Inside Dara
เฉลยสัมพันธ์ "บัว นลินทิพย์" รีเทิร์นคู่จิ้นสุดฟิน "ภณ ณวัสน์"

สลัดมาดสาวหวานแบบเดิมๆ มาสวมบทบาทนางเอกสวยแซ่บ สายมั่นไม่ยอมคน ในละครเรื่องใหม่ “พราวมุก” ที่เพิ่งลงจอออนแอร์ทางช่อง 3 ก็ทำเอาใครๆก็พูดถึง “บัว นลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ” ไม่ขาดปาก เพราะลุคใหม่ไฉไล เสน่ห์แรง น่าค้นหา วันนี้ “มาลัยไทยรัฐ” เลยขอเอาใจแฟนๆ ด้วยการชวนสาว บัว สลับโหมดจาก “นางเอก” มาชิมลางเป็น “นางแบบ” ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ขัด แถมจัดหนักจัดเต็ม บุ๊กคิวเมกอัปอาร์ติสต์คนสนิทอย่าง แพรว จรัสพิมพ์ อิทธิธนากร (@wearqpraew) มาเนรมิตหน้าผมให้เป๊ะปังในลุคหวานซ่อนเปรี้ยว ก่อนจะโพสท่าโชว์ลีลาซุปเปอร์โมเดลให้ ต๊ะ ฉัตรชัย ศรีบัวดก (@chatt.chaii) ช่างภาพอินดี้สายแฟ แชะภาพสวยๆในชุดของแบรนด์ดัง Sretsis และ Valentier

ละคร “พราวมุก” เพิ่งลงจอออนแอร์ไป ฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง?

“ฟีดแบ็กดีค่ะ หลายๆคนชมบอกว่าภาพสวย หน้า ผม ชุด ทุกอย่างสวย แถมเป็นการกลับมาเจอกันอีกครั้งกับภณด้วย แฟนๆก็ชอบค่ะ เค้าตามดูละครของเราสองคนมาตั้งแต่เรื่องก่อน ตราบาปสีชมพู พอรู้ว่ามาลงเรื่องนี้ด้วยกัน เค้าก็เฝ้ารอ จำได้ว่าวันที่ปล่อยภาพฟิตติ้ง ว่ากรี๊ดกันหนักแล้ว วันปล่อยทีเซอร์ละครตัวแรกทุกคนกรี๊ดหนักกว่า (หัวเราะ) เพราะหลายๆ ฉากตัดออกมาค่อนข้างฟิน เรียกจิ้นสุดๆ พอละคร ออนแอร์ก็ดีใจกัน บอกภาพสวย คุ้มค่ากับ การรอคอย ซึ่งบัวเองก็แฮปปี้ ดีใจที่แฟนๆชอบ แต่ก็อยากบอกว่าตอนที่ผ่านๆมาแค่ออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยเองนะคะ อยากให้ติดตามชมไปเรื่อยๆ รับรองว่าจิกหมอนแตกแน่นอนค่ะ”

คู่จิ้นฟินเวอร์ บัว—นลินทิพย์ กับ ภณ—ณวัสน์ กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง สร้างความฮือฮา กระแสปัง! ถูกอกถูกใจแฟนคลับ “บ้านภณบัว” ยิ่งนัก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันคุ้มค่าแห่งการรอคอย...

“ดีใจเลยค่ะ เหมือนได้กลับมาทำงานกับเพื่อน รู้ทาง รู้จังหวะการเล่นกันอยู่แล้ว การทำงานก็เลยลื่นไหล แต่กลับมาเจอกันครั้งนี้ ครั้งที่สอง หลังจากไม่เจอกันมาสักระยะ สิ่งที่ต้องชมเลยคือเค้าเป็นคนที่ตั้งใจ และก็มีวินัยมากๆ เค้าเป็นคนทำการบ้าน ก่อนถ่ายก็จะนัดแนะกัน ช่วยกันซ้อม ช่วยกันต่อบท เค้าเป็นพาร์ตเนอร์ในการทำงานที่ดี ที่เราสามารถเชื่อใจและวางใจในการทำงานกับเค้าได้ค่ะ”

กลับมาครั้งนี้ไม่ใช่รักใสๆ แต่เลิฟซีนดุมาก!!

