Inside Dara
เปลือยใจ"เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์" เหมือนตายแล้วเกิดใหม่

"คนชอบพูดว่าทำไมเจนี่ต้องมาเจอคนรวย มันไม่ใช่ เจนี่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก ถ้าเจอคนรวยก็หยุดแล้วสิ ไปเป็นคุณนาย แต่นี่เจนี่ยังทำงานอยู่ ก็เป็นการพิสูจน์นะว่าเจนี่เลิกกับสามีไป เจนี่ ไม่ได้ต้องการอะไรเลยนอกจากความรัก"

ฟ้าหลังฝน หลังปีม้าผจญมรสุมมาร่วมปี สำหรับนางเอกสาวคนดัง "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์"

มาปีนี้เข้าสู่ศักราชใหม่ กับชีวิตใหม่ๆ ที่นางเอกสาวขอไม่พูดถึงอดีตรักและอดีตสามีของเธอ แต่จะมุ่งหน้าทำงานอย่างเดียว เริ่มต้นปีนี้ ขอจับเข่าคุยกับนางเอกคนดังชนิดคำต่อคำถึงชีวิตและหัวใจ ณ เวลาปัจจุบัน

ตอนนี้กลายเป็นผู้หญิงที่คนให้ความสนใจมากที่สุด?

เจนี่ - "มากที่สุดในจักรวาล ตัวเรายังงงว่าจะอะไรกับเจนี่ ฉันเพิ่งโดนเรื่องแย่ๆ นะ"

ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่เจนี่ดูเหนื่อยมาก?

เจนี่ - "ใช่ค่ะ เจออะไรเยอะมาก แต่มีคนบอกว่าดาวเสาร์เจนี่ดีแล้วอะไรที่ไม่ดีเจนี่ผ่านมาแล้วนะ ปีที่แล้วมีคนทักว่าดวงไม่ดีทั้งเรื่องความรักและเรื่องชีวิตตั้งแต่ต้นปี 2557 ซึ่งมันใช่ ดวงชงแรงมาก เป็นอะไรที่ทรมานมาก ผ่านมาจนอายุ 33 ปีไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ไม่เคยกินไวน์กับยานอนหลับ ขังตัวเองอยู่ในห้องคนเดียว"

ชีวิตช่วงนั้นผ่านมันมาได้อย่างไร?

เจนี่ - "เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ผ่านมาได้อย่างไรเจนี่ไม่รู้จริงๆ ยังมึนอยู่เลย เรื่องกำลังใจเจนี่ได้จากทุกๆ คน เพียงแต่ว่าของอย่างนี้เราต้องทำใจเอง ใครก็ช่วยเราไม่ได้ นอกจากเราช่วยตัวเราเอง เพราะฉะนั้นเวลาเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดค่ะ"

"ถามว่ามีการตั้งรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นยังไง ไม่ตั้งรับอะไรเลย คิดว่าไม่มีอะไรมากกว่าที่เจอมาแล้ว เรื่องที่จะกลับมาทำงานไม่ได้ เจนี่ไม่เคยคิดถึงจุดตรงนั้น เราคิดแค่ว่าวันนี้เราจะอยู่อย่างไรดีกว่า อยู่กับใจเรายังไงให้ใจเราแข็งแรง เจนี่ไม่มานั่งคิดเลยว่าฉันจะอยู่ในวงการหรือทำงานตรงนี้ได้หรือเปล่า เอาให้หัวใจเจนี่แข็งแรงก่อนดีกว่าไหม ถ้าหัวใจเราแข็งแรงเจนี่ว่าเดี๋ยวอะไรทุกอย่างก็มาเอง เพราะเจนี่เป็นคนที่ตั้งใจทำงาน มีระเบียบวินัยในการทำงาน ไม่เคยไปเหวี่ยงวีนใคร หรือทำอะไรไม่ดีกับทีมงาน เราทำอะไรที่เราตั้งใจทำจากความรู้สึกเรา ผลงานมันจะโชว์ออกมาเอง"

ไปพักใจที่อเมริกา กลับมาก็มีแต่คนคิดแทนให้ว่าเจนี่เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ รู้สึกอย่างไร?

เจนี่ - "พอเรามาถึงจุดจุดหนึ่งที่เราไม่สามารถคอนโทรลได้ มันกลายเป็นเรื่องขำ เฮ้ย..คนอื่นเขารู้ แต่ฉันยังไม่รู้เลยเรื่องนี้ อย่าง ตอนนั้นแค่มีงานวันเกิดกับ ท็อป-ณัฐเศรษฐ์ กลายเป็นว่าเจนี่เป็นเมียท็อปไปด้วย ทุกอย่างคิดแทนกันหมด เอาจริงๆ ตอนนั้นมัวแต่เสียใจเรื่องสามีเก่าอยู่ แค่เรื่องสามีจะเอาไม่รอดอยู่ เรื่องนี้เลยกลายเป็นเรื่องเอ็นเตอร์เทนเจนี่"

"แล้ววันนี้ก็เห็นแล้วว่ามันไม่ใช่ แต่อย่างน้อยเราควรดีใจที่เขายังสนใจเรา ดีกว่าเขาไม่สนใจเราเลย ดีกว่าเรารักใครสักคนแล้วเขาไม่รักเราเลย ให้เขาสนใจเราดีกว่าเขาไม่มองเราเลย อย่างน้อยเจนี่ยังมี อีเวนต์ มีงาน ยังมาเจอพี่ๆ สื่อ ยังได้มาถามคำถาม แล้วเจนี่ก็ไม่เคย หงุดหงิด เพราะรู้สึกว่ามันก็คืออย่างนี้ เจนี่โตแล้ว ไม่ใช่อายุ 21 ปี แต่งงานแล้ว 1 ครั้ง ผ่านอะไรที่มันหนักมาแล้ว เวลาที่เจออะไรพวกนี้ก็ไม่รู้จะพูดยังไง มันเลยมองว่าเป็นเรื่องขำ"

อย่างเพจแอนตี้เจนี่ เมื่อก่อนไม่มีคนสนใจ แต่ตอนนี้คนกลับให้ความสนใจเยอะ?

เจนี่ - "มีดีกว่าไม่มีนะ คิดดูสิขนาดดาราฮอลลีวู้ดยังมีเลย แสดงว่าเขาต้องเป็นซัมวันนะ และอะไรก็ไม่ทำให้ตัว เจนี่แย่เท่ากับตัวเราเอง ใครก็มาทำให้เจนี่จิตใจแย่ไม่ได้เท่ากับตัวเจนี่เอง ถ้าเจนี่ดึงตัวเองลง อันนั้นแสดงว่ามีอะไร เจนี่มองไปข้างหน้า คนพวกนั้นเขาน่าจะเหนื่อยกว่าเจนี่นะ เพราะเขาต้องมาคอยจับผิด คอยมองว่าวันนี้จะเขียนอะไรดี แล้วเขาได้อะไร นอกจากความสนุกความสะใจ กลายเป็นว่าสงสารเขา"

"เจนี่เคยเข้าไปเขียนในเพจแอนตี้ครั้งหนึ่งด้วยนะ เป็นภาษาอังกฤษ ว่า "ขอบคุณนะ" เจนี่ไม่โกรธเลย คุณทำให้ชีวิตเจนี่ มีสีสัน ปรากฏว่าเขาบล็อกเจนี่ (หัวเราะ) จะบล็อกทำไมคะ เจนี่อยากดู คุณแอนตี้ดิฉันแล้วมา บล็อกดิฉันทำไม เขาโพสต์รูปเจนี่หน้าปก เจนี่ก็โพสต์ให้เขาอีกเซ็ต เขาลบของเจนี่ออกและบล็อกเจนี่ (หัวเราะ)"

ถ้าสมมติทะลุมิติรู้อนาคตได้ อยากรู้อะไร?

เจนี่ - "ไม่อยากรู้อะไรแล้ว ชีวิตมาถึงจุดนี้ไม่อยากรู้อะไร ไม่ให้ความสำคัญอะไร ไม่ต้องการอะไรมากเป็นพิเศษ จุดนี้พอใจในสิ่งที่มีแล้ว ถึงตายพรุ่งนี้ก็ไม่เสียดาย เจนี่แฮปปี้แล้ว คือเจนี่มีอะไรให้แม่ มีบ้านเป็นของตัวเอง นี่คือความสุขเล็กๆ น้อยๆ เจนี่เลยไม่อยู่กับการ คาดหวัง เจนี่ไม่ได้อยากได้อะไร ขอแค่วันนี้ยืนอย่างแข็งแรงได้ก็มีความสุขแล้ว เพราะเจนี่จะได้ทำให้คนรอบข้างมีความสุข แค่นี้ก็แฮปปี้"

และถ้ากลับไปในอดีตได้ อยากไปแก้ไขอะไรไหม?

เจนี่ - "ไม่ค่ะ ไม่เคยคิดจะแก้ไขอดีต เพราะมันแก้ไขอะไรไม่ได้ อีกอย่างเจนี่ไม่อยากแก้ไขเพราะอดีตมันทำให้เราแข็งแรง ถ้าเจนี่ไม่เจออะไรที่มันเป็นอดีตเจนี่ก็อาจจะไม่มีหลัก เจนี่อาจจะลอยๆ ลั้ลลา อดีตทำให้เรารู้ว่าเราเป็นคนที่แข็งแรง เราโตขึ้นมาได้เพราะเรามีเมื่อวาน"

สำหรับความรักครั้งต่อไปของ "เจนี่ เทียนโพธิ์ สุวรรณ์" จะเป็นยังไง?

เจนี่ - "ตอบไม่ได้เลยจริงๆ เจนี่ยังแฮปปี้อยู่กับความรัก แต่กับรักครั้งต่อไปจะคิดเยอะขึ้นไหม ไม่รู้จริงๆ ถามว่าจะมีกำแพงกับคนที่เข้ามามากขึ้นไหม ไม่รู้ เพราะยังไม่มีคนเข้ามา แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เรากลัวความรักเหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเลย แล้วก็มีแต่คนหาว่าเจนี่คบแต่ไฮโซ ชอบคบคนรวย อันนี้ไม่จริง เพราะเจนี่รวยแล้ว จ่ายให้ตลอด อันนี้จริงๆ ไปถามเพื่อนเจนี่ได้ทุกคน เรียกว่าตอนนี้ใครจะเข้ามาหาเจนี่ก็ยากนะ เขาต้องคิดเยอะ และ เจนี่เองก็ต้องคิดเยอะ"

หนุ่มคนใหม่ที่เจนี่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วย น่าจะเป็นหนุ่มต่างชาติมากกว่าคนไทยไหม เพราะดูแล้วหนุ่มไทยคงจะไม่ค่อยกล้าจีบเจนี่เท่าไหร่?

เจนี่ - "คนไทยคงกล้า แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ ส่วนหนุ่มต่างชาติก็เจอเฉพาะตอนไปอเมริกา ด้วยตอนนั้นที่เราไปเมืองนอกเป็นช่วงที่เราทำใจอยู่ แล้วช่วงทำใจมันเป็นช่วงที่เราไม่อยากเจอใคร จะรู้สึกว่าเราไม่อยากคบใคร เพราะความรัก เราอยากรู้จักตัวตนของเขาจากความรู้สึกของเจนี่จริงๆ แต่ก่อนเจนี่ยังลั้ลลาคบใครก็ตอบได้ แต่ตอนนี้มันไม่มี คำตอบ มันอธิบายไม่ได้ด้วย พอนึกย้อนกลับไปเจนี่ก็ยังเจ็บอยู่ ยังร้องไห้อยู่ มันแค่ 6 เดือนเองนะ เรื่องของหัวใจมันไม่ได้หายกันง่ายๆ"

"เอาเป็นว่าตอนนี้อย่าเพิ่งคิดถึงการเริ่มต้นเลย สิ่งที่เจนี่กลัวคือเราเป็นคนที่รักใครรักจริง กลัวว่าจะต้องเสียความรู้สึก แต่ยังมองเรื่องความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ ถ้ามีความรักมันก็ดี ถ้าใครพร้อม แต่ขอให้เขาพร้อมจริงๆ เจนี่ขอไม่เจออะไรที่เจ้าชู้ อย่าโกหกเจนี่ เจนี่ยังศรัทธาในความรักอยู่ตลอด"

กังวลไหมว่าหนุ่มๆ จะไม่กล้าเข้าหา ด้วยเราเป็นผู้หญิงเก่ง?

เจนี่ - "คนที่เข้ามาในชีวิตเจนี่ต้องเก่งกว่าเจนี่นะ เก่งในที่นี้ไม่ใช้ว่าต้องมีอะไรเยอะกว่าเจนี่ เจนี่ต้องการความรัก เป็น ผู้หญิงคนนึงที่ทนกับความรู้สึกจริงใจและซื่อสัตย์ของตัวเองจนถึงลมหายใจสุดท้ายก็ว่าได้ ตั้งแต่เด็กจนโต เวลาตั้งใจทำอะไรแล้วจะทำจริง เช่นเรื่องงาน เจนี่ไม่เคยคิดว่าต้องเป็นดาราหรือเป็นคนที่สวยที่สุด เพราะเจนี่ไม่ได้คิดว่าตัวเองสวย แต่คิดว่าตัวเองมีพรสวรรค์ที่เวลาเล่นหรือแสดงอะไรเราอินกับสิ่งนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ฉาบฉวย มันคือสิ่งที่เราทำแล้วแฮปปี้ เป็นดารานี่ไม่ได้สบายนะ อยู่กองก็ต้องทน เวลาเข้าฉากจะร้อนขนาดไหน เวลาเล่นต้องทำให้ตัวเองดูเย็นให้ได้"

"แต่คนชอบพูดว่าทำไมเจนี่ต้องมาเจอคนรวย มันไม่ใช่ เจนี่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก ถ้าเจอคนรวยก็หยุดแล้วสิ ไปเป็นคุณนาย แต่นี่เจนี่ยังทำงานอยู่ ก็เป็นการพิสูจน์นะว่าเจนี่เลิกกับสามีไป เจนี่ไม่ได้ต้องการอะไรเลยนอกจากความรัก ซึ่งสเป๊กของเจนี่ ถามว่าต้องเป็นผู้ชายที่เก่งไหม ตอนนี้เจนี่ขอให้เขาพูดรู้เรื่อง ขอให้เขารักเราจริงๆ เจนี่ยังไม่อยากพูดเรื่องนี้ เพราะยังไม่รู้"

หลังจากแต่งงานจนถึงตอนนี้ ดูดีกรีความเซ็กซี่ของ "เจนี่" จะมากขึ้นผิดตา เหมือนไม่ต้องแคร์ใครแล้ว?

เจนี่ - "เจนี่โตขึ้น มันไม่ได้เป็นเจนี่ตอนเด็กๆ มันมีความเป็นผู้ใหญ่ เราเจ็บมาแล้ว ความเซ็กซี่มันก็ขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ ถามว่าเหมือนเราไม่ต้องแคร์ใครไหม มันก็ไม่ใช่ คาแร็กเตอร์มันชัดขึ้น เป็นสาวเต็มตัว เมื่อก่อนยังได้แบ๊ว แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้วนะ (หัวเราะ) ลุกส์ก็ไปตามวัย อีกไม่กี่ปีเจนี่อายุ 40 ปีแล้วนะ (หัวเราะ) มีคนทักเหมือนกันเรื่องว่าเซ็กซี่ขึ้น อย่างเวลาถ่ายแฟชั่น ละติจูดของเจนี่จะชัดขึ้น ถามว่าเจนี่มั่นใจในรูปร่างตัวเองมากขึ้นไหม เจนี่มองว่ามันคือความแข็งแรงของเรา เจนี่จะมาเป็นผู้ตามไม่ได้แล้ว ต้องขึ้นเป็นผู้นำ เพราะในเมื่อเราเป็นผู้ตามให้ใครไม่ได้ เราก็ต้องขึ้นมาเป็นผู้นำแล้วตอนนี้ เราไม่ต้องไปตามเทรนด์ใคร แต่ให้เขามาตามเทรนด์เรา"

แต่ก็จะมีช่วงหนึ่งที่มีข่าวว่าเจนี่ลุกขึ้นมาถ่ายเซ็กซี่ประชดชีวิตรัก?

เจนี่ - "ไม่ค่ะ อันนี้มันมาเอง เจนี่ไม่พยายามเปลี่ยนตัวเอง แต่คนเราพอมันมาถึงจุดจุดหนึ่งเราต้องแข็งด้วยตัวของเราเอง เราต้องเดินด้วยตัวเอง"