Inside Dara
‘แพนเค้ก’อัพเดตชีวิต ช่วงวันอยู่ติดบ้านในรอบ 15 ปี

- ปกติไม่ค่อยได้อยู่ติดบ้าน เพราะมีงานให้ต้องออกนอกบ้านตลอด สำหรับนางเอกสาวเรื่องราวดีๆ ‘แพนเค้ก’เขมนิจ จามิกรณ์

ล่าสุดด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ต้องอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เรียกว่าอยู่บ้านมากที่สุดในรอบ 15 ปี

วันนี้จังหวะดี กริ๊งกร๊างทักทายถามสารทุกข์สุกดิบ อัพเดตชีวิต ณ ปัจจุบัน ทั้งเรื่องงานและความรักของสาวแพน

• เป็นไงบ้าง อยู่บ้านหยุดเชื้อ แต่ดูกิจกรรมก็ยังแน่นตลอด?

แพนเค้ก - “(หัวเราะ) ใช่ค่ะ พอเริ่มปรับตัวได้ก็เริ่มคิดว่าจะทำอะไรดี เริ่มจากจัดของ ออกกำลังกาย ทำต้นไม้ คุณแม่กับน้องสาวทำหมูก้อนเมฆ น้องสะใภ้ทำเกี่ยวกับแมสก์ เริ่มรู้สึกว่าอยู่บ้านแล้วมีความสุขมากขึ้น คือมันมีความสุขอยู่แล้วแหละ เพียงแต่มีกิจกรรมอะไรที่เราทำด้วยกันเยอะขึ้น หาคอนเทนต์ทำทุกวัน อาจมีรีวิวอาหาร มีเสื้อผ้าอะไรต่างๆ ที่เราได้มาใส่เดินแบบแฟชั่นโชว์ของเราอยู่บ้าน”

• คลิปนั้นหลายคนแซวว่าคิดถึงแคตวอล์กจนทนไม่ไหว?

แพนเค้ก - “อยากเดินค่ะ ต้องจัดนิดหนึ่ง มีชุดมาพอดี เห็นพี่อาร์ต (อารยา) ใส่ เลยบอกว่าขอใส่ชุดนี้หน่อย แต่ยังไม่มีงานออกไปไหนนะ พี่อาร์ตบอกไม่เป็นไร ใส่อยู่บ้านสวยๆ เราก็เลยอ่ะได้ จัดไป”

• ก่อนจะมาอยู่บ้านยาวๆ แอบเครียดไหม เพราะด้วยความที่แพนเค้กชีพจรลงเท้ามาก?

แพนเค้ก - “ปกติเป็นคนชอบอยู่บ้าน แต่เพราะไม่มีเวลาได้อยู่ แต่พอได้มาอยู่บ้านจริงๆ ก็รู้สึกว่าจะทำอะไรดี มีสิ่งที่อยากทำเต็มไปหมด ดูซีรีส์ ออกกำลังกาย อยู่กับลูกๆ (น้องหมา) แต่พอถึงเวลาอยู่จริงๆ สิ่งที่อยากทำแทบไม่ได้ทำ เพราะมีอย่างอื่นเข้ามาให้ได้ทำแทน แม่ก็จัดสวนทำต้นไม้ ย้ายของ มีกิจกรรมต้องช่วยกันทำเกือบทุกวัน แรกๆ รู้สึกเหมือนกันว่าโอเคใช่มั้ย ไม่

ต้องออกไปทำงาน อยู่แต่บ้าน แต่จะมีบางงานที่ปรับมาทำออนไลน์แทน อย่างเรื่องเรียน ก็เลยเหมือนแค่ปรับการใช้ชีวิต ถ้าต้องออกไปข้างนอกจริงๆ ก็รีบไปรีบกลับ เลยเป็นอะไรที่โอเค ไม่ได้รู้สึกหดหู่หรืออึดอัด อาจแปลกตรงที่ได้เจอกันพร้อมหน้าทุกวัน”

• ตั้งแต่เข้าวงการ นี่คือช่วงที่ได้อยู่บ้านมากที่สุดไหม?

