Inside Dara
"ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์" เคลื่อนไหวไอจีล่าสุดโพสต์ข้อความ เราขอโทษ ขอให้ทุกคนให้อภัย

วันนี้ 7 กันยายน 2563 "ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์" เปิดใจผ่านรายการโหนกระแส ถึงเรื่องราวความรักระหว่างอดีตสามี อีกทั้งเปิดใจถึงยอดหนี้ทั้งหมดที่ตนเองเป็นคนก่อขึ้น โดยได้ออกมา ยอมรับกลางรายการว่าเป็นหนี้จริง ไปยืมเงินคนรู้จัก 2 แสนบาท แล้วโดนทวงถามมาตลอด และยังขู่จะไปบอกนักข่าวด้วย ทำให้ต้องแอบกดเงินของศรรามไปกว่า 4 แสนบาท และยังเล่นพนันออนไลน์เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ แต่กลับยิ่งเป็นหนี้ และสุดท้ายเรื่องก็แดงจนศรรามประกาศหย่าขาดตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

กราบขอโทษทุกคน..นะคะ ที่ทำให้ผิดหวัง

พร้อมจะนอมรับความผิดนี้ทุกอย่าง กราบขอบคุณพี่หนุ่ม ครอบครัวพี่หนุ่ม และพ่อกราบขอโทษ ขอขมาโทษกับ พี่หนุ่ม และลูก เจ้าหนี้ทุกคนที่ผ่านมา..ทำให้เดือดร้อน ได้เงินคืนช้า ติ๊กได้ทำผิดพลาด และยอมรับโทษในครั้งนี้ ขออนุญาติให้ทุกคน ตักเตือน สั่งสอน ด่า ติ๊กได้นะคะ รู้เสียใจรู้สึกผิดจริงๆ การตั้งใจขอออกมายอมรับความผิดครั้งนี้ ต่อหน้าประชาชนทุกคน ต่อครอบครัว และคนที่รัก เพราะอยากให้ทุกคนช่วยสอน ตักเตือน ติ๊กพร้อมรับฟังและพร้อมจะแก้ไข้เปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่างให้ดีขึ้น ขอโทษสังคมเสียใจที่เป็นแบบอย่างที่ไม่ดี รู้สึกเสียใจในการกระทำผิด สุดท้ายบทลงโทษครั้งนี้สมควรแล้วได้รับความสูญเสีย คนรัก ครอบครัว สมควรจริงๆ ติ๊กขอน้อมรับความผิดนี้ค่ะ ต่อไปจะไม่ทำผิดแบบนี้อีก..ขอให้ทุกคนให้ อภัย ด้วยนะคะ ..ติ๊กคนบ้านๆบางครั้งใช้คำพูดตอบโต้ ที่ก้าวร้าว หยาบคาย ไม่ดี ไม่สุภาพลงไป ติ๊กกราบ ขอโทษ สงคมและประชาชนทุกคนด้วยนะคะ.....

ปล ในรายการลืมอธิบาย ว่าภาพหมา แม่ลูก ไม่มีอะไรที่ฟาดฟิงถึงพี่หนุ่มเลย ติ๊กหมายถึงตัวเอง. ...

ผัวข้าใครอย่าแตะ ความคิดตอนนั้นฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อ ความคิดเลอะเทอะ

ต่อไปจะเขียนแคปชั่นอะไรจะคิดไตร่ตองให้รอบครอบก่อนลงนะคะ

ติ๊กขอให้ทุกคนให้อภัยติ๊ก ได้แก้ไข้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีเพื่อลูก .. เพื่อนคนรัก แม้เราจะอยู่ในฐานะพ่อ-แม่ ไม่ได้อยากกลับไป..แต่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อทดแทนในเวลาที่ผ่านมา..ทำให้เห็น..นะคะ

เปิดไทม์ไลน์แบบชัดๆ "ศรราม" ถูกกดเงินจากธนาคารไป 4 แสน "ติ๊ก" โต้กลับเดือด บอกไปแล้วว่าเอาเงินไปเอง แต่ก็ยังแจ้งความ

หากยังจำกันได้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา หนุ่ม ศรราม ได้เดินทางเข้าแจ้งความ ที่ สน.สุทธิสาร หลังเงินในบัญชีได้หายไป จำนวนหลายแสนบาท พร้อมเปิดเผยว่า ตนได้เปิดบัญชีฝากเงินกับธนาคารแห่งหนึ่ง ที่สาขาลาดพร้าว 10 และมีบัตรเดบิตสำหรับถอนเงินสด แต่ไม่ได้มีการเปิดบัญชีทางออนไลน์แต่อย่างใด ต่อมาวันที่ 13 ม.ค 2563 ที่ผ่านมา ศรรามได้นำเงินฝากเข้าบัญชี จำนวน 1,100,000 บาท รวมมีเงินเหลือในบัญชี 1,105,750.49 บาท และในวันเดียวกันศรรามได้นำบัตรเดบิตไปซื้อสินค้า แต่จำสถานที่ไม่ได้

หลังจากนั้นทางธนาคารกสิกร ได้ออกมาชี้แจง โดยระบุว่า "คุณศรรามเทพพิทักษ์ โร่แจ้งความ เงินโอนออกจากบัญชีสูญเงินไปแล้วครึ่งล้าน" โดยบางแห่ง อ้างถึงธนาคารกสิกรไทย นั้น ธนาคารขอเรียนให้ทราบว่า ธนาคารได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการทำ รายการ พบว่าเป็นการทำรายการผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งกล้องวงจรปิต สามารถ บันทึกภาพผู้ทำรายการ เป็นคนใกล้ตัวของเจ้าของบัญชี และยืนยันว่าเหตุการณ์ ดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของระบบธนาคารแต่อย่างใด ทั้งนี้ ธนาคารได้เรียนคุณศรราม ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีให้รับทราบแล้ว ตั้งแต่ วันที่ 15 มกราคม 2563

ซึ่งจากเหตุการณ์ในวันนั้นก็มีชาวเน็ตหลายคนเกิดความสงสัยเรื่องเงินในบัญชีหาย ว่าคนใกล้ตัวทีว่า ใช่ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ภรรยา ของหนุ่มศรราม หรือไม่เพราะพอทางธนาคารชี้แจง ทางหนุ่ม ศรรามก็เงียบหายไป ไม่ได้ออกมาพูดถึงเรื่องเงินจำนวนดังกล่าวแต่อย่างใด

จนกระทั่งล่าสุด จากเหตุการณ์ที่ หนุ่ม ศรราม ออกมาโชว์ใบหย่า แยกทางกับติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ เรียบร้อยแล้วนั้น

เหลือเพียงสถานะคนเป็นพ่อและแม่เท่านั้น ล่าสุดวันนี้ (7 กันยายน 2563) ถึงคิว ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ออกมาชี้แจงผ่านสื่อ กับรายการโหนกระแสทันที ซึ่งเจ้าตัวถึงกลับปล่อยโฮกลางรายการ ว่าเป็นหนี้จริง ไปยืมเงินคนรู้จัก 2 แสนบาท แล้วโดนทวงถามมาตลอด และยังขู่จะไปบอกนักข่าวด้วย ทำให้ต้องแอบกดเงินของศรรามไปกว่า 4 แสนบาท และยังเล่นพนันออนไลน์เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ แต่กลับยิ่งเป็นหนี้ และสุดท้ายเรื่องก็แดงจนศรรามประกาศหย่าขาด

โดยบางช่วงบางตอน ทาง ติ๊ก ได้มาพูดถึงเงินจำนวนดังกล่าว ที่ติ๊กเป็นคนกดออกไป จำนวนเงิน 4 แสนบาท ซึ่งทางหนุ่มศรราม ได้มาพูดกับตัวเองว่าเงินพี่หายไป ซึ่งเราก็เป็นคนบอกว่าอยู่กับเราเอง แต่เหมือนพี่หนุ่มเขาเมือนรับทราบ และก็ไปแจ้งความ ซึ่งวันนั้นเราก็มีพยานด้วยว่า เราได้บอกพี่หนุ่มไปแล้ว แต่เขาก็มีสิทธิแจ้งความมันเป็นเงินของเขา เขาไม่ได้รู้ทีหลัง แต่เขามาบอกเราให้พูดตรงๆ ทุกเรื่อง ซึ่งเราก็ปรับความเข้าใจกันแล้ว เราเอาเงิน 4 แสน ไปใช้หนี้ 2 แสน และอีก 2 แสน ตอนที่พี่หนุ่มไม่ให้ ก็เลยพยายามหาเงิน และไปเล่นการพนันและติดเพิ่มอีก 2 แสน เอาไปใช้หนี้การพนัน