Inside Dara
รับเตียงหัก ลูกตาล ชโลมจิต เหวอ!! ถูกอดีตสามีทวงสเปิร์มคืน

เพิ่งแต่งงานกันสวีตหวานไม่ทันไร ลูกตาล ชโลมจิต จันทร์เกตุ และ อดัม ซีมา อดีตสามีตาน้ำข้าวก็เตียงหักซะแล้ว และที่สำคัญใช่ว่าทั้งคู่จะจบกันด้วยดี เพราะมีข่าวลือหนาหูเม้าท์ว่า ฝ่ายชายเรียกร้องแบ่งทรัพย์สิน พร้อมทวงค่าสเปิร์มอีกต่างหาก งานนี้ลูกตาลจึงได้มาเปิดใจกลางรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง 2 ถึงเรื่องดังกล่าวว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เลิกกัน?

"ตาลแต่งงานกับอดัมมา 2 ปี ช่วงประมาณปีที่แล้วปลายๆ ปี ไปเที่ยวที่ฮังการีด้วยกันแล้วก็มีปัญหานิดหน่อย งอนกันก็กลับมาก่อน แล้วมีเพื่อนแนะนำแฟนให้ใหม่ เขาก็เจอแฟนใหม่ที่โน้น แต่เราไม่ทราบ เขาบอกว่าเขาแค่อยากไปพักผ่อน อยู่ต่อกับครอบครัว ใช้เวลานานเราก็จับได้ จับได้ก็ถึงได้รู้ว่าเขาไปมีคนอื่น" นานไหม? "ประมาณ 5 เดือนแล้วค่ะ เขาไปๆ มาๆ เพราะมีเปิดตัวหนังที่เขาเล่นด้วย มาแป๊บๆ ก็กลับ เราก็ถามว่าใช่ไหม จริงไหม เขาก็ปฏิเสธ แล้วก็ได้ถามทางผู้หญิงก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรมา ช่วงหลังมันคงเริ่มนานแล้ว ก็เลยไม่ได้คุยกัน"

เราจับได้ยังไง? "จับได้จากโทรศัพท์ รูปถ่าย เพราะว่าบิลโทรศัพท์มันขึ้นไง เราเป็นคนจ่ายค่าโทรศัพท์ เราก็รู้ว่าคบกับใครอยู่ ก็คลุมเครือมาตลอด สุดท้ายก็รู้ว่าเขาไปมีคนอื่นแล้ว โดยที่ไม่ได้บอกเรา แต่ตอนเขามาเปิดตัวนี่คือมาโพสต์รูปแฟนใหม่ในเฟซบุ๊ก เราอยู่ที่บ้านเราก็ อุ๊ย ทำขนาดนี้เลยเหรอ" เขาเปิดตัวเมื่อไหร่? "ประมาณอาทิตย์ หรือ 2 อาทิตย์แล้วมั้งคะ อยู่ๆ ก็โพสต์รูปแฟนใหม่ขึ้นเฟซบุ๊กเลย ก็เหมือนทำร้ายจิตใจเรา" เขารู้ไหมเรื่องแบบนี้คนไทยซีเรียส? "ได้คุยกับเขาแล้ว ถ้าจะมีแฟนก็ไม่เห็นต้องเปิดตัวก็อยู่เงียบๆ ไป อยู่เมืองนอก เขาคงอยากให้เราเห็นมั้ง"

ทะเลาะกันรุนแรง? "ไม่ค่ะ เพราะหลังจากที่เขาเริ่มเปิดตัวว่ามีแฟนใหม่ ก็ส่งอีเมลมาเรื่องธุรกิจ เพราะเรามีโครงการที่ทำกิฟต์ด้วยกัน ทำลูกด้วยกัน ก็ยังทำอยู่ เขาก็ส่งอีเมลมาบอกว่าขอแบ่งส่วนธุรกิจต่างๆ แล้วก็ให้ส่งเงินไปให้ ถ้าไม่ส่งเงินไปให้ก็ไม่ต้องใช้สเปิร์ม" เรื่องทำกิฟต์เริ่มตั้งแต่ตอนไหน? "ตั้งแต่ตอนแต่งงานแล้วค่ะ ทำมาหลายรอบแต่ไม่ติดเพราะว่ามีลูกยาก" เขาเรียกร้องเท่าไหร่? "จริงๆ แล้วมันมีหลายๆ ข้อค่ะ แต่มีอยู่ข้อหนึ่งที่บอกว่า คือเขาชอบแข่งรถมอเตอร์ไซค์ แล้วพอดีเราซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดนานแล้ว เขาบอกขายมอเตอร์ไซค์แล้วก็ส่งเงินไปให้เขาด้วยนะ ถ้าเธอไม่ทำตามที่ฉันบอกก็ไม่ต้องใช้สเปิร์มฉันนะ"

เราซีเรียสเรื่องสเปิร์มเขาไหม? "ตอนแรกเราคิดว่า เราตกลงกันแล้วว่าเราจะเลิกรากันไป ยังไงเราก็ยังทำ มีโครงการที่จะทำลูก มีลูกด้วยกันเพราะเราอยากมีลูกมาก ประมาณนั้น" ตอนนี้ยังทำกิฟต์อยู่? "ตอนนี้คงไม่ทำแล้วค่ะ" ทรัพย์สินอื่นๆ ล่ะ ตอนนี้ยังไง? "ก็มีธุรกิจที่เป็นยิม ที่เป็นหุ้นส่วนกันเขา 40% เราเป็นคนลงเงิน เขาเป็นคนลงแรง แต่ตอนนี้คิดว่าไม่ต้องแล้วมั้ง เพราะเขาไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยแล้ว ไม่ได้ทำงานกับเราแล้ว เราไม่จำเป็นต้องให้ก็ได้มั้ง แต่อันนี้ก็แล้วแต่ว่าเขาจะส่งทนายมาก็อีกเรื่องหนึ่ง ดูอีกทีหนึ่ง" ได้มีการจดทะเบียนสมรสกันไหม? "ไม่ได้จดค่ะ แต่จดทะเบียนบริษัทต่างๆ ร่วมกัน เขาก็จะขอแบ่งโน้นนี่นั่น แต่เราคิดว่ามันไม่ยุติธรรมกับเรา นอกใจเราแล้ว ทำให้เราเจ็บช้ำน้ำใจแล้ว แล้วยังมาขอเงินเราอีก"

ขายมอเตอร์ไซค์ส่งเงินให้เขารึยัง? "คงไม่ขายหรอกค่ะ หรือว่าขายก็คงไม่ส่งให้อยู่แล้ว (หัวเราะ)" รู้สึกยังไงบ้าง? "ตอนแรกรู้สึกเสียใจ ได้เขียนข้อความโพสต์ในเฟซบุ๊ก เพราะเราก็ยังเป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊กอยู่ ตัดพ้อไป เผื่อว่าเขาจะเห็นบ้างอะไรบ้าง แต่เขาก็คงไม่สนใจอะไร" ถ้าเราไม่เอาสเปิร์มเขาแล้ว เขาก็เรียกร้องอะไรไม่ได้? "ใช่ แต่เขาจะมาเรียกร้องเรื่องค่าธุรกิจต่างๆ ก็อีกเรื่องหนึ่ง" เขาเรียกร้องเยอะไหม? "ไอ้พวกธุรกิจต่างๆ เขาต้องการ 40% ของรายได้ของเรา ซึ่งเขามีชื่อในบริษัท เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องได้" แล้วเราโอเคไหม? "เราคงไม่โอเค (หัวเราะ)" ในอนาคตจะมีการฟ้องร้องกันไหม? "ก็คงต้องพิสูจน์กันไปว่าเขามีอะไรมาบ้าง ก่อนที่จะมาเจอกับเราอะไรต่างๆ".