แพนเค้ก - “ในรอบ 15 ปีค่ะ (หัวเราะ) ไม่เคยอยู่บ้านเต็มๆ วันแบบไม่ออกไปไหนเลย ถึงจะมีวันหยุด แต่เราก็รู้สึกอยากออกไปข้างนอกไปซื้อของทำอะไรบ้าง แต่พอห้างปิด ร้านอะไรก็ไปไม่ได้ ทุกอย่างพอเป็นออนไลน์หมดเราก็ต้องปรับตัวในการใช้ชีวิตให้ทัน แล้วอยู่บ้านทั้งวัน ตื่นมาให้ข้าวลูก ออกกำลังกาย วนเวียนอยู่จนจบวัน พออยู่บ้านจริงๆ เวลามันผ่านไปเร็ว เหมือนยังทำอะไรแทบไม่ทันเลย”

• ถามถึงผลงานซีรีส์ “Mother...เรียกฉันว่าแม่” ฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง?

แพนเค้ก - “ดีมากค่ะ เกินคาด เพราะเป็นเรื่องแรกของแพนที่ออนในไลน์ทีวี ถือว่าใหม่มากกับการดูในไลน์ทีวี แต่ก็รู้สึกว่ามันเข้าถึงและคนก็มีโอกาสได้ดูกันเยอะมาก แล้วเป็นซีรีส์ที่ทำมาหลากหลายเวอร์ชั่นในหลายประเทศ ได้รับการตอบรับที่ดี พอเป็นเวอร์ชั่นไทยก็แอบคิดว่าคนจะดูแนวนี้หรือเปล่า เรื่องเกี่ยวกับครอบครัว สะท้อนสังคม เรื่องแม่และเด็ก ความรุนแรง แต่เหมือนคนได้ตั้งใจดูจริงๆ จะมีฟีดแบ็กกลับมาถึงเราก็เป็นกำลังใจที่ดีมากค่ะ”

• ตอนแรกคนนึกไม่ออกว่าแพนเค้กจะเป็นแม่ได้ยังไง แต่เล่นออกมาให้คนเชื่อได้ ศึกษาจากไหน?

แพนเค้ก - “(หัวเราะ) สงสัยเลี้ยงลูกหมาเยอะมั้งคะ จริงๆ ก็เห็นจากแม่ตัวเองด้วย แล้วมีหลานด้วย พอไปปรับเข้ากับบท มันยากตรงที่ว่าถ้าเราไม่เชื่อในสิ่งที่เราเล่น คนก็อาจไม่เชื่อเหมือนกัน แต่น้องมากิที่แพนเล่นด้วย เก่งมาก น้องให้ความเชื่อมั่นในตัวเราว่าเราเป็นแม่เขา พอมองหน้าเขา เราเชื่อเลยว่าเขาคือคนที่เราอยากดูแลปกป้อง พอเชื่อกัน เวลาเล่นเลยไปได้อย่างโอเค”

• อีกหนึ่งผลงาน กับภาพยนตร์ “พจมานสว่างคาตา” หลายคนดูทีเซอร์แล้วตกใจว่าแพนเค้กเล่นแบบนี้เลยเหรอ?

แพนเค้ก - “แพนไม่รู้ว่าคนจะรู้สึกว่าเปลี่ยนมั้ย แต่แพนรู้สึกว่าเป็นอะไรที่ใหม่และท้าทายมาก หนังพี่พชร์ อานนท์ เป็นอะไรที่ เอาจริงๆ กลัว เพราะรู้สึกว่าเกินความคาดหมาย ไม่รู้ว่าพี่พชร์จะทำแนวไหน มีคนพูดเยอะแยะมากว่า...ระวังนะ หนังพี่พชร์ไม่มีบทนะ เราก็แบบเอ้า! ต้องลองดู พอเล่นไปก็เป็นอะไรที่เกินความคาดหมายตลอด แต่ได้เรียนรู้จากพี่ๆ ในการทำงานแนวคอม เมดี้ ซึ่งมันได้ปลดปล่อย ค่อนข้างหลุดโลกดีค่ะ จริงๆ จะฉายต้นเมษาฯ แต่พอโรงหนังปิดก็เลยต้องขยับให้พ้นช่วงนี้ไปก่อน”

• คำพูดคำจาในหนัง ฝึกนานไหมกว่าจะเข้าปาก?

