Inside Dara
“วิโอเลต” ไม่ได้บ้า ไม่ได้ติสท์ แค่ชอบเข้าป่า คุยกับต้นไม้ได้

“วี วิไวโอเลต” ไม่ได้บ้า ไม่ได้ติสท์ แค่ชอบเข้าป่าชอบคุยกับต้นไม้ แพลนอนาคตอยากเป็นอาสาสมัครตามมูลนิธิช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แลรักษาธรรมชาติ

เป็นวิถีของคนรุ่นใหม่ หรือเจนเนอเรชั่นนี้ไปแล้วสำหรับการเป็นนักเดินทางท่องเที่ยว เรียกว่าว่างเมื่อไหร่ต้องหาเวลาออกเดินทางตามหาแรงบันดาลใจ เติมเต็มจิตวิญญาณตัวเอง ซึ่งนักร้องสาว “วี วิโอเลต วอเทียร์” ก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน โดยเธอเล่าว่าสงกรานต์หยุดยาวนี้เธอเตรียมออกเดินทางไปหาแรงบันดาลใจเติมเต็มจิตวิญญาณตัวเองที่เมืองพอร์ตแลนด์ ที่สหรัฐอเมริกาเพียงลำพังคนเดียวนาน 2 อาทิตย์

"สงกรานต์นี้วีจะไปเมืองพอร์ตแลนด์ที่สหรัฐอเมริกาไปคนเดียวค่ะประมาณ 2 อาทิตย์ ที่วีอยากไปพอร์ตแลนด์ เพราะว่าวีมีเพื่อนเป็นนักเรียนไทยอยู่ที่โน่น และเขาเป็นกลุ่มนักเรียนไทย และจะมีจัดงานสงกรานต์ ที่จะเผยแพร่วัฒนธรรมไทยด้วย เขาเลยชวนเราไปร้องเพลงไทย เรียกว่าคุ้มค่าตั๋วแล้ว เราไปร้องเพลง และไปพักผ่อนด้วย อยู่กับเพื่อนๆ ที่โน่น คือวีอยากไปเพราะอยากไปหาแรงบันดาลใจใหม่ๆที่พอร์ตแลนด์ มีธรรมชาติอยู่เยอะมากมีป่ามีน้ำ เรารู้สึกว่าอยากไปอยู่กับธรรมชาติเพราะเราทำงานมาเยอะมาก บางครั้งเราอยากไปอยู่อย่างสงบๆ บ้าง ช่วงตั้งแต่ปีใหม่มา วีทำงานแล้วได้พักน้อยมากเลยตัดสินใจว่า ไปคราวนี้จะเข้าป่าดีกว่า ไปตั้งแคมป์ปิ้ง แต่ไปแคมป์ปิ้งวีไม่ได้ไปคนเดียว เดี๋ยวคงมีเพื่อนเป็นแก๊งที่โน่นไปด้วย อาจจะไปสัก 3 วัน แล้ววันที่เหลือเหลือแบ่งไปช้อปปิ้งบ้าง ปกติบ้านวีที่ต่างประเทศ จะเป็นฟาร์ม วีเลยชอบแนวนี้อยู่แล้ว บ้านของวีก็อยู่ชานเมือง”

“ตัววีไม่ได้โฟกัสนะว่าจะได้อะไรกลับมาบ้างจากการไปแคมปิ้งครั้งนี้ แต่วีคิดแค่ว่าเราไปพักผ่อน และการที่เราไปพักผ่อน เราไม่จำเป็นต้องคิดอะไร ถ้าได้อะไรกลับมามันก็ดี แต่ถ้าไม่ได้อะไรกลับมา เราก็ไม่ต้องคิดอะไร ถ้าเขียนเพลงกลับมาได้ก็เขียนแต่เราไม่ได้ตั้งใจว่าจะต้องไปทำอะไร เหมือนเราแค่ไปเติมเต็มจิตวิญญาณของเรา”

ลั่นคนมักเข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นสาวติสต์ ซึ่งจริงๆ แล้วตนไม่ได้เป็นคนเช่นนั้น บอกตนแค่เป็นคนที่ชอบเสียงเพลง ศิลปะ และธรรมชาติเท่านั้นเอง

“คนจะมองว่าวีเป็นคนติสต์ ถามว่าติสต์คืออะไร เป็นคนที่เข้าถึงยากใช่หรือเปล่า หรือยังไง ถ้าเป็นแบบนั้น วีไม่ใช่คนติสต์ แล้ววีก็ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนติสต์ด้วย วีไม่ได้เป็นคนที่เข้าถึงยาก วีเป็นคนมีเหตุผลคุยง่ายคุยรู้เรื่อง วีว่าวีเหมือนคนทั่วไปมากๆ นะคะ เพียงแค่วีชอบเสียงเพลง งานศิลปะ และธรรมชาติมันก็เท่านั้นเอง วีเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าวีรักโลกมาก วีรักเพื่อนมนุษย์มาก เพราะฉะนั้นการเข้าป่าคือการไปเจอกับธรรมชาติ วีชอบนั่งคุยกับต้นไม้ ได้เห็นว่าความสวยงามของมันมีมากขนาดไหน แต่เรากลับเพิกเฉยต่อโลกเราขนาดไหน เพราะฉะนั้นวีเลยคิดว่าการไปได้เจอสิ่งเหล่านี้ เหมือนเป็นการได้เตือนตัวเองว่า เรากำลังทำอะไรกับโลกอยู่บ้าง วีรู้สึกว่า จริงๆ แล้วมนุษย์ทุกคนควรจะเป็นแบบนั้นนะ เพราะบางทีเราไม่ตระหนักถึงปัญหาที่มันเกิดขึ้นกับโลกใบนี้เลย

“วีอินกับเรื่องนี้มากอาจจะเป็นเพราะเราโตมากับสิ่งนี้ เราเห็นว่ามันสวยขนาดไหน มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วีนั่งเครื่องบิน แล้ววีมองออกไปนอกหน้าต่างที่ฝรั่งเศสเห็นภูเขาสวยมาก ยอดเป็นหิมะธรรมชาติต้นไม้เยอะ วีเลยรู้สึกว่า เราเสียดายตอนที่วีมองลงไป บ้านคนเป็นแค่จุดเล็กๆ จุดเดียว ตัวคนยังเล็กกว่าบ้านหลังนั้นอีก แต่มนุษย์เราชอบคิดว่าตัวเอง ใหญ่มาจากไหน มีบางอย่างใหญ่กว่าเราตั้งเยอะ แล้วทำไมเราถึงชอบเอาปัญหาของตัวเองว่าใหญ่ที่สุด ทั้งๆ ที่มันมีปัญหาของโลก เราตั้งมากมายที่เกิดขึ้น

เผยอยากไปทำงานเป็นอาสาช่วยเหลือมูลนิธิเพื่อเพื่อนมนุษย์และธรรมชาติ

“อยากมากๆ เลย แต่ที่ผ่านมายังไม่มีติดต่อเข้ามา และวีอยากไปยื่นมือช่วย มันมีโครงการหนึ่งที่พ่อวีแนะนำมา คล้ายๆ ว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับการแพทย์ที่ไม่มีขอบเขต ไม่มีพรมแดน คล้ายๆ แพทย์อาสา ฃแต่วีก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ตัววีจะช่วยอะไรได้บ้าง แต่เราอยากช่วย ในอนาคตทำแน่นอน เพราะเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทให้โลก เพราะโลกให้ที่อยู่ให้อากาศ แล้วเราจะไม่ให้เขาคืนเลยเหรอ บางทีวีก็ชอบนั่งคุยกับต้นไม้นะ วีว่าเขามีชีวิต และมีความรู้สึกนะ”