Inside Dara
แอน ทองประสม กดดันกลัวทำละครไม่เปรี้ยง!! เกร็งร่วมงาน ณเดชน์-ญาญ่า

แอน ทองประสม รับกดดันไม่น้อย หลังได้พระนางซุป'ตาร์ ณเดชน์-ญาญ่า มาร่วมงานละครเรื่องลิขิตรัก The Crown Princess เหตุเพราะเป็นละครฟอร์มใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา และโจทย์หนักจะทำอย่างไรให้คนดูไม่เบื่อณเดชน์ ญาญ่า เตรียมเปิดกล้องเร่งถ่ายทำอยากให้แฟนๆ ได้ดูต้นปีหน้า

นั่งแท่นเป็นผู้จัดละครมาหลายเรื่อง และทุกเรื่องที่ทำก็ได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนละคร งานนี้เลยทำให้ผู้จัดคนเก่ง แอน ทองประสม แอบกังวลและกดดันไม่น้อยกับการเปิดกล้องบวงสรวงละครเรื่อง ลิขิตรัก The Crown Princess เหตุเพราะได้พระ-นางระดับซุป'ตาร์อย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ มาร่วมงานด้วยเป็นครั้งแรก เพราะเป็นละครฟอร์มใหญ่ขึ้น และยังจับคู่จิ้นที่เล่นด้วยกันมาหลายเรื่องมาร่วมงาน ถือว่าเป็นโจทย์ใหญ่ที่จะทำอย่างไรให้ณเดชน์ ญาญ่า แตกต่างไปจากเรื่องอื่นๆ ที่เคยร่วมงานกันมา วันนี้จ้อหน้าจอเลยได้สัมภาษณ์ผู้จัดคนเก่งถึงความกดดันของการทำละครเรื่องนี้ ซึ่งแอนเผยถึงเรื่องนี้ว่า

ละครเรื่องนี้เป็นละครพล็อต?

“มันมีกลิ่นของนิยายอยู่ เราก็เอามาจัดใหม่ แอนได้อ่านแล้วรู้สึกชอบก็เอามาปรับๆ จัดๆ ใหม่ ซึ่งก็ทำใหม่เยอะนะคะ เรื่องราวออกมาเป็นอีกแบบหนึ่งไปเลยค่ะ เพราะอะไรถึงอยากทำละครแนวนี้ คือมันอาจจะเห็นทางด้วยมั้ง เราก็รู้สึกว่าอยากจะทำละครเมืองนอกบ้าง และความเป็นเจ้าหญิง แอนอยากทำอะไรที่มันสวยงามบ้างค่ะ (ยิ้ม) สำหรับละครเรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติก ดราม่า บู๊นิดๆ ค่ะ เน้นเรื่องรัก ไม่ได้เน้นเรื่องรบค่ะ”

เพราะเป็น ณเดชน์-ญาญ่า หรือเปล่า ถึงทำให้ต้องทำละครแนวนี้?

“โจทย์คือได้เรื่องมาก่อน แล้วค่อยมาดูว่าใครเหมาะ เราก็คิดว่า เป็นณเดชน์ ญาญ่า ก็ดีนะ เพราะเค้าก็เหมาะกัน และมองเห็นว่าณเดชน์ยังไม่เคยเล่นเป็นทหารเรือ อยู่ในเครื่องแบบแบบนั้นก็อยากลอง และญาญ่าก็ยังไม่เคยเล่นละครแบบนี้ ส่วนเรื่องคิวของน้องทั้ง 2 คนก็รอนานมาก เพราะเรื่องนี้แอนเซตว่าจะทำตั้งแต่ก่อนจะทำเรื่องแอบรักฯอีกค่ะ มันนานมากแล้ว เพียงแต่ว่าเราต้องทำการบ้านกัน จองคิวน้องอีก”

ความยากของการทำละครเรื่องนี้คือตรงไหน?

“มันก็หลายอย่างค่ะ คือจะทำอย่างไรให้สนุก เรื่องความเป็นเมืองสมมติ เป็นเจ้าหญิงจะต้องออกแบบหรือว่าตกแต่งอะไรบ้าง เรื่องยศทหาร เรื่องการรับเสด็จแขกบ้านแขกเมืองของฝั่งไทยด้วย จะต้องทำให้ถูกต้อง แอนมองว่าต้องดูให้ละเอียด และเรื่องโปรดักชั่นก็ยากสำหรับแอน การแต่งตัว การแบ่งโลเกชั่นถ่ายหลอกที่เมืองไทย เมืองนอก มันมีรายละเอียดใหม่ๆ ให้เราต้องเรียนรู้ ถือว่าเป็นละครโปรเจกต์ใหญ่ที่สุดเท่าที่ทำมา เพราะปกติแอนทำละครใกล้ๆ ตัวอย่างเรื่องปัญญาชนก้นครัวก็เป็นละครในครัวในบ้าน เกี่ยวกับคนใช้ สามีตีตรา ก็เป็นเรื่องผัวเมีย ก็ถ่ายที่บ้าน ที่ทำงานปกติ แอบรักฯ ก็เป็นชีวิตออฟฟิศคนเมือง เพียงชายฯ ก็เริ่มขยับหน่อย เริ่มมีโปรดักชั่นต่างจังหวัดเยอะ มีเซตกระท่อม ส่วนเรื่องนี้เป็นเรื่องของบ้านเมืองโปรดักชั่นก็ใหญ่ขึ้นมาอีก ไม่ว่าจะเป็นละครเรื่องเล็กเรื่องใหญ่แอนก็อยากจะทำให้มันดี มันต่างกันตรงที่การดีไซน์ แต่แอนก็ทำให้มันเต็มที่ค่ะ”

ต้องไปถ่ายที่ต่างประเทศด้วย มีกังวลการทำงานที่ต่างประเทศมั้ย และละครของแอนถือว่าโชคดีที่ทางช่องอนุมัติให้ไปถ่ายที่ต่างประเทศ?

“มีไปถ่ายที่ต่างประเทศส่วนหนึ่งค่ะ คือสวิตเซอร์แลนด์ คือเราไม่ได้ไปถ่ายที่นู้นเป็นหลัก เนื่องด้วยค่าใช้จ่ายมันก็ค่อนข้างสูง ก็ต้องเอาแต่ที่จำเป็นไป ก็มีเตรียมจุดที่สำคัญของที่นั่นเอาไว้บ้างแล้ว ส่วนเรื่องที่ถ่ายทำเมืองนอกที่ช่องอนุมัติคือแอนเสนอไปนานแล้ว ช่องอนุมัติก่อน ถ้าเสนอช้าอาจจะโดนสต็อปเหมือนกัน แอนพอดีเราเสนอไปนานแล้วและติดต่ออะไรไว้เรียบร้อยแล้ว ดำเนินการไปเยอะแล้ว แต่ทางช่องเพิ่งจะมีการระงับเรื่องไปถ่ายละครที่ต่างประเทศหลังจากที่แอนเสนอไป ก็เลยกลายเป็นว่าแอนจะต้องทำตรงนี้ต่อแต่ต้องทำให้เซฟที่สุด ไม่ได้ทำอย่างที่เราฝันไว้ทั้งหมด ก็มาหลอกที่เมืองไทยเอาค่ะ”

สเกลงานใหญ่ขึ้น ตื่นเต้นหรือเครียดมั้ย?

“มันยากและมันทำให้เราได้ก้าวข้ามผ่านอะไรที่มันยาก ก็เป็นบทพิสูจน์ตัวเรา แต่ถ้าเราพลาดมามันไม่ใช่ก็จะเจ็บหนักหน่อย (ยิ้ม) แต่มันเป็นเรื่องปกติ แอนอยากจะทำอะไรที่มันท้าทายและก็เตรียมตั้งรับค่ะกับเรื่องเฉพาะหน้าที่เราจะต้องเจอค่ะ”

กดดันมั้ยกับการทำละครเรื่องนี้ เพราะละครทุกเรื่องที่ทำมาเรตติ้งดีมาตลอด?

“มันก็มีความกดดันบ้างค่ะ ด้วยความเป็นณเดชน์ ญาญ่า เค้าเป็นซุป'ตาร์เบอร์ใหญ่ กลัวเอาไม่อยู่ จะดูแลเค้าได้ดีมั้ย เค้าจะเอนจอยกับเราหรือเปล่า คนดูจะชอบมั้ย แต่มันก็เป็นอะไรที่น่าท้าทาย แอนถึงอยากทำ นอกจากนี้ก็ยังมีนักแสดงหลายท่านที่เราจะต้องดูแล ดูเรื่องน้ำหนักของบทให้เค้าแต่ละคนที่มาเล่นมีเกียรติเท่ากัน เราก็ต้องทำให้ทุกคนอย่างเสมอภาค ต้องจัดสัดส่วนให้มันดี บวกกับความสวยงามด้วย แอนอยากให้ทุกคนออกมาสวยหล่อที่สุด และเรื่องนี้มันหลายคู่ นอกจากญาญ่า ณเดชน์ แล้วก็จะมีคู่ของอินดี้ อินทัช และโยเกิร์ต รวิวรรณ อีก ก็เป็นอีกลุคหนึ่ง และก็มีซาร่า กับ แมทธิว อีก ต้องดูแลหมดค่ะ ไม่ได้ดูแค่พระนางอย่างเดียว”

พอเป็น ณเดชน์-ญาญ่า ที่เล่นด้วยกันมาหลายเรื่องแล้ว จะทำอย่างไรให้คนดูรู้สึกแตกต่างไปจากเรื่องก่อนๆ?