แพนเค้ก - “จริงๆ สะใจดีเหมือนกันนะคะ (หัวเราะ) อยากพูด แต่ด้วยไม่ค่อยได้พูดอะไรแบบนี้ แต่จะเห็นจากพี่ๆ ที่เล่นด้วยกัน เราจะดูวิธีการพูด จังหวะการพูด และน้ำเสียงเขาว่าฟีลประมาณไหน จากนั้นก็เอามาปรับแล้วก็ลองพูดดู ซึ่งพี่พชร์จะช่วยดูตลอด รวมถึงพี่โก๊ะตี๋ พี่จตุรงค์ พี่เอกชัย อาจารย์ยิ่งศักดิ์ คือน่ารักมาก เราก็จะดูสไตล์ของแต่ละคน วิธีการเล่นของเขาว่าจะไปในทิศทางไหน”

• 15 ปีในวงการ คงเป็นครั้งแรกที่ได้เล่นอะไรที่ปลดปล่อยที่สุดแล้ว?

แพนเค้ก - “ปลดปล่อยมาก เอาเป็นว่าอยากทำอะไรก็ทำ คิดให้สนุก แต่แรกๆ ทำงานก็เครียด น้ำตาร่วง เพราะไม่เข้าใจโจทย์ว่าควรจะขนาดไหน ร้องไห้แต่อันนี้พี่พชร์ไม่รู้นะคะ (ยิ้ม) คือมันจะทำยังไง อัดอั้นมาก แต่พอปรับตัวแล้วก็โอเคสนุกไปกับเขา ทำตามสิ่งที่เขาอยากให้เป็น ก็โอเคขึ้นค่ะ”

• แอบคาดหวังไหม?

แพนเค้ก - “หนังพี่พชร์เขามีกลุ่มที่ชัดเจน ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องมากน้อย แต่คิดว่าเป็นหนังที่คนดูแล้วคงมีความสุข ได้เสียงหัวเราะ คาดหวังแค่อยากให้คนรู้สึกว่าเราได้ลองงานชิ้นใหม่ที่ท้าทาย เป็นชิ้นงานที่เราต้องปรับเปลี่ยนและปรับตัว ไม่อยากให้คาดหวังว่าขนาดไหนจะต้องขนาดไหน แต่อยากให้สนุกไปกับเรื่อง แล้วพี่พชร์ใช้ชื่อแพนในหนังเขามา 8 ปี เพราะฉะนั้นเราต้องกลับมาอยู่ในหนังเขาด้วย พี่พชร์ให้โอกาสมากค่ะ”

• จริงๆ อยากให้คนส่วนหนึ่งเปิดใจด้วยไหม เพราะอาจมีบางคนที่รู้สึกไม่อยากให้แพนเค้กไปเล่นหนังพี่พชร์?

แพนเค้ก - “ใช่เลย เปิดใจ อยากให้คนได้เห็นว่าเราไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่การที่เรามาทำในสิ่งที่เขาไม่เคยเห็น ไม่ได้แปลว่าไม่ดีหรืออะไร อยากให้ลองดูชิ้นงานใหม่ๆ ในฐานะนักแสดงที่มีโอกาสได้ทำ อาจต้องมองข้ามกฎระเบียบหรือสิ่งที่เคยคิดว่าเราจะต้องเป็นยังไงไป แต่ให้ดูตามจุดประสงค์ของการทำงาน เพื่อความสุขเพื่อความสนุก น่าจะได้รีแล็กซ์กันมากกว่า”

• สุดท้ายให้กำลังใจทุกคนที่ต้องร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน?

แพนเค้ก - “อยากส่งกำลังใจ แพนเชื่อว่ามีทั้งความเครียด ความเหนื่อย และอีกหลายๆ คนที่ต้องเผชิญกับผลกระทบต่างๆ ที่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แต่เราก็อยากให้สิ้นสุดเร็วที่สุด ขอให้ทุกคนอดทน เชื่อว่าจะผ่านไปได้อย่างเร็ว มีอะไรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ต้องเอื้อเฟื้อในสิ่งสามารถทำได้คนละเล็กคนละน้อย แล้วก็ดูแลตัวเองในเบื้องต้น อย่างน้อยไม่ต้องคิดว่าจะช่วยอะไรที่มากมาย แค่อยู่บ้านให้มีความสุข ดูแลตัวเองให้แข็งแรง ดูแลคนในครอบครัว แพนคิดว่าทุกอย่างก็น่าจะลดลงไปตามลำดับ ขอให้ไปในทิศทางที่ดีในเร็วๆ นี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนค่ะ”

‘พี่หมี’คือสมาชิกในครอบครัว-รัก9ปีสุดแฮปปี้

มาถึงเรื่องหัวใจของสาว ‘แพนเค้ก เขมนิจ’ กับ ‘สารวัตรหมี’ พ.ต.ท. ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์ หวานใจ ที่คบกันมา 9 ปีแล้ว ช่วงนี้แม้จะเป็นช่วง Social Distancing แต่ก็ยังเห็นพี่หมีมาออกกำลังกายด้วยกันที่บ้านสาวแพน

“คือทุกคนดูแลตัวเองกันในเบื้องต้นหมดนะคะ แต่จะมีวันที่พี่หมีเลิกงานก็แวะมาที่บ้าน มาออกกำลังกาย ทานข้าว และตัดผม ทำกิจกรรมต่างๆ นานา บ้างเป็นระยะประปรายค่ะ” แพนเค้กกล่าว

หลายคนตกใจที่แพนกลายเป็นช่างตัดผม เคยตัดผมให้ใครมาก่อนไหม “ไม่เคย นี่ครั้งแรกค่ะ (หัวเราะ) ก่อนหน้านี้อาจเคยเล็มๆ ให้ แต่ไม่ได้ตัดจริงจัง ครั้งนี้ตัดทั้งหัวเลย กดดันมาก ตัดไปก็บีบไหล่พี่หมีไป เกร็งไปหมด แต่ก็ดีเป็นประสบการณ์ใหม่ค่ะ”

ช่วงนี้อยู่บ้านกันนิ่งๆ ได้มีโอกาสคุยกันเรื่องอนาคตบ้างไหม ดาราสาวตอบ “ไม่ได้มีเรื่องนั้นเลยค่ะ ส่วนมากจะเป็นเรื่องเรียนปริญญาเอกมากกว่า ใช้เวลาในช่วงนี้รีบทำงานกัน เรื่องอื่นก็เป็นการดูแลทั่วไป พี่หมีก็ดูแลคุณพ่อคุณแม่ อย่างที่บ้านแพนเองก็มีปรับโน่นปรับนี่ พี่หมีก็เข้ามาแนะนำช่วยดู ในเรื่องอื่นๆ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรค่ะ”

เรื่องเรียนปริญญาเอกถึงไหนแล้ว “โค้งสุดท้ายแล้วค่ะ แพนเรียนคณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กำลังทำดุษฎีนิพนธ์อยู่ ต้องรีบตามงาน ทำวิจัยต่างๆ เรียกว่ากำลัง หัวฟู อันนี้ใช้เวลาเรียนมาเกือบเต็มแม็กซ์ น่าจะชนสุดแล้ว ประมาณ 5-6 ปี แล้วค่ะ”

ใกล้จะเป็นด๊อกเตอร์แพนเค้กแล้ว “พยายามอยู่ค่ะ (หัวเราะ) สมมติถ้าทุกอย่างลุล่วงไปได้ด้วยดีแล้วก็ขอให้เรียกแพนเหมือนเดิมนะคะ ไม่ต้องด๊อกเตอร์ก็ได้ จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องใหม่ในชีวิตเหมือนกัน”

ถ้าเรียนจบแล้วจะมีลุ้นเรื่องแต่งงานต่อเลยไหม “ติดตามกันนะคะ (หัวเราะ) อาจจะเป็นสเต็ปต่อไปค่ะ เดี๋ยวเราก็คงมองกัน หมายถึงว่าทุกวันนี้เราก็โอเค แฮปปี้ในเวย์แบบนี้ที่อยู่ดูแลกัน ถึงตอนนั้นค่อยมองกันอีกสเต็ปหนึ่งไป ทุกวันนี้พี่หมีก็เป็นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ดูแลกันในทุกเรื่อง คนคงจะเห็นกันจนเป็นภาพคุ้นตาว่าเราดูแลกันแบบนี้มาหลายปี เราสบายๆ ในมุมแบบนี้ ไม่มีใครเร่งรัดหรืออะไร เมื่อทุกอย่างโอเคเดี๋ยวว่ากัน”

คบกันมากี่ปีแล้ว “9 ปีแล้วค่ะ ค่อยๆ ไปกันค่ะ แพนเองเป็นคนที่ชอบอยู่กับปัจจุบัน ไม่ค่อยมีแพลนอะไรล่วงหน้ามากมาย ซึ่งเรารู้สึกว่าทำวันนี้ทุกอย่างให้ดีที่สุดมันก็น่าจะแฮปปี้กว่า แต่วันข้างหน้าเดี๋ยวเราค่อยแพลนเป็นสเต็ปไป”

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล