Inside Dara
ภาพเก่าเล่าตำนาน : พระเอก-นางเอกยอดฮิต มิตร-เพชรา (จบ)

: โดย พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก

คุณเพชรา เชาวราษฎร์ เธอสวยมาตั้งแต่อยู่ในท้องคุณแม่ เกิดปี พ.ศ.2486 ที่จังหวัดระยอง ชื่อเล่นว่าอี๊ด พ่อแม่ตั้งชื่อจริงว่า เอก ชาวราษฎร์ คุณพ่อมีเชื้อสายจีน คุณแม่เป็นคนไทย ครอบครัวของเธอทำไร่ ทำสวน ค้าขายเล็กๆ น้อยๆ เด็กหญิงอี๊ดเรียนระดับประถมที่บ้านเกิด ยิ่งโตขึ้นยิ่งเปล่งประกายความสวย โตขึ้นมาหน่อยไปเรียนระดับมัธยมที่กรุงเทพฯ

เรียนจบมัธยม คุณอี๊ดไปทำงานที่ร้านเสริมสวยของญาติในกรุงเทพฯ ต่อมาในปี พ.ศ.2504 ความงามที่ปกปิดไม่อยู่ ทำให้แมวมองมาทาบทาม ชวนเธอไปประกวดเทพธิดาเมษาฮาวาย ที่มีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นผู้จัด เธอใช้ชื่อในการประกวดว่า ปัทมา ชาวราษฎร์ ผลปรากฏว่าสาวงามจากระยองคนนี้ชนะใจกรรมการแบบเอกฉันท์ เธอแจ้งเกิดกลายเป็นนางงามในกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร

มิตร ชัยบัญชา เป็นพระเอกดาวรุ่งเกิดใหม่ที่คนไทยปลื้มมาก ผู้สร้างภาพยนตร์มองเห็นเงินลอยอยู่ตรงหน้ากองมหึมา ถ้าจับมิตรประกบเพชราในภาพยนตร์ไทย

“บันทึกรักของพิมพ์ฉวี” เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่มิตร-เพชราโคจรมาพบกันในปี พ.ศ.2505 โดย ดอกดิน กัญญามาลย์ และศิริ ศิริจินดา คุณเพชราตอนนั้น เธออายุ 19 ปี ดอกดินเป็นผู้ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “เพชรา เชาวราษฎร์” โดยให้เหตุผลว่าชื่อ “ปัทมา” ไม่โดนใจ ส่วนเจน จำรัสศิลป์ ได้ตั้งฉายาให้ว่า “นางเอกสาวนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง”

เพชรามาแจ้งเกิดตูมตามจากภาพยนตร์เรื่องที่สอง คือเรื่องดอกแก้ว แล้วตามด้วย หนึ่งในทรวง อ้อมอกสวรรค์ และได้แสดงคู่กับมิตร ชัยบัญชา รับบทคู่รักในภาพยนตร์อีกหลายเรื่องจนเป็นที่ชื่นชอบของแฟนภาพยนตร์ คนไทยเรียกกันติดปากทั้งเมืองว่า มิตร-เพชรา

ยุคที่เธอโด่งดังมากๆ แต่ละเดือนมีคิวถ่ายหนังประมาณ 12-18 เรื่อง แต่ละวันต้องถ่ายทำภาพยนตร์วันละ 3-4 เรื่อง ในปี พ.ศ.2508 คุณเพชราเข้ารับพระราชทานรางวัลตุ๊กตาทองจากพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุด

คุณเพชรา เชาวราษฎร์ ได้รับฉายาว่า “ราชินีจอเงิน”

แฟนภาพยนตร์คนไทยมักเข้าใจว่าทั้งสองเป็นคู่รัก ถึงไม่ใช่ก็ภาวนาให้เป็นเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วมิตร-เพชรามีความสนิทสนมจริงใจ เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี มิตรดูแลเพชราเหมือนน้องสาว คอยปกป้องและเป็นที่ปรึกษาให้เพชรา แต่ก็เคยโกรธกันอยู่บ่อยๆ บางครั้งไม่พูดกันเป็นช่วงๆ ทั้งๆ ที่แสดงหนังด้วยกันอยู่ เพชราเคยปรารภว่า มิตรเป็นคนขี้ใจน้อย

พ.ศ.2506 เมื่อชีวิตของหนุ่มหล่อ มิตรรุ่งโรจน์เจิดจรัสแสดงหนังรับเงินแทบไม่มีเวลาหายใจ ในที่สุด จ่าโทพิเชษฐ์ พุ่มเหม จึงตัดสินใจลาออกจากกองทัพอากาศ เป็นมิตร ชัยบัญชา เต็มพิกัด

มิตร-เพชราเล่นหนังแบบไหน เล่นบทอะไร คนดูชอบไปหมด ชีวิตส่วนตัวนอกจอของดาวค้างฟ้าคู่นี้ไม่เคยมีข่าวในทางลบ ทั้งสองคนมีวินัยในการทำงาน นิสัยและอัธยาศัยต่อเพื่อนร่วมงานเป็นที่กล่าวขวัญในด้านบวกเสมอ คุณกิ่งดาว ดารณี เคยให้สัมภาษณ์ว่า มิตร ชัยบัญชา มีภาพยนตร์ต้องถ่ายทำเดือนละประมาณ 30 เรื่อง ภาพยนตร์เรื่องต่อมาที่สร้างชื่อเสียงให้กับมิตร ชัยบัญชา ได้แก่ ใจเดียว ใจเพชร จำเลยรัก เพลิงทรนง อวสานอินทรีแดง นางสาวโพระดก เก้ามหากาฬ ชายชาตรี ร้อยป่า สมิงบ้านไร่ หัวใจเถื่อน สาวเครือฟ้า ทับเทวา สิงห์ล่าสิงห์ 5 พยัคฆ์ร้าย ทาสผยอง อินทรีมหากาฬ เดือนร้าว ดาวพระศุกร์ มือนาง พนาสวรรค์ ลมหนาว แสงเทียน พระอภัยมณี ปีศาจดำ พระลอ ทรชนคนสวย 7 พระกาฬ พยัคฆ์ร้ายใต้สมุทร ชุมทางเขาชุมทอง ไฟเสน่หา ฟ้าเพียงดิน เงิน เงิน เงิน เพชรตัดเพชร มนต์รักลูกทุ่ง ฯลฯ กล่าวกันว่าในช่วงนั้นมิตรมีรายได้เข้าบัญชีธนาคารเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 แสนกว่าบาท มิตรไปชำระภาษีเงินได้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคม

“ค่านิยม” ในสมัยโน้นหรือแม้ในปัจจุบัน การเป็นดาราขวัญใจประชาชนต้องเป็นคนของประชาชนเท่านั้น การมีคู่ครอง การเป็นผัว เป็นเมียในชีวิตจริง ถือเป็นเรื่องที่คอขาดบาดตาย ดารายอดนิยมทั้งหลายจะต้องปกปิดซ่อนเร้นคู่ชีวิตจริงอย่างมิดชิด กระแสความนิยมจะตกลงทันทีถ้ามีข่าวระแคะระคายว่าพระเอกคนนี้มีเมียแล้ว หรือนางเอกคนนี้มีสามีแล้ว

ปลาย พ.ศ.2511 ไม่ทราบว่าปีศาจร้ายตัวไหนดลใจให้มิตรตัดสินใจเข้าสู่การเมืองโดยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล ในนามกลุ่มหนุ่ม เมื่อ 1 กันยายน พ.ศ.2511 มิตรหาเสียงในเขตบางรัก ยานนาวา สัมพันธวงศ์ ป้อมปราบศัตรูพ่าย มิตรไม่ได้รับเลือก เสียใจมาก หลบไปเลียแผลพักผ่อนในป่าไทรโยค กาญจนบุรีพักใหญ่

เมื่อ พ.ศ.2512 มิตรขอพิสูจน์ความนิยมในตัวเองอีกครั้งตามคำขอของเพื่อนๆ โดยขยับขึ้นไปสมัคร ส.ส.เขตพระนคร เพื่อต้องการเข้าไปในสภา จะช่วยเป็นปากเสียงสนับสนุนกิจการภาพยนตร์ไทย ช่วยนักแสดงไทยให้เป็นอาชีพที่มั่นคง มีสวัสดิการ และได้รับการดูแล

คู่แข่ง ส.ส.ของมิตรในเขตไปหาเสียงกับประชาชนว่า ถ้ามิตร ชัยบัญชา ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เข้าสภา มิตรจะต้องเลิกแสดงหนัง มิตรเลยแพ้การเลือกตั้งอีกเป็นครั้งที่ 2 ทรัพย์สินเงินทองของมิตรละลายไปมากโข พร้อมกับบ้าน 1 หลังที่จำนองกับธนาคาร พระเอกมิตรเสียใจแบบซ้ำซาก

พ.ศ.2513 มิตรลงทุนสร้างภาพยนตร์ที่แสดงนำและกำกับการแสดงเองเป็นเรื่องแรก เรื่องอินทรีทอง ซึ่งเป็นภาพยนตร์ชุด “อินทรีแดง” เรื่องที่ 6 ที่มิตรแสดงในบท โรม ฤทธิไกร หรืออินทรีแดง โดยแสดงร่วมกับเพชรา ที่รับบทเป็น “วาสนา”

8 ตุลาคม 2513 การถ่ายทำอินทรีทองดำเนินไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งมาถึงฉากสุดท้าย ซึ่งถ่ายทำที่หาดดงตาล พัทยาใต้ ชลบุรี ในบทภาพยนตร์ อินทรีแดงจะต้องหนีออกจากรังของคนร้าย โดยการโหนบันไดเชือกจากเฮลิคอปเตอร์

มิตรตัดสินใจว่าจะแสดงฉากนี้ด้วยตัวเอง มิตรเกาะที่บันไดลิงของเฮลิคอปเตอร์ที่ต้องบินขึ้น โดยที่มิตรยังไม่ได้ใช้เท้าเหยียบบนบันไดลิง พระเอกตัวจริงต้องโหนตัวอยู่กับบันไดด้วยแรงแขนเท่านั้น มิตรกระเสือกกระสนหนีตายด้วยการตบเท้าเข้าหากันขณะเกาะบันไดลิงแกว่งในอากาศ แต่กองถ่ายทำไม่เข้าใจ นักบินเองก็มองไม่เห็นและยังดึงเครื่องขึ้นต่อไป ในจังหวะที่เครื่องเลี้ยวกลับเกิดแรงเหวี่ยงมหาศาล นาทีนั้นเชือกบาดข้อมือพระเอกจนเกือบขาด มิตรทนความเจ็บไม่ไหว ปล่อยตัวลงมาจากความสูง 300 ฟุต ร่างของพระเอกยอดนิยมขวัญใจชาวไทยกระแทกกับพื้นดินเลือดท่วมตัว

ผลการชันสูตรศพจากโรงพยาบาลศรีราชายืนยันว่าเขาเสียชีวิตทันที เพราะร่างกายเหลวน่วมไม่มีชิ้นดี เชือกบาดข้อมือเป็นแผลลึก 2 ซม. ยาว 8 ซม. กระดูกขากรรไกรข้างขวาหัก กระดูกโหนกแก้มซ้ายขวาหัก มีเลือดออกทางหูขวา กระดูกซี่โครงขวาหัก 5 ซี่ กระดูกโคนขาขวาหัก กระดูกต้นคอหัก โดยเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 16.13 น.

9 ตุลาคม พ.ศ.2513 สื่อไทยและต่างประเทศทุกแขนงพาดหัวการเสียชีวิตของมิตร ชัยบัญชา โดยตั้งสวดศพที่วัดแคนางเลิ้ง หลังจากครบ 100 วัน พิธีพระราชทานเพลิงศพจัดเมื่อ 21 มกราคม พ.ศ.2514 ซึ่งต้องย้ายจากวัดไปเผาที่วัดเทพศิรินทร์ เพราะสถานที่กว้างขวางกว่า

หลังจากมิตรเสียชีวิตในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องอินทรีทอง คุณเพชราก็ยังรับบทนางเอกภาพยนตร์ต่อเนื่องมาอีกหลายปี คู่กับสมบัติ เมทะนี, ไชยา สุริยัน, ลือชัย นฤนาท และพระเอกใหม่ ครรชิต ขวัญประชา, นาท ภูวนัย, ยอดชาย เมฆสุวรรณ, กรุง ศรีวิไล

ประมาณ พ.ศ.2515 คุณเพชราเธอเริ่มมีปัญหาเรื่องสายตา จักษุแพทย์รักษานัยน์ตาที่แสนหวานจนสุดความสามารถ และในที่สุดตาของเธอบอดสนิททั้งสองข้าง เมื่อราว พ.ศ.2520 ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่เธอแสดงคือเรื่อง ไอ้ขุนทอง หลังจากนั้นเธอก็ไม่ปรากฏตัวที่ไหนอีก หากแต่ทุกกิจกรรมที่เธอมีส่วนร่วมเล็กๆ น้อยๆ ในเวลาต่อมาล้วนแล้วแต่เป็นไปเพื่อการกุศลทั้งสิ้น ล่าสุด 13 กันยายน 2559 เธอไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้โรงพยาบาลจุฬาฯ ในเรื่องของการดูแลสุขภาพพร้อมกับคุณชรินทร์ นันทนาคร สามีที่ให้การดูแลเธอมาตลอด

เรื่องชีวิตส่วนตัวของคุณมิตร-เพชรา ผู้เขียนให้ความเคารพในสิทธิส่วนบุคคล ไม่ขอล่วงเกินครับ ที่ย้อนอดีตเรียบเรียงมาเล่าสู่กันฟังก็ด้วยชื่นชมท่านทั้งสองเป็นแบบอย่างของชีวิตที่ดีงาม มีเมตตา กรุณา มีไมตรีจิตกับสังคมมาโดยตลอด มีแต่คนยกย่องสรรเสริญครับ


พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก