Inside Dara
เส้นทางมายากับฝันที่ต้องฟันฝ่ากว่าจะมีวันนี้ของ 'เปา' เปาวลี

พูดถึงนักร้องลูกทุ่งสาว มีเอกลักษณ์อยู่ที่เสียงเหน่อประจำท้องถิ่น ผลิตผลความภาคภูมิใจของชาวจ.สุพรรณบุรี อย่าง "เปา" เปาวลี พรพิมล ที่ตอนนี้ กำลังมีผลงานละครเรื่องใหม่ล่าสุด ส่งตรงจากค่ายละครคุณภาพ "เอ็กแซ็กท์" เรื่อง "ลิเก๊...ลิก" แถมได้พระเอกรุ่นใหญ่ "หนุ่ม" ศรราม เทพพิทักษ์ ออกอากาศทางช่อง 5 อยู่ในขณะนี้ หน้าบันเทิงหนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก" ไม่รอช้ารีบคว้าตัวนางเอกสาวเสียงเหน่อมากความสามารถ คนนี้มานั่งพูดคุย เจาะลึกกับเรื่องราวหลากรสของเธอคนนี้สักหน่อย

ลิเก๊...ลิเก
กับละครเรื่องนี้บทบาทที่ได้รับ ได้ข่าวต้องไปเรียนลิเกกันยกทีม

ละครเรื่องนี้ ก็เป็นผลงานละครเรื่องที่ 3 ของหนูแล้ว กับการทำงานด้านละคร ถือว่าได้รับบทบาท ที่แตกต่างกันออกไปเยอะ อย่างเรื่องนี้รับบทเป็นนางเอกลิเก ชื่อ จอมนาง ซึ่งหนูต้องไปเรียนรู้เกี่ยวกับการเล่นลิเก ไปซึมซับวิธีการร้อง การรำ เพราะบอกเลยว่า หนูไม่มีพื้นฐานด้านนี้มาก่อนเลย กับการเรียนลิเก ถ้านับวันจริงๆ ก็แค่ 1 สัปดาห์เท่านั้นเอง ก่อนเปิดกล้องละคร ซึ่งนักแสดงทั้งหมดก็ได้มาเรียนพร้อมๆ กัน โดยได้มีโอกาสได้ฝึกกับอาจารย์สกุณา รุ่งเรือง ท่านเป็นนางเอกลิเกเก่ามาก่อนมาสอนพวกเราครั้งนี้ กับความยากของเรื่องมันคือ การหัดร้องลิเกแบบทรงเครื่อง เป็นลิเกแบบโบราณ ที่ไม่มีความเหมือนลิเกในแบบสมัยนี้เลย ทั้งคำร้อง ท่ารำ และเครื่องแต่งกาย คือหนูขนาดมีพื้นฐานการร้องเพลงได้ในระดับหนึ่งแล้ว พวกพี่คนอื่นจะหนักขนาดไหน ก็ต้องมาให้กำลังใจกันตรงนี้นะ

กับบทบาท จอมนาง มีความเหมือน หรือต่างจาก เปาวลี อย่างไรบ้าง

คือในเรื่องนางเอก จะต้องเป็นผู้สืบทอด คณะลิเกของปู่ที่กำลังย่ำแย่ เพราะคณะของนางเอก จะเป็นการเล่นแบบลิเกโบราณ ซึ่งเป็นช่วงที่ คือต้องช่วยปู่ ที่เป็นหัวหน้าคณะฟื้นฟูทุกอย่างขึ้นมา เพราะเรารักและภาคภูมิใจ กับคณะลิเกของเรามากๆ ส่วนเรื่องบท จอมนาง เป็นคนที่ค่อนข้างไม่ยอมคน มีความคิดเป็นของตัวเอง ถามว่าตรงกับตัวหนูมากน้อยแค่ไหน มันออกกึ่งๆ เพราะจอมนางมันแสบๆ รู้ทันคน ก็คล้ายหนูบ้างนะ เพราะหนูก็ซนๆ เหมือนกัน

กับการได้ร่วมงานกับพระเอกรุ่นพี่ "หนุ่ม" ศรราม เป็นอย่างไรบ้าง

การร่วมงานกับพี่หนุ่ม อันนี้ถือว่าเป็นพระเอกที่หนูตื่นเต้นมากเลยนะ เพราะว่าพี่หนุ่ม นี่ถือว่าหนูก็ติดตามผลงานพี่เขามาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว หนูเป็นแฟนละครด้วยนะ ตามมาตั้งแต่ละครเรื่อง ตี๋ใหญ่เลย เพราะว่าละครเรื่องนี้ไปถ่ายทำกันที่ อ.ด่านช้าง จ. สุพรรณบุรี บ้านเกิดหนู แม่หนูก็พาไปดูการถ่ายทำตอนนั้น แม่บอกว่าจะพาไปดูหนุ่ม ศรราม (หัวเราะ) รู้สึกว่าประมาณ 9 ขวบ เพราะทั้งบ้านหนูเขาชอบพี่หนุ่มมากๆ ด้วย เขาเป็นคนน่ารักนะพอหนูได้มาร่วมงานกันยิ่งตื่นเต้นและทราบมาว่าพี่หนุ่มเป็นคนที่มีชื่อเสียงด้านการอำ นี่เป็นตัวพ่อเลย ตอนมาเข้าฉากด้วยกันแรกๆ หนูก็โดนมาแล้วเรียบร้อย แต่ไม่ได้หนักหนาอะไร เบาๆ แต่เขาจะมีมุมที่ดีนะ เขาจะสอนหนูอยู่เรื่อยทั้งการแสดง มุมกล้อง ซึ่งหนูก็นานๆจะได้มาเล่นละครเนอะ ก็อาจจะลืมไปบ้าง เพราะหนูชอบไปยืนบังกล้องนักแสดงคนอื่นอยู่เรื่อยเลยเขาก็จะสอนนะ

บนเส้นทางสายมายา
ก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงกี่ปีแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง ยังมีงานด้านไหนที่อยากทำ

ตอนนี้ก็ 4 -5 ปี แล้วที่ทำงานในวงการบันเทิง ถือว่าไวมากๆ ตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องพุมพวง ประกวดร้องเพลง คว้าไมค์คว้าแชมป์ ผ่านอะไรมาเยอะพอสมควร มันเร็วมากได้เล่นหนัง เล่นละคร ทุกๆ อย่างมันเข้ามาหลายๆ ด้าน ก็ภูมิใจที่ได้ทำทุกงานแบบเต็มที่ ทั้งเพลง ทั้งละคร รู้สึกดีใจ ที่ผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน หยิบยื่นโอกาสดีๆเข้ามาให้เปาเสมอมา ถามว่าเรื่องงานในวงการ ยังมีอะไรที่อยากจะทำอยู่บ้างมั้ย ก็ยังมีอยู่นะ เพราะยังมีอีกหลายอย่าง ที่เราก็ยังไม่ได้ลองทำเลย อย่างพิธีกรก็สนใจ เพราะอยากมีรายการ ที่พาคนดูไปกิน ถ้าเกิดใครสนใจติดต่อเข้ามาเลย

ระหว่างงานแสดง กับการร้องเพลงงานด้านที่รัก และชอบมากที่สุด

ตอบได้เลยว่าชอบทั้งสองอย่างเพราะเป็นงานที่ทำแล้วสนุกทั้งคู่ แค่มันต่างกันตรงที่บทบาทที่ทำเท่านั้นเอง อย่างงานร้องเพลงที่เราทำทุกวันอย่างนี้ เราก็ต้องรับมือกับคนดูที่อยู่ข้างล่างเวทีส้างสีสัน ทำให้พวกเขาสนุกที่สุด ส่วนงานแสดงเอาจริงๆ มันต้องฝึกฝนกันอยู่ตลอดเวลานะ เพราะถ้าห่างๆ นานๆ มาเล่นที อย่างหนูก็ต้องเคาะความรู้เอากลับมาบ้าง หรือไม่ก็ต้องไปลงเรียนการแสดงเพิ่มเติมเอา ไม่อย่างนั้นมันจะคืนครูซะหมด

เหนื่อยบ้างหรือเปล่า ที่ต้องทำงานแบบสลับขั้วกัน ทั้งนักแสดงและนักร้อง

บางทีก็แอบงงบ้างนะ คือแบบตอนเช้าถ่ายละครเราก็เป็นนางเอกลิเก เรียบร้อย ตกเย็นกลายเป็นเปาวลี ลูกทุ่งแดนซ์กระจาย ถามว่ามีท้อมั้ยคือบางทีในแต่ละวัน หลังจากที่เสร็จงานหมดแล้วร่างกายเรามันเหมือนเบาหวิวเลยนะ แต่ตอนทำงาน เราจะตื่นอยู่ตลอด เพราะเป็นคนชอบทำงานชอบคนเยอะ ชอบพูดชอบคุย แต่พอได้อยู่นิ่งๆ แล้วเหมือนแบตมันหมด คือจะหลับอย่างเดียวเลยทันที เรื่องท้อไม่ค่อยมี เพราะเราสนุกไปกับงานที่ทำ

ที่ผ่านมามีจังหวะชีวิตช่วงไหนที่รู้สึก เหนื่อย และท้อใจมากที่สุด

บอกระยะเวลาไม่ถูก แต่มันจะมีช่วงที่เราต้องรอทุกอย่าง รอละครสรุป รออัดเพลงใหม่ รอการเปิดตัว คือมันมีแต่คำว่ารอทั้งนั้นเลย และมีช่วงน่าฝน มันจะเป็นช่วงที่พักเดินสาย มันจะเหงา และ ว่าง หนูก็จะเบื่อ แต่โชคดีทางต้นสังกัด ก็จะส่งไปเรียนเต้น เรียนร้องบ้าง ทำให้เราไม่เหงา อย่างที่บอกหนูเป็นคนที่อยู่นิ่งๆ เฉยๆ นานไม่ได้ ต้องมีอะไรทำอยู่ตลอดเวลา

ครอบครัวที่อบอุ่น
กับการชีวิตการทำงานที่มี ครอบครัวคอยสนับสนุน อยู่ข้างๆ เสมอ

ครอบครัวหนูทุกวันนี้ ทำงานด้วยกัน มีพ่อ แม่ พี่ชาย บางครั้งกลัวนะ ที่เวลาคนข้างนอกเห็นเราคุยกันกลัวเหลือเกิน ว่าเขาจะเข้าใจผิดว่าเราทะเลาะกัน เพราะพวกหนูคุยกันเสียงดังมาก เล่นใหญ่ (หัวเราะ) พวกเรายังสนุก กับการเดินทางและทำงานด้วยกันตอนนี้ทุกอย่างเริ่มลงตัวแล้ว แม่เองก็ไม่เคยบ่น มีแต่บอกว่าสนุกกับงานทุกวันนี้มากๆ ที่ปรึกษาส่วนใหญ่ จะเป็นแม่ที่คอยดูรายละเอียดของเปาซะส่วนใหญ่ ทั้งชุด อาหารการกินทุกอย่าง บางทีก็จะคอยคอมเม้นท์หน้าเวทีบ้าง แม่จะไม่ค่อยชมหนูหรอก จะคอยติ คอยแนะนำหนู พ่อก็จะเป็นฝ่ายให้กำลังใจเสมอ ส่วนพี่ก็จะเป็นเบื้องหลังของเราตลอด

การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ
ตอนนี้เรื่องเรียนเป็นอย่างไรบ้าง อัพเดทสักหน่อย

ตอนนี้หนูก็ยังคงเรียนอยู่ ที่มหาวิทยาลับรามคำแหง ตอนนี้บอกเลย ว่าสู้มากๆ เพราะยังเรียนไม่จบ แต่แอบมีกังวลนะ ว่าเวลาสอบจะทำได้มั้ยนะ กำหนดที่ต้องเรียนจบ ม.รามฯให้เวลาหนู 9 ปี จะเกินเกณฑ์หรือเปล่านะ (หัวเราะ) ก็มีมุมคิดล่วงหน้าไปก่อน เพราะเราเองก็ทำงานตรงนี้ด้วย เวลาที่จะต้องสอบหรือเวลาอ่านหนังสือ มันจึงต้องฟิตมากกว่าคนอื่นๆ ทั่วไป แต่ก็จะพยายามให้ถึงที่สุด

อนาคตวางแผนชีวิตของตัวเองไว้อย่างไร

สำหรับเปา ที่มีอยู่ทุกวันนี้ คือมันมาไกลเกินฝันของตัวเองแล้ว หนูได้ทำอาชีพที่เรารัก ได้มีรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว คือมีความสุขกับตอนนี้มากๆ กับอนาคตข้างหน้ามองไปอีกสัก 10 ปี ก็ถ้าทุกอย่างยังไหว ยังมีความสุขกับตรงนี้ ก็จะยังร้องเพลงต่อไป หรืออาจจะผันตัวไปแต่งเพลง เพราะแม่เคยยุให้หนูแต่งเพลง แล้วก็เขียนออกมาจริงๆ แต่มักจะแต่งไม่จบเพลง ขาดๆเกินๆ แล้วมีขั้นที่เอาไปให้ผู้ใหญ่ดู แต่ได้รับคำตอบกลับมาเป็น ข้อความว่า "ฮ่า ฮ่า ฮ่า" หนูก็รู้นะว่ามันหมายความว่ายังไง (หัวเราะ)

เปิดประตูหัวใจสาวน้อย
เรื่องหัวใจครอบครัวมีการช่วยสแกนหนุ่มๆ ที่จะเข้ามาจีบบ้างมั้ย

มีนะ บางทีเราก็คุยกันทุกๆ เรื่องนะ มีคนบอกว่าหนุ่มๆ ที่จะเข้ามาจีบค่อนข้าง ที่จะเข้ามายาก เพราะเจอหลายด่านอรหันต์ แต่ก็ไม่ได้โหดขนาดนั้นหรอก เพราะแม่เข้าใจ ว่าเราเป็นวัยรุ่นต้องการเพื่อน และอยากมีเวลาที่สนุก คือแม่เขาก็จะรู้เห็นทุกอย่างนะ แต่ก็คอยสอนหนูว่าเราอยู่ในช่วงที่ทำงานนะ เพื่อนมีได้ คุยกันได้แม่ไม่ว่าอะไร แค่อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ก็พอ

ก่อนหน้านี้มีข่าวกับหนุ่มนักเรียนนอกคนหนึ่ง ตอนนี้เป็นอย่างไร

เรื่องหัวใจตอนนี้ก็เรื่อยๆ นะ มีคนคุยอยู่ แต่ไม่ได้ไปเฉพาะเจาะจง ว่าต้องระบุสถานะว่าแฟนหรืออะไร เพราะหนูคิดว่า การที่คนเรา มีคนที่เราคุยๆอยู่ มันก็เป็นเรื่องดีนะ กับคนที่เป็นข่าว ว่าเป็นหนุ่มนักเรียนนอกนี่ก็ยังคุยกันอยู่เหมือนเดิม ถามว่ามีฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้ง บ้างมั้ยมันก็มีบ้าง แต่ว่าตอนนี้เราโตขึ้น ต่างคนต่างทำงาน และก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ถึงแม้ไม่ได้เจอกัน เราก็ส่งกำลังใจด้วยข้อความไป ถือว่าทุกวันนี้ มันโอเคมากๆ แล้ว

หลากรสชาติชีวิตของสาวเสียงเหน่อผู้น่ารัก "เปา" เปาวลี


ชื่อของเธอคนนี้... เปาวลี พรพิมล
ชื่อเล่น : เปา
เกิด : วันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2535
บ้านเกิด : อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
การศึกษา : กำลังศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ผลงานที่ผ่านมา : ภาพยนตร์เรื่อง "พุ่มพ่วง", ละคร สายฟ้ากับสมหวัง, วุ่นนักรักหรือหลอก
ผลงานล่าสุด : ละครเรื่อง "ลิเก๊...ลิเก" ทางช่อง 5 และ อัลบั้มชุด "ในความรู้สึกของเธอ"