Inside Dara
วีเชฟแล้วไง? มาร์กี้ 12 ปีในวงการ ฉันยังอยู่ได้

ไม่ใช่นางเอกพิมพ์นิยม ไม่ใช่นางเอกหน้าวีเชฟ แต่ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์ "มาร์กี้-ราศรี บาเล็นซิเอก้า"

ด้วยรูปหน้ากลมๆ คางเหลี่ยมนิดๆ แก้มป่องหน่อยๆ ดูไม่สวยประชานิยม แต่ก็เป็นที่ชื่นชมของแฟนละครหลายคน เพราะไม่ว่าจะเล่นบทเรียบร้อย กวนๆ หรือ เกรียนๆ ก็ดูน่ารัก น่ามันเขี้ยว แถมยังถูกยกให้เป็นหนึ่งในนางเอก "เคมีสาธารณะ" ที่เล่นกับใครก็อิน ชวนจิ้นกันไปหมด

ฉันนี่แหละ "มาร์กี้ ราศรี"

"ดีใจค่ะที่มีคนชอบหนูในแบบที่หนูเป็น หน้ากลมๆ หน้าบานๆ (หัวเราะ) และยังชอบการแสดงของหนูที่ไม่ยึดติดว่าต้องเล่นกับคนนี้เท่านั้น แต่ชอบที่หนูเล่นกับใครก็ได้ ซึ่งก็เป็นข้อดีนะคะ (ยิ้ม) เพราะมันเพิ่มโอกาสให้หนูได้เล่น ได้แสดงละครใหม่ๆ คู่กับใครก็ได้"

นางเอกสาวลูกครึ่งไทย-สเปน ลูกหม้อวิก 3 วัย 25 ปี พูดถึงกระแสตอบรับจากคนดู และขอบคุณที่ให้โอกาส และรักในตัวผู้หญิงขายาวๆ หน้าบานๆ ก่อนจะยอมรับตรงๆ ว่าเคยคิดจะไปทำศัลยกรรมเหมือนกัน แต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า "การเป็นนางเอก หรือการอยู่ในสังคม มันไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมดก็ได้"

"คนรอบๆ ตัวเกือบทุกคนคือหน้าวีเชฟ (หน้าเรียว) กันหมด ตอนนั้นยอมรับว่าเป๋ๆ นิดหนึ่งนะคะ เอ๊ะ! หรือว่าสิ่งที่ถูกต้องคือ วีเชฟ แล้วหนูก็คิดไปเองว่า ถ้าเราวีเชฟ เราอาจจะดูดีกว่านี้หรือเปล่า อยากไปโบท็อกซ์มาก (ลากเสียงยาว) คือจะไปแล้ว แต่อยู่ดีๆ ก็รู้สึกขึ้นมาเองว่า เฮ้ย! ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมดก็ได้หรือเปล่า

ถ้าฉันอยู่มาได้ขนาดนี้ ทำงานในวงการบันเทิงมาได้ 10 กว่าปีขนาดนี้ แปลว่าวีเชฟ หรือไม่วีเชฟ มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลยค่ะ หนูก็เลยคิดว่าเอาเวลาไปพัฒนาฝีมือ หรืออย่างอื่นเช่น ดูแลสุขภาพ ดูแลหุ่นให้เฟิร์ม ดูดี เพราะเอาจริงๆ คนไม่ได้ดูหรอกว่า เราหน้าวีเชฟ หรือไม่วีเชฟ"

ดังนั้น ความสวยในแบบ "มาร์กี้ ราศรี" นี่แหละคือสิ่งที่เธอภูมิใจ แถมคุณพ่อยังสั่งห้ามไม่ให้ฉีดอะไรเข้าร่างกายเด็ดขาด เพราะนอกจากความเสี่ยงที่อาจไม่ได้โชคดีเหมือนคนอื่นแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบในระยะยาวตามมาด้วย

"หนูเป็นคนที่หน้าไม่วีเชฟ (เอามือจับหน้าตัวเอง) ซึ่งก็มีคนที่ชอบในแบบนี้กับคนที่รู้สึกว่าหน้าบาน ไปทำเถอะ แต่ส่วนตัวมองว่า ทุกคนมันไม่ต้องหน้าวีเชฟป่ะ แต่ถ้าน้ำหนักเราโอเค หุ่นเราโอเค หน้าวีเชฟ หรือหน้าตุ๊กตาบาร์บี้ก็คงไม่จำเป็นสำหรับหนู ซึ่งก็มีความสวยที่แตกต่างกันออกไป สำหรับหนูจะหน้ากลมๆ มีกรามชัดๆ ซึ่งมันคือข้อดีนะ สามารถเปลี่ยนเป็นผู้หญิงหวานๆ ก็ได้หรือจะออกแนวแมนๆ ลุยๆ ก็ยังได้เลย"

นางเอกสาวเชื่อมั่นในความสวยที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองให้เข้าสู่ "กรอบความงามตามมาตรฐานของสังคม" เธอจึงมองว่า มันน่าเสียดายถ้าผู้หญิงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่อยๆ แปลงร่างไปสู่ความสวยพิมพ์นิยม หรือความสวยจากการตัดสินด้วยไม้บรรทัดของใครก็ไม่รู้

สตาร์ VS มาร์กี้

"เป็นลูกคนเดียว บ้านรวย พ่อตามใจ สวยด้วยไง (หัวเราะ) ก็เลยเป็นดาวมหา'ลัย มั่นไปอีก ผู้ชายชอบ มองไปอีก แต่ก็มีความโก๊ะ แถมยังโง่ภาษาอังกฤษ เรียนไม่จบ เรียนแล้วเรียนอีก พ่อก็เลยบอกว่า ถ้ายังเรียนไม่ผ่าน พ่อจะไม่ส่งไปเรียนเกาหลี ซึ่งเป็นความฝันของเราในการจะไปเป็นนักร้อง และเป็นซูเปอร์สตาร์"

ทั้งหมดนี้ คือคาแร็กเตอร์ของตัวละคร "สตาร์" ที่เธอรับเล่นในหนังเรื่องนี้ ถามว่ามีความเหมือนหรือต่างกับตัวตนมากน้อยแค่ไหน นางเอกสาวนิ่งคิด ก่อนจะตอบว่า "ความโก๊ะเลยค่ะ (หัวเราะ) และมันก็จะมีบางจุดที่คล้ายๆ กัน เช่น เนี่ยแหละมั่น เนี่ยแหละสวย เนี่ยแหละเซ็กซี่สุดๆ (หัวเราะ) แต่ภาพความมั่นใจที่เราคิด มันอาจจะขัดแย้งกับคนที่มองเข้ามา ซึ่งเขาก็จะแบบ..เหรอ สวยแล้วเหรอ เซ็กซี่แล้วเหรอ

อย่างเวลาไปเที่ยวผับกับกลุ่มเพื่อน หนูก็มั่นใจของหนูว่า เต้นท่านี้แซ่บสุด แต่พอเพื่อนๆ มองเข้ามา แกเต้นท่าอะไร เก็บท่านี้กลับบ้านไปเดี๋ยวนี้ ท่าไม่ผ่าน หนูก็ได้แต่บอกว่า เหรอๆ แต่ฉันว่ามันโอเคนะ เกาหลีเขาก็เต้นกันแบบนี้ไม่ใช่เหรอ เพื่อนก็บอกว่า ท่าเดียวกัน แต่เธอเต้นออกมาไม่เหมือนเขาเลย อะไรทำนองนี้ค่ะ" เล่าไปหัวเราะไปกับความมั่นของตัวเองที่บางครั้งคนที่มองเข้ามาก็อาจไม่ได้รู้สึกแบบนั้น

ทำไมต้องเป็น "เธอ"

สำหรับความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม "ป๊อก" เธออัปเดตให้ฟังว่า "คบหาดูใจกันได้ 2 ปีแล้วค่ะ พี่ป๊อกก็โอเคนะคะ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เขาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย แล้วก็เป็นคนเอาใส่ใจ น่ารัก เขาค่อนข้างเป็นห่วงความรู้สึกคนอื่นๆ รวมถึงตัวหนูด้วย เวลาอยู่ด้วยกันแล้วสนุกดีค่ะ นอกจากนั้นเขายังเป็นที่ปรึกษาในหลายๆ เรื่อง ช่วยคิด ช่วยให้คำแนะนำ อยู่ด้วยกันเหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า

ถามว่าคนนี้ใช่ยัง "ก็โอเคอยู่ค่ะ (ยิ้ม) หนูก็ไม่ได้ปรับอะไรมาก อะไรที่ชอบไม่ชอบก็บอกกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทุกวันนี้ได้เจอครอบครัวพี่เขาตามโอกาสต่างๆ ส่วนอนาคตก็ยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะ (หัวเราะ) แค่ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด อันไหนทำแล้วมีความสุขก็ทำกันไป" ยกตัวอย่างการชวนกันไปออกกำลังกาย แม้ช่วงแรกๆ จะไปด้วยกัน แต่ช่วงหลังๆ ทำไมต้องแยกกันไป เรื่องนี้เธอมีคำตอบอยู่ในบรรทัดด้านล่างนี้

"ช่วงหลังๆ ไม่ได้ชวนไปค่ะ เพราะหนูไปสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ การออกกำลังกายของผู้หญิงกับผู้ชายมันไม่เหมือนกันนะ ถ้าฟิตแอนด์เฟิร์มทั่วไป อันนี้ได้ แต่ถ้าเฉพาะส่วนจริงๆ อย่างหนูเล่นก้นกับต้นขา ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องที่พี่ป๊อกจะมาเล่นก้น อยากก้นเด้งเหรอ หรือยังไง (หัวเราะ) ผู้ชายก็คงอัดไปที่ช่วงแขน อก แต่เราแขนอกไม่ได้

หนูเคยไปเล่นกับเขานะ ต้องถือดัมบ์เบล โอ๊ย! มาร์กี้เอ๊ย ไหล่มาใหญ่มากเลยค่ะ เห็นได้ชัดเลยว่าไหล่ใหญ่ เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ไหล่กว้างอยู่แล้ว ยิ่งไปถือน้ำหนัก วิดพื้น ไปกันใหญ่เลยค่ะ หลังๆ ก็เลยแยกกันไปเล่นดีกว่า"

พูดถึงเรื่อง "ออกกำลังกาย" เห็นฟิตอย่างหนักจากภาพที่โพสต์ในอินสตาแกรม "นี่กำลังสร้างกล้ามท้องอยู่หรือเปล่า"

"หนูไม่ได้จะสร้างกล้ามท้องถึงขนาดต้องมีซิกแพกค่ะ" เธอบอก "หนูแค่อยากให้มันดูสมส่วน คือตอนนี้พอหนูแขนขาเล็กมาก แล้วมองข้ามช่วงเอว ช่วงหน้าท้อง มันเลยทำให้เราดูตัวใหญ่ เพราะฉะนั้น ต้องฟิตให้เฟิร์ม ซึ่งการลดน้ำหนักอย่างเดียวมันไม่พอ ยิ่งลด ขาก็ยิ่งเล็กไปอีก แขนก็เล็กไปอีก

ดังนั้น หนูจึงมาเน้นเฉพาะส่วนมากขึ้น ถ้าไม่ทำตอนนี้ หนูก็ยิ่งแก่ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งรอก็ยิ่งทำยากขึ้น ระบบเผาผลาญก็แย่ลง อายุก็มากขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้คือวันที่หนูยังมีกำลัง ยังมีแรงในการออกกำลังกาย วันนี้แหละ ต้องเริ่มตอนนี้เลยค่ะ"

ถึงวันนี้ แม้จะทำงานทุกวัน จันทร์ถึงอาทิตย์ แต่บางวันที่ไม่ได้มีงานเต็มวัน เธอจะแบ่งเวลาให้กับการออกกำลังกาย รวมไปถึงเวลาส่วนตัวกับหวานใจ ปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 12 แล้วสำหรับการทำงานในวงการบันเทิง แม้จะทำมาเกือบหมดแล้วทั้งพิธีกร นักแสดง นักร้อง แต่อีกหนึ่งอย่างที่ยังไม่ได้ทำก็คือ "ละครเวที" และนี่คือความลับที่เธอไม่เคยเปิดที่ไหนมาก่อน

"หนูเป็นคนกลัวเวทีมากค่ะ (หัวเราะ) ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้ว่าหนูไม่โอเคกับการอยู่บนเวที ไม่ว่าจะเป็นเวทีอีเวนต์ หรืออะไรก็ตามแต่ ถ้าหนูอยู่สูงกว่าคนทั่วไปแล้วมีคนมองขึ้นมา ตรงนั้นไม่โอเคเลยค่ะ มันจะเกร็ง ตื่นเต้น ประหม่า ทุกอย่างเลย ดังนั้นทุกครั้งที่ขึ้นไปบนเวที อยู่ที่ว่าเราจะซ่อนไม่ให้คนรู้ได้มากน้อยแค่ไหน" ตรงนี้เองที่เป็นอีกหนึ่งตัวสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพที่ไม่มีข้ออ้างใดๆ ในการทำงาน

"หนูตั้งใจทำให้เต็มที่ทุกงานค่ะ จริงจังกับทุกงาน เพราะหนูก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ไปจนถึงอายุเท่าไร หรือจะได้เล่นเป็นนางเอกอีกนานแค่ไหน ดังนั้นทุกๆ งานหนูจะทำให้ดีที่สุด เพื่อที่ว่าในอนาคตหนูจะได้ไม่ต้องมาเสียใจว่า ในวันที่ฉันมีโอกาส ทำไมฉันไม่ทำมัน"

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ-สกุล : มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า

วันเกิด : 22 สิงหาคม 2533

อายุ : 25 ปี

การศึกษา : มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) คณะบริหารธุรกิจ เอกการโรงแรม

ความสามารถ : กีฬาเทควันโด, บาสเกตบอล, ขี่ม้า, เวคบอร์ด, ภาษาอังกฤษ และสเปน

ผลงานปัจจุบัน : กำลังจะมีละครเรื่องอาคมประกบคู่ 'เจมส์ มาร์' และภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต "มหาลัยเที่ยงคืน" รับบท "สตาร์" ร่วมกับ โทนี่ รากแก่น, บริบูรณ์ จันทร์เรือง (เข้าฉาย 28 กรกฎาคม 2559)

รางวัลที่ได้รับ : ดาวรุ่งหญิงจากเวทีสีสันบันเทิงอวอร์ด ปี 2551, รางวัลเซเวนทีนชอยส์อวอร์ดส สาขานักแสดงคู่ขวัญ เคมีตรงกันแบบสุดๆ ร่วมกับปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ปี 2556, รางวัลฮาว อวอร์ด 2015 สาขานักแสดงหญิงมากความสามารถและเป็นที่ยอมรับของประชาชน, รางวัลดาวเมขลา สาขานักแสดงมากความสามารถ ปี 2559 เป็นต้น