Inside Dara
รักด้วยลำแข้ง “ยีน-เกวลิน” เผยโดนซ้อม!

จากนางงามสู่นางเอก สำหรับ ยีน-เกวลิน ศรีวรรณา เข้าวงการด้วยการประกวดนางงาม “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2555” พร้อมคว้าตำแหน่งรองอันดับ 2 การันตีสวยจริงไม่ได้ปลอม!! ก่อนผันตัวเป็น “นักแสดง” เต็มตัว และเป็นทายาท ชลัท ศรีวรรณา ผู้กำกับชื่อดัง ครั้งนี้มาพร้อมแฟชั่นสวยแซ่บสะกดทุกสายตา จากแบรนด์ VATANIKA, แบรนด์ MiLin และช่างหน้า-ผม CHART–MAKEUP เนรมิตความสวยว้าว!! เพื่อแฟนๆ “มาลัยไทยรัฐ” ในครั้งนี้!!

จากบทบาทหลากหลายได้พิสูจน์ฝีไม้ลายมือไม่เป็นสองรองใคร ล่าสุดรับบท “อันดา” ธิดาเงือกแห่งสมุทรแดน ในละครดราม่าแอ็กชันแฟนตาซีเรื่อง “มัจฉาอันดา” ทางช่อง 8 พาแฟนๆท่องโลกเหนือจินตนาการ สุดตระการตา ยิ่งการแปลงร่างเป็น “นางเงือก” เหมือนเป็นการเติมความฝันในวัยเด็กให้เป็นจริง!! “เรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ถ่ายทำลำบาก เพราะความที่เป็นแฟนตาซีด้วย เราก็ต้องไปตามที่ที่คนอื่นอาจจะไม่เคยไป หรืออาจจะไม่เคยเห็น”

เท่าที่เล่นบทหนักขนาดไหน? “หนักหนาสาหัสมากค่ะ เนื่องจากว่ามันจะมีฉากที่เราจะต้องใส่หางเงือกลงทะเล แล้วการใส่หางเงือกมันเหมือนเราถูกมัดขาเอาไว้ เราไม่สามารถที่จะตั้งตัวให้ตรงอยู่ในน้ำได้ กลาย เป็นว่าเราต้องนอนแผ่อยู่กลางน้ำ คือมันก็อาจจะไม่ลอยตัวเสมอไป บางทีเราต้องกดตัวให้มันจมลงบ้าง อันนี้มันก็จะค่อนข้างยากหน่อยค่ะ”

ช่วงแรกๆพะวง ไหมกับการใส่หางเงือกว่ายน้ำน่ะ “ครั้งแรกที่ใส่ก็กลัวแต่ว่าตอนนั้นจะไปฝึกอยู่ในสระก่อน แล้วถึงจะลงทะเล เราก็ต้องทำความคุ้นชินกับตัวหางที่เราต้องใส่ประมาณ 2 วันค่ะ คือให้เล่นดราม่ายังง่ายกว่า อันนี้ยากจริงๆค่ะ”

พอได้เห็นภาพตัวเองเป็นนางเงือกรู้สึกอย่างไรบ้าง? “มันก็เป็นอะไรที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันเนอะ การใส่หางเงือกอะไรแบบนี้ ตอนนี้ก็คือฝันเป็นจริงแล้วค่ะ อีกอย่างคือเราก็ต้องเชื่อก่อนว่าเราเป็นนางเงือกจริงๆ ไม่งั้นเดี๋ยว เล่นไม่ได้ เดี๋ยวไม่สมบทบาท เพื่อนๆก็มีแซวว่าเอาหางเงือกมาให้ใส่เดี๋ยวนี้นะ (หัวเราะ) โดยเฉพาะเพื่อนสาวแย่งกันซีเอฟสุดๆ เรื่องสำลักน้ำไม่มีปัญหา แต่ว่ายีนต้องลืมตาใต้น้ำ อันนี้มีปัญหาหน่อยเพราะว่าแสบมาก ยีนเคยลงน้ำโดยที่ไม่ได้ใส่คอนแทกเลนส์ ตอนนั้นพอลงน้ำนานๆแล้วเหมือนน้ำกัดตา ทำให้เรามองเห็นเป็นฝ้าๆ ประมาณ 4-5 วัน ก็เลยต้องใส่คอน แทก เลนส์ลงไปเลย เวลาขึ้นจากน้ำเราก็แค่ดึงคอนแทกเลนส์อันเก่าทิ้งไป”

สาวยีนยังเล่าอีกว่าได้ร่วมงานกับกอล์ฟ-อนุวัฒน์ แต่โดนแกล้งตลอดๆ “สนุกดีค่ะ ด้วยความที่พี่กอล์ฟเขาเป็นสายเอนเตอร์เทน สายป่วนอยู่แล้ว แต่ละวันในกองก็คือมุกไม่เคยซ้ำกัน ร่วมงานกันแล้วสนุกค่ะ ถามว่าโดนแกล้งไหม โดนบ้างค่ะ ไม่รอดเหมือนกัน แต่เราก็ไม่ได้โกรธอะไร ก็กลายเป็นเรื่องตลกไป อย่างที่ยีนโดนแกล้งหนักๆมันติดเรตจะเล่าได้ไหม...คือยีนนอนคว่ำหน้านอนเล่นมือถืออยู่ พี่กอล์ฟมาแกล้งนั่งทับแล้วตดใส่จนตัวยีนรู้สึกได้ถึงแรงสั่นเลย (หัวเราะ)”

เวลาเล่นสนุกกันแบบนี้ แล้วเวลาดราม่า หรือฉากเลิฟซีนเป็นอย่างไรบ้าง? “ด้วยความที่สนิทกันมันก็เล่นได้ไม่เขิน ยอมรับว่าสบายใจมากกว่า อย่างเวลามีฉากจูบ เขาก็มีมาขอโทษก่อนอะไรแบบนี้”

เรื่องงานกำลังรุ่งพุ่งแรง ขึ้นแท่นเป็น “นางเอกลูกรัก” แต่ความรักกลับ “ดิ่งลงเหว” หลังคบกับแฟนชาวสิงคโปร์ สุดทนกับพฤติกรรมสุดโหด “รักด้วยลำแข้ง” จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด...“ที่ผ่านมายีนเจอความรักไม่ค่อยดี หลังจากนี้ก็ขอให้มันดี แต่ล่าสุดคบไม่ได้นานมาก ประมาณ 1 ปี เป็นชาว ต่างชาติ ยีนตอบไม่ได้ ว่าสิ่งที่เขาไปเจอในอดีต เขาไปเจออะไรมา คือเราก็ไม่ได้คาดหวังว่าเราจะเจออะไรแบบนี้ คือเขาตามจีบเรามาพอสมควร ประมาณ 6 เดือน ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปคบกับเขาเลย ก็คุยกันมา 6 เดือน คือเราเจอกันผ่านทางออนไลน์ค่ะ ผ่านทางอินสตาแกรม เขาก็ทักเข้ามา ยูอยู่ไหนอะไรแบบนี้ มาเจอกันได้ไหม ซึ่งแรกๆเราก็ไม่ไป เพราะเขาก็คือคนแปลกหน้าเนอะ เราก็ไม่ได้รู้จักเขา เป็นคนสิงคโปร์ ก็คือ 6 เดือนที่เขาจีบเรา พอหลังจากนั้นเขาก็ขอร้องให้มาเจอกันหน่อยเถอะ ตอนนี้เขาอยู่ที่บาร์ใต้โรงแรมที่เราอยู่แล้ว ยีนก็เลยโอเคแวะไปทักทายหน่อยก็ได้ คือเขาเป็นคนพูดจาดีนะ นิสัยก็ดูน่ารัก เราก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ถึงขั้นลงไม้ลงมือเลยทีเดียว”

เจอเหตุการณ์แบบไหนที่เรารู้สึกว่ามันรุนแรงจนรับไม่ได้? “จริงๆมันรุนแรงตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว พอคบกันได้ 3 เดือนก็ออกลายเลย”

โดนทำร้ายขนาดไหน? “มันมีหลายครั้งค่ะ ตบ ทุบตี มีหมดเลย เตะก็มี แล้วเราตอบไม่ได้ว่าเขาเป็นอะไร จริงๆตอนนั้นตกใจมาก เราบอกเลิกเขาตั้งแต่เจอเรื่องแบบนี้ครั้งแรกเลย แต่เหมือนเราโดนเขาขู่ไง คือเขาก็ยึดพาสปอร์ต ยึดอะไรของเราไปหมด ตอนนั้นยีนอยู่ที่นั่นค่ะ ก็เลยทำให้เราต้องยอม แล้วพ่อแม่เขาก็มาบอกกับเราประมาณว่า อดทนนิดนึงนะ เดี๋ยวเขาก็เปลี่ยน อะไรแบบนี้ ยีนว่าหลักๆ เขาน่าจะกลัวลูกชายไม่มีแฟน แล้วพอเขาเห็นว่า เราเป็นนักแสดงด้วยเขาก็อยากได้ ถ้าให้พูดตรงๆก็คือน่าจะโรคจิตแหละค่ะ”

คบนานแค่ไหนถึงได้ตัดสินใจเลิก? “ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาทำร้ายเราแล้ว แต่เราไม่สามารถบอกเขาได้ว่าเราขอเลิกนะ เพราะว่าเขาจะลงมือเลยถ้าเราพูดออกไป”

ถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลเลยไหม? “มีเข้าโรงพยาบาลเหมือนกันแต่ที่สำคัญที่สุดคือมันเป็นแผลในใจของเราอย่างรุนแรงมาก มันเลยทำให้เราไม่กล้าที่จะเดินหน้าต่อ เหมือนว่าเรากลัวไปเลย กลัวที่จะเริ่มต้นใหม่กับใคร มันทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตต่อจากนี้เราจะต้องดูแลตัวเองให้ได้โดยที่ไม่ต้องมีใครมาควบคุมเรา ตอนนั้นก็มีละครเข้ามา แล้วเขาก็ให้เราตอบกลับไปว่าไม่รับละครแล้ว เพราะเขาจะให้เราเซ็นสัญญาทำงานที่บริษัทเขา จนกระทั่งยีนกลับมาอยู่ไทยแล้ว เมษายนปี 2020 เป็นช่วงที่โควิดเพิ่งเริ่มต้น พอสถานการณ์เริ่มคลาย มีช่วงนึงเขาจะบังคับให้เราไปหา แล้วเราไม่ไป เพราะเราตั้งใจที่จะเลิกอยู่แล้วก็เลยไม่ไป บอกปัดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งต้นปี 2021 เขาเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ ก็คือเริ่มตีตัวออกห่าง เราก็หยั่งเชิงว่า อยากไปแล้วใช่ไหม เราก็บอกว่าคู่เรามีปัญหาเรื่องระยะทาง เราก็เลยเปิด โอกาสให้เขาพูดเลยว่า จะเลิกนะ ทั้งๆที่เราเองเลิกกับเขาไปนานแล้ว”

ทุกวันนี้ยังมีตามมาง้อ? “มีค่ะ แต่เราก็ไม่เอาแล้ว เราไม่สนอยู่แล้ว”

ความรักครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดที่สุด? “ใช่ค่ะ มันเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีเลย”

อยากจะบอกอะไรกับคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนเรา? “จริงๆแล้วมันไม่ควรทนค่ะ ยีนมองว่า ไม่ใช่ว่า ผู้หญิงเราเป็นเพศที่อ่อนแอ ทุกคนเท่ากัน จะผู้หญิงหรือผู้ชายเหมือนกันหมด ยีนก็คิดตรงนี้เลยว่า ในเมื่อเรามีสิทธิเท่าเทียมกัน ทำไมเราต้องยอม เราทำงานหาเงินเองได้ เราไม่เห็นต้องไปพึ่งเงินเขาเลย ตอนที่เจอเหตุการณ์นี้ยีนรู้สึกทำไมตัวเราไร้ค่าจังเลย

แต่ความจริงคือเราต้องไม่เดินตามเกมเขา หรือไม่ก็ต้องพยายามดึงตัวเองออกมาให้เร็วที่สุด อย่าไปให้ความหมายกับคนแบบนี้เลย อยากให้มองว่าในอนาคตมันมีคนที่ดีกว่านี้อยู่แล้ว พ่อแม่ยังไม่เคยทำร้ายเรา เราต้องไม่ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้มาทำร้ายเรา”

โอ้...ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายไปอี๊ก...กกกก!!

ภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต