Inside Dara
"โอ้"พอใจบันเทิงไทย ไม่คิดตะกาย"ฮอลลีวู้ด"

ยังไม่ทันเข้าโรงฉาย กระแสหนังเรื่อง "พี่มาก...พระโขนง" ก็มาแรงแซงทางโค้งซะแล้ว

โดยเฉพาะหนุ่มหล่อ "มาริโอ้ เมาเร่อ" ที่รับบท "พี่มาก" พระเอกของเรื่อง ที่นอกจากจะแรงเรื่องหนังแล้ว เรื่องรักที่เลิกกับแฟนสาว "กุ๊บกิ๊บ"สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย ก็แรงไม่แพ้กัน

งงไหมที่มีคนติดต่อให้เล่นหนัง "พี่มากฯ"

มาริโอ้ - "ตอนแรกนึกว่าเขาติดต่อให้ไปเล่นหนังรักวัยรุ่น เพราะโอ้รู้จักพี่โต้ง-บรรจง ผู้กำกับฯ เขาทำหนัง กวนมึนโฮ คิดว่าเดี๋ยวเราคงได้ไปเล่นหนังวัยรุ่นแบบเกาหลี ก็ไปแคสต์ดู เขาให้ร้องไห้ ง้อแฟน หลายแบบ จากนั้นก็โทร.มาบอกว่าโอ้ได้เล่นเป็นพี่มาก งงเลย เคยได้ยินแต่แม่นาก พอได้อ่านบทก็รู้แล้วว่าเขาตีความอย่างไร"

คาดหวังหนังไหม เพราะกระแสดี

มาริโอ้ - "ผมเชื่อว่าคุ้มค่าที่จะเข้าไปดู เป็นการตีความใหม่ อย่างน้อยคนที่เข้าไปดูต้องได้เสียงหัวเราะกลับบ้าน ยังมีแอบซึ้งด้วย หนังมีครบรส คอมเมดี้นำ ตามด้วยความน่ากลัว และปิดท้ายด้วยซึ้ง"

ร่วมงานกับ 4 หนุ่ม บอม(กันตพัฒน์), เชน(อัฒรุตี), ฟรอยด์(ณัฏฐพงษ์) และเผือก(พงศธร) เป็นไงบ้าง

มาริโอ้ - "ตลกครับ เขาเล่นนอกบทตลอด เวลาเข้าฉากด้วยก็มีหลุด ผมไม่เท่าไร แต่ "น้องใหม่"(ดาวิกา โฮร์เน่) โดนแกล้งตลอด พี่ทั้ง 4 คนทำให้เวลาทำงานช่วงตี 2-3 แล้วเราไม่ง่วง เรื่องนี้หนักในเรื่องเวลาที่ต้องถ่ายกลางคืนเพราะเป็นหนังผี ส่วนหนังเรื่องใหม่ช่วงนี้คงพักไว้ก่อน เพราะเดี๋ยวต้องลุยละคร รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน อีก"

พี่มากในหนังเรื่อง "พี่มาก พระโขนง" มีส่วนไหนเหมือนโอ้บ้าง

มาริโอ้ - "คล้ายตรงที่มีความแบ๊วเหมือนกัน เพราะที่บ้านเราจะอยู่กันน่ารักมาก เวลาอยู่กับเพื่อนจะเป็นอีกแบบนึง ส่วนที่คล้าย โอ้ว่าน่าจะเป็นฟีลนั้น เพราะโอ้ไม่ได้เอาตัวเองใส่ไปด้วย มันเลยมีแค่มีส่วนที่คล้ายบ้างเท่านั้นครับ"

งานต่างประเทศยังมีอยู่ไหม

มาริโอ้ - "มีครับ แต่ตอนนี้งานของไทยไปฉายต่างประเทศก็มี ละครที่กำลังจะเล่นก็ต้องไปถ่ายต่างประเทศ แต่งานของต่างประเทศเลย ตอนนี้ยังทำไม่ได้ เพราะถ้าทำต้องไปยาว แต่งานหลักโอ้อยู่ที่บ้านเรา ตอนนี้โอ้มีงานหนังต่างประเทศ 2 เรื่องแล้ว เป็นของจีนกับฟิลิปปินส์ ซึ่งกระแสที่โน่นดีครับ งานที่โน่นถ้าเราว่างก็ไป โอ้ไม่เคยคิดว่าจะดังข้ามประเทศ เรามีโอกาสได้ไปเล่นหนังจีนก็แปลกดี มันได้ประสบการณ์"

เคยคิดโกอินเตอร์ถึงฮอลลีวู้ดไหม

มาริโอ้ - "ไม่เคยครับ ถ้ามีโอกาสคงลองดู แต่ไม่เคยตั้งเป้าว่าต้องไปฮอลลีวู้ด โอ้อยู่บ้านเราก็แฮปปี้แล้ว โอ้อยู่ง่ายๆ ตั้งแต่เริ่มแรกก็ไม่ได้อยากเป็นดารา แค่อยากหาเงินให้แม่ แต่ตอนนี้ถือว่าเป็นงานที่รัก โอ้อยู่ตรงนี้พอใจแฮปปี้ดี แต่ถ้ามีโอกาสได้ไปทำงานฮอลลีวู้ดก็ไป แต่ไม่ใช่ว่าไปแคสต์งานเพื่อให้ได้เล่นหนังฮอลลีวู้ด คงไม่ถึงขนาดนั้นครับ"

ถ้าย้อนเวลาได้ ยังอยากเข้ามาในวงการไหม

มาริโอ้ - "เข้าแน่นอน ไม่เคยเสียใจ หรือเสียดาย โอ้เลือกแล้วว่าจะเดินทางนี้ จะเดินตรงไปก็ต้องตรงไป ถ้าวันนั้นโอ้เลี้ยวขวาไป โอ้อาจจะไม่ได้เป็นดาราอย่างวันนี้ก็ได้ และพอเดินเข้ามาชีวิตต้องโดนแชร์ซึ่งมันมาคู่กัน อย่างเรื่องโอ้เลิกกับแฟนคนก็จับตามอง ถามว่าเลิกทำไม อะไรยังไง ตอนนี้คุยกับใคร คุยจริงจังหรือเปล่า เป็นเรื่องปกติ ถ้าเราเป็นคนปกติทั่วไปคงไม่มีใครมาถาม โอ้เลือกมาทางนี้แล้วต้องตอบ เราเป็นคนที่อยู่ในสื่อ เราต้องแชร์ตัวตนเราจริงๆ ให้คนอื่นได้รู้"

วางแผนอนาคตยังไงบ้าง

มาริโอ้ - "ตอนนี้ลุยงานอย่างเดียว ไม่อยากทำงานให้หนักมาก อยากดูแลตัวเอง งานเยอะสุขภาพเราต้องดีด้วย พ่อกับแม่ยกตัวอย่างหลายคนให้ฟังว่าบางคนมีเงินเยอะ เอาเงินมาเทให้กลบบ้านยังได้เลย แต่เขาไม่มีความสุข สิ่งที่โอ้อยากได้ต้องมาคู่กัน ไม่ใช่มาแค่เงินอย่างเดียว ถ้าโอ้มีเงิน แต่ไม่มีความสุข สุขภาพแย่ ก็ไม่เอา"

"อย่างทำงานวงการโอ้หาเงินได้เยอะได้เร็ว แต่โอ้ไม่เคยคิดว่าโอ้ประสบความสำเร็จในการเป็นนักแสดง พ่อโอ้สอนว่าความสำเร็จไม่ได้วัดกันที่เงิน มันวัดตรงที่เราได้มันมายังไง มองมันอย่างไรมากกว่า"

เป็นคนที่ถูกจับตามอง วางตัวยากไหม

มาริโอ้ - "โอ้ถูกสอนว่า ตรงนี้เป็นอาชีพที่มีค่า เป็นชีวิตที่ดี เราสร้างความสุขให้คน โอ้เลยมองว่าช่วงเวลาที่โอ้อยู่ข้างนอก ชีวิตโอ้ตอนนั้นอาจจะไม่แฮปปี้ เศร้า แต่โอ้ต้องขึ้นเวทีทำให้คนมีความสุข โอ้ต้องเอ็นเตอร์เทนคน ต้องมาด้วยใจที่รักคนดูครับ"

"อย่างช่วงที่เลิกกับแฟน(กุ๊บกิ๊บ) แล้วต้องออกมาทำงาน โอ้เศร้า แต่โอ้ต้องออกไปให้ข่าว ให้สัมภาษณ์ว่าเลิกกับเขา แต่ลึกๆ ไม่อยากออกมาบอกหรอก ไม่อยากออกจากบ้านด้วยซ้ำ แต่เมื่อออกมาแล้วก็ต้องตอบ ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตอนนั้นไม่พร้อมพูดหรอก สภาพจิตใจยังแย่อยู่ เราคบกันนาน 9 ปี กว่าจะตัดสินใจหยุดความสัมพันธ์ก็ใช้เวลานาน สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเรื่องของเวลาไม่ตรงกันครับ"

เคยเลิกกันไปครั้ง กลับมาคบกันใหม่ ช่วงนั้นก็ดูหวานกันดี แล้วเกิดอะไรขึ้นถึงจบลงแบบนี้

