ได้“

เราเป็นผู้ชายคนเดียวให้กำลังพี่น้องยังไง?

”ก็เป็นการกระทำมากกว่า พวกเอ็งต้องห้ามดาวน์ให้พ่อเห็น ห้ามซึม ทำทุกอย่างให้ปกติ ต้องคุยกันมากขึ้น กอดกันมากขึ้น“

หลายปีที่ผ่านมาเจอแต่เรื่อง เราผ่านมายังไง?

”ผมถามตัวเองบ่อยมาก หลังโควิดมาทำไมชีวิตเล่นผมแรงจัง ตั้งแต่คุณพ่อรถชน คุณยายล้มขาหัก และคุณยายอีกท่านก็จากไป 2 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นคุณพ่อก็ป่วยเป็นมะเร็ง ตอนนี้คุณแม่ก็ลุ้นอยู่ว่าจะเป็นไหม ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านก็เจอ 5-6 เรื่อง ที่ผ่านมาได้ก็คนที่บ้านนี่แหละครับ ผมโชคดีที่ครอบครัวผมค่อนข้างสามัคคี รวมถึงญาติฝั่งพ่อฝั่งแม่ด้วยที่ให้กำลังใจกัน คือเวลาผมกลับเข้าบ้านจอดรถยังไม่ลงนะต้องฮึบก่อน แล้วก็บอกกับตัวเองว่าห้ามดาวน์เด็ดขาด พอเข้าบ้านก็ทำทุกอย่างให้ปกติ ถ่ายละครก็ต้องทำสมาธิ เพราะกังวล แล้วบ้านผมมีกล้องวงจรปิดก็ดูทั้งวันไม่เป็นอันทำงาน“

เราเข้มแข็ง ยังไหวอยู่?

”ไหวครับ ไม่ไหวไม่ได้"