Inside Dara
"ธัญญา"แรง"เมียหลวง" ปัดอินชีวิตจริง-เล่นตามบท

ยังไม่ทันที่ละคร "แรงเงา" ออกอากาศ ความแรงของบทเมียหลวง"นพนภา" ก็ดูจะดังกระฉูดไปไกลซะแล้ว ด้วยได้นักแสดงสาวมากฝีมือ"ธัญญ่า"ธัญญาเรศ รามณรงค์ มารับบทดังกล่าว ซึ่งประจวบเหมาะที่ไปสอดคล้องกับชีวิตจริงของเธอในขณะนั้น

พอละครได้เริ่มลงจอวิก 3 เท่านั้นแหละ ความแรงไม่มีตก แถมจะยิ่งดูดุเดือดและเข้มข้นขึ้น จนเป็นหัวข้อสนทนาที่จะต้องพูดคุยกับสาว"ธัญญ่า" ในวันนี้

ห่างไปนานแค่ไหนถึงกลับมาเล่นละครอีก

ธัญญ่า - "ห่างไป 2 ปีค่ะ ล่าสุดคือ สาปภูษา กับ สืบ สวนป่วน รัก พอดีทาง บรอดคาซท์ฯ ติดต่อไปตั้งแต่ตอนอยู่อเมริกาว่าอยากให้เล่น"แรงเงา" รับบทเมียหลวง"นพนภา"

"ถามว่าทำไมกล้ารับเล่นเพราะบทแรงมาก ธัญญ่าคิดว่าตัวเองหายไปนานและอายุเยอะขึ้น ฉะนั้นเรื่องบทแรงแค่ไหนไม่กลัว มาถึงวัยนี้แล้วเล่นได้หมด แค่ไม่โป๊เปลือยหรือเลิฟซีนหนักหน่วงก็พอ"

แล้วรู้สึกยังไงที่ต้องเล่นอะไรที่ใกล้เคียงกับบางช่วงของชีวิตจริง

ธัญญ่า - "เรื่องส่วนตัวกับการตัดสินใจรับละครไม่เกี่ยวกันเลย ธัญญ่าดูแค่ตัวบทที่ได้รับว่ามีอะไรให้เล่นแค่ไหน ไม่ได้มองว่าตรงกับชีวิตจริงที่เล่นเป็นเมียหลวงหรืออะไรยังไง โฟกัสตัวนพนภาอย่างเดียว"

หลังจากรู้ว่าต้องมารับบทนี้ทำการบ้านยังไงบ้าง

ธัญญ่า - "จริงๆ ไม่ได้ทำการบ้านเพราะยังไม่ได้ตัวบท แต่พอใกล้ถ่ายก็ศึกษาว่าจะดีไซน์การเล่นยังไง แล้ววันฟิตติ้งแต่งตัวแต่งหน้าทำผมเสร็จ พี่เติม ผู้กำกับฯ บอกอยากได้อารมณ์แบบนางพญา ไม่อยากได้ตุ๊กตา เพราะภาพมันเด็กกว่าที่เขาต้องการ นพนภาจึงเป็นตัวเดียวที่เขาแยกมาฟิตติ้งใหม่"

"จนวันเปิดกล้อง ฉากแรกเล่นหลายเทกมาก ไม่ผ่านซักที แล้วก็ถูกเรียกเข้าไปคุยคนเดียว ตอนนั้นนอยด์มาก เพราะอยู่วงการมา 20 กว่าปี เล่นละครเล่นหนังมาก็เยอะ ทำไมโดนเรียกคุยเดี่ยว สอบไม่ผ่านแน่ๆ ถ้าเขาเปลี่ยนตัวกลางคันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน จนพี่เติมบอกว่าไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการมูฟเมนต์ของธัญญ่ามันเด็กไป สุดท้ายต้องไปทำเวิร์กช็อป 3 ครั้ง ครั้งละ 3 ชั่วโมง"

"ตอนเวิร์กช็อปก็เอาบทมาตีความใหม่ หลังจากนั้นมาเล่นอีกทีก็ผ่าน ซึ่งธัญญาไม่รู้หรอกว่าเล่นต่างจากเดิมยังไง แต่คงเป็นความรู้สึกข้างในที่พี่เติมพยายามดึงออกมาตั้งแต่สมัยนพนภายังเป็นเด็กว่ามีพื้นฐานครอบ ครัวยังไง พี่เติมพยายามยัดเยียดให้ธัญญ่าเป็นนพนภาเลย ต้องบอกว่าเรื่องนี้เครียดและหนักหน่วงมาก ทำไมมันยากขนาดนี้จะไหวไหม"

แต่บางคนคิดว่าธัญญ่าจะได้เปรียบด้วยซ้ำ เพราะมีครอบครัวแล้วทำให้การแสดงบทนี้น่าจะง่ายขึ้น

ธัญญ่า - "ไม่ง่ายเลย เพราะนพนภาเป็นเจ้าแม่อสังหา ริมทรัพย์ ไปไหนจะมีรัศมีของความเป็นผู้นำ ความอำมหิต น่าเกรงขาม ใครเข้าใกล้จะไม่กล้าสบตา ไม่ว่าจะกับลูก สามี หรือลูกน้อง แต่ตัวจริงธัญญ่าไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ฉะนั้นก็ต้องนึกเอาว่าคนที่เป็นแบบนั้นเขาวางตัวทำท่าทางยังไง"

"แล้วล่าสุดฉากที่นพนภาเป็นอัมพาต เล่นเสร็จต้องขอยาแก้ปวดหัวเลย ถึงจะนอนเฉยๆ แต่สายตาต้องแสดงอารมณ์ตลอด ยากมาก เหนื่อยมากกว่าฉากที่ต้องกรี๊ดๆ ด้วยซ้ำ"

รู้สึกยังไงที่คนมองว่าเลือกธัญญ่ามารับบทเมียหลวงสู้ตาย เพื่อสร้างกระแสให้ละคร

ธัญญ่า - "บทที่ได้รับมันเหมาะเจาะกับช่วงเหตุการณ์ช่วงนั้นใช่ไหม (หัวเราะ) แต่ธัญญ่าว่าในการเลือกตัวละครของพี่หน่อง (อรุโณชา) ไม่น่าเกี่ยวกับกระแส พี่หน่องมองที่ คาแร็กเตอร์ตัวละครว่าใครเหมาะที่จะเล่นได้ คงไว้ใจธัญญ่าว่าจะเล่นบทนี้ได้ ต่อให้ไม่มีเรื่องข่าวเข้ามาก็เชื่อว่าพี่หน่องยังจะเลือกธัญญ่านี่แหละ อาจจะเข้าข้างตัวเองไปหน่อย แต่เชื่อนะว่าพี่หน่องมองไม่พลาดอยู่แล้ว เขาคงเห็นอะไรในตัวธัญญ่ามากกว่า ไม่เกี่ยวกับกระแสเพราะเรื่องนี้มันแรงอยู่แล้วเอาใครมาเล่นก็แรงค่ะ"

เล่นอะไรที่ใกล้กับชีวิตจริงอึดอัดไหม

ธัญญ่า - "ไม่อึดอัดเลยเพราะการดำเนินชีวิตตัวละครในเรื่องไม่เหมือนชีวิตจริงธัญญ่า แตกต่างโดยสิ้นเชิง โอเคอาจมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่การจัดการของนพนภากับธัญญ่าต่างกัน นพนภาทำถึงขั้นฆ่าคนได้ แต่ธัญญ่าไม่ได้ทำขนาดนั้น"

เล่นละครเรื่องนี้ได้เอาอะไรในชีวิตจริงใส่ลงไปในละครหรือเอาอะไรในละครมาปรับใช้กับชีวิตจริงบ้างไหม

ธัญญ่า - "ตัวละครมันแรงเกินกว่าจะเอาอะไรในชีวิตจริงมาใส่หรือจะเอาไปปรับใช้ในชีวิตจริง ธัญญ่าเป็นคนนิ่งๆ นานๆ จะระเบิดสักครั้ง แต่นพนภาพร้อมระเบิดตลอดเวลา ขนาดเหนื่อยล้าแค่ไหนก็มีแรงอาละวาดตลอด"

เตรียมรับกับกระแสหลังจากนี้ยังไงบ้าง

ธัญญ่า - "อยากให้มองเป็นความบันเทิง เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาครอบครัวที่เกิดจากผู้ชายที่ไม่รู้จักพอ แล้วปัญหาแบบนี้มีอยู่แล้วทั่วโลก นี่คือตัวอย่างของครอบครัวหนึ่งที่มีปัญหาแบบนี้ ดูเพื่อให้รู้ว่าปัญหาเกิดขึ้นได้ยังไง แล้วคนที่ดูก็อย่าทำให้ครอบครัวมีปัญหาแบบในละครแล้วกัน"

ก่อนรับบทนี้ ปรึกษาพี่เป๊ก (สัณชัย) สามีหรือเปล่า

ธัญญ่า - "ไม่ได้ปรึกษาเลย มาบอกเอาตอนจะต้องไปถ่ายแล้ว พี่เป๊กไม่ค่อยถามด้วย อย่างเดียวที่ถามคือมีเลิฟซีนหรือเปล่า ธัญญ่าก็บอกว่าเยอะมาก (หัวเราะ) แล้วไม่นานมานี้นั่ง ดูทีวีแล้วมีทีเซอร์ละครออกมา ธัญญ่าก็ถามพี่เป๊กว่าแก่ไหม พี่เป๊กตอบว่าแก่มาก (หัวเราะ)"

"ปกติพี่เป๊กไม่เคยดูละครที่ธัญญ่าเล่น กลัวมีฉากเลิฟซีน ขนาดแค่จับมือยังโกรธเลย ผู้ชายเจ้าชู้ไง เลยขี้หึงขี้หวงเป็นธรรมดา (หัวเราะ) ส่วนลียา ธัญญ่าคุยกันแล้วจะไม่ให้ลียาดู เพราะไม่อยากให้ลียาติดภาพว่าหม่ามี้ทำไมแรงขนาดนี้"

อยู่วงการบันเทิงมายาวนาน มองวงการเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

ธัญญ่า - "เปลี่ยนจากเมื่อก่อนที่ไม่ได้มีโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กมาก ทุกอย่างกระจายเร็วข่าวรุนแรงมีเยอะขึ้น แต่ เพราะธัญญ่าโตมากับตรงนี้เลยรับมือไหว เพราะมีภูมิคุ้มกันแล้ว"

คิดว่าอะไรที่ทำให้ทุกวันนี้ชื่อของธัญญ่ายังเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงมากฝีมือคนหนึ่ง

ธัญญ่า - "ธัญญ่าอาจจะโชคดีที่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก เป็นนักแสดงที่ได้รับงานเรื่อยๆ ไม่ได้โดดเด่นแบบตู้มต้าม แต่ไปได้เรื่อยๆ โอเคนานๆ ทีอาจจะมีบทอะไรที่ได้แสดงฝีมือเยอะแล้วธัญญ่าก็เต็มที่ เลยทำให้ชื่อของธัญญ่าไม่ได้หายไปจากวงการ ซึ่งธัญญ่าแฮปปี้กับชีวิตแบบนี้เพราะมันไปได้เรื่อยๆ"

"สำหรับคนที่ขึ้นไปสูงมาก ณ วันที่มันต้องลงแล้วเขาจะรับมือยังไง"

อย่างว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาว!!


ทั้งรักและผูกพัน-ต่างปรับจูนคงสถานะครอบครัว

ตอนนี้เรียกว่าชีวิตครอบครัวลงตัว หลังหาวิธีปรับจูนกันได้มากขึ้น สำหรับนักแสดงสาว"ธัญญ่า-ธัญญาเรศ" กับสามี"เป๊ก-สัณชัย"

โดยธัญญ่าเผยว่า "ชีวิตครอบครัวตอนนี้โอเคค่ะ ถือว่าหาจุดปรับจูนเพื่อจะได้กลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน แต่เหมือนเป็นจุดที่หากันเจอว่าอยู่แบบนี้แล้วทำให้ไม่ต้องทะเลาะมีเรื่องราวให้ปวดหัว มีระยะห่างของกันและกัน พยายามไม่คิดอะไรที่ทำให้เครียด แล้วเหมือนไปสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองที่อเมริกามาปีหนึ่ง จนรู้สึกว่าโอเคก็กลับมา อาจมีอาฟเตอร์ช็อกบ้างนิดหน่อย แต่ก็แข็งแรงพอจะไม่กลับไปทุกข์ไปเศร้าเหมือนที่เคยเป็น"

แล้วจะมีโอกาสกลับมาเป็นครอบครัวสุขสันต์เหมือนเดิมได้ไหม ดาราสาวกล่าวว่า "อันนี้ไม่ทราบจริงๆ เพราะตอนนี้โอเคกับสิ่งที่เป็นอยู่ วันนี้มันก็ยังเป็นครอบครัว คุยกันทุกวัน แค่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันเท่านั้นเอง แต่ถ้าวันไหนว่างๆ ธัญญ่าก็ไปบ้านพี่เป๊กบ้าง มีค้างคืนบ้างแล้วแต่โอกาส"

ถามจริงๆ ว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดเหนื่อยไหม ธัญญ่ารับ "เหนื่อยค่ะ"

ถ้าเหนื่อยแล้วทำไมถึงยังเลือกจะอยู่แบบนี้ เพราะบางคนมองว่าปัญหาเกิดจากความเจ้าชู้ ซึ่งสามารถเลือกให้ตัวเองไม่เหนื่อยได้ด้วยการจบ

ธัญญ่ากล่าวว่า "อยู่เพราะลูกและพื้นฐานความรักที่ยังมีให้กัน พี่เป๊กอาจมีปัญหาเรื่องนี้ แต่เรื่องอื่นเขาดีมาก เป็นสามีและพ่อที่ดี เสมอต้นเสมอปลาย สมัยคบเป็นแฟนดูแลยังไง ทุกวันนี้ดูแลดียิ่งกว่าเดิม"

แสดงว่าธัญญ่ายังรักพี่เป๊กอยู่ "รักอยู่แล้วค่ะ"

"พี่เป๊กมีส่วนดีของเขา แล้วถ้าดีเขาดีเว่อร์ ธัญญ่าจะพยายามมองว่าผู้หญิงคนอื่นที่เข้ามาในชีวิตแล้วยังอยู่ได้นานก็เพราะแพ้ความดีของเขานี่แหละ เลยทำให้เกิดปัญหาเพราะความดีของเขา อาจจะมีให้หลายคนไปหน่อย ธัญญ่าโชคดีที่เป็นคนโกรธแป๊บเดียวหาย พี่เป๊กก็เหมือนกัน พอเกิดปัญหาขึ้นมาเลยไม่รุนแรงมาก ทำให้ยังอยู่กันได้"

ถ้ามีเหตุการณ์แบบเดิมเกิดขึ้นอีก จะมีโอกาสครั้งที่ 2 สำหรับพี่เป๊กไหม ธัญญ่าครุ่นคิด "ตอบยากนะ ที่ผ่านมามันหลายครั้ง แต่มันอาจจะมีครั้งใหญ่ขึ้นมาครั้งหนึ่ง ถ้ามีครั้งใหญ่ๆ อีก ธัญญ่าเคยลองคิดไม่แน่ว่าตัวเองอาจจะไม่สนใจอะไรเลยก็ได้ อยู่ไปแบบนี้ หรืออีกแบบคือตัดไปเลย แต่ภาวนาให้ไม่มีดีกว่า (หัวเราะ)"

รู้สึกยังไงที่คนบอกว่าพี่เป๊กยอมทุกอย่างเพราะลูก "อาจจะมีส่วนที่เป็นแบบนั้น แต่โดยพื้นฐานเราสองคน กว่าจะมาแต่งงานกันได้มันต้องรักกัน มีความผูกพันกันมา จนถึงวันนี้สิบปีแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาทะเลาะอาจจะมีอารมณ์แบบว่าไม่เอาแล้วไม่รักแล้ว แต่พอจะไปจริงๆ ก็จะเกิดความผูกพันขึ้นมา ขาดได้จริงๆ หรือเปล่า ลูกเป็นส่วนสำคัญมากๆ ที่ทำให้เราสองคนต้องปรับกันจริงๆ ธัญญ่าว่าถ้าไม่มีลูกอาจจะเลิกไปแล้วก็ได้"

หากย้อนเวลากลับไปได้ อยากกลับไปแก้ไขช่วงไหนของชีวิตครอบครัวมากที่สุด ดาราสาวตอบ "อยากแก้ไขในส่วนของพี่เป๊กที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา ไม่อยากให้ปัญหานี้มันเกิดขึ้น"

"แรกๆ อาจจะไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ แต่พอสุดท้ายมันถลำลึกไปแล้วก็เป็นปัญหาใหญ่จนได้" ธัญญ่ากล่าว ทิ้งท้าย


ลียาคือดวงใจ

"ตอนนี้ลียา 3 ขวบ 3 เดือน เดี๋ยวนี้มีเถียง ซน พูดมาก จะมีเหตุผลของตัวเองค่ะ" คุณแม่คนสวย"ธัญญ่า-ธัญญาเรศ" ยิ้มนัยน์ตาเป็นประกายเมื่อเล่าถึงพัฒนาการของลูกน้อย"น้องลียา"ลลียา เองตระกูล

"อย่างเวลาเขาโมโหแต่ทำอะไรธัญญ่าไม่ได้ ก็จะพูดว่าลียาอยากจะจัดการหม่ามี้ พอถามว่าจะจัดการยังไง เขาก็บอกจะพาหม่ามี้ไปฉีดยา บางทีธัญญ่าจะปิดไฟนอนก็หลอกล่อให้เขานอน พอบอกว่าลียาหม่ามี้แสบตาจัง จะปิดไฟนะ เขาก็บอกว่าหม่ามี้แสบตาก็ปิดตาสิ เถียงมาแบบนี้ก็ไปไม่ถูกเหมือนกัน"

ถามว่าเลี้ยงลียาแบบไหน ไทยหรือฝรั่ง ดาราสาวกล่าวว่า "ผสมๆ กัน ธัญญ่าไม่ได้เฮี้ยบกับเขา ปล่อยสบายๆ เพียงแต่จะมีกรอบให้ แต่ไม่ได้บังคับเขาทุกเรื่อง"

ดาราสาวบอก สิ่งที่ห่วงลียาที่สุดคือสุขภาพ เพราะตอนนี้ไม่ว่ามีโรคอะไรระบาดลียาเป็นหมด ส่วนอนาคตของลูกน้อยนั้น เธอวางไว้ว่า เล็กๆ ให้เรียนที่เมืองไทยไปก่อน พอโตขึ้นจะให้ไปเรียนที่อเมริกา เพราะสามีอยากให้ลูกได้ภาษา ซึ่งถึงเวลานั้นเธอคงต้องตัดใจทิ้งเมืองไทยไปอยู่กับลูก

ต่อข้อถามว่ากังวลไหมว่าวันหนึ่ง ลียาโตขึ้น จะรับรู้เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่เขายังไม่รู้เรื่อง ธัญญ่า ตอบ "ไม่กังวลเลย ถ้าถึงวันที่เขาโตและรู้เรื่อง ธัญญ่าก็จะเล่าให้เขาฟัง อยากให้เขารับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้อยากสร้างภาพสวยงามให้เขา ในอนาคตเขาต้องเข้มแข็งพอที่จะเจอกับปัญหาต่างๆ ได้ ธัญญ่าไม่เคยคิดจะปิด จะเล่าให้ฟังแต่ต้องอธิบายทุกอย่าง อย่างมีเหตุผล และรอให้ถึงเวลาที่เขาควรจะรับรู้ค่ะ"

อยากมีน้องให้ลียาไหม ธัญญ่ากล่าวว่า "เมื่อก่อนคิดอยากมีลูกชายคนลูกสาวคน แต่พอมีลียาแล้วมาเกิดปัญหาครอบครัวเลยรู้สึกว่ามีคนเดียวก็พอมั้ง เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะมีปัญหาอะไรอีกหรือเปล่า"

ดูแววแล้วลียาได้นิสัยใครมา "ไม่รู้ว่าได้นิสัยใคร แต่เขาจะเป็นคนติสต์ๆ มีอารมณ์ศิลปินสูง"

ลียาคืออะไรในชีวิตของธัญญ่า ดาราสาวตอบแบบไม่ต้องคิด "คือทุกอย่างเลยค่ะ ลียาคือของขวัญที่วิเศษที่สุดที่ธัญญ่าได้รับมาเลย เป็นของขวัญที่ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่ในความรักความเอ็นดูก็มีความห่วง ห่วงทุกอย่าง ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะนึกถึงแต่เขา"