Inside Dara
‘อุ้ม’ ยังไม่เข็ดความรัก แค่หยุดพัก รอคนที่ใช่

อุ้มกล้าพูดเลยว่าเรากตัญญู ไม่เคยทิ้งพ่อแม่ บางครั้งความรักไม่จำเป็นต้องได้จากแฟนอย่างเดียว บางทีลืมคนใกล้ตัวมัวแต่สนใจความรัก ทั้งที่พอเลิกกันไปก็กลายเป็นคนอื่น สุดท้ายคนที่อยู่กับเราคือครอบครัวเรานี่แหละ

ถ้าเอ่ยถึงสาวเซ็กซี่เบอร์ต้น ๆ ของวงการไม่มีใครโค่น “อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ” ลงได้อย่างแน่นอน เพราะหากเธอลุกขึ้นถ่ายแบบให้นิตยสารฉบับไหน เป็นต้องเซ็กซี่ตรึงใจทุกครั้ง ปีนี้ถือเป็นปีที่ดีของสาวอุ้มที่มีงานเข้ามาต่อเนื่อง แต่พอหันกลับมาดูเรื่องความรัก กลับผิดหวังถึงขั้นปล่อยโฮออกสื่อมาแล้ว วันนี้ “ดาวต่างมุม” เลยขอนัดสาวอุ้มพูดคุยถึงชีวิตในวงการบันเทิงเจ้าตัวมักถูกคนตัดสินว่าเป็นสาวขายแต่ความเซ็กซี่ ตลอดเรื่องราวความรักว่ารู้สึกหมดศรัทธา หรือยังรอเวลาเริ่มต้นใหม่ติดตามกันเลยนะคะ

กระแสหนังเรื่อง “ทาสรักอสูร” เป็นยังไงบ้าง?

“หนังเข้าแล้ว กระแสดีมากนะคะ บทบาทเป็นเด็กใต้ เป็นเด็กของนายหัวเพิ่ม คือพี่หม่ำ ซึ่งอุ้มตกหลุมรักนายหัวทำทุกอย่างให้นายรัก จนวันนึง พิ้งกี้-สาวิกา เข้ามา เราก็อิจฉาก็ร้ายตลกเป็นตัวสีสันที่ตลกมาก สนุกและแปลกใหม่ เรามีพื้นฐานจากซิทคอม นัดกับนัด มาแล้ว เรื่องนี้รับส่งมุกสบายห่างจากงานหนังมานานมากนะเรื่องสุดท้ายคือ “น้ำตาลแดง” กลับมาก็มา “ทาสรักอสูร” จริง ๆ เราเกิดมาจากหนังอยู่แล้วตั้งแต่เรื่องกระสือ เราภูมิใจทุกครั้งที่เห็นตัวเองอยู่ในหนังใหญ่ ๆ พอได้กลับมาทำงานร่วมกับสหมงคลฟิล์ม ที่เราแจ้งเกิดตั้งแต่แรก จนมาถึงหนังของพี่หม่ำเรื่องนี้เราดีใจจริง ๆ”

คาดหวังยังไงบ้างกับเรื่อง “ทาสรักอสูร”?

“หลายคนดูแล้วบอกตลกมากเลย ตลกที่อุ้มกระโดดตบ ถึงเราเป็นแค่ส่วนหนึ่งในหนัง แต่คนจำเราได้และพูดถึง ความเป็นพี่หม่ำก็ การันตีอยู่แล้วว่าผู้ชมต้องฮากระจายแน่นอน อยากให้ไปดูกัน แล้วเรื่องนี้ก็มีแง่คิดสอนเรื่องความรัก โลภ โกรธ หลงของมนุษย์ด้วย แล้วหลังจากนี้จะมีเปิดกล้องละครเรื่อง “สองรักสองวิญญาณ” อุ้มโชคดีที่ไม่ได้เซ็นสัญญากับใคร ดูแลตัวเองไม่มีผู้จัดการ ผู้ใหญ่เมตตาให้งานต่อเนื่องก็อยู่มาได้ แต่สำคัญที่ความรับผิดชอบของเรา ไม่เคยเกเร เรื่องสัมมาคารวะก็สำคัญ บางทีเจอเด็กสมัยนี้บางทีต้องยกมือไหว้ก่อนแล้วนะ แต่อุ้มไม่ได้ซีเรียสว่าคุณต้องมาไหว้เรา แต่เราทำงานมานานไหว้ทุกคนในกองถ่าย เป็นสิ่งที่น่ารักที่ควรทำนะ แต่เพราะสมัยนี้ค่อนข้างฝรั่งหรือเปล่าเด็ก ๆ เลยมองข้ามเนอะ”

อุ้มอยู่วงการบันเทิงมากี่ปีแล้ว?

“เริ่มเข้าวงการตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 ประกวดนางแบบ หนังกระสือปี ค.ศ. 2012 รวม 10 ปีแล้ว เรียนรู้เยอะ วงการเป็นชีวิตของอุ้ม ถ้าไม่มีวงการก็ไม่มีอุ้มทุกวันนี้ที่เลี้ยงดูครอบครัวได้ เพราะอาชีพนี้จริง ๆ และอุ้มจะไม่สนใจว่าใครจะมองว่าเต้นกินรำกิน หรือถ่ายโป๊ เซ็กซี่ เราไม่ได้ทำใครเดือดร้อน แต่อย่าเรียกเราว่า “ดาวโป๊” เพราะไม่ได้ไปถ่ายนู้ด แก้ผ้า แต่เป็นศิลปะในงานถ่ายแบบ ไม่ใช่อาชีพนี้เหรอทำให้มีทุกวันนี้กว่าจะสร้างมาได้ยากนะเราก็ชัดเจน ตรงไปตรงมาเลยทำให้คนมองว่าเราแรง คนไม่รู้จักเรา ก็ตัดสินจากข้างนอก”

แล้วตัวตนจริง ๆ ของอุ้มเป็นคนยังไง?

“อยู่บ้านไม่มีคำว่าสวยหรือเซ็กซี่ เสื้อเน่า ๆ ตลอด (หัวเราะ) กินง่ายอยู่ง่าย จริง ๆ อุ้มหาเงินมาด้วยความลำบาก เลี้ยงน้องสาว นิวเคลียร์-หรรษา กับน้องชาย และส่งตัวเอง เป็นหัวหน้าครอบครัวเลย ฉะนั้นแต่ละบาทที่ใช้เราคิด ไม่ฟุ่มเฟือย ให้แม่เก็บหมด บ้านอุ้มไม่ร่ำรวย บ้านขายของชำ เลิกเรียนกลับมาเดินเข็นน้ำส่งตามบ้าน กระทั่งคุณพ่อพาไปสมัครประกวดซูเปอร์โมเดล ปี ค.ศ. 2000 จนได้ตำแหน่งไปประกวดที่อเมริกาต่อ จากนั้นเริ่มแคสติ้งงานในวงการไม่เคยได้เลยจนท้อ เป็นแดนเซอร์ พี่ก๊อท-จักรพันธ์ ก็เป็นมาแล้ว เป็นตัวประกอบในเอ็มวี คือชีวิตไม่ง่าย เคยยอมแพ้ แล้วจะไปเป็นแอร์โฮสเตส เพราะเราเอนทรานซ์ติดที่ มศวประสานมิตร เรียนเอกศิลปกรรมการแสดง จะตั้งใจเรียนภาษาไปทำด้านนั้น จู่ ๆ ยุคของนักแสดงหน้าไทยก็วนกลับมา จนสหมงคลฟิล์มและพี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ จะทำหนังเรื่อง “กระสือ” เขาก็ชวนอุ้มมาเล่นค่ะ วันนี้ครอบครัวเรารักกันมาก ทำงานเก็บเงิน มีความรักที่ดีเราก็ดีใจกับเขา อุ้มกล้าพูดเลยว่าเรากตัญญู ไม่เคยทิ้งพ่อแม่ มีแค่ไหนให้หมด บางครั้งความรักไม่จำเป็นต้องได้จากแฟนอย่างเดียว บางทีลืมคนใกล้ตัวมัวแต่สนใจความรักหนุ่มสาว ทั้งที่พอเลิกกันไปก็กลายเป็นคนอื่น สุดท้ายคนที่อยู่กับเราคือครอบครัวเรานี่แหละ”

เคยมีจุดที่ตัวเองหลงในความมีชื่อเสียงมั้ย?

“เอาจริง ๆ ไม่เคยเลย ไม่คิดว่าตัวเองดัง บางทีเป็นตัวของตัวเองมากไปจนคนบอกมีมาดหน่อยมั้ย แต่เป็นแบบนี้ดีนะ ชีวิตการทำงานต้องเล่นเป็นคนอื่นตลอดเวลา มาชีวิตปกติก็ขอเป็นตัวเองสบายกว่า อยากทำอะไรไป กินอะไรกิน ดาราก็มีชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไปได้ 10 ปี ในวงการอุ้มก็มีทั้งข่าวดีและไม่ดี ข่าวที่หนักที่สุดในชีวิต คือข่าวว่าเราขายตัว ซึ่งถ้าทำจริงคงรวย มีบ้าน10 ล้าน มีรถซูเปอร์คาร์ จ้างคนขับรถรับส่งแล้วถ้ารวย ไม่ต้องทำงาน 7 วัน ขับรถเอง บางวันเหนื่อยจนต้องนั่งร้องไห้ว่าทำไมฉันต้องทำงานหนักขนาดนี้หรอกค่ะ”

แต่คนก็จะมองเราเป็นเซ็กซี่ตัวแม่?

“อุ้มไม่เคยถ่ายนู้ดเปลื้องผ้าทุกชิ้นขนาดนั้น ปีนี้ก็ถ่ายน้อยแล้ว ทุกครั้งบอกพ่อแม่ตลอด แต่ชีวิตประจำวันเราไม่ใช่คนแต่งตัวโป๊ แต่เรามีของมีหน้าอกใส่อะไรก็ดูโป๊ ทำให้คนตัดสินเราว่าเราแรง ผู้หญิงที่กล้าใส่บิกินีถ่ายรูปคือผู้หญิงที่ไม่โอเค ซึ่งอุ้มอยากบอกว่าเรามีการศึกษา จบมหาวิทยาลัยเป็นเด็กดีของพ่อแม่ตลอด แต่สิ่งนั้นคือการทำงาน แล้วเราเกิดจากวงการนางแบบ ตอนไปอเมริกาเค้าให้ใส่บิกินีถ่ายโดนด่าจนร้องไห้ที่ไม่ยอมถอด มันคือความเป็นมืออาชีพ ปีนี้อุ้ม 31 ปี แล้วเหลือกี่ปีที่จะถ่ายเซ็กซี่ได้ วันนี้ดูแลตัวเองให้ดี เหนื่อยนะดูแลรูปร่าง คิดเหรอเราไม่อยากกิน (หัวเราะ) ออกกำลังกายมันเหนื่อยนะ ไม่อยากให้คนยึดติดภาพเซ็กซี่อย่างเดียว โดยเฉพาะผู้ชายคนไหนที่ตัดสินผู้หญิงเซ็กซี่ว่าเราง่าย มองเรากินได้ คนพวกนี้เข้ามาเยอะ ถ่ายเซ็กซี่ต้องแรงอะไรก็ได้ คิดไปเถอะค่ะ จะทำให้รู้ว่าเราไม่ใช่คนแบบนั้น และเวลาจะพิสูจน์”

ทุกวันนี้ชีวิตในวงการแฮปปี้?

“อุ้มแฮปปี้นะ วงการเป็นสิ่งที่รัก เป็นพระคุณต่อเรา ตอนเข้าวงการใหม่ ๆ ฝันอยากเป็นที่รู้จักไปไหนคนเรียก แล้วคิดเสมอวันนึงเราจะไม่หยิ่งกับเขา จะให้ถ่ายรูปแบบยินดี เพราะเป็นสิ่งที่เราอยากได้มาตลอด ณ วันนี้ไม่ได้ดังตูมตามมาก แต่พอพูดชื่อ อุ้ม-ลักขณา คนรู้จักเราดีใจ เวลาคนมาขอถ่ายรูปก็มีความสุขมาก หน้าอุ้มดูหยิ่งแต่ตัวจริงเป็นคนตลกเข้าถึงง่าย”

มองแพลนชีวิตตัวเองข้างหน้ายังไงบ้าง?

“อยากมีแฟนดี ๆ ซะที 31 ปี แล้วแก่แล้วนะ (หัวเราะ) ดวงยังไม่เจอคนเป็นคู่มั้ง ก็คิดแบบนี้ ทุกครั้งที่อุ้มมีความรักก็เต็มที่ เปิดตัวทุกคน บางคนถามเป็นเซ็กซี่เปิดตัวแฟนเรตติ้งตกนะ แต่เราคิดตรงข้าม ถ้าจะรัก ก็รักงานของเราไป นี่คือชีวิตเรา อุ้มอยากให้เกียรติคนที่เรารัก ถ้าวันนึงแฟนเรามาปกปิดบ้างก็ดูไม่จริงใจ ฉะนั้นเราทำให้เขาดูว่าถึงเป็นที่รู้จักของประชาชน แต่เรายังไม่ปิดบัง จึงเปิดเผยความรักทุกครั้ง แต่ก็มีคนคอยว่าเปิดแล้วเดี๋ยวก็เลิกกัน ภาพก็จะอยู่ในเน็ตตลอดเวลา คืออุ้มคบเป็นคน ๆ นะ เกือบปีหนึ่งตลอด”

รักครั้งล่าสุดก็ดูดีมาตลอดจนกระทั่งเลิกรากันไป?

“ระยะทางเป็นปัญหาหลัก ก่อนคบหลายคนเตือนเยอะว่าอยู่ไกลกัน เขาทำงานกลางคืนเป็นเจ้าของผับบาร์ เจอผู้หญิงเยอะ อยู่กับแสงสีเสียง รับได้จริง ๆ หรือเปล่า เพราะอุ้มติดแฟน ขี้หึง นอยด์ (หัวเราะ) ซึ่งไม่ดีเลย แต่พอมาคบคนนี้เราตัดความงอแงแบบนี้ไปเยอะ ทุกครั้งเราแพลนบินไปหาตลอด ไม่รับงานเงินเท่าไหร่ไม่เอาขออยู่กับแฟน แต่เขาเลือกงานเลยน้อยใจ เราเหนื่อยกับรักที่ต้องทุ่มเทเพื่อใคร เราเป็นคนแบบนี้แก้ไม่ได้ ต้องการการดูแล จนกลายเป็นความ งี่เง่าประสาผู้หญิงเลยเริ่มสั่นคลอน แต่คนจะตกใจภาพดูหวานแหวว เพราะอุ้มจะอดทนจนถึงที่สุด วันไหนที่เรารักโปรดเห็นคุณค่าของเรา แต่วันหนึ่งที่เราหมดรักแล้วเลือกจะเดินไปก็สามารถไปได้จริง ๆ”

เราทำให้เขาเห็นว่าเต็มที่แต่เขารักษาไม่ได้?

“เขารู้เราเป็นคนยังไง แต่คงไม่คิดว่าจะมีวันเลิกกัน คนเราทุกคนอยากมีคุณค่า อยากมีตัวตน เขาเป็นคนไม่ค่อยแสดงออก ถามว่าคิดถึงหรือรักมั้ยก็ไม่ค่อยตอบ ทั้งที่คนอยู่ไกลมันเห็นไม่ได้ด้วยตาก็ควรมีคำพูดแค่นั้น ไม่มีใครมีความรักแล้วไม่คาดหวัง อุ้มไม่เชื่อนะ เราต้องคาดหวังความใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ด้วยกันก็แฮปปี้พอกลับมากรุงเทพฯ แยกกันอยู่โลกใครโลกมันเขาก็โฟกัสงานของเขาเหมือนเราลอยในอากาศ ไม่ใช่คนโทรฯ จิก ขอแค่บอกว่าไปไหนกลับเมื่อไหร่ เข้าใจคงเหนื่อยจากงาน แต่เราอยากคุย จนกลายเป็นคำถามในใจ สุดท้ายกลายเป็นเราผิด จนมาทะเลาะกันในวันครบรอบ 1 ปี จริง ๆ ควรจะมาเจอกันก็บอกติดนั่นติดนี่ ถ้าเป็นเราจะเคลียร์ทุกอย่างเพราะมันสำคัญ แล้วเขาคงทนไม่ไหวเลยบอกเลิกเรา เราก็โอเคเหนื่อยทั้งคู่ก็เลิก เขาเป็นคนดีนะคะ แต่เราต้องยอมรับว่าชีวิตเราต่างกันจริง ๆ”

พอโสดแล้วมีคนเข้ามาเยอะมั้ย?

“ก็เพิ่งรู้ว่าโสดปั๊บจะกลายเป็นสาวฮอตทันที (หัวเราะ) มาทางเพื่อนบ้าง ทางน้องบ้าง เป็นเพื่อนกันได้ แต่มีกำแพงเยอะนะ ถ้าคนที่คุยไม่ตอบโจทย์จะตัดทิ้งเลย โปรโมชั่นภายนอกพอแล้ว อุ้มไม่เคยมีโปรโมชั่นเราดูแลและรักเต็มที่ จนวันไหนเขาเปลี่ยนไปอุ้มจะหยุดทันที เราแคร์หัวใจตัวเองดีกว่า ต่อไปอยากเจอเราก็มาหาเอง ไม่ไปหา รักเราต้องทำให้ได้ ขอบคุณทุกความรักที่ทำให้เราแกร่งขึ้น ทำให้เราหยุดวิ่งตามใคร คอยทำอะไรเพื่อใครอีกต่อไป เอาตัวเองเป็นหลัก ทำงาน เจอเพื่อน ๆ แฮปปี้”

พ่อแม่ให้กำลังใจยังไงบ้าง?

“รักครั้งนี้พ่อแม่บอกโตแล้วตัดสินใจเองได้ สิ่งไหนมีความสุขสบายใจทำ ไม่ต้องการคนรวยมหาศาล คนชอบคิดว่าเราชอบไฮโซแน่ ๆ ไม่เลย ไม่งั้นก็มีแฟนไฮโซแล้ว ที่ผ่านมามีแต่คนนอกวงการ คนธรรมดา เราทำงานหาเงินเองได้ ขอแค่คนดูแลเราได้ เป็นคนดี รักเราจริง ๆ ชอบคนเทคแคร์ สวีท โรแมนติก เอาใจใส่ เพราะแบบนี้ไงเลยพัง (ยิ้ม) ไม่หมดศรัทธาความรักนะ แต่เชื่อว่าเขายังมาไม่ถึงแค่นั้นเอง”

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่เป็นกำลังใจติดตามผลงานเราหน่อย?

“ขอบคุณมาก ๆ ที่ติดตามอุ้มทุกผลงาน อยากบอกว่าทุกคนคือกำลังใจของอุ้ม อุ้มอาจจะไม่ได้คนจะมองเราเป็นยังไงก็ให้เขามองไป แต่เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้อุ้มเป็นอุ้มอยู่ได้ทุกวันนี้ เด็กใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย เราไม่ได้กังวล เพราะเรามีมาตรฐานในการทำงาน แต่เรื่องของวัยก็คงห้ามไม่ได้ คงไม่ได้ทำแบบนี้ไปตลอดชีวิต เลยทำธุรกิจอื่น ๆ ไปด้วย ขายครีมคาเนสเต้ แล้วก็ผลิตภัณฑ์ซีเครทสลิมมิ่งกับน้อง มีบริษัทของตัวเอง ทำงาน 10 กว่าปีกว่าจะมีรถเบนซ์คันนึงได้ใครจะเมาท์อะไรก็ว่าไปไม่เก็บมาคิดงานทำทุกวันให้มีความสุขแค่นี้พอแล้วค่ะ (ยิ้ม)”

เรียกว่าเปิดใจหมดเปลือกจนเราได้รู้ตัวตนของ “อุ้ม-ลักขณา” จริง ๆ ว่าเธอไม่ได้มีแค่ด้านเซ็กซี่ ยังมีมุมอ่อนไหว รักครอบครัว ที่คนข้างนอกอาจไม่รู้มาก่อน ยังไงก็ขอให้แฟน ๆ ที่ติดตามผลงานเธอให้กำลังใจกันไปนาน ๆ นะจ๊ะ …