โสดแต่สุข “จอย-รินลณี” เมินมีแฟน เป็นมนุษย์แม๊ในละครน้ำดี “มามี้ที่รัก”
โสดยืนหนึ่ง! จอย-รินลณี ศรีเพ็ญ นักแสดงสาวมากความสามารถแฮปปี้กับชีวิตที่เลือกเอง ไม่เอาความสุขไปมัดรวมกับใครๆ ไม่เคยหวั่นไหวกับสิ่งรอบข้างจนกลายเป็นไอดอล “ผู้หญิงยุคใหม่” ตรงกันข้ามกับชีวิตของกันนรี คุณแม่สาววัย (เกือบ)ทอง ในละครน้ำดีเรื่อง “มามี้ที่รัก” ของค่ายมาสเตอร์วัน ของผู้จัดฯ เอิน-นิธิภัทร์ เอื้อวัฒนสกุล สะท้อนปมปัญหาครอบครัวของมนุษย์แม๊ได้เป็นอย่างดี
สาวจอยเล่าว่า เริ่มแรกที่ตัดสินใจรับเล่นเรื่องนี้เพราะคิดไปเองว่าจะเป็นละครคอมเมดี้เบาๆ แต่ที่ไหนได้กลายเป็นละคร “ดราม่า” เป็นอีกฟีลที่ไม่เคยเล่นอะไรมาก่อนเลย “จอยเคยเล่นของเอิน เรื่องก๊วนคานทอง มีความคอมเมดี้ เรารู้สึกสนุกเพราะในชีวิตจอยเล่นละครคอมเมดี้เรื่องเดียวนะ รู้สึกชอบเล่นจังเลย พอเอินมาชวนก็ดีใจคิดว่าจะได้เล่นคอมเมดี้อีกแล้ว พออ่านบทไปมันไม่ใช่คอมเมดี้ เล่นไปเล่นมาร้องไห้เยอะมาก (หัวเราะ) มีความดราม่าเรื่องครอบครัวของลูก ซึ่งที่ผ่านมาจอยจะไม่เคยเล่นดราม่ามีลูกเป็นเมนหลักขนาดนี้ ในเรื่องจอยไม่ได้เป็นแม่ที่อบอุ่นแต่เป็นแม่ช่างจัดแจง เป็นแม่ค่อนข้างตีกรอบให้ลูก ให้ลูกเป็นอย่างที่เราต้องการ ลูกเลยรักพ่อมากกว่าเพราะพ่อใจดีมากกว่า สามารถเล่นกับเค้า พ่อเข้าใจเขาได้มากกว่า จะเป็นผู้หญิงเจ้าระเบียบก็จะอยู่ด้วยได้ยากนิดนึง”
เล่นกับเด็กๆ 3 คน แต่ละคนพลังงานเยอะ กันทุกคน เป็นยังไงบ้าง “จอยชอบนะคะ ชอบอยู่กับเด็กๆ เราจะได้เอนเนอร์จีจากเขาด้วย ชอบฟังเขาด้วย ชอบเล่นกับเขา อยากรู้จินตนาการของเขา แล้วเด็ก 3 คนนี้เป็นเด็กที่เก่งมากๆ จอยเข้ากับน้องเพลง คนที่เล่นเป็นลูกจอย เขาเก่งกว่า เราอีก เขาเป็นเด็ก ร้องเพลงได้ เต้นได้ เป็นพิธีกร เล่นละครได้ เทียบเท่านักแสดงคนนึงจริงๆ เวลาเราเล่นกับเขาเราไม่รู้สึกนี่คือเด็กนะ มีซีนดราม่าอันนึงเวลาจอยมองเขา เค้ามองส่งพลังมา จอยเริ่มน้ำตาคลอ เขาก็คลอ พอเราน้ำตาเริ่มไหล เขาก็ไหลตาม มีความรีแอ็กชันไม่เหมือนเราเล่นกับเด็ก ไม่ต้องพยายาม มันคือการรับส่งอารมณ์ได้พอดี มืออาชีพ มากค่ะ”
สลัดลุค สาวหวาน ละมุน สวมวิญญาณนางแบบบวกอินเนอร์มาเต็ม พร้อมแฟชั่นสวยแซ่บเพื่อแฟนๆ “มาลัยไทยรัฐ” ชักอยากรู้จักตัวตนจริงๆเป็นคนแบบไหน “เอาจริงๆจอยไม่ได้มองตัวเองเป็นคนเรียบร้อย จอยว่าตัวเราเป็นคนเฉยๆ ชิลๆ มากกว่า เวลาทำงานไม่รู้ เคยเป็นนางแบบมาก่อนเลยรู้ว่า ถ้าเราใส่ชุดนี้อินเนอร์ประมาณนี้ เหมือนเดินแบบ เหมือนนักแสดงทำตามบทบาทนั้น ไม่ได้คิดตัวเองเซ็กซี่ เรียบร้อย เป็นคนเรื่อยๆมากกว่า”
