Inside Dara
“เจ” แตะเบรกไม่อยากให้ “เจด้า” ย้ายกลับไทย เพราะกลัวทำงานจนไม่เรียน

“เจ” จัดคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์เอาใจแฟนๆ ต่างแดน 5 ประเทศทั่วโลก ลั่นอยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนอายุ 40 ขึ้นไป พร้อมบอกไม่ขัด “เจด้า” อยากกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทย แต่ก็กลัวว่าถ้าลูกกลับมาจะเอาแต่ทำงานจนไม่เรียนหนังสือ

เพิ่งจะจัดคอนเสิร์ตฉลอง 20 ปีร่วมกับ “เอไทม์ฯ” ไป สำหรับนักร้องรุ่นเดอะ “เจ เจตริน วรรธนะสิน” แต่ก็ยังมีแฟนๆ หนุ่มเจอเลยเรียกร้องอยู่ไม่น้อย ล่าสุดเจ้าตัวยังมีแรงเหลือเฟือ ก็เลยลุกขึ้นมาจัดคอนเสิร์ตอีกในชื่อ “เจ ออน เดอะ มูน” ซึ่งจะเป็นคอนเสิร์ตทิ้งทวนในเมืองไทยก่อนไปเวิลด์ทัวร์ที่ต่างประเทศในเดือนกันยายนนี้

“เจ ออน เดอะมูน เป็นเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้ ก็ถือเป็นควันหลงจากคอนเสิร์ตที่ผ่านมา เพราะยังมีจำนวนแฟนคลับมากอยู่ที่จองบัตรไม่ทันในคราวที่แล้ว และก็ถือเป็นคอนเสิร์ตส่งท้ายก่อนที่ผมจะไปเวิลด์ทัวร์ด้วย จะไปเริ่มที่ออสเตรเลีย 3 เมืองช่วงปลายกันยาฯ ยุโรปก็จะเป็นอังกฤษ อัมสเตอร์ดัม เดนมาร์ก แล้วก็กลับไปที่อเมริกา”

“ก็คงจะไปเมืองที่มีคนไทยอยู่กันเยอะๆ และที่สำคัญในเมืองไทยเราก็ไม่ลืมอย่างจังหลัดที่สำคัญอย่างเชียงใหม่ หาดใหญ่ ขอนแก่นอะไรพวกนี้ เราก็ไปแน่นอนครับ ที่จัดก็เหมือนขอบคุณแฟนๆ ที่มาสนุกกัน อย่างคอนเสิร์ตครั้งก่อนก็อาจจะยังไม่เต็มที่กับเจสักเท่าไหร่ เพราะแขกรับเชิญเยอะ ครั้งนี้เราก็จะมาสนุกกันแบบไร้ขีดจำกัดกับฟรีบาร์ด้วย”

“พลังของเราก็เกินร้อยครับ อันนี้ต้องยกความดีให้กับครอบครัว ภรรยาของผมครับ แล้วอีกอย่างปีนี้เราก็แข่งเจ็ทสกีด้วย เลยทำให้ไม่มีช่วงไหนที่แรงเราจะตก ไหนจะได้รับแรงสนับสนุนที่ดีจากภรรยาและลูก เราเองก็ออกกำลังกายอยู่แล้วเป็นประจำที่บ้าน ก็ใช้ชีวิตแบบสนุกมาก ผมเองก็อยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่ใช้ชีวิตขึ้นหลัก 4 กันแล้วด้วย”

เผยดันลูกสาว “เจด้า จิดาริน ณ ลำเลียง” เข้าวงการบันเทิง หารายได้พิเศษที่เมืองไทยในช่วงปิดเทอมแล้วกลับไปเรียนหนังสือต่อ ลั่นแต่หากลูกสาวอยากกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยก็ไม่ห้าม แต่ส่วนตัวอยากให้ตั้งใจเรียนหนังสือมากกว่า

“เท่าที่ปรึกษากับคุณแม่ของเขา ตอนนี้ก็ฝากลูกสาวไว้กับพี่นิด (อรพรรณ วัชรพล) ผมกับพี่นิดเองก็คุยกันบ่อยอยู่เหมือนกัน ว่าฝากลูกผมด้วยนะครับพี่ พี่นิดก็น่ารักมากที่ดูแลลูกผม ตอนนี้ก็อยู่สังกัดโพลีพลัส ตอนนี้ก็เล่นละครเรื่องศีล 5 เล่นกับน้องกันต์ (กันต์ กันตถาวร) เวลาเข้าฉากกัน กันต์เขาก็จะส่งรูปมาให้ผมดู ผมก็บอกกันต์ว่าฝากน้องด้วยนะ ดูลูกพี่ดีๆ ด้วย(หัวเราะ) ไม่ได้หวงอะไรครับ ลูกผมยังเด็ก อายุ 14 ปีเอง ไม่ต้องรีบหวงครับ ผมไม่ไปก้าวก่ายเรื่องงานของลูกเลย ก็ให้พี่นิดให้คุณแม่ดูแล”

“แต่อย่างมาเมืองไทย ผมก็ดูแลเขาเรื่องที่อยู่ อาหารการกิน ที่เหลือจะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับเขา อนาคตของเขาให้เขาเลือกเองครับ ผมก็คุยกับเขาว่า ถ้าอยากจะมาอยู่เมืองไทยก็มาได้นะ เราก็ปล่อยให้เป็นไปตามที่เขาอยากจะดีกว่า ตอนนี้เขายังเด็กมาก สิ่งนึงที่ผมคุยกับเขาตลอดคือ อยากให้เขาเรียนหนังสือ อยากให้เขาไปเรียนเป็นเรื่องเป็นราวก่อนดีกว่า ตรงนี้ก็ถือเป็นพาร์ทไทม์ เป็นงานอดิเรกสนุกๆ ให้เขาทำตอนช่วงปิดเทอมให้มาเมืองไทยแบบคุ้มๆ”

“เรื่องที่เจด้าอยากอยู่เมืองไทยเลย ผมก็คุยๆ กับเขาเรื่องนี้เหมือนกัน เขาก็คงคิดยิ่งได้มาเจอน้องชายด้วย เขาก็คงสนุกเพราะเขาอยู่กันคนละที่ แต่ใจผม ผมอยากให้เขาเรียนอะไรอยู่ที่โน่นดีกว่า สำหรับผม ถ้ามาอยู่เมืองไทยจะต้องมานั่งทำงานหนักเปล่าๆ เดี๋ยวจะพาลไม่ได้เรียนเอา แต่ก็แล้วแต่ลูกนะ อยู่ที่เขามากกว่า”