19 ปี บนเส้นทางในวงการบันเทิงของนางเอกมากความสามารถ นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี หลายคนคงจะมองว่ามันคงจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ แต่แท้ที่จริงแล้ว น้อยคนที่จะรู้ว่ากว่านุ่นจะก้าวขึ้นมาเป็นนางเอกแถวหน้าของวงการบันเทิงได้ไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะมีความตั้งใจในการทำงานจึงทำให้นุ่นได้รับโอกาส ได้รับบทบาทที่ท้าทายความสามารถอยู่เสมอ จึงทำให้ นุ่น วรนุช มีผลงานละครออกมาสู่สายตาแฟนๆ ไม่ขาด และแต่ละเรื่องที่นุ่นแสดงก็ถือว่าประสบความสำเร็จแทบจะทุกเรื่องก็ว่าได้ เพราะเหตุนี้จึงทำให้นุ่นก้าวขึ้นสู่ทำเนียบนางเอกเบอร์ 1 ของช่อง 7 ได้ไม่ยาก
ด้วยความที่มีฝีมือการแสดงเข้าขั้น จึงทำให้นุ่นคว้ารางวัลทางการแสดงได้จากหลายเวที ไม่ว่าจะเป็นรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ในปี 2547 สาขานักแสดงนำหญิงดีเด่น จากละครเรื่อง แม่อายสะอื้น และในปีเดียวกันก็ได้รางวัลเมขลา สาขานักแสดงนำหญิงละครชีวิตยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง แม่อายสะอื้น ในปี 2548 ฝีมือไม้ลายมือของนุ่นก็ยังท็อปฟอร์ม เธอสามารถคว้ารางวัลจากชมรมวิจารณ์บันเทิง สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง เฉิ่ม และในปี 2556 นุ่นก็คว้ารางวัลนาฏราช สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง ทองเนื้อเก้า ซึ่งรางวัลเหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดีถึงฝีมือทางการแสดงของนุ่น วรนุช
แม้ทุกวันนี้นุ่นจะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว และยังเป็นนักแสดงอิสระไร้สังกัด แต่ นุ่น วรนุช ยังเป็นที่ต้องการของเหล่าผู้จัดละครอยู่เสมอ เพราะฝีมือทางการแสดงที่สามารถเรียกคนดูได้ วันนี้บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พูดคุยกับนางเอกมากความสามารถคนนี้ กับเส้นทางบนถนนสายมายานี้
กว่าจะมาเป็นนางเอกตัวแม่ของวงการบันเทิง ฝ่าฟันอะไรมาบ้าง?“ก็พิสูจน์ตัวเองเรื่องการแสดงมาเยอะนะคะ (หัวเราะ) แต่ที่สำคัญนุ่นจะขอบคุณโอกาสของตัวเองเสมอ ที่ทำให้นุ่นประสบความสำเร็จค่ะ เพราะนุ่นตั้งใจทำงานในสิ่งที่ตัวเองได้รับมอบหมายมา ไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหนที่ได้รับมา ส่วนในเรื่องของการทำงาน นุ่นก็ทำงานเหมือนพนักงานบริษัทเลย คือเรื่องของความตรงเวลาสำคัญมากที่สุด เพราะนุ่นมีความรู้สึกว่าทีมงานเค้ารับเงินเป็นตอน ถ้ายืดเวลาถ่ายออกไปนานแค่ไหน ทีมงานก็ได้เงินน้อยลงเท่านั้น เราต้องเห็นใจคนอื่นด้วยค่ะ และในฐานะนักแสดงเราก็ได้เงินมากกว่าทีมงานอยู่แล้ว เราต้องช่วยคนอื่นด้วย เราจะต้องไม่เห็นแก่ตัว นัด 7 โมงก็ต้องไป 7 โมง หรือถ้าจะต้องรอถ่ายก็จะรอ ไม่บ่นไม่โวยวาย นุ่นก็เป็นแบบนี้มาตลอด 19 ปี เพราะว่านุ่นเข้าใจในการทำงานค่ะ นุ่นตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเอง รับบทเป็นนักแสดง นุ่นอยากให้คนชื่นชมในผลงานของนุ่น ไม่ได้อยากให้คนดูดูละครแล้วถามว่านุ่นเล่นอะไรเนี่ย (ยิ้ม) นุ่นต้องพัฒนาตัวเองและฝีมือทางการแสดงไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่อยากหยุด ไม่อยากแสดงด้วยความสามารถเท่าเดิม อยากเล่นอะไรที่แปลกใหม่ ยากขึ้น และตอนนี้นุ่นมองว่าละครไทยก็มีพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ นะคะ นุ่นก็มีโอกาสได้ดูซีรีส์เกาหลี ดูเพื่อให้เห็นถึงความก้าวหน้าในเรื่องของบทในเรื่องของการถ่ายทำ หลายๆ อย่างมันช่วยได้ ซึ่งของไทยเองก็พัฒนาขึ้นเยอะมากอยู่แล้ว”
ช่วงนี้รับละครถี่ขึ้น?“มันเป็นจังหวะค่ะ อย่างที่บอกไปว่าถ้าทำงานแล้วไม่กินเวลาครอบครัวจนเกินไป นุ่นก็ทำได้ นุ่นก็เว้น เสาร์-อาทิตย์ หรือว่ามีอีเวนต์บ้างนิดหน่อย ก็ไปได้เพราะว่านุ่นชอบท่องเที่ยว (ยิ้ม) ซึ่งต๊อดก็ไม่ว่าอะไรเรื่องรับงาน เพราะว่านุ่นรับทีละเรื่องค่ะ อย่างละครของทรูก็ให้คิวแค่ 2 วัน พิษสวาทก็ 2 วัน ถ่ายไม่เยอะนะ นิดหน่อย ไม่เต็ม 7 วัน มีเวลาพัก”
เล่นเรื่องไหนละครเรื่องนั้นก็ดัง?“คือละครจะดังหรือไม่ดัง ไม่ได้มีแค่นุ่นคนเดียวที่จะทำให้ละครประสบความสำเร็จนะคะ แต่มีนักแสดงอีกหลายคน ผู้กำกับ ผู้จัด ทีมงาน ที่เค้าช่วยทำให้ละครเรื่องนั้นๆ ประสบความสำเร็จค่ะ และเวลานุ่นทำงานก็ยอมรับว่าอยากจะทำให้ละครเปรี้ยง อยากให้คนชอบในทุกๆ เรื่องที่เราเล่น แต่เราก็ทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ที่สุดค่ะ แต่ว่าผลตอบรับจะเป็นอย่างไร คนดูเป็นคนตัดสิน เพราะมันเป็นสิ่งที่นอกเหนือที่เราจะทำได้แล้วค่ะ เพราะฉะนั้นจะเปรี้ยงหรือไม่เปรี้ยงตรงนี้คนดูเป็นคนตัดสินค่ะ (ยิ้ม) กว่าจะมีฝีมือทางการแสดงที่หลายๆ คนชื่นชมนุ่นก็ต้องผ่านการฝึกฝนเรียนรู้มาไม่น้อย กับ 19 ปีในการทำงานในวงการ นุ่นไม่ได้ถูกชมทุกครั้งนะคะ เพราะบางเรื่องก็โดนคนดูติ บางเรื่องก็ชม ก็เอาคำติชมมาเป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง”
มันยากขึ้นมั้ยกับการเลือกบทแต่ละบทในการแสดง?“มันไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ นุ่นมองว่ามันเป็นจังหวะของชีวิตมากกว่าค่ะ เหมือนอยู่ที่หนึ่ง แล้วย้ายไปอยู่อีกที่หนึ่ง ก็ได้รับบทบาทอะไรใหม่ๆ ได้เล่นอะไรที่ใหม่ๆ นุ่นเชื่อเรื่องของจังหวะและโอกาสค่ะ ในทุกๆ อย่างมันเป็นไปตามจังหวะของมัน แต่ถามว่าเลือกมั้ย ก็ต้องดูว่าเรื่องไหนที่เราชอบด้วยอ่านบทแล้วชอบก็โอเคค่ะ อย่างเรื่องระเริงไฟ ถึงแม้จะไม่ใช่นุ่นในตอนแรก แต่เมื่อนุ่นได้อ่านบทแล้วก็ชอบ อ่านบทแล้วสนุก ก็เลยรับค่ะ เอาความชอบเป็นหลัก และพอรับเล่นแล้วจะทำให้เราไม่มีความกังวลหรือความเครียด เพราะมันคือความสนุก นุ่นสนุกกับการทำงานค่ะ”
เพราะฝีมือทางการแสดงดี เล่นเรื่องไหนก็เปรี้ยง หลายๆ ช่องเริ่มแย่งตัวหรือยัง?“ก็มีค่ะ เพราะว่านักแสดงอิสระตอนนี้มันยังมีไม่เยอะนะคะ ซึ่งก็มีผู้ใหญ่หลายๆ คนติดต่อมา แต่นุ่นก็ขอดูเรื่องเวลาและความเหมาะสม หลายๆ ที่ก็ติดต่อมา ถ้าบทสนุก ไม่กระทบกับเวลาของครอบครัว นุ่นก็ยินดีรับค่ะ”
เส้นทางชีวิตในวงการของนุ่นโรยด้วยกลีบกุหลาบมั้ย?“ไม่หรอกค่ะ (ยิ้ม) คือถามว่ามันมีกุหลาบมั้ย มันก็มีแบบกุหลาบ น้อยๆ กลีบน้อยๆ บางๆ บ้าง กลีบหนาๆ ก็มีบ้างผสมๆ กันไปตามจังหวะของชีวิตค่ะ ซึ่งชีวิตคนมันจะมีขึ้นๆ ลงๆ เป็นธรรมดาอยู่แล้ว มันคงไม่มีใครที่จะอยู่ข้างล่างสุดตลอดไป หรือจะอยู่สูงสุดตลอดไปค่ะ ซึ่งเราจะต้องเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ในตรงนี้ก่อน คือนุ่นโชคดีที่นุ่นได้มีโอกาสเข้าวัดมาตั้งแต่เด็กๆ พอโตขึ้นมาก็มีโอกาสพูดคุยเรื่องธรรมะกับพระหลายๆ รูปที่นับถือ สิ่งที่มันได้มาอย่างคือจิตใจของเรา ถ้าเราคิดดี มันก็จะส่งผลดีๆ ให้กับเรา ทำให้นุ่นไม่ยึดติดกับชื่อเสียง ซึ่งจริงๆ ตั้งแต่แต่งงานนุ่นก็ทำใจแล้วค่ะว่าวันหนึ่งชีวิตในวงการมันจะต้องตกนะ เพราะถ้าเทียบในสมัยก่อน ถ้าแต่งงานแล้วคือหมดความนิยมแล้ว เราก็ต้องเตรียมใจ แต่ถามว่า ณ วันนี้คนดูเค้าแยกออกค่ะ นุ่นถือว่านุ่นโชคดีที่การแต่งงานไม่ได้มีผลทำให้งานละครของนุ่นมันดร็อปลง หรือว่ามันแย่ ไม่มีคนดู ไม่มีคนอิน เพราะคำตอบมันอยู่ที่มาตรฐานการแสดง คุณภาพของงานเราที่เราถ่ายทอดมันออกมามากกว่า จะไม่โทษคนดูว่าชอบหรือไม่ชอบการแสดง เราต้องดูที่ตัวเองว่าเราสามารถทำให้คนดูชอบกับสิ่งที่เราทำได้หรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่นุ่นยึดเอาไว้ในการทำงานของนุ่นค่ะ”
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012