นางเอกหลายๆ คนลุกมาใส่ชุดว่ายน้ำ ผิดกับจอยจะไม่มีโมเมนต์นั้นเลย ถามจริงๆ จะมีโอกาสได้เห็นบ้างมั้ย “น่าจะไม่มีค่ะ (หัวเราะ) จะเป็น ท่อนบน ข้างล่างใส่ขาสั้นพอได้ ถ้าชุดว่ายน้ำก็แขนยาวให้แม่ดูแล้วดูอีกจนแม่บอกว่า มันไม่เหมือนชุดว่ายน้ำมากนะ เมื่อก่อนการถ่ายชุดว่ายน้ำเป็นเรื่องใหญ่ รู้สึกหนังสือหลายเล่มติดต่อกันมา สมัยแมกกาซีนให้เท่าไหร่เราก็ไม่ถ่าย แต่อยู่ดีๆ วันนึงเราจะมาถ่ายแล้วโพสต์มันก็ไม่ใช่ คนอื่นไม่ว่าเราตายเหรอ? ทีเมื่อก่อนชวนให้ถ่ายก็ไม่ถ่าย จะมาถ่ายเล่นๆแล้วลง ทำใจไม่ได้ ตอนนั้นหนังสือก็ติดต่อมาทุกปีๆ จอยกลัวพี่สไตลิสต์เขาว่าจอย เมื่อก่อนไม่เห็นยอมรับ แล้วอยู่ดีๆจะลุกมาถ่ายชุด ว่ายน้ำมันก็นิดนึง”
ตอนนั้นค่าตัวที่ติดต่อ 6 หลักถึงไหม “ถึงอยู่แล้วค่ะ แต่จอยไม่ถึงจุดคุยค่าตัวจอยก็จะบอกเลยไม่ถ่ายค่ะ ตั้งแต่เด็กทุกๆปีไม่เคยคุยเรื่องราคา เขาบอกมากกว่านี้ก็ได้นะแต่จอยไม่กล้าถ่าย โตมาเรื่อยๆก็ยังรู้สึกเป็นเด็ก เอ๊ะ ถ้าถ่ายตอนนี้เราจะแก่ไปหรือเปล่าที่จะมานั่งถ่ายชุดว่ายน้ำ แล้วพี่ๆที่เคยติดตามจะว่าหรือเปล่า ก็เลยไม่ใส่อะไรแบบนี้ดีกว่า”
นอกจากเล่นละครเป็น “อาชีพหลัก” แล้วจอย ยังเป็นมือใหม่หัดทำธุรกิจ อาศัยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ด้วยการปั้นสติกเกอร์ หอมติดแมสก์ “ชื่นใจ by Joy” แต่ไม่วายโดนพี่สาวบ่นอยู่บ่อยๆ จอยเล่าให้ฟังว่า “เริ่มจากที่เราอยากได้แบบนี้ก็เลยสั่งทำ พอผลิตก็เลยลองขายดู ก็ไปได้เรื่อยๆ จอยไม่ได้ทำเป็นธุรกิจใหญ่โตอะไรขนาดนั้น ค่อนข้างไปเรื่อยๆ อยากให้คนรู้สึกชอบ ใช้ต่อ บอกต่อ”
ได้ยินว่าพี่สาวแอบบ่นจอยแจกเก่งเหมือนกัน “จริงค่ะ (หัวเราะ) ใจจริงอยากแจกมากกว่านี้แต่ติดที่พี่สาวชอบบ่น มีความรู้สึกว่าอยากให้เขาลองใช้ดูก่อน ถ้าลองใช้ชอบ เขาอาจจะซื้อต่อเอง บางคนอาจจะไม่ชอบก็ได้ อะไรก็ตามอยากให้ลองก่อนแล้ว ชอบโอเคไม่ชอบก็ไม่เป็นไร จอยไม่ค่อยเหมาะทำธุรกิจแต่จอยอยากทำในสิ่งที่ตัวเองชอบมากกว่า ไม่ได้ซีเรียส แค่คนใช้ชอบจอยก็ดีใจแล้ว ประสบความสำเร็จในความรู้สึกของเราแล้วค่ะ”
คิดอยากทำอะไรเพิ่มอีกมั้ย “ไม่มีค่ะ จอยอาจจะไม่เหมาะกับการทำธุรกิจ อยากทำอะไรที่ชอบมากกว่า รายได้หลักยังมาจากวงการบันเทิง”
เห็นจอยทำงานตลอดทั้งๆที่ภาระเรื่องครอบครัวเรื่องลูก ทำไมถึงยังเลือกทำงานแบบยาวๆ ไม่ค่อยได้พักกับใครเลย “จอยว่าโชคดีที่มีผู้ใหญ่ให้โอกาสมากกว่า จอยไม่คิดว่าสามารถทำงานวงการนานขนาดนี้เวลา ที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส เราก็ได้รับโอกาสที่ดี ตอนนี้มีแค่พิธีกรรายการเปรี้ยวปากแค่รายการเดียวกับถ่ายละคร ชีวิตวันไหนที่ไม่ได้ไปถ่ายละคร จอยก็ไปออกกำลังกาย ทานอะไรอร่อยๆ ไปสปา นัดกับเพื่อน เวลาเราทำงานก็แฮปปี้แต่เวลาที่เราอยู่บ้าน ก็แฮปปี้ สามารถได้ทำกิจกรรมที่เราอยากทำ ได้กินในสิ่งที่เราอยากกิน”
เป็นคนโสดใช้ชีวิตคุ้ม “ไม่รู้คุ้มหรือเปล่าไม่รู้ค่ะ แต่เป็นคนสามารถทำอะไรด้วยตัวเองได้ ไม่ได้เป็นคนขี้เหงา สามารถอยู่กับตัวเองได้ดี”
สาวจอยอ้าแขนยิ้มรับความโสด ใช้ชีวิตสนุกสุดสตรองได้ไม่ยาก ปล่อยหนุ่มๆมองตาละห้อยกันเลยทีเดียว “ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองสตรอง จอยอาจจะไม่ได้เอาความสุขของจอยไปขึ้นอยู่กับใคร มีความรู้สึกว่าเรามีความสุขได้ด้วยตัวเอง ความสุขที่จอยมีมันเป็นเรื่องง่ายๆนิดเดียวจอยก็แฮปปี้แล้ว ตื่นมาจอยอุ้มลูกหมาพาไปหาแม่ เอาลูกหมาไปกอดเล่นกับแม่ ออกกำลังกาย พอเหงื่อออกเราแฮปปี้ แค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว”
ในเรื่องการมีแฟนมีชีวิตครอบครัวโอกาสเป็นศูนย์แล้วหรือเปล่า “จอยชินกับการอยู่กับครอบครัว ตื่นมาเจอแม่ เจอพี่ ไม่เคยมองนึกภาพไม่ออกด้วยซ้ำ ถ้าเราแต่งงานจะเป็นยังไงยิ่งตอนเด็กๆพี่จอยเป็นคนเอาเสื้อผ้ามาแขวนให้จอยด้วยซ้ำ เราไม่แน่ใจถ้าหากมีครอบครัวเราจะดูแลเค้ายังไง เขาดูแลยังไง ไม่มีภาพแบบนั้น”
ตอนนี้ยังมีหนุ่มๆเข้ามาจีบบ้างไหม “ไม่มีค่ะ”
เราไม่เปิดโอกาสด้วยหรือเปล่า “ด้วยวัยด้วยแหละก็ไม่น่ามีเยอะ เมื่อก่อน เวลามีคนมาจีบๆ ตั้งแต่เด็กๆ เป็นคนขี้เกียจคุย ไม่ได้เป็นคนอยากคุยหรือ บริหารเสน่ห์ อยากเรียนรู้แต่เป็นคนขี้เกียจ คืออยู่บ้านอยากทำโน่นนี่ ไม่ได้อยากคุยโทรศัพท์กับใครอะไรแบบนี้เลยค่อนข้างยาก ตัดความสัมพันธ์เร็วไปเลย ถ้าคนรู้จักเราไม่สามารถพูดตรงๆได้ แต่ถ้าไม่รู้จักกันจอยตัดได้ทันที แต่ถ้าหากเป็นคนรู้จัก เราทำให้เขารู้เราไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นจะไม่มีช่วงยื้อ ลองคุยก่อน”
เป็นคนใจเด็ด ตัดขาดเหมือนกันมูฟออนไวมากๆ “ใช่ค่ะ เป็นคนแบบนั้น ถ้ามีคนเข้ามาแล้วทำให้เราไม่มีความสุข จอยก็คิดว่าไม่มีดีกว่า ถ้าตราบใดคบกันมีความสุขโอเค จอยอาจจะนิสัยไม่ดี จอยไม่ได้เป็นคนปรับตัว ปรับอะไร และไม่เคยขอให้คนที่เป็นแฟนปรับด้วย ถ้าเรารู้สึกสุดท้ายตัวเราจะต้องเป็นตัวของตัวเอง ถ้ารู้สึกไม่แฮปปี้ด้วยกันก็จบดีกว่า จอยเป็นคนยอมรับความจริงได้เร็วมากกว่า ไม่ชอบการยื้อ พอยื้อทำให้เจ็บและเสียเวลาทั้งคู่ แต่ถ้ามันจบ ต่อให้เจ็บแต่จบ เป็นคนยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นไปเลยทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้น แล้วเป็นคนลืมง่ายด้วยค่ะ (หัวเราะ) มีเพื่อนสนิทพูดถึงเรื่องจอยกับแฟนที่ผ่านมา แต่จอยจำเหตุการณ์นั้นไม่ได้เลย จอยรู้สึกว่าบางครั้งเราลืมเรื่องบางอย่างในชีวิตเราไปเลยแต่จอยคิดว่าเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียนะ สิ่งที่จอยลืมก็ทำให้เราลืมความเจ็บที่ผ่านมาก็ได้ จอยลืมจริงๆหรืออาจจะลืมโมเมนต์ดีๆก็ได้ จนจอยคิดต่อไป เราแก่ๆ จะเป็นอัลไซเมอร์หรือเปล่า”
