Inside Dara
สน-ยุกต์ จาก ′ท่อนไม้′ สู่ ′พระเอกแถวหน้า′

แม้กระแสตอบรับละคร "ตะวันตัดบูรพา" เวอร์ชั่นล่าสุด จะมีหลากหลายเสียง ทั้งชอบ-ไม่ชอบ และนำไปเปรียบเทียบกับของเก่าให้เห็นกันอยู่เนืองๆ หากสิ่งหนึ่งที่ส่วนใหญ่คิดเห็นตรงกันคือ สน-ยุกต์ ส่งไพศาล ผู้มารับบท "บูรพา" ครั้งนี้ ทำได้ดีเกินคาด!

งานนี้เจ้าตัวยิ้มกว้างรับคำชม ก่อนเผยว่านอกจากความตั้งใจและการตบให้เข้ารูปเข้ารอยจากผู้กำกับ โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ แล้ว ประสบการณ์คืออีกเหตุผลที่สำคัญ

"ผมเคยท้อตอนเล่นเรื่องแรก" สนสารภาพ

นั่นคือเรื่อง "แก้วล้อมเพชร" ที่ฉายทางช่อง 5 เมื่อปี 2551 เพราะแม้เรตติ้งจะกระฉูด ทั้งยังแจ้งเกิดเขากับนางเอก วิว-วรรณรท สนธิไชย ในทันที แต่ฉายา "พระเอกท่อนไม้" ก็ติดตัวเขามาจากเรื่องนั้นด้วยเช่นกัน

"พอคนว่าเยอะ ผมก็ไม่อยากเล่นเท่าไหร่ แต่ผู้ใหญ่ให้กำลังใจ ทั้งพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) หม่อมน้อย (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล) ที่สอนหลายๆ อย่างกับผม เลยรู้สึกว่าการทำงานในวงการเป็นประโยชน์กับคน

"เพราะถ้าเราเป็นตัวอย่างที่ดี ก็ถือเป็นการทำบุญที่ดีมาก คนเป็นล้านได้ดูเราภายในชั่วโมงหนึ่ง เราได้มอบความสุขให้เขา" สนว่าพลางยิ้ม

และด้วยแนวคิดที่ว่า จึงหล่อหลอมหนุ่มน้อยวัย 19 ให้ค่อยๆ เติบโต และเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กขี้อาย ไม่กล้าคุยกับใคร กลายเป็นหนุ่มวัย 27 ในวันนี้ ที่กล้าพูดกล้าคุย และอะไรๆ อีกหลายสิ่ง

"วงการบันเทิงให้อะไรหลายอย่าง ทำให้โตขึ้น คุมอารมณ์ได้มากขึ้น ให้ความรู้ ให้คอนเน็กชั่น มีคนรักเรามากขึ้น ได้เห็นคนพลังเยอะๆ ในวงการ ซึ่งผมว่าน่าสนใจ"

ที่สำคัญ "ผมได้เจอเพื่อนใหม่และกัลยาณมิตรที่ดี นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดกับการอยู่ในวงการสำหรับผม" เขาบอก

โชคดีอีกอย่างคือการได้รับโอกาสในการทำงานนอกค่าย ไม่เฉพาะเอ็กแซ็กท์หรือช่องวันของต้นสังกัด แต่เขาได้แวะเวียนไปอวดฝีมือในละครช่อง 3 ของผู้จัด ไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา ถึง 2 ครั้ง คือ "แค้นเสน่หา" กับ "มาลีเริงระบำ" แถมแว่วว่าผู้จัด ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล ยังจะวางตัวให้เล่น "ดวงใจพิสุทธิ์" เร็วๆ นี้อีกด้วย

เมื่อถามถึงข้อเสียของการอยู่ในวงการ สนตอบทันที "อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวบ้าง จะทำอะไรก็ต้องระวังไปหมด แต่ผมเข้าใจอยู่แล้วว่าถ้าเอาตัวเองเข้ามาก็ต้องเจอแบบนี้ เพราะฉะนั้นเตรียมใจไว้แล้ว ไม่เป็นไร เราทำงานเพื่อความสุขของคนดู เราก็ได้บุญ"

ก่อนจะย้ำ "แค่สูญเสียความเป็นส่วนตัว แต่ไม่เคยสูญเสียความเป็นตัวเอง"

เมื่อลองย้อนเส้นทางในวงการตลอด 7 ปี เขาผ่านทั้งงานละคร ซิตคอม มิวสิกวิดีโอ ถ่ายโฆษณา ร้องเพลงประกอบละคร และขึ้นคอนเสิร์ตมาหมดแล้ว เหลือก็แต่ภาพยนตร์ที่ยังไม่ได้ลองสักครั้ง แม้จะถูกทาบทามมาหลายหน แต่ด้วยคิวและบทที่ยังไม่ลงตัวนัก เลยชวดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

แต่หากเลือกได้ "อยากเล่นคอมเมดี้ เพราะปกติก็ได้เล่นดราม่า แอ๊กชั่น โรแมนติก ถ้ามีโอกาสก็อยากลองอะไรใหม่ๆ บ้าง"

เช่นเดียวกับงานที่ประเทศจีน ซึ่งมีคนติดต่อมาเยอะ แต่เพราะความไม่ลงตัวหลายอย่าง ทำให้ไม่ได้ไปเยือนแดนมังกรเสียที

ไม่ใช่ว่า "เรื่องมาก" อย่างที่บางคนอาจคิด

เพราะนิสัยแบบนั้นมีไว้ใช้กับเฉพาะความรัก สนบอกพลางหัวเราะร่วน

"ผมมีความเป็นตัวเองสูง บางทีอีกฝ่ายอาจรับไม่ได้หรือเข้ากันไม่ได้" เขารีบอธิบาย

แต่ไม่เป็นไร

เพราะ "ยังไม่ได้คิดว่าต้องมีแฟนตอนนี้หรือเพราะเหงา ไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมไม่เหงา ผมทำงาน อยู่กับเพื่อน แค่นี้โอเคแล้ว แต่ถ้าใครจะเข้ามาก็ไม่ได้ปิดโอกาส แค่ไม่รีบ"

ครั้นจะให้นิยามสเปกในใจ สนคิดแล้วคิดอีกก่อนสารภาพว่า ไม่มี

"สเปกภายนอกของผู้หญิงที่ผมคุยมาไม่เหมือนกันเลยสักคน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือคุยกันรู้เรื่อง อยู่แล้วเรามีความสุข"

แม้จะยังไม่เจอคนแบบที่ว่า แต่สนบอก "ความรักเป็นสิ่งที่ทุกคนมีในใจ และเราทำทุกอย่างก็เพราะความรัก ทำเพื่อครอบครัว ทำเพื่อคนที่รักเรา"

"มันคือแรงผลักดันให้เราทำสิ่งดีๆ"

และรักที่กำลังผลักดันเขาอยู่ ณ เวลานี้ ก็มาจากครอบครัว

ถามถึงอนาคตในวงการ เขาตอบตรงๆ ว่า ขอเวลาอีก 2 ปีค่อยคิด

เหตุเพราะ "รอให้ได้ทำอย่างที่อยากทำเต็มที่ก่อน เพราะยังต้องพิสูจน์ตัวเองในหลายๆ อย่าง"

อย่างหนึ่งในนั้นที่เพิ่งทำสำเร็จไปก็คือการสลัดภาพพระเอกท่อนไม้ทิ้งไปจนไม่เหลือไง