ขึ้นชื่อว่าเป็นนักร้องหนุ่มสุดฮอตจากบ้าน "เดอะสตาร์" สำหรับหนุ่มสุพรรณสุดหล่อ "กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ" ควบตำแหน่งเป็นพระเอกในละครเวทีเรื่อง "มิสไซง่อน" ประกบนางเอกหน้าใหม่เสียงดีถึง 2 คน คือ "แก้ม-กุลกรณ์พัชร์ โพธิ์ทองนาค" และ "เน็ต-กานดา วิทยานุภาพยืนยง" วันนี้ จะพามาค้นเรื่องราวชีวิต กับอีกก้าวหนึ่งแห่งความสำเร็จของ "กัน"
ละครเวทีเรื่องยิ่งใหญ่ใช่ ตอนนี้ตั๋วเหลือน้อยมาก ประมาณ 10 รอบนิดๆ คนที่คิดว่าจะดู คงต้องรีบไปจองบัตร ละครเวทีเรื่องนี้ถือว่าซ้อมยาวนานมาก ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ทุกคนตั้งใจและทุ่มเทหนักมาก เพราะว่ามิสไซ่ง่อนเป็นละครที่ดำเนินเรื่อง ด้วยเพลงเป็นส่วนใหญ่ คือจะมีบทพูด แต่พูดประมาณไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของเรื่อง ส่วนที่เหลือจะเป็นการร้องเพลงหมดเลย มีการเล่าเรื่องให้เป็นเมโลดี้ พูดให้เป็นเมโลดี้ทั้งเรื่องเลย ทำให้ต้องมีการฝึกซ้อมร้องเพลงกับคุณครูฝรั่งด้วย ซึ่งเพลงที่ร้องค่อนข้างจะยากมาก โน้ตเพลงสูงมาก อย่างกันร้องประมาณ 20 เพลง แต่ว่านางเอกทั้ง 2 คน ร้องกันอุตลุดมากเกือบ 30 เพลง (หัวเราะ) เรียกว่าทุ่มกันสุดตัว
รู้สึกเป็นอย่างไรบ้างกับการแสดงละครเวทีผมรู้สึกสนุกนะ และกันเชื่อว่าทุกคนภูมิใจมากที่มีวันนี้ หลายคนชื่นชมมาว่า นักแสดงไทยไม่แพ้ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนที่ได้ไปดูมิสไซง่อน เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของประเทศอื่นๆ มาแล้ว พอเขาได้ดูเวอร์ชั่นภาษาไทยของเรา เขาก็ชื่นชมว่าเราทำได้ดี ไม่แพ้ต่างชาติเลย ผมรู้สึกดีใจมาก ยิ่งในวันแสดงรอบกาล่า คุณริชาร์ด ซึ่งเป็นคนเขียนเนื้อร้องทั้งหมดของ มิสไซง่อน ได้มาชมด้วย แล้วเขาชื่นชมว่า ตั้งแต่เขาเคยดูมิสไซง่อนมา รอบนี้เป็นรอบที่เขาดูแล้วรู้สึกซาบซึ้งมากที่สุด ทำให้นักแสดงทุกคนภูมิใจมาก เพราะเจ้าของบทเพลงชื่นชมมากขนาดนี้
พูดถึงคาแรกเตอร์ของ "คริส" บ้างในเรื่องคริส เขาจะเป็นทหารจีไอ อเมริกัน ที่พบรักกับสาวเวียดนามชื่อ คิม ซึ่งคือนางเอกของเรื่อง แต่มีเหตุการณ์ ที่ทำให้ต้องพลัดพลาดจากกัน มันเกิดจากอุบัติเหตุ คือสถานการณ์ในเรื่อง มีสงครามในเวียดนามร้อนระอุ เราอยากจะพาเขาไปอเมริกาด้วย แต่มีเหตุการณ์เกิดหลายอย่าง จนในที่สุดเราพาเขาไปด้วยไม่ได้ และพลัดพรากจากกันถึง 3 ปี แต่ตลอดระยะเวลา 3 ปี เขายังเฝ้าตามหาคิมอยู่ ยังคิดถึงตลอดเวลา แต่หาไม่เจอ ทำให้เขาหมดหวัง และคิดว่าคิมคงตายไปแล้ว ฉะนั้นจะทำยังไงได้ ชีวิตต้องเดินต่อไป เขาเลยต้องมีภรรยาคนใหม่ ในเรื่องคนดูอาจจะรู้สึกว่า คริส เหมือนเป็นผู้ชายนิสัยโลเล แต่ความจริงแล้ว มันเกิดจากสถานการณ์พาไป และคริสมีความเป็นมนุษย์มาก ที่มีทั้งความรัก และความเห็นแก่ตัว ทำให้เหตุการณ์ต้องเป็นอย่างนั้น และจุดจบของเรื่องจะทำให้คนดูสะเทือนใจกับการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของผู้หญิงคนหนึ่ง
มีคนสบประมาทไว้ตั้งแต่แรกว่าบทของ คริส ดูไม่ใช่กันเลยอาจจะเป็นในเรื่องของรูปลักษณ์ ที่ดูขัดตาไปบ้าง กับบททหารอเมริกัน แต่จากการที่กันได้เข้ามาทำงานในวงการนี้ แล้วได้มีโอกาสเรียนการแสดงกับหม่อมน้อย ทำให้รู้สึกว่า การแสดงหรือว่าแอ็กติ้ง จะช่วยให้เราเป็นในสิ่งที่เราไม่เคยเป็น เวลาจะแสดงทุกครั้ง กันจะเชื่อว่ากันคือคนอเมริกัน และทำให้เต็มที่มากที่สุด ก็อาจจะลบภาพความไม่น่าเชื่อเหล่านั้นออกไปได้
ครั้งแรกกับละคร "คู่กรรม"คู่กรรมเป็นละครที่ผมใฝ่ฝันมาก เพราะได้ดูเวอร์ชั่นพี่เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์) เล็กน้อย เท่าที่จำความได้ก็รู้สึกว่าเป็นละครที่เป็นอมตะมาก จำได้ว่าตอนที่พี่เบิร์ดเล่นถนนโล่งมากจริงๆ เพราะทุกคนกลับไปดูละครที่บ้าน ถือว่าเป็นละครเรตติ้งดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งผู้กำกับและทีมงานทุกคนตั้งใจทำมาก ผมเลยรู้สึกได้ว่าเป็นความกดดันเหมือนกันกับบทของ "มนัส" ผมรู้สึกว่าต้องทำการบ้านเยอะมาก เพื่อให้รู้ถึงที่มาที่ไปของตัวละคร ผมเลยเอาหนังสือคู่กรรมอ่านด้วย ตอนนี้ผมได้อ่านบทละครไปบ้างเล็กน้อย
เรื่องการเรียนเป็นอย่างไรบ้างยอมรับว่าเวลาเรียน บางทีไปซ้อนกับเวลาการทำงาน ผมจะพยายามขออาจารย์ว่า ละครเวทีเป็นงานส่วนรวม ถ้าขาดเราไปก็เล่นไม่ได้ เลยต้องให้เวลากับงานนี้เป็นหลักเหมือนกัน ส่วนเรื่องเรียนผมต้องขออนุญาตอาจารย์บ้าง ถ้าหากมีบางงานที่เราไม่สามารถเลี่ยงได้จริงๆ ซึ่งอาจารย์เข้าใจ และผมก็เข้าใจว่าการเรียนเป็นสิ่งสำคัญมาก เคยทำงานเยอะจนคิดจะดร็อปเหมือนกัน แต่ว่าพอเรารู้สึกว่า วันหนึ่งถ้าขาดเรื่องของการเรียน ขาดเพื่อน มันทำให้รู้สึกว่าชีวิตเราขาดอะไรไป เพราะพอไปเรียนเรายังมีอีกสังคมหนึ่ง ที่ทำให้รู้สึกมีคุณค่า ไม่ใช่แค่เราต้องทำงานอย่างเดียว
กันคิดว่าชีวิตขาดอะไรไปบ้างไหม เพราะที่ผ่านมาต้องเข้าวงการบันเทิงอายุยังน้อยถ้าตอนนี้ผมรู้สึกว่าไม่ขาดเลย เวลาที่ผมว่างๆ จะไปหาเพื่อนเฮฮาปาร์ตี้ มีสังคมแบบเด็กปกติ แม้จะมีไม่เท่าคนอื่นเขา แต่เราก็ยังมีสังคมนี้อยู่ ทำให้เรารู้สึกว่ายังมีพื้นที่ส่วนตัวของเราบ้าง ถ้าถามว่าขาดตรงไหน คงขาดความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะบางทีเราอยากมีเวลาส่วนตัว เพราะตอนนี้อาจจะมีเวลาน้อยลงกว่าเมื่อก่อน แต่เรารู้สึกคุ้มค่ามากกับสิ่งที่เราได้รับกลับมา
โสดสนิท (ยิ้ม)
ความสัมพันธ์กับ "ฉัตร" ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร เป็นยังไงบ้าง ได้ติดต่อไหมกันอยู่ไหมได้ติดต่ออยู่บ้าง อาจจะไม่ค่อยบ่อยมากเท่าเมื่อก่อน เพราะช่วงนี้เราต่างคนต่างทำงาน จะไม่ค่อยได้คุยเท่าเมื่อก่อน แต่เราเป็นเพื่อนกันจริงๆ ยังส่งกำลังใจให้อยู่เสมอๆ มีบอกเขาบ้างว่า เวลากลับดึกก็ดูแลตัวเองนะ (ยิ้ม)
เขามีโอกาสได้มาดูมิสไซง่อนหรือยังยังไม่ได้ดูนะ ผมชวนเขาแล้ว แต่พอดีเขาติดถ่ายละครหนักมาก ไม่มีเวลาว่างเลย พอมีวันที่ว่าง เขาก็ไปเรียนหนังสือ
มีกระแสบอกว่าแฟนคลับของ กัน แอนตี้ ฉัตร จริงไหมไม่จริงนะ แต่ก็มีบ้างบางส่วน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนเล็กน้อย แต่เราเคลียร์กันแล้ว เหมือนผมกับแฟนคลับคือคนคนเดียวกัน ถ้าเรารักใครเขาก็รักตอบ ค่อนข้างจะเข้าใจกัน และรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เขาจะรู้ว่าคุณแม่หวงผมมาก รู้ว่ายังไม่ถึงเวลาที่ผมจะมีใครสักคน ผมมีติดต่อกับแฟนคลับบ้างนานๆ ที เพื่ออัพเดทข่าวคราว เราอยู่ด้วยกันแบบพี่น้อง
สเปกผู้หญิงในอุดมคติของกัน ต้องเป็นอย่างไรเอาจริงๆ แล้ว สเปกผมตอนนี้อยู่ที่ความเข้าใจมากกว่า ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก แต่ว่าเรื่องของความสวยเนี่ยอยู่การมองที่แว้บแรกมากกว่า เพราะพอเห็นแว้บแรก ผมจะบอกได้เลยว่านี่แหละสเปก (หัวเราะ) แต่ว่าสเปกในอุดมคติยังไม่ได้ตั้งเอาไว้เลย ที่ผ่านมาเคยเจอคนที่ถูกใจบ้าง แต่ว่าเขามีเจ้าของแล้ว เราเลยไม่กล้าเข้าไปคุย แต่หลักๆ ผู้หญิงที่ผมชอบ คือนิสัยต้องมาเป็นอันดับแรก ต้องเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น และเข้าใจในการทำงานของเรา น่าจะโอเค
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012