“แพนเค้ก-เขมนิจ” ดีใจได้แสดงภาพยนตร์อันทรงคุณค่า “Six Characters มายาพิศวง”
นางเอกสาวมากฝีมือ แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ เผยความรู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง แสดงภาพยนตร์เรื่อง “Six Characters มายาพิศวง” ผลงานชิ้นสุดท้ายของ หม่อมน้อย–ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล บรมครูวงการบันเทิงไทย เพราะไม่รู้หลังจากนี้จะได้รับโอกาสดีได้ทำงานทรงคุณค่าแบบนี้อีกเมื่อไหร่?! กับบทที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน “อมรา” โสเภณีชั้นสูง มาพร้อมความแซ่บแน่นอน!!
ตอกย้ำความแซ่บทวีคูณ สาวแพนเค้กมาพร้อมแฟชั่นสวยหรูดูแพงจากแบรนด์ดัง ทั้ง Poem และ Surface ลุคไหนก็เอาอยู่!! เนรมิตความเป๊ะปัง ช่างหน้า ทิวา ยอดยิ่ง ช่างผม นารอน สินพล ช่างภาพ พินิจ รักพงษ์ ทำหน้าที่ลั่นชัตเตอร์
ต้องเรียกว่า “Six Characters มายาพิศวง” เป็นผลงาน “มาสเตอร์พีซ” สาวแพนเค้กก็ว่าได้ เจ้าตัวเอ่ยปากยอมรับมีความยากมากถึงมากที่สุดจริงๆ “หม่อมไม่อยากให้แพนถ่ายทอดความเป็นอมราออกมา แต่อยากให้อมราผ่านตัวแพนออกมา เราเวิร์กช็อปเป็นปีจนหม่อมคิดว่าทุกคนพร้อม เริ่มถ่ายทำจริงๆ แพนว่ายากทุกตัวละคร พี่หมีบอกว่าแพนโชคดีที่มีโอกาสได้ทำกับหม่อมเพราะงานของหม่อมคืองานศิลปะ ทุกภาพ ทุกคัต แล้วพี่หมีชอบแนวนี้ งานอาร์ตงานศิลปะ พี่หมีรู้สึกเป็นชิ้นงานที่มีคุณค่า แพนเคยเล่นศรีอโยธยากับหม่อมก็จะเป็นแนวซีรีส์ ภาพสวยแบบนึงแต่พอเป็นหนังในระยะเวลาที่มันกระฉับ ภาพของหนังแต่ละเฟรมมันมีความหมายหมด เป็นงานละเอียดประณีตมาก หม่อมทำการบ้านเยอะมากๆทุกอย่าง ทั้งเสื้อผ้า หน้าผม การเตรียมตัวนักแสดง ไปจนถึงช่างไฟ ทุกทีม และบอกเสมอ คนที่ดีที่ดีสุดเพื่อทำงานที่ตัวเองถนัดกัน อยากให้ทุกคนตั้งใจทำงานของตัวเองเต็มที่ พวกเราถูกขับเคลื่อนด้วยการดุค่ะ (หัวเราะ) ด้วยพลังของหม่อม ด้วยเสียงของหม่อมจนวินาทีการถ่ายทำงาน หม่อมดุกลางกองน้ำตาร่วงทุกคนโดนกัน ต้องปาดน้ำตาก่อนนับแอ็กชันเล่นต่อไป”
กับเหตุการณ์วันวานที่เหมือนเพิ่งผ่านไปไม่ได้ก็จริง แต่แพนเค้กกลับจำได้แม่นขึ้นใจเพราะโดนหม่อมดุด่าเสียงดังลั่นกอง พร้อมประโยคคำถามที่ว่า “ทำไมมันเป็นยังไง เป็นแพนเค้ก ดุไม่ได้หรือไง” เรียกว่าถ้าเป็นใครเจอแบบนั้นก็คงช็อก อึ้งจนทำอะไรไม่ถูกไปหลายวิ แต่ตอนนั้นสิ่งที่ทำได้ แพนเค้กได้แต่ตอบเสียงอ่อนๆแต่เพียงว่า “ดุได้ สอนได้ค่ะ” เพราะรู้ว่าหม่อมเป็นครูบาอาจารย์ ย่อมปรารถนาดีต่อลูกศิษย์อยู่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคาแรกเตอร์ของอมรามีชีวิตเค้าค่อนข้างดาร์กๆ ผ่านความเจ็บช้ำ ผ่านความเสียใจ ความแค้นใจ การดุในครั้งนั้นแต่เป็นวิธีการสอนที่หม่อมบิลต์อารมณ์ทำให้รู้สึกเจ็บปวดตรงนั้นเพื่อให้เราเก็บความรู้สึกตรงนั้นแล้วถ่าย ทอดอมราออกมา “วันนี้การทำงานเสร็จสิ้นเป็นผลงานออกมาแล้ว หม่อมมาบอกว่าเห็นมั้ยวันนั้นที่ดุไป งานออกมาเป็นแบบนี้แหละ ต้องการแบบนี้แหละ”
มีแต่คนพูดถึงเสียงหัวเราะของอมรากันมากๆๆ บางคนบอกหลอนหูไปเลย รู้สึกยังไงบ้าง “ตอนนี้ทุกคน หัวเราะเป็นอมรากันหมด แล้วค่ะ (หัวเราะ) วันนั้นรอบกาลาฯ ออกโรงภาพยนตร์มา ทุกคนบอกเสียงหัวเราะของเธอหลอนมาก ดีใจคนดูหลายๆคนมีฟีดแบ็กที่แบบประทับใจมาก มิกิ น้องสาว บอกไม่หัวเราะเลยเพราะมิกิฟังแล้วเข้าใจเสียงหัวเราะแต่ละครั้งให้ความรู้สึกต่างกัน มันเป็นเสียงของความทุกข์ ความแค้น ความเจ็บปวด มิกิดูขนาดนั้น คือน้องสาวเป็นสายอาร์ตอยู่แล้วก็จะเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึกของตัวละครได้เร็วมาก ตัวแพนเองใช้เวลาทำการบ้านกับตัวละครตัวนี้อยู่นานมาก กว่าที่เราตีความออกมา และจากคอมเมนต์ เป็นตัวละครที่ไม่จริงที่สุดเลย ผ่านอะไรไปกลับกลายเป็นว่าเขาจริงที่สุดของสิ่งที่มันเกิดขึ้น”
วันงานกาลาฯที่ผ่านมา พี่หมี คุณสามีมาเซอร์ไพรส์หอบช่อดอกไม้มายินดีด้วย อากัปกิริยาวันนั้นดูแพนตกใจมาก “ไม่รู้เลยจริงๆว่าพี่หมีจะมา เราคุยกันก็ถามแล้วว่าพี่หมีอยากมามั้ย? เขาบอกว่าเดี๋ยวพี่ดูก่อน อาจติดงาน คนเยอะด้วยกลัวทำตัวไม่ถูกไม่ถนัด พี่หมีไม่มาแต่ก็ส่งกำลังใจให้ แสดงความยินดีก่อนออกจากบ้านกัน”
ตอนนั้นแอบน้อยใจมั้ยเพราะเป็นวันพิเศษของเราแท้ๆ แต่พี่หมีเกิดไม่ว่าง “พยายามมองแบบเข้าใจ โอเค พี่หมีติดงานและคงไม่ถนัดงานอะไรแบบนี้ เดี๋ยวเราค่อยกลับมาเจอกัน แต่มุมนึงถ้าอยู่ด้วยกันตรงนั้นด้วยกันก็คงดี ก็อยากให้ไป มีภาพโมเมนต์ด้วยกัน เป็นฟีลนั้นมากกว่าแต่ก็คุยกันจะอัปเดตส่งรูปมาให้ดูตลอด มีขาดช่วงเย็น เริ่มเอ๊ะ พี่หมีอยู่บ้านคุณพ่อคุณแม่เหรอทำไมหายไป เงียบไปเลย จนกระทั่งแพนขึ้นบนเวทีเรียบร้อยหันมาอีกทีอ้าว...ว พี่หมีมาอยู่ที่นี่เอง แพนแอบชี้หน้าพี่หมีไปไหนบอกว่าจะไม่มา (หัวเราะ) เป็นฟีลนั้นเลย ในรูปเป็นพยานมากเพราะชี้นิ้วแบบชัดเจนมากตายแล้วภาพชัดมาก จริงๆดีใจที่พี่หมีมา มาอยู่ในโมเมนต์นั้นด้วยกัน”
เดี๋ยวนี้พี่หมีเซอร์ไพรส์เก่งเหมือนกันนะ “จริงๆพี่หมีเป็นคนเซอร์ไพรส์เก่งมาก ชอบทำเซอร์ไพรส์ เป็นคนให้ความสำคัญกับโอกาสพิเศษต่างๆตลอดเวลาเป็นแพนเองไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเหล่านั้น เราชิลชิลไง ง่ายๆ สบายๆ แต่พี่หมี ทุกวันเขาให้ความสำคัญหมด เซอร์ไพรส์จนเซอร์ไพรส์ไม่สำเร็จ เจอเซอร์ไพรส์กว่า ทำให้เขาไม่ทำดีกว่า ไม่เอาแล้ว พี่หมีเป็นคนเก็บดีเทล เก็บรายละเอียด แพนจะฟีลตกหล่น ด้วยความที่เราทำอะไรเยอะๆ ไม่ได้โฟกัสในรายละเอียดบางส่วน เขาจะเป็นคนมาคอยบอกให้เราเห็นจุดต่างๆมากขึ้น”
อัปเดตชีวิตหลังแต่งงานเปลี่ยน แปลงไปขนาดไหน “แพนดำเนินชีวิตเหมือนเดิมไม่รู้สึกแตกต่าง แต่พี่หมีจะบอกว่าแพนดูแลใส่ใจมากขึ้น อยากตื่นขึ้นมาเตรียมโต๊ะกินข้าว จะถามอยากกินอะไร พี่หมีจะเอ๊ะๆ ตอนเป็นแฟนกันยังไม่แต่งงาน ยังไม่เป็นแบบนี้เลย เปลี่ยนจนตกใจ คือแพนก็รู้สึกอยากดูแล อยากทำอะไรใส่ใจกันมากขึ้น บางมุมมีแอบทำเสียงแข็งใส่กันเยอะขึ้น (หัวเราะ) อันนี้ไม่ได้พี่หมีต้องขออนุญาตพูด แต่งงานแล้วขอพูดนะไม่อยากอย่างนี้ๆๆ หรือคนอื่นไม่กล้าบอกพี่หมี แต่แพนอยู่ข้างๆต้องพูด จะโกรธได้ไม่เป็นอะไร กล้าพูด อะไรที่ไม่เข้าใจไม่อยากปล่อยไว้ อยากเคลียร์ ไม่อยากรู้สึกยอมๆๆๆ วันนึงระเบิด ลงใส่กัน เราไม่อยากเป็นแบบนั้น ใครชอบหรือไม่ชอบอะไรเราพยายามที่จะหาจุดตรงกลางสบายใจ ไม่อยากให้ตื่นมาแล้วมีแต่เรื่องให้หงุดหงิดใจกัน”
เรื่องทายาทล่ะยังไงดี “จริงๆก็ ณ ตอนนี้เดี๋ยวทำงานก่อนปีนี้เรามีโอกาสได้ทำชิ้นใหม่ๆ ให้เราได้ทำกัน สัก 1-2 ปีก่อน แล้วพี่หมีเองก็เป็นปีที่ยุ่งเหมือนกันทั้งเรื่องงานเรื่องเดินทางโอเคเราต่างคนโฟกัสเลยคิดว่าอยากมีเวลาท่องเที่ยวเติมพลังกันก่อนมีลูก ตอนนี้คงวางแผน ต้องเก็บไข่ไว้ก่อนแล้วดีมั้ย ด้วยวัยของเราด้วยค่ะ”.
เสื้อผ้า : Poem, Surface
ช่างแต่งหน้า : ทิวา ยอดยิ่ง
ช่างทำผม : นารอน สินพล
ช่างภาพ : พินิจ รักพงษ์