“มันเหมือนตอนที่แอนเล่นกับเคน ธีรเดช ค่ะ ก็เล่นด้วยกันมา 5-6 เรื่อง เพียงแต่ว่าคนจะต้องเลือกเชื่อไปตามเรื่องมากกว่า เราไม่ได้ใช้ตัวคาแรกเตอร์ของเค้า 2 คนนำ เราใช้เรื่องนำว่าเรื่องของเราเป็นประมาณนี้ เค้าจะแตกต่างไปเองโดยธรรมชาติ แต่ในเรื่องของรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในเรื่องของการเล่นเข้าพระเข้านางไม่ให้ซ้ำทางเดิม อันนี้เป็นเรื่องที่พี่แอ้ว ผู้กำกับและน้องที่จะต้องช่วยกันดีไซน์การตอบโต้กันใหม่เพื่อไม่ให้ซ้ำทางเดิมบ้าง เป็นการบ้านหนักของน้องเพื่อความแตกต่างค่ะ (ยิ้ม)”

แฟนๆ รอดูฉากฟิน ฉากจิ้นจากละครของแอนเยอะ?

“จริงๆ เรื่องนี้มันค่อนข้างมีระยะห่างเพราะว่ามีความเป็นเจ้าและความเป็นทหาร ด้วยสถานะที่ไม่อาจเอื้อมกันได้ง่าย จะจับมือถือแขนหรือว่าโอบไหล่กันมันไม่ค่อยได้เห็นหรอก มันจะมีจังหวะที่เหมาะสมของมัน บางทีการที่มีระยะมันกลับทำให้เรารู้สึกวาบหวิวกว่าอีก ทำให้คนลุ้นว่าเมื่อไหร่จะแตะกันซะที ทำให้คนดูลุ้น (ยิ้ม) ถามว่าจะขยี้เหมือนเรื่องก่อนหน้านี้มั้ย ก็จะต้องดูบทหลังจากนี้ค่ะ เพราะบทเพิ่งมาเริ่มๆ เป็นช่วงของความขัดแย้ง ความไม่ลงตัว มันยังไม่เข้าเส้นรักเลยยังไม่เห็นตรงนั้น แต่ที่แน่ๆ เป็นแบบตีๆ กันมากกว่าที่จะมาสวีตกันค่ะ แต่ก็มีค่ะ ไม่ใช่ไม่มี ก็จะจัดให้ แต่คงไม่เท่าเรื่องเพียงชายฯ เพราะนั่นเค้าเป็นผัวเมียกัน (หัวเราะ) เค้าแต่งงานกันแล้ว”

ได้พี่แอ้วกลับมากำกับเรื่องนี้ให้?

“ก็เป็นข้อตกลงกันค่ะ แตะมือกับพี่ดา หทัยรัตน์ ถ้าพี่แอ้วถ่ายละครของพี่ดาเสร็จ แอนก็จะรบกวนพี่แอ้วต่อนะ ก็จองตัวกันไว้นานแล้ว แต่ก็ต้องรอตามนั้น ตอนถ่ายของพี่ดาเสร็จแล้วก็ค่อยมาเป็นของแอนค่ะ ก็จองกันไว้นานทำงานเข้าขา เป็นพี่น้องกัน แกรู้จังหวะกันแล้วค่ะ

จะได้ดูต้นปีหน้ามั้ย?

“ก็อยากให้เป็นปีหน้าค่ะ แต่ก็คงอีกสักพักหนึ่ง (ยิ้ม) จะเปิดกล้องเดือนหน้าค่ะ ก็ต้องเร่งเหมือนกันเพราะแอนจะต้องมีคิวไปถ่ายที่ต่างประเทศปีหน้า มันจะต้องอยู่ในล็อกของมันค่ะ”

ประสบการณ์ในการทำละครก็เริ่มมีเยอะขึ้น จะมีโอกาสทำละครปีละ 2 เรื่องมั้ย?

“จริงๆ ก็อยากทำหลายเรื่องค่ะ แต่ด้วยแรงเรา เราทำไม่ไหว (ยิ้ม) ด้วยแรงของแอนมันต้องไปทีละเรื่อง เพราะแอนต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ”