Inside Dara
สรุป 6 ข้อ มารีญา จากคำตอบบนเวทีนางงาม สู่จุดยืนทางการเมือง

เป็นนางงามสาวที่มีจุดยืนที่ชัดเจนจริงๆ สำหรับ มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ที่ในช่วงหลังๆ เจ้าตัวออกมาเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นทางการเมือง สิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่ชัดเจนอยู่บ่อยๆ จนทำให้เป็นที่ฮือฮาไม่น้อย บันเทิงไทยรัฐออนไลน์สรุปเรื่องราวของ มารีญา กับการแสดงจุดยืนในการเคลื่อนไหวทางสังคมมาฝากกัน

1. บนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2017 เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2560 สตีฟ ฮาร์วีย์ พิธีกร ถามคำถามว่า “คุณคิดว่าการเคลื่อนไหวทางสังคม (Social Movement) ที่สำคัญที่สุดในรุ่นของคุณคือเรื่องใด เพราะอะไร” ซึ่ง มารีญา ตอบว่า “แม้เรากำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่การขับเคลื่อนทางสังคมที่สำคัญที่สุดคือเยาวชนคนรุ่นใหม่ พวกเขาคืออนาคต คือสิ่งที่เราควรลงทุน เพราะพวกเขาคือคนที่จะมาดูแลโลกใบนี้ต่อไป” และนั่นเป็นคำถามจากพิธีกรและคำตอบของมารีญาที่ทำให้คนในสังคมไทยตื่นตัวและแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก

2. เชื่อว่าหลายคนยังจำกันได้ เมื่อช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา เกิดดราม่ารัฐบาลจัดงานเลี้ยงหลังมีกระแสความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล และมีเมนูหูฉลามเป็นหนึ่งในเมนูงานเลี้ยงดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ในโลกโซเชียลอย่างหนัก ซึ่งพระเอกหนุ่ม ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ทูตขององค์กร Wild Aid Thailand แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย และ มารีญา ก็ได้รีโพสต์ภาพข้อความของ ป้อง ลงไอจีสตอรี่เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยเช่นกัน

3. อีกหนึ่งประเด็นที่ มารีญา แสดงจุดยืนชัดเจน คือกรณีที่นักเรียน-นักศึกษา จัดกิจกรรมชุมนุมแฟลชม็อบ เพื่อแสดงความไม่พอใจรัฐบาลและกระบวนการยุติธรรม หลังจากมีการตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ เมื่อเดือน ก.พ. 2563 มารีญา ก็ได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “ภูมิใจนักศึกษาไทย” และมีการรีทวีตข้อความดังกล่าวนับแสนครั้ง

4. จากกรณีที่ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่ถูกตำรวจจับกุมและมีการใช้ความรุนแรงจนทำให้เขาเสียชีวิต เมื่อ 26 พ.ค. 2563 ทำให้เกิดความไม่พอใจของชาวสหรัฐอเมริกา และมีการประท้วงในหลายเมืองของสหรัฐ มารีญา ก็ได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า "เราต้องหยัดยืนเคียงข้างกันถ้าหากเรายังต้องการไปสู่โลกที่ขับเคลื่อนด้วยความรักมากกว่าความเกลียดชัง เราต้องยืนเคียงข้างกันถ้าหากเรายังอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เป็นธรรม ท้ายที่สุดแล้วเราทุกคนต่างก็ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน วันนี้เราจะยืดหยัดเคียงข้างกับพี่น้องผิวสีของเรา"

5. อีกประเด็นร้อนกับกรณีที่ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกอุ้มหายจากหน้าคอนโดฯ ที่พักในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อ 4 มิ.ย. 2563 ทำให้ชาวโซเชียลวิจารณ์ถึงเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง เพราะไม่เห็นด้วยที่จะต้องมีใครตายเพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง พร้อมทั้งติดแฮชแท็ก #saveวันเฉลิม

ซึ่ง มารีญา ก็ได้แสดงความคิดเห็นเป็นภาษาอังกฤษในไอจีสตอรี่ได้อย่างน่าสนใจว่า “นักกิจกรรมไทยที่ลี้ภัยในกัมพูชาได้หายตัวไป และทั้งรัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลไทยยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย สิ่งที่น่ากลัวก็คือผู้ลี้ภัยชาวไทยจำนวนมากหายตัวไป และหลังจากนั้นก็เสียชีวิตโดยถูกยัดแท่งคอนกรีตใต้น้ำ เราอาศัยอยู่ในที่แบบไหน ในเมื่อเราไม่สามารถแสดงความคิดเห็นของเราได้ ชีวิตคือความแตกต่าง และความคิดเห็นก็แตกต่าง ด้วยความสัตย์จริง มันทำให้ฉันกลัว ความกลัวคือสิ่งที่เขาต้องการ และมันเป็นสิ่งที่ปกครองคนไทยตั้งแต่ฉันจำความได้

ฉันเบื่อที่ต้องอยู่กับความหวาดกลัว หรือว่าคุณไม่เบื่อ? ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นคนในประเทศกำลังมีปากมีเสียงมากขึ้น และเวลาของการเปลี่ยนแปลงใกล้เข้ามาแล้ว ฉันอาจเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับวันเฉลิม เพราะยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะบอกได้ แต่ฉันอยู่ฝ่ายเดียวกับคนไทยที่ออกมาประกาศว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันผิด และพวกเราต้องการคำตอบ"

6. และล่าสุดกับประเด็นที่นักศึกษาได้ออกมาชุมนุมอีกครั้ง ภายใต้ชื่อ “เยาวชนปลดแอก” (Free YOUTH) เพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมือง พร้อมทั้งกดดันให้รัฐบาลทำตามข้อเรียกร้อง 3 ประการ และ มารีญา ก็ได้โพสต์ภาพบรรยากาศการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งมีการเปิดแสงแฟลชเพื่อแสดงพลังของคนรุ่นใหม่ พร้อมทั้งติดแฮชแท็ก #Thailand #Change #PeacefulProtest #เยาวชนปลดแอก และเขียนข้อความภาษาอังกฤษซึ่งแปลได้ว่า “ขอให้ปลอดภัยนะคะ ถ้าคุณป่วยขอให้อยู่บ้าน ถ้าคุณออกมาชุมนุมขอให้ใส่หน้ากากอนามัย ฉันอยากไปอยู่ตรงนั้นด้วย”

และการที่ มารีญา แสดงจุดยืนต่างๆ นั้น ไม่ผิดไปจากคำตอบที่เธอได้พูดบนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ที่ผ่านมาว่าเธอสนับสนุนการขับเคลื่อนทางสังคมด้วยคนรุ่นใหม่นั่นเอง.