Inside Dara
ขีดเขียนทางเดินชีวิตด้วยหัวใจกับวันที่สดใสของ'โดนัท'

ฝากฝีไม้ลายมือบนถนนเส้นทางบันเทิงมานานพอสมควร สำหรับนักแสดงสาว "โดนัท" มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล ที่ตอนนี้กำลังวาดลวดลายในละครสุดเข้มข้นเรื่อง "เวียงร้อยดาว" กับบทบาท "ผีเวียงแก้ว" มีโอกาสฉกคิวนักแสดงสาวมากฝีมือมานั่งพูดคุยทุกเรื่องราวแบบเปิดอก จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

ละครเรื่อง "เวียงร้อยดาว"
กับละครเรื่องนี้ได้รับเสียงตอบรับดีมั้ย ได้ชมผลงานตัวเองบ้างหรือเปล่า

ปกติไม่ค่อยดูละครตัวเองเพราะเขิน แต่เรื่องนี้ดูเหมือนเห่อ ด้วยปีที่แล้ว มีละครเรื่องเดียว อยากรู้ว่ามันเป็นยังไง อาทิตย์ที่แล้วรีบกลับบ้านเพื่อดูละคร เราดูเหมือนเราเป็นชาวบ้านนะ ดูแล้วก็รู้สึกลุ้นว่าผีจะออกมาตอนไหน นางเอกกล้าไปเปล่า ออกตามหาผี เหมือนว่าพอเราถอดคำว่าเป็นนักแสดง แล้วมาดูละครที่ตัวเองเล่น มันก็ได้รู้ว่าจุดไหนที่เราควรแก้ไขปรับปรุง

เล่าบรรยากาศในขณะถ่ายทำละครเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ตอนถ่ายทำ เป็นอะไรที่ค่อนข้างโหด ตอนเป็นคนก็ร้องไห้ชีวิตลำเค็ญ พอเป็นผี ก็ต้องแต่งเอฟเฟกท์ทั้งวัน เหนื่อย อึดอัด เหนอะหนะ ไม่สบายตัว จะมีคนดูกลุ่มหนึ่งบอกว่าชอบ คนดูบางกลุ่มบอกว่ามันง่ายไปหรือเปล่าตอนผีออกมา โดนัทว่ามันเป็นความตั้งใจของผู้กำกับ นักแสดงและทีมงานไม่อยากให้ผีมีอิทธิฤทธิ์ และอภินิหารเยอะเกินไป ผีนางเหาะไม่ได้ นางก็เลยมาแบบเมือกๆ น้ำๆ ใช้บรรยากาศรอบข้างสร้างอารมณ์มากกว่า ตอนทำงาน เราก็สนุก ช่วงเป็นผีเราจะคิดตลอด ว่าจะให้ผีเวียงแก้วออกมาแบบไหน แต่ตอนนี้คนบอกว่า ผียังไม่เห็นน่ากลัวเลย จะบอกว่าเดี๋ยวก่อนใจเย็นก่อน โดนัทว่าคนน่าจะชอบดูละครนะ เพราะว่าขนาดโดนัทเล่นเองยังชอบเลย

ครั้งแรกกับการมารับบท "ผี" ในละครเรื่อง "เวียงร้อยดาว" ให้คะแนนผีเวียงแก้ว

คือโดนัทอยากให้คนดูดูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่า โดนัทมาถูกทางกับแนวผีบ้างหรือยัง ถ้าถามโดนัท ส่วนตัวเราแฮปปี้อยู่แล้ว เพราะว่าเราเองก็ตั้งใจถ่ายทอดความเป็นเวียงแก้วออกมาอย่างเต็มที่ ถ้าจะต้องให้คะแนนกับความเป็นเวียงแก้วที่โดนัทถ่ายทอดออกมานะ โดนัทให้เต็ม 10 คะแนนเลย (หัวเราะ) ไม่ใช่เพราะยกยอตัวเองนะ แต่เป็นเพราะว่าเราทำดีที่สุดแล้ว ไม่ได้บอกเราเล่นดีนะแต่หมายถึงเราให้มันไปหมดแล้วจริงๆ เพราะโดนัทตั้งใจกับบทนี้มาก

คาดหวังกับละครเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน

สำหรับโดนัทโชคดีว่าเป็นคนชิล ถ้าดีก็ถือว่าเป็นโบนัส คิดแบบนี้ทุกเรื่อง ทั้งงานละครหรือส่วนตัว เราเข้าวงการมานาน มีทั้งช่วงขึ้นลง เราเห็นการเปลี่ยนแปลง เลยรู้สึกว่าไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้ละครดีคนก็รักชื่นชม แต่พรุ่งนี้มีละครที่ดังกว่า คนก็ลืมแล้ว เห็นแบบนี้มานับไม่ถ้วน คิดแบบนี้เป็นสิ่งที่ดี ทำให้เรายังอยู่ตรงนี้ได้ ไม่ได้ซีเรียสว่า ต้องดังกว่านี้ ตอนนี้ซีเรียสว่าขอมีเงินเยอะๆ หน่อยได้ไหม (หัวเราะ)

จุดที่ยากที่สุดของละครเรื่องนี้คืออะไร และความประทับใจเกี่ยวกับบทนี้

ซีนยากๆ เพียบเลย แต่ตอนเล่นเป็นคนนี่แหละจะเหนื่อยหน่อย เพราะเป็นตัวละครที่ไม่เคยเล่นเลย ถูกกระทำตลอด ตอนเป็นผีก็ยาก เพราะไม่รู้ว่าความพอดีมันอยู่ไหน แล้วพอเราไปเล่นหนัง ตายโหง ตายเฮี้ยน มันก็แบบหาความพอดีของผีไม่ได้ ไม่รู้ว่าต้องหลอนขนาดไหน ซึ่งโดนัทว่าเล่นบทผียาก เราหาความพอดีเจอลำบาก ส่วนเรื่องความประทับใจ มันสนุก คือเราได้ทำทุกอย่าง โดนัทคิดว่าตัวเองโชคดีมาก เราไม่ค่อยยึดติดกับบทบาทมันก็เลยยิ่งสนุก

ผลงานต่อไป
ในละคร สุดแค้นแสนรัก รับบทอะไรเป็นอย่างไรบ้าง

เรื่องนี้เล่นเป็นคนดี ซึ่งเล่นไม่ค่อยได้ กำลังพยายามอยู่ เพราะเหมือนช่วงหลังเล่นแต่บทประหลาดๆ แล้วพอมาเจอบทนางเอก เรียบร้อยร้องไห้ เราก็แบบจะเล่นยังไงดี ก็ถามพี่หนุ่ม (กฤษณ์ ศุกระมงคล) ว่าจะเล่นยังไงดี พี่เขาก็เลยส่งไปเรียนแอ็กติ้งเพิ่ม แต่เรื่องนี้สนุก เพราะว่าทุกคนที่มาแสดงวัยจะใกล้ๆ กันหมดเลย เช่น พี่เบนซ์ (พรชิตา หิรัญยัษฐิติ) โฬม (พัชฏะ นามปาน) พี่มอส (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) เรื่องนี้คือเป็นพีเรียดนิดหนึ่ง มีสามี 2 คนด้วย คือบทสนุกมากอ่านแล้วอยากถ่ายตอนได้เป็นแม่เลย

หนังล่าสุด "ตายโหง ตายเฮี้ยน" ฉากเลิฟซีนหวือหวาเยอะมาก

ค่อนข้างกังวลและตื่นเต้น เพราะสำหรับเรามันโป๊มาก แต่สำหรับคนอื่นคงจะคิดว่านี่โป๊แล้วเหรอ (หัวเราะ) มันเป็นฉากที่ทำให้ดูเหมือนเราไม่ใส่เสื้อผ้า ต้องเปลือยหลัง แต่ไม่เห็นก้น เพราะก้นเราไม่สวย (หัวเราะ) และก็ขอร้องทีมงานว่าอย่าเอาก้นคนอื่นมา เพราะเคยทำแบบนั้นแล้วมันไม่ใช่ และฉากเลิฟซีน ก็เป็นเลิฟซีนกับคนที่เป็นแฟนกัน ถ้าถามว่าแรงมั้ย ก็แรง แต่คนที่คิดว่าแรงมากจริงๆ ต้องไปถาม กอล์ฟ (พิชญะ นิธิไพศาลกุล) เพราะเขาถามเราว่าเอาจริงเหรอพี่ (หัวเราะ) แต่ตัวเราคิดว่ามันเป็นแค่งาน และเราก็โตแล้ว 30 กว่าแล้ว เราก็เปิดเสื้อให้กอล์ฟดูว่าเราใส่เซฟ ติดสกอตเทปแน่น ไม่มีหลุด แต่ว่าอาจจะมีเสียงก็อบแก็บหน่อยนะ กอล์ฟก็บอกโอเค และพอเข้าฉากจริง เราก็ถอดเสื้อออก กอล์ฟก็ตกใจว่าถอดเลยเหรอ เราก็งง เพราะบอกไปแล้วว่าต้องถอด แต่คือ ข้างหน้าก็ปิดไง (หัวเราะ) เราโตกว่า เขาก็เลยเขิน แต่ก็เป็นแค่อีกงานหนึ่ง ที่คนไม่ค่อยเห็นเราทำเท่านั้นเอง ยังมีอีกหลายฉากที่แรง และเราไม่เคยทำ เช่น ฉากสูบบุหรี่ โป๊ เลิฟซีน แต่โดนัทคิดว่าถ้าเป็นเรื่องงานเราไม่เกี่ยงอยู่แล้ว

สู่งานเบื้องหลัง
ได้ข่าวมาว่ามีโปรเจกท์เบื้องหลังที่กำลังจะทำอยู่มีอะไรบ้าง

ตอนนี้มีหนังเรื่องหนึ่งกับทางทรู ซึ่งมันไม่ง่ายเลย ไม่ใช่เสนอปุ๊บเสร็จ คือก็ต้องมองเรื่องแคสติ้ง ไหนจะบทอีก โดนัทว่าตอนนี้ธุรกิจหลายๆ อย่าง มันก็ชะงักเหมือนกัน เพราะว่าการเมืองมันไม่นิ่ง แต่ตอนนี้บทมาแล้ว เหลือแค่คุยเรื่องตัวละครกับช่อง แล้วก็มีเตรียมงานออฟฟิศไว้ เพราะอย่างที่บอก พอตอนนี้อายุมากขึ้นก็ต้องทำอะไรหลายอย่าง บริษัทต้องขยับขยาย อย่างละครก็มีคุยกับทีมงานว่าถ้าหนังมีปัญหาเราจะลองหมุนไปทำละครดูมั้ย

วางไว้มั้ยว่าละครเรื่องแรกของเราต้องเป็นแนวไหน

มีที่คิดเอาไว้ แต่ถ้าถามจริงๆ อยากทำหนังให้เสร็จ มันจะติดปัญหาระหว่างทางอยู่เรื่อยๆ ก็อยากให้เสร็จ พอคุยกับหุ้นส่วนแล้ว ก็แบบบริษัทมันต้องไปต่อ มันต้องหาทางอื่นด้วยต้องเตรียมพร้อมสำหรับทุกช่อง แล้วก็คุยเลยไปถึงเรื่องการทำรายการ ทำละครป้อนทีวีดิจิตอลด้วย มีปรึกษาผู้จัดในช่อง 3 ว่าต้องทำอะไรยังไง แล้วก็ปรึกษาพี่สมรักษ์ ณรงค์วิชัย ว่าอาจจะมาฝากงานไว้ด้วย คือเราก็โตมาจากช่อง 3 ก็ต้องมาปรึกษาที่นี่ก่อน ว่าเขามีความคิดเห็นอย่างไร

มีโปรเจกท์ทั้งหนังและละครคิดจะปั้นเด็กใหม่บ้างมั้ย

จริงๆ มีคิดนะ เดี๋ยวถ้าเกิดมีออฟฟิศเป็นหลักแหล่ง ก็คิดอยู่ว่าจะทำ คงเป็นโรงเรียนสอนแอ็กติ้ง เพราะว่ามันจำเป็นมาก แม้แต่ตัวโดนัทเอง ยังชอบที่จะไปเรียนอยู่เลยตอนนี้ คือสมัยนี้นักแสดงมันเยอะ เราต้องมีคุณภาพจริงๆ ถึงจะอยู่ได้ และข้อได้เปรียบตอนนี้ คือมันเกิดทีวีดิจิตอลขึ้นมา โปรดักชั่นอะไรมันก็อยู่ได้ ระหว่างนี้เราก็ต้องเตรียมความพร้อม ต้องมีดีจริงถึงจะอยู่ได้นาน

ชีวิตในวงการบันเทิง
ก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงได้อย่างไร

โดนัทเล่นละครเรื่องแรก บ้านสาวโสด ของแม่หนู (สรวงสุดา ชลลัมพี) ตอนนั้นอยู่ ม.6 เอง นั่นคือผลงานเรื่องแรกเลย ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลย มาลองแคสดูได้ก็ไปเล่น ไม่ได้คาดหวัง จากนั้นก็ไปเซ็นสัญญากับอาร์เอส แล้วก็มีละครต่อเนื่อง แล้วดูเหมือนว่าชีวิตในวัยเรียนมันหายไป ช่วงนั้นทำงานเยอะมาก พอเริ่มโตเริ่มอึดอัด ถามว่าอิสระของเราอยู่ตรงไหน ชีวิตที่โรงเรียนไม่มีเลย ทุกวันอยู่แต่กองถ่าย เวลามีวันหยุดไม่รู้จะทำอะไร ไม่ชิน จากนั้นโดนัทก็หายไปพักใหญ่จากวงการ เพราะโดนัทไปเรียนต่างประเทศ พอดีเป็นช่วงที่สัญญาอาร์เอสหมด ก็ไปเรียนให้จบ พอเรียนจบพี่ปิ่น (ณัฏฐนันท์ ฉวีวงศ์) ก็เรียกให้มาเล่นละครเรื่อง "รังนกบนปลายไม้" คู่กับพี่น็อต (วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์) จากนั้นเราเลยได้ร่วมงานกับทางช่อง 3 ยาวเลย

มุมมองต่อวงการบันเทิง และวิธีการรับมือกับข่าวฉาว

มุมมองเกี่ยวกับวงการบันเทิงก่อนหน้าที่จะเข้ามาวงการโดนัทไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับมันมากเท่าไหร่ เพราะเราเป็นคนที่เฉยๆ นะกับเรื่องนี้ แต่พอเข้ามาแล้ว เราก็รู้สึกว่ามันเป็นแวดวงที่กว้างและให้อะไรกับเราเยอะมาก ทั้งสอนการใช้ชีวิต เป็นเหมือนครูที่ทำให้เราได้มีจุดยืนอยู่ในปัจจุบันนี้ พูดจริงๆ รู้สึกภูมิใจนะ ต่อให้โดนัทรู้สึกลบกับวงการบ้างก็ตามนะ ถ้าเจอแต่คนที่น่ารักและสนับสนุนนั่นแหละคือกำลังใจที่ได้จากทั้งคนดู ทีมงาน คนรอบข้าง ถามว่าที่ผ่านมา มันมีช่วงเวลาที่ท้อใจบ้างหรือไม่ มีนะ แต่ว่าเราเองเลือกที่จะไม่จมอยู่กับมัน ถึงแม้บางเรื่องมันจะหนักก็ตามทีเถอะ (หัวเราะ)

วางอนาคตไว้ยังไงบ้างกับงานในวงการบันเทิง

จะลองเสนอละครในปีนี้ แล้วต้องพัฒนาโปรเจกท์หนัง ต้องเกิดขึ้นให้ได้ ปีนี้พ็อกเก็ตบุ๊กเล่มที่ 2 ที่เขียนต้องเสร็จให้ได้ เพราะตอนนี้อายุ 30 เราก็เริ่มคิดถึงเรื่องความมั่นคงในชีวิต แต่ถามถึงว่าโดนัทอยากจะมีชื่อเสียงอะไรอีกมั้ย บอกเลยว่าไม่เอาแล้ว เพราะเท่านี้โดนัทพอแล้ว รู้สึกว่าพอมีคนสนใจมากๆ บางเรื่อง จะรู้สึกว่าปล่อยฉันไป มันกดดัน โดนัทว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ มันยากนะที่จะอยู่ตรงนี้แล้วมันโอเค สุขภาพจิตยังดีอยู่ บางทีโดนัทสุขภาพจิตเสีย ก็มีมันต้องหาตรงกลางให้ตัวเอง ไม่งั้นแย่

เช็กระดับความหวาน
สถานะความสัมพันธ์ตอนนี้กับอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม

ตอนนี้ไม่อยากให้มีคำจำกัดความว่าเป็นอะไรกัน ถ้ามันดีก็ดี ถ้ามันไม่ดีก็เป็นเพื่อนกันต่อไป ระหว่างเราสิ่งที่ดีอย่างหนึ่ง คือเรามีความเป็นเพื่อนให้กันตลอด ที่ไม่อยากรีบ เพราะโดนัทคิดว่าเราสองคนยังอยู่ในวัยที่ต้องเรียนรู้กันให้มากกว่านี้ ยังตอบอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ถามว่าเข้าใจกันมากกว่าเดิมมั้ย ก็ไม่ทั้งหมดหรอกนะ อาจจะใจเย็นขึ้นมากกว่า แต่ก็ยังมีบ้างเวลาทะเลาะกัน แล้วเราชอบเดินหนี เขาจะไม่ชอบให้ทำแบบนั้น ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง คือมันก็เป็นเรื่องปกติแหละ ด้วยความที่เรามีความเป็นเพื่อนกันมาก มันเลยเลี่ยงไม่ได้หรอกเรื่องพวกนี้ อยู่ที่ว่าเราจะรับมือกันอย่างไรมากกว่า

หลังจากที่ตัดสินใจกลับมาคบกันใหม่ ต่างจากครั้งก่อนอย่างไรบ้าง

ถ้าเปรียบเป็นซีซั่น จริงๆ ไม่ได้ต่างกันมากระหว่างซีซั่น 1 กับซีซั่นที่ 2 ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ได้ทำอะไรให้กันมากขึ้น เพียงแต่ว่าการกลับมาคุยกันครั้งนี้ เราฟังกันมากขึ้นกว่าเดิม อันนี้เป็นเรื่องที่ซีซั่น 1 เราไม่ทำ เพราะเราจะพูดกันเยอะ แต่กลับฟังกันน้อย ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงที่เรากำลังปรับตัว คือ ปัญหาของเรา 2 คน มันก็ยังมีอยู่ ยังทะเลาะกัน งอนกัน ไม่พูดกัน มันยังมีอยู่เป็นเรื่องปกติ แต่ว่าเราพยายามที่จะเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น แต่เราก็ยังไม่อยากจะให้รีบมาถามกัน ว่าต่อไปจะเป็นอะไรยังไง เพราะทุกอย่างยังเรื่อยๆ ปกติ ดูแลกันและกันเท่าที่จะสามารถทำได้ เป็นเหมือนเพื่อนกัน

สวย และ เก่งขนาดนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ หายากนะจ๊ะ


เธอคนนี้ชื่อ มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล
ชื่อเล่น "โดนัท"
เกิดวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2526
การศึกษา ระดับปริญญาตรีจาก คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เอกการแสดงและกำกับการแสดง
ผลงานที่ผ่านมา ดอกส้มสีทอง, ขุนศึก, ดงผู้ดี
ผลงานปัจจุบัน ละครเรื่อง เวียงร้อยดาว, ภ.ตายโหงตายเฮี้ยน, ละครเรื่อง สุดแค้นแสนรัก (กำลังถ่ายทำ)