มาริโอ้ - "พูดยากครับ หลายคนถามว่าเสียดายเวลาที่เสียไปไหมกับความรักครั้งนี้ บอกเลยไม่เคยเสียดาย 9 ปีที่คบเขามา ความดียังมีอยู่ ผมยังเก็บมันไว้ คนเราเลิกกัน ไม่จำเป็นต้องเกลียดกัน เราเคยรักกันมาก เคยทำอะไรร่วมกันมาตลอด ถึงวันนึงแยกกัน หรือมีเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้น เราไม่จำเป็นต้องโกรธเกลียดกันหรอก คุยกันดีๆ จบให้ดีที่สุด"

ครั้งนี้ดูกุ๊บกิ๊บ มาง้อนะ

มาริโอ้ - "มีแต่คนบอกอย่างนี้ แต่เขาไม่ได้ง้อโอ้หรอก คือเรื่องนี้ไม่ง่ายสำหรับเราทั้งสองคน"

ล่าสุดมีข่าวว่าโอ้หนีกุ๊บกิ๊บ ออกจากบ้านตัวเองไปอยู่บ้านช่างทำผมที่สนิท เพราะทนกุ๊บกิ๊บตามง้อไม่ไหว

มาริโอ้ - "ไม่มีครับ ไร้สาระ โอ้จะไปอยู่บ้านช่างทำผมทำไม บ้านโอ้ก็มี ข่าวที่ออกมาแรง โอ้มองว่าเป็นเรื่องปกติ เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มา สงสารคนที่เขาเลิกกัน บางทีอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ เรื่องเขาถูกขุดขึ้นมาเรื่อยๆ ทั้งที่มันไม่ใช่ ข่าวก็คือข่าว แต่คนที่รู้ดีที่สุดคือเราสองคน โอ้จะไม่ให้ข่าวมาทำร้ายตัวเราเอง"

มีเรื่องมือที่ 3 ไหม

มาริโอ้ - "ไม่มีครับ ส่วนใหญ่คนจะมองว่าน้องใหม่-ดาวิกา เป็นมือที่ 3 ไม่ใช่เลย น้องใหม่เพิ่งมาเล่นหนังกับโอ้ ก็คุยไลน์กับน้องปกติ รู้จักเป็นพี่เป็นน้อง โอ้ไม่ได้เลิกกับกุ๊บกิ๊บแล้วมาคบน้อง"

"สำหรับโอ้ตอนนี้ไม่ใช่ว่าชีวิตแฮปปี้ เจอคนใหม่คุยกันได้เลย มาเป็นแฟนกันเลย ไม่ใช่ ทุกอย่างต้องใช้เวลา ถามว่าได้คุยกับน้องใหม่ไหม ได้คุย แต่ไม่ใช่ว่าผมเลิกกับกุ๊บกิ๊บเพราะเขา ผมคุยกับเขาหลังจากที่ผมเลิกกับกุ๊บกิ๊บ และกับน้องก็ยังไม่ถึงขั้นศึกษา แค่คุย"

สภาพจิตใจตอนนี้ดีหรือยัง

มาริโอ้ - "9 ปีมันไม่ใช่เดือนสองเดือนความรู้สึกเราจะหายหมดทุกอย่าง แล้วโอ้ก็ไม่ได้อยากทำให้มันหายด้วย โอ้ค่อยๆ ทำของโอ้ไป ช่วงนี้ต้องหาอะไรทำตลอด ว่างไม่ได้ พอว่างแล้วคิดเยอะ กุ๊บกิ๊บเขาเป็นคนที่ใครอยู่ด้วยแล้วมีความสุข เราสนิทกันมาก รู้จักกันตั้งแต่เด็ก" "ถามว่าแม่ว่ายังไงเพราะเขาสนิทกัน แม่โอ้เข้าใจ แม่บอกเป็นเรื่องธรรมชาติ ทุกคนต้องมี แต่ดีแล้วที่เลิกกันด้วยดี ไม่ใช่ทะเลาะกันให้คนอื่นเห็น หรือนั่งด่ากันผ่านสื่อ คนจะมาถามว่ากุ๊บกิ๊บมีมือที่ 3 หรือเปล่า นั่นโน่นนี่ ผมบอกเลยว่าไม่มี ซึ่งตอนนี้ผมเลิกกุ๊บกิ๊บมา 3 เดือนแล้วครับ"

รู้สึกอย่างไรเวลาที่ "กุ๊บกิ๊บ" ให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้ยังรักโอ้อยู่

มาริโอ้ - "(นิ่งคิด) ผมรู้สึกว่าเขาพูดความจริง ไม่ได้โกหก"

แล้วตัวโอ้ล่ะ ตอนนี้รู้สึกอย่างไร

มาริโอ้ - "ไม่ได้บอกว่าเราเลิกกันแล้วเราไม่รักกัน ก็ยังรักอยู่ แต่ความสัมพันธ์หรือสถานะเราคบกันไม่เหมือนเมื่อก่อน คนเราไม่ได้ตัดกันง่ายๆ หรอกครับ"

เริ่มต้นรักใหม่ อยากได้ผู้หญิงแบบไหน

มาริโอ้ - "ตอนนี้ยังไม่คิดเลย แล้วก็ไม่ได้คิดด้วยว่าผู้หญิงคนนั้นต้องสวยต้องเอ็กซ์เซ็กซ์แตกขนาดไหน มันต้องดูนิสัย เอาจริงๆ โอ้ยังไม่คิดเรื่องนี้ ตอนนี้คิดแต่เรื่องงาน แล้วถ้าเริ่มต้นใหม่ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ จะไม่เอาคนนี้ไปเปรียบเทียบคนโน้นคนนี้"

เท่าที่คุยกับ "ใหม่-ดาวิกา" เป็นอย่างไรบ้าง

มาริโอ้ - "ปกติครับ ยังเป็นพี่เป็นน้อง แต่คนจับตามองเยอะ สงสารน้อง เราคุยกับน้อง กลายเป็นคนมองว่าน้องเป็นมือที่ 3 มันไม่เกี่ยว ถามว่ามีโอกาสศึกษาไหม ยังตอบไม่ได้ คุยกันน้อยมาก ถามว่าข่าวจะทำให้หยุดคุยกับน้องไหม จริงๆ ไม่เกี่ยว แต่ถ้าเมื่อไรที่รู้สึกว่ามันทำให้น้องรู้สึกแย่ ซึ่งตอนนี้มันทำให้น้องถูกมองในด้านลบ ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ กลายเป็นว่าถูกโยนความผิดให้ โอ้ก็คงต้องคุยกับเขาน้อยลง"

ตอนนี้ "ใหม่" เจอทั้งข่าวมือที่ 3 และข่าวออกจากสังกัด "เอ- ศุภชัย" ได้ให้คำปรึกษาอะไรบ้างไหม

มาริโอ้ - "ไม่ได้ให้ครับ ไม่ได้เกี่ยวกับเรา น้องเขามีผู้ใหญ่ดูแล แล้วคนก็ชอบมาถามโอ้เรื่องพี่เอ โอ้ก็งงๆ บางคนถามว่าโอ้ออกจากพี่เอแล้วใช่ไหม คือโอ้ไม่ได้เซ็นสัญญากับพี่เอ แค่ให้พี่เอดูแลงานให้ครับ"

นิยามความรักของผู้ชายที่ชื่อมาริโอ้คืออะไร

มาริโอ้ - "ความรักสำหรับโอ้เป็นสิ่งที่ดี สวยงาม ความรักทำให้มีพลัง ทำได้หลายๆ อย่างแบบที่เราไม่คาดคิดเยอะ เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก ทำให้เราเศร้าที่สุดได้ แฮปปี้ที่สุดได้ ทำให้เรากลายเป็นคนได้หลายแบบ ให้เราเป็นคนขยัน แล้วแต่ว่าความรักจะทำให้เราไปในด้านไหนครับ"

ได้ประสบการณ์อะไรจากรักครั้งที่ผ่านมาบ้าง

มาริโอ้ - "ได้เยอะครับ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน สำหรับโอ้มองว่ามันทำให้เราเติบโต ทำให้เราได้หลายอย่าง ซึ่งเป็นแต่สิ่งที่ดีๆ คือโอ้เลือกมองแต่สิ่งที่ดี และเก็บสิ่งดีๆ ไว้ เรื่องที่ไม่ดีไม่จำเป็นต้องเก็บมันไว้ครับ"

ถ้าขอพรเพื่อตัวเองได้ 3 ข้อ จะขออะไร

มาริโอ้ - "ขอเรื่องสุขภาพก่อนเลย ขอให้สุขภาพแข็งแรงไม่ป่วย พรข้อที่ 2 อยากบินได้ เวลารถติดขี้เกียจขับรถ อยากแบบว่าตื่นมาตอนเช้าอีก 10 นาทีทำงานแล้วบินมาทำงานได้เลย อีกข้อคืออยากหายตัวได้ เพราะเราอยากไปในที่บางที่ได้ บางครั้งถ้าเราอยู่ตรงนั้นแล้วรู้สึกอึดอัด จะได้หายตัวไปอยู่ที่อื่นเลย"