“จะว่าเป็นประมาณนั้นก็พอได้นะคะ เลิฟซีนดุมากแค่ไหน อันนี้ต้องรอชมกันในละคร (หัวเราะ) ในเรื่องนี้คาแรกเตอร์ตัวละครทั้งตัวพระเอกและนางเอกโตจากเรื่องก่อนมากค่ะ คือยิ่งพระเอกเมินใส่ เราก็ยิ่งอยาก เอาชนะ งัดไม้ตายหาทางเอาชนะเค้าสารพัด สำหรับบัวเรียกฉากเลิฟซีนว่าเป็นฉากบู๊ได้เลย เพราะแต่ละฉาก ต้องเล่นแบบออกแรงสุดตัวมาก ทั้งแง่ของการใช้อารมณ์ การใช้สายตา และพลังกายเพราะมีทั้งกระโดดขี่หลัง ดึงขา ทึ้งผม ลากลงจากเตียง ผลักตกเตียง ไม่เคยเล่นเลิฟซีนอะไรที่โหดขนาดนี้มาก่อน พอผู้กำกับสั่งคัตก็เล่นเอาหมดแรงทั้งคู่เลยค่ะ เหนื่อยมาก (หัวเราะ)”

เลิฟซีนหนักกับคู่จิ้นที่แฟนคลับก็เชียร์แบบนี้ มีหวั่นไหวบ้างมั้ย?

“เราเหมือนบัดดี้กันมากกว่า (หัว-เราะ) เราสองคนต่างมีเป้าหมายเดียวกัน คืออยากให้ละครเรื่องนี้ดังๆปังๆและดีที่สุด เพราะจากที่เราเจอกันเรื่องที่แล้วมันทำให้หลายๆคนรู้จักเรามากขึ้น เราก็อยาก จะเต็มที่เพื่อแฟนๆทุกคนที่รอเรา แต่ถ้าถามว่าเขินมั้ย ยอมรับว่าเขินนะคะ จริงๆเราก็เขินกันทั้งคู่แหละ แต่บัวอาจจะเขินหนักหน่อย ด้วยความที่เรื่องนี้นางเอกเป็นฝ่ายรุก ส่วนพระเอกเป็นฝ่ายถอยหนี เพราะเรามาแก้แค้นเค้าส่วนเค้าก็คือไม่ชอบเรา (หัวเราะ) บางครั้งมันก็จะเกร็งๆ หน่อย เวลาซ้อมก็จะหลุดขำกันเองตลอด แต่พอถ่ายจริงก็ The show must go on เพื่อให้แต่ละซีนออกมาดีที่สุด เทกให้น้อย ที่สุด เราเล่นกันจริงมาก เราต่างฝากร่องรอยฟกช้ำดำเขียวจากการต่อสู้กันในฉากเลิฟซีนซึ่งกัน และกัน แต่บัวจะมีเยอะกว่า เพราะภณแรงเยอะ และเค้าเล่นเต็มทุกฉาก ภณฝากรอยให้บัวกลับบ้านทุกรอบเลย (หัวเราะ)”

อดถามไม่ได้จริงๆ เลิฟซีนดุเดือดทะลุจอขนาดนี้ หวานใจตัวจริงไม่งอนแย่เหรอ เล่นเอาสาวบัวร้องเสียงหลงทีเดียว...

“ยังก่อน (หัวเราะ) ตอนนี้บัวโฟกัสที่เรื่องงานก่อนดีกว่าค่ะ กำลังสนุกกับการทำงาน แต่ถ้าถามว่ามีคุยๆมั้ย มันก็มีแหละค่ะ ถ้าบอกไม่มีก็จะดูตอบเป็นสูตรเกินไป กับเรื่องความรัก บัวไม่ได้เปิดหรือปิดตัวเองนะคะ ใครเข้ามาก็โอเค ก็ค่อยๆ ทำความรู้จักกันไป โตแล้วไม่อยากรีบร้อนจนเกินไป ถ้าจะคบใครจริงๆ บัวก็อยากที่จะมั่นใจในตัวเองก่อน คือการที่บัวมีความมั่นคงที่เริ่มจากตัวเอง ทั้งแง่วุฒิภาวะ ภาวะทางอารมณ์และความรับผิดชอบกับชีวิตของบัวเองและครอบครัวของบัว ดังนั้น ถ้าวันนึงจะให้ใครเข้ามาอยู่ในชีวิตเพิ่ม ก็อยากที่จะใช้เวลาศึกษาและเติบโตไปด้วยกัน”

สถานการณ์โควิดกระทบต่อการทำงานของบัวยังไงบ้าง

“ตอนนี้กองละครก็เลื่อนการถ่ายทำออกไปก่อน ก็อยู่บ้านยาว ถ้าไม่จำเป็นบัวก็จะไม่ออกไปไหน เพื่อลดความเสี่ยง และก่อนหน้านี้บัวเคยต้องกักตัว เพราะเคยเป็นผู้มีความเสี่ยงมาแล้วครั้งนึง ตอนที่ไปงานเลี้ยงปิดกล้องละครเรื่องแค้นรักสลับชะตา แล้วมีผู้ที่มาร่วมงานติดเชื้อ ตอนนั้นทุกคนที่ไปก็ต้องกักตัวเอง บัวอยู่ในห้องคนเดียว 14 วัน ไม่ได้เจอใครเลย เวลาทานข้าวคุณพ่อก็จะเอามาวางไว้ให้ที่บันได ตอนนั้นแอบเครียดเหมือนกัน บัวกังวลใจมากตอนนั้น เพราะห่วงคุณพ่อ เพราะคุณพ่อก็อายุมากแล้ว บัวกักตัวตามกำหนดและตรวจโควิดซ้ำ ตอนนั้นบัวตัดสินใจ ว่าจะตรวจทั้งหมด สามครั้ง เพื่อความมั่นใจ พอทั้งสามครั้งผลออกมาว่าไม่มีเชื้อโควิด บัวสบายใจและโล่งอกมาก

พอมาครั้งนี้ ที่อยู่บ้านหลายๆวัน เพราะกองละครเลื่อนถ่ายด้วย ครั้งนี้บัวเริ่มปรับตัวได้ดีขึ้นจากครั้งที่แล้ว บัวพยายามหากิจกรรมทำ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลบ้านทั้งการทำความสะอาด จัดข้าวของ ซ่อมแซมของ บัวเริ่มศึกษาหาความรู้เรื่องเกี่ยวกับโภชนาการที่เหมาะกับตัวเรา

นอกนั้นก็จะเป็นเรื่องของการดูหนังดูซีรีส์ที่ถือเป็นการผ่อนคลายที่ได้ศึกษาการแสดงเตรียมความพร้อมไปในตัว บางวันก็วาดภาพ เพื่อฝึกสมาธิ ล่าสุดบัวก็เพิ่งคุยกับพี่แพร ผู้จัดการของบัว และเพื่อนๆในบ้าน โม พรีม และเปรี้ยวว่าพวกเราจะเอาโครงการตลาดปันน้ำใจที่เคยทำไปครั้งนึงแล้วกลับมาทำเป็นซีซัน 2 รับรีวิวฟรี เพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งเล็กๆ ที่พวกเราทุกคนพอจะทำได้ในตอนนี้ สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ บัวขอให้ทุกคนแข็งแรง ปลอดภัย บัวเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะคะ เราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันค่ะ”.