ซานิเหรอ ก็เป็นคนที่ไม่มีสาระ แต่รู้จักการใช้ชีวิต รู้ว่าจะต้องอยู่แบบไหนที่เราจะสบายหรือแฮปปี้ในจุดที่เราต้องการ อะไรที่มันมากเกินไปหรือมันน้อยเกินไปมันไม่ดี มันต้องอยู่ในจุดที่มันพอดีแล้วจะมีความสุข
นักล่าฝันคนนี้ เธอเป็นคนที่มีบุคลิกชัดเจนไม่เหมือนใคร ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจกับหน้าที่การงานทำให้ “ซานิ-นิภาภรณ์ ฐิติธนการ” มีหลายบทบาทผ่านหน้าจอทีวีให้เราได้เห็น แต่ตอนนี้กำลังเป็นที่กังขาในเรื่องความสวยที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนของผู้หญิงคนนี้ ทำเอาหลาย ๆ คนคาดเดากันไปว่าเธอกำลังมีความรัก และคำถามต่อมาคือ... คนรักของเธอผู้หญิงหรือผู้ชาย? ซึ่งคำถามที่ทุกคนอยากรู้ วันนี้เรามีคำตอบมาให้ เรียกว่าเปิดใจคุยกับเธอทุกเรื่องราวของความรัก รวมถึงมุมมอง ทัศนคติในการใช้ชีวิตแบบซานิ เอาล่ะ อย่าเสียเวลากันเลย ไปคุยกับเธอคนนี้สาวแซ่บสุดซอยของเรา “ซานิ”
ดูสวยขึ้น มีความรักหรือเปล่า?“ไม่ค่ะ อาจจะเป็นเพราะไม่สบาย แล้วก็ผอมลงด้วย เลยทำให้คนคิดว่าเราลดความอ้วนเพราะอยากสวย แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย เราเปลี่ยนพฤติกรรมการกินใหม่ จากเมื่อก่อนเคยกินดึกมากแล้วนอนเลย หรือกินไม่เป็นเวลา ระบบเผาผลาญในร่างกายมันทำให้เราเป็นโรคกรดไหลย้อน ทำให้เราทรมานเวลาจะกิน ทำให้เราต้องเปลี่ยนวิถีการกินใหม่จากเมื่อก่อนเรากินดึก นอนแล้วอ้วน หรือของบางอย่างที่คนเป็นโรคนี้จะกินไม่ได้ เช่น น้ำอัดลม ขนมบางอย่าง หนูก็ต้องหยุด เลยทำให้ผอมลง หลายคนมองว่าตั้งใจลดน้ำหนักหรือเปล่า ที่จริงมันไม่ใช่เลย เกิดจากไม่สบายมาก่อน”
นึกว่ามีความรัก?“ไม่มี เหี่ยว”
ปิดกั้นหรือเปล่า?“ไม่นะ แต่รู้สึกว่ามีเพื่อนสนุกกว่า เพราะเราทำงานแบบนี้ ถ้าเรามีแฟนมันก็ เกรงใจ จะทำอะไรก็เกรงใจไปหมด เรื่องเวลาอะไรอย่างนี้ สมมุติว่าเราเหนื่อยมากๆ แต่วันหยุดเราอยู่บ้านไม่ได้แล้ว ต้องให้เวลาเขา แต่ถ้าเราไม่ได้มีใครก็มีเวลาได้ดูแลตัวเอง คนก็จะเข้าใจว่าโอเคเราไม่ต้องไปเทคแคร์ใครเยอะ เราอาจจะเทคแคร์ตัวเองได้มากกว่า ก็เลยรู้สึกว่าการมีเพื่อนสนุกสุดแล้วสำหรับตอนนี้”
ปิดตัวเองหรือเปล่า?“หนูไม่ได้ปิดนะ แค่รู้สึกว่ามีใครเข้ามาก็ไม่ได้ช่วยให้แบบว่าเราดูแลตัวเองได้มากขึ้น ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเรายังดูแลตัวเองให้ดีไม่พอ ถ้ามีมันจะยิ่งลำบากกันเข้าไปใหญ่ ตอนนี้ก็เลยขอพักก่อน แต่ก็ไม่ได้เข็ดกับความรัก ความรักก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค”
แล้วสวยขึ้นขนาดนี้ มีหนุ่ม ๆ เข้ามาจีบไหม?“ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาจีบนะ เพราะเขาคงเดาทางไม่ถูกว่าหนูเป็นเพศไหนกันแน่ เหมือนยังลังเลอยู่ ส่วนใหญ่ที่เข้ามาจะเข้ามาชมมากกว่า สวยขึ้นนะ แต่เหมือนลองเชิงว่าตกลงเราชอบยังไง เราก็บอกเหมือนเดิมพี่ เหมือนรู้แล้วว่าเราไม่เปิดเผยเต็มที่ว่าเราจะยังไง ถามว่าปิดกั้นตัวเองไหม มันก็ส่วนหนึ่งนะ เรารู้สึกว่าเรายังไม่ได้อยากที่จะศึกษาใคร ถ้าเกิดเราคิดที่จะเริ่มศึกษาใครสักคน เราก็ต้องเปิดโอกาสให้เขาด้วย ไม่งั้นมันก็เหมือนเราเห็นแก่ตัว เราเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาแต่เราปิดกั้นตัวเองเหมือนเดิม ก็เลยตัดซะตั้งแต่ต้นลมเลยว่าคนเข้ามาก็ขอให้เป็นพี่เป็นน้องกันไป”
แล้วตอนนี้เลือกได้ยังว่าจะเอายังไง ไปทางไหน?“เอาตรง ๆ นะยังเลือกไม่ได้เลย เพราะไม่รู้ เพราะด้วยความที่เรายังไม่ตัดสินใจว่าเราจะไปทางไหน จะเปิดอะไรตรงไหนก็เลยไม่รู้ว่าจะยังไง เลยไม่กล้าตอบใคร บางคนคิดว่าที่ตอบอย่างนี้เรียกเรตติ้งตัวเองหรือเปล่า ไม่ใช่มันตอบไม่ได้ในอนาคตจะเป็นยังไง อย่างที่ถ้าหนูคบผู้ชาย คนก็อาจจะบอกว่าไหนมันบอกว่ามันไม่ชอบผู้ชายไง พอคบผู้หญิงก็อ้าวไหนมันบอกมันไม่ได้เป็นทอมไง มันก็จะมีข้อกังขาว่าเราโกหก แต่จริง ๆ แล้วหนูคลิกกับทุกเพศทุกวัย ขอแค่คนนั้นมาในเวลาที่มันเหมาะ มาในเวลาที่เราต้องการในเวลาที่เราเปิดใจ แล้วคนไหนเข้ามาแล้วมันใช่กับเราที่สุด คนไหนเป็นจิ๊กซอว์ที่ต่อแล้วตรงที่สุด จะชายหรือหญิงค่อยว่ากันอีกที”
ที่บ้านรับได้เหรอ?“รับได้นะ แต่อย่างที่บอกส่วนใหญ่แล้วเขาเห็นเราทำงานตรงนี้ เขาก็ไม่ได้อยากให้เราคบใครจริงจังมาก เพราะเขารู้สึกว่าเราไม่ได้มีเวลาขนาดนั้น ตัวซานิเองรู้สึกว่าแค่เรามีเพื่อน แล้วเรารู้สึกเหงาจริง ๆ เรามีเพื่อนเราก็หายเหงา เอาจริง ๆ นะ มันไม่ได้ตอบโจทย์ว่ามีความรักแล้วชีวิตจะมีความสุข”
เชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่า?“เชื่อนะ หนูเชื่อว่าคนเรามันมีวันที่เดินผ่านกันมาก่อน แล้วก็มีโอกาสเดินกลับมาเจอกันอีกทีหนึ่ง เชื่อเหมือนกันค่ะ แต่ก็ยังไม่เคยเห็นว่าพรหมลิขิตมันทำให้ใครมาเจอกัน แต่ถ้าถามว่ามันมีจริงไหม เชื่อว่ามันมีจริง”
ถูกจับตามองเรื่องนี้ อึดอัดไหม?“เรื่องความรักใช่ไหม หนูว่าไม่นะ หนูตอบจนชินว่าตั้งแต่ปีแรกแล้ว ด้วยความที่ลุคมันชัดเจนมาตั้งแต่ต้นแล้ว ตอบจนคนรู้หมดแล้วว่าทางมันไม่ถูก คนจะเรียกว่าไส้เดือนหนูก็ยอมรับ ไม่โกรธ มันเป็นคำที่เรารู้สึกว่ามันตลก น่ารัก ซานิมองว่าความรักปัจจุบันนี้หลากหลายรูปแบบไม่ได้มีแค่ชายกับหญิงแล้ว โลกมันเปิดกว้างมากขึ้นจนเราไม่ได้รู้สึกซีเรียสกับเรื่องนี้แล้ว เพราะเราเป็นแบบนี้ เราชัดเจนของเรา”
อย่างในเรื่องการเลือกเพศ มันเหมือนเป็นดาบสองคมไหมที่เราเปิดเผยตัวตนมากเกินไป?“หนูว่าไม่นะ เด็กสมัยนี้เขาเข้าใจโลกมากขึ้น เขาเข้าใจด้วยตัวเขาเองด้วย ธรรมชาติของแต่ละยุคมันเปลี่ยนไป สมัยก่อนในยุคพ่อกับแม่เราถ้ามีเพศเหล่านี้เกิดขึ้นมาก็คงงงกันว่าอะไร แต่ทุกวันนี้พูดว่า เก้ง กวาง ขึ้นมานี่ธรรมดามาก ทุกวันนี้เขามีสิทธิทางสังคมไม่ด้อยไปกว่าชาย หญิง ทุกคนทำงานมีหน้ามีตาในสังคมด้วย ยกตัวอย่างรุ่นพี่หนูคือพี่อ๊อฟ-ปองศักดิ์ เขาไม่ใช่คนปิดตัวเป็นคนที่กล้าเปิด แล้วทุกคนก็รักเขา ในสิ่งที่เขาเป็น แล้วเขาก็ไม่ได้ปิดบัง เขาเป็นคนจริงใจ แต่ถ้าเรามาแอ๊บไม่ได้เป็นนะ แล้วสุดท้ายไปเปิด คนจะไม่รัก คือเปิดมาเลยดีกว่า เป็นตัวเอง แมน ๆ กล้า ๆ มันเลย ทุกวันนี้คนรับได้หมดแล้ว เขาไม่เครียดกันแล้ว หนูว่าเป็นอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอันนี้เป็นสิ่งที่หนูพูดประจำ บอกน้อง ๆ แฟนคลับทุกคน”
แพลนตัวเองไว้ยังไงบ้างกับอนาคตครอบครัว จะแต่งงานมั้ย จะมีลูกหรือเปล่า?“อยากมีลูก แต่ไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีสามี รู้สึกว่าชีวิตเหมือนเราดูแลใครไม่เป็น กลับบ้านหนูก็นอนแล้ว หน้ายังไม่ล้างเลย ถ้ามีสามีก็ต้องดูแลเขา ต้องทำกับข้าว หลายคนบอกว่าถ้าไม่ทำก็ไปกินข้างนอกสิ มันจะกินข้างนอกได้ทุกวันเลยเหรอ อย่างน้อยใน 1 อาทิตย์มันต้องมีบ้างแหละ ต้มมาม่า ทอดไข่หน้าที่ของคนที่จะเป็นภรรยาคนได้ แต่หนูรู้สึกว่าเรายังไม่ได้พร้อมที่จะทำอย่างนั้น”
อยากมีลูก ชอบเด็กเหรอ?“ชอบมาก รักเด็กมาก ต่อให้เขางอแงแค่ไหนรับมือได้ ไม่เป็นไรลูก หลายคนบอกว่าคาแรกเตอร์เราน่าจะตบเด็กมากเลยนะ ลุคไม่ให้ แต่เรารัก งอแงแค่ไหนก็รัก เพื่อนหนูเป็นกุลสตรีมากแต่รำคาญเด็ก แต่หนูอยู่ได้ เรามีวิธีปราบเรารู้ว่าเราจะต้องทำยังไง มีวิธีที่จะทำให้เขาอยู่กับเรายังไง เราอยากมีลูก”
คิดอยากจะไปขอน้ำเชื้อเหมือนในละครไหม?“ตอนแรกคิดแต่ไม่รู้จะไปขอใครน่ะสิ ถึงขั้นไปปรึกษาเพื่อนเลยนะ ว่ามีเพื่อนฝรั่งที่เป็นเกย์ไหม เพื่อนก็บอกว่าเคยไปอ่านหนังสือพวกวิชาการ ถ้าเราไปขอน้ำเชื้อคนที่เป็นเกย์มา ลูกมีสิทธิที่จะเป็นเกย์เหมือนกัน เขาบอกว่ามันมียีนของความเป็นผู้หญิงอยู่ในนั้น แต่ถามหนู หนูก็ไม่ซีเรียสนะถ้าลูกหนูจะออกมาเป็นเกย์ มันเป็นไปตามความต้องการที่เราอยากได้ เราเลือกตุ๊กตาเองได้ แต่ผู้ชายคนไหนเขาจะมาให้”
ชอบเด็กผู้หญิงหรือผู้ชาย?“ชอบเด็กผู้หญิงเพราะไปไหนมาไหนกับเราง่าย หนูเลี้ยงลูกก็เหมือนผู้ชายอยู่แล้ว ขอผู้หญิงเหอะ ถ้าเป็นผู้ชายมันจะยิ่งแมนไปกว่าเดิมไหม กลัวจะคุยกับแม่รู้เรื่องจนเกินไป (หัวเราะ)”
ถึงวันนี้ความคิดนี้ล้มเลิกหรือยัง?“ไม่นะ แค่รอว่าพร้อมเมื่อไหร่เท่านั้นเอง พร้อมในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเงิน”
แล้วจะบอกเขายังไง?“ก็ต้องบอกความจริงไป บอกเขาว่าอยากได้ลูกเพราะรักลูก มองข้ามจุดนั้นไปแล้ว แต่หนูคิดว่าเด็กปัจจุบันนี้รับได้ ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ก็จะถามว่าแล้วเวลาไปโรงเรียนล่ะ เขาจะถามลูกไหม หนูคิดว่าถ้าหนูมีจริง ๆ หนูมีตังค์หนูก็คงจะส่งเขาเรียนเมืองนอก ไม่เรียนเมืองไทยหรอก เมืองนอกเขาไม่มาถือสาเรื่องสังคม แต่เราก็เลี้ยงลูกแบบไทย ๆ นี่แหละ แค่ให้เขาไปใช้ชีวิตเมืองนอก เขาจะแกร่ง จะเก่ง หนูวางแผนนะ แค่คิดไว้ว่าเมื่อไหร่ที่เราพร้อม เราดูแลครอบครัวเราได้แล้ว ค่อยคิดถึงเรื่องนี้คิดถึงตัวเราเองว่าเราจะเอายังไง”
ทำไมต้องเอาสเปิร์มเกย์?“ไม่หรอก หนูรู้สึกว่าเป็นผู้ชายมันคุยยากไม่รู้จะไปขอยังไง แต่เกย์ไหน ๆ ก็ไม่ได้ใช้อยู่แล้ว คือหนูรู้สึกว่าถ้าเกิดเป็นผู้ชายให้ไปมีเมียอีกหลาย ๆ คนก็ยังรู้สึกว่าเด็กเป็นลูกของเขา ก็ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวอยู่ดี แต่ถ้าเกิดคนเป็นเกย์ต่อให้คิดว่านี่คือลูกนะ ก็ยังดูแลในส่วนของความเป็นแม่ เป็นลูกผู้หญิงด้วยกัน แต่ถ้าเป็นผู้ชายมันคนละแบบกัน เราไม่ได้ตั้งใจว่าเราจะมีอะไรกับคนนี้นะ แต่ตัวก็ต้องรู้สึกว่านี่คือลูก แต่ถ้าเป็นเกย์ก็คงไม่ได้มีความรู้สึกเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเด็กคนนี้มาก แต่ถ้าถามว่าเขารักลูกไหม รักนะ แต่เขาก็จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับเรื่องนี้”
คำถามสุดท้าย นิยามคำว่าซานิให้ฟังหน่อย?“ซานิเหรอ ก็เป็นคนที่ไม่มีสาระ แต่รู้จักการใช้ชีวิต รู้ว่าจะต้องอยู่แบบไหนที่เราจะสบายหรือแฮปปี้ในจุดที่เราต้องการ อะไรที่มันมากเกินไปหรือมันน้อยเกินไปมันไม่ดี มันต้องอยู่ในจุดที่มันพอดีแล้วจะมีความสุข แล้วหนูเป็นคนทุกข์ง่าย สุขเร็ว คืนนี้หนูอาจจะทุกข์ ตื่นมาหนูหายแล้ว พยายามลืมให้เร็ว ชีวิตเราก็จะแฮปปี้ที่สุด บางทีเราทุกข์มาก ๆ ได้นะ เราคิดมากโน่นนี่ สุดท้ายแล้วถ้าเราลืมเร็ว เราเดินหน้าง่าย เราก้าวต่อง่ายแล้วเราจะเร็วทุกอย่าง แล้วก็ความเป็นซานิ มันเป็นใครก็ได้ แค่มันไม่เดือดร้อนคนอื่น แฮปปี้แล้ว”
ชัดเจนทุกคำตอบที่หลายคนอยากรู้ และก็ไม่แปลกที่ในสังคมปัจจุบันจะมีคนที่คิดแบบเธอเพิ่มขึ้น แต่ถึงจะเป็นเพศไหน มีรสนิยมในความรักที่ต่างกันไปอย่างไร ก็ขอให้เป็นคนดีของพ่อแม่ พี่น้อง และสังคม เท่านั้นพอ เราไม่ว่ากัน.
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012