Inside Dara
เปิดประตูค้นใจผู้ชายน่ากอดกับ'พอร์ช-ศรัณย์'

หากถามถึงพระเอกคิวทองแห่งวิกหมอชิต แน่นอนว่าหนุ่ม "พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์" ต้องมีรายชื่อติดโผอย่างต่อเนื่อง เพราะด้วยความสามารถด้านการแสดง ที่มีอยู่เต็มเปี่ยมบวกกับขึ้นชื่อถึงเรื่องของความรับผิดชอบ จนผู้จัดละครต่างพากันอยากได้ตัวหนุ่มคนนี้ ไปร่วมงานด้วย ถึงแม้จะต้องทำงานหนักตลอดทั้งสัปดาห์ แต่หนุ่มพอร์ช ยังมีเวลามานั่งพุดคุยกับทางคมชัดลึก เพื่อเปิดใจล้วงลึก มุมมองความคิดและการใช้ชีวิต

อัพเดทผลงานล่าสุด
พูดถึงละครเรื่อง "คุณพี่ที่รัก" หน่อย

เรื่องนี้ดูชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นละครผีที่น่ารักๆ ไม่น่ากลัวอะไร ซึ่งเด็กดูได้ น่ารัก กุ๊กกิ๊ก ไม่ใช่เรื่องลึกลับ หรือหลอนอะไรทั้งนั้น ถามว่าเรื่องคาแรกเตอร์เบากว่าเรื่องที่ผ่านๆ มาไหม ผมตอบเลยว่าเบานะ ไม่ค่อยดราม่าด้วย แถมยังตลกอีกด้วย แต่ถ้าถามถึงความหนัก มันจะหนักนิดหน่อย เพราะว่าผมต้องถ่ายเรื่อง เพลงรักผาปืนแตก ด้วย ซึ่งมันจะแบ่งคิวแบบนี้ คุณพี่ที่รัก ถ่ายจันทร์ -พุธ เป็นซีนกลางคืนเยอะ ส่วนเพลงรักฯ จะมาถ่ายวันพฤหัสบดี แบบนี้มากกว่า

เรื่องนี้รับบทเป็นใคร

ในเรื่องนี้ผมรับบทเป็นพีระ เป็นผีเลย เราตาย แต่ว่าเราก็พยายามตามหาร่างของตัวเองนะ จนกระทั่งมาเจอนางเอก (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) จากนั้นให้นางเอกมาช่วยตามหาร่างจนมาเกิดเรื่องราว กุ๊กกิ๊กขึ้นมา ตามนี้นะ (ยิ้ม)

พูดถึงการทำงานกับใบเฟิร์นหน่อย

ต้องบอกว่าดีมากเลยนะ ผมทำงานกับเฟิร์น เราเจอกันเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สามแล้ว ต้องย้อนกลับไปว่า จริงๆ ผมกับเฟิร์น เราสองคนรู้จักกันมานานแล้วนะ เนื่องจากทำงานสายหนังมาด้วยกัน เรื่องแรกที่เล่นด้วยกัน มนต์รักแม่น้ำมูล แต่ว่าไม่ได้คู่กัน ส่วนเรื่องลูกโขนคู่กันนะ ผมรู้สึกว่าการทำงานกับเฟิร์น เป็นนางเอกคนเดียวที่ไม่ต้องปรับจูนอะไรเข้าหากันเลยนะ เนื่องจากว่าเรื่องนี้ ไม่ได้ดราม่าอะไรเยอะด้วยนะ แล้วเราก็เล่นละครกับเขา เราจะรู้ทางกัน เวลาเข้าฉาก จะรู้ทางกัน เวลาเขาดราม่าหรือจะร้องไห้ ผมเองก็จะมีจังหวะ และรู้ทางเขานะ การทำงานด้วยกันสบายมากเลย

กับฉากที่ต้องกุ๊กกิ๊กล่ะมีเขินกันเองบ้างไหม

ถามว่ามีไหมก็ต้องมีแหละ แต่ว่าตอนนี้ยังถ่ายไปไม่ได้เยอะนะ เลยยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรมากไหม

การทำงานกับค่ายดาราวิดีโอ

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกของผมนะ ผมเล่นมาหลายเรื่องแล้ว อย่างเรื่อง โบ๊เบ๊ ที่พี่ซี (ศิวัฒน์ โชคชัยชรินทร์) เล่นเป็นพระเอก ส่วนผมก็มารับเชิญไง (ยิ้ม) แล้วก็เรื่องไฟมาร ที่เล่นกับฉัตร ไม่ใช่สิต้องบอกว่า ฐิสา (วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร) เรียกยากเนอะ ผมก็เรียกฉัตรเหมือนเดิม (หัวเราะ) แล้วก็มาเรื่องนี้ คุณผีที่รัก

ตรวจสอบชีวิตการทำงาน
ทำงานหนักขนาดนี้แล้วดูแลตัวเองอย่างไร

ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง (ยิ้ม) เพราะว่าทำงานตลอด ช่วงไหนทำงานเยอะทำงานหนัก ผมก็จะกินวิตามินเสริมนะ ก็โอเคนะ หรือเพราะว่าเราชิน แต่ถ้ามีเวลาว่างผมก็จะนอนเอาแรงก่อน ต้องบอกว่านอกเหนือจากงานละครแล้ว ผมยังทำหลายอย่างด้วย เช่นงานที่เรารับไว้ก่อน ที่จะมีละคร อย่างพวกงานอีเวนท์มีทุกอาทิตย์เลยเชื่อไหม เพียงแต่ว่า ผมรับไว้ก่อน จะเอาคิวมาเคลียร์กับทางกอง อีกอย่างผมไม่กลัวนะ ว่าการรับงานของผมจะมีผลกระทบ เพราะที่ผ่านมา ผมไม่เคยทำให้งานเสียนะ เราคุยกันก่อนอยู่แล้ว และผมไม่เคยขอคิวกองละคร เพื่อไปรับอีเว้นท์ด้วย ไม่มีเลย ทุกอย่างมันต้องมีการพูดคุย

ทำงานในวงการบันเทิงมาทั้งหมดกี่ปีแล้ว

4 ปีแล้ว ผมว่าดีขึ้นนะ สบายขึ้นนะ และมีประสบการณ์มากขึ้น แต่เวลาส่วนตัวน้อยลง เอาจริงๆ มันก็มีเวลาส่วนตัวนะ แต่ว่าเวลาของผมส่วนใหญ่ จะเป็นตอนกลางคืนหมดเลย พอเวลากลางวัน ไม่รู้จะทำอะไรไง ผมก็ไม่อยากไปไหน ขี้เกียจ ร้อนๆ ชีวิตในตอนกลางวัน ถ้าผมไม่ทำงาน ผมจะเอ๋อมากเลย (หัวเราะ) แล้วผมก็จะอยู่บ้านนะ ไม่ไปไหน

กลัวคนมองว่าเป็นหนุ่มปาร์ตี้ไหม

ไม่นะ ผมต้องบอกว่าผมไม่ได้ปาร์ตี้ที่ไหน เนื่องจากว่าช่วงนี้ทำงานเยอะ อย่างถ้าผมไปเที่ยวกลางคืน ผมก็ไปยืนเฉยๆ นะ ผมรู้สึกเบื่อ แป๊บเดี๋ยวผมก็หนีกลับบ้านเลยนะ เอาจริงๆ เวลาไปพวกนี้เสียงมันจะดังมาก คุยอะไรกันก็ไม่รู้เรื่อง แล้วต้องมาตะโกนคุยกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องใช่ไหม ถ้าจะให้ดี ไปกินกันที่บ้านดีกว่า คุยกันแบบนี้ ช่วงนี้ถ้าจะอยู่จริงๆ ก็กับรุ่นพี่ๆ (แก๊งมอเตอร์ไซค์ใช่ไหม) ก็ใช่นะ แต่ว่าตอนนี้ฝนตกไม่มีใครขี่แล้ว เหลือแต่พี่เวียร์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ)

เส้นทางในวงการบันเทิงมาไกลกว่าที่ตั้งใจไว้ไหม

มันมาไกลตั้งนานแล้วนะ ผมไม่คิดว่าตัวเองจะมาทำงานตรงนี้เลยนะ ผมเป็นคนที่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายกับตัวเองขนาดนั้น จริงๆ คนทำอาชีพนี้ไม่ต้องไปตั้งเป้าหมายเยอะหรอก ดวงมันจะมาเดี๋ยวมันก็มาเอง คือจะอย่างไรดีล่ะ ถ้าผมตั้งว่า มาทำงานในวงการบันเทิง แล้วต้องมาเป็นพระเอกเบอร์หนึ่ง ต้องดัง มันดูหลงตัวเองไปป่ะ ไม่เคยคิดแบบนี้ ในวันนั้น ผมคิดว่าทำงานให้ได้เงินก็พอแล้ว ซึ่งมาในวันนี้ผมก็คิดเท่านี้นะ (ยิ้ม) อาจจะมีเพิ่มขึ้นมา คือเราต้องทำงานออกมาให้ได้ดีนะ

ใช้คำว่า "พระเอก" กับตัวเองได้ไหม

ไม่ได้คิดนะซิ ผมคิดว่าตัวเองมาทำงานมากกว่า โดยปกติสัญชาตญาณมนุษย์ทุกคนก็ต้องทำงานเพื่อไม่ให้ตัวเองลำบาก เพื่อให้ได้เงินมาใช้เท่านั้นเอง ทุกวันนี้ผมก็คิดแบบนั้น เพียงแต่มาในวันนี้ มีความรับผิดชอบมากขึ้นเท่านั้นเอง ผมไม่ยึดติดว่า ตัวเองจะเป็นพระเอกหรือไม่ คือเราก็มาทำงาน แต่เอาจริงๆ ตอนนี้มันก็เป็นพระเอกแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องทำทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุด แต่ไม่ใช่หลงตัว

ย้อนกลับไปในวันที่เห็นตัวเองในจอแก้ว

คงต้องตอนเรื่องมนต์รักแม่น้ำมูลเลย เห็นตัวเองแล้วรู้สึก ไม่ค่อยโอเค ดูแล้วเกิดคำถามว่า ทำไม (หน้าจริงจัง) ทำอะไรลงไป ผมมองตัวเองว่า การแสดงดูตุ๊ดมาก (หัวเราะ) พี่ธง (ธงชัย ประสงค์สันติ) ยังแซวเลย ถัดมาเป็นเรื่องลูกโขน ผมรู้สึกดีขึ้นนะ แล้วอินกับบทบาทมาก เพราะว่าเกี่ยวกับพ่อด้วย

เคยหลงไปกับชื่อเสียงหรือความดังของตัวเองไหม

ไม่ค่อยนะ เพราะว่าผมเป็นคนติสต์ด้วย ซึ่งผมเองเป็นคนที่ทำตัวปกติ จนบางครั้งยังโดนว่าเลย ว่าปกติไป (ยิ้ม) ทั้งผู้ใหญ่ที่เห็นหรือแม้แต่คนรอบข้าง หรือบางทีดาราก็ต้องเซฟตัวเองนะ แต่ผมเฉยๆ ทำไมล่ะ ผมไปหาเพื่อนไปกินข้าว ไปเที่ยวไม่เห็นเป็นอะไรเลย ซึ่งผมรู้ตัวนะว่าผมก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กด้วย

ถามไถ่ถึงสัญญากับวิกหมอชิต

ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เหลือ 5 ปี ผมจะหมดสัญญาปีพ.ศ 2560
มุมมองความคิดของหนุ่มวัย 23 ปี
การใช้ชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง

คือกับวัย 23 ปี ก็อาจจะไม่มีชีวิตเหมือนเด็กวัยรุ่น เด็กมหาวิทยาลัยที่ได้ไปเที่ยวกันนะ ส่วนใหญ่ชีวิตของผมอยู่กับคนอายุ 30 กว่าหมดเลย รุ่นพี่ๆ เอาจริงๆ ผมไม่ได้รู้สึกเสียดาย ที่ไม่ได้ใช้ชีวิตที่พูดมา เพราะว่าผมใช้คุ้มมากแล้วตอนที่อยู่จันทบุรี (หัวเราะ) คุ้มแล้วบอกเลย ทำงานดีกว่า สมัยก่อนตอนที่ยังไม่มีคนรู้จัก เราทำอะไรก็ได้ ไม่มีคนมอง แต่พอตอนนี้มันตรงกันข้าม ผมถึงเข้าใจเลย บางครั้งผมเจอขนาดที่ว่า กำลังนั่งกินข้าวอยู่ แล้วมีคนถือโทรศัพท์มาข้างๆเลยนะ เขาคงอยากถ่ายรูปกับเรา ผมก็เข้าใจนะ ฮืมแบบว่าถ่ายอยู่นั่น ถ่ายไม่เลิก ผมก็กลับไปว่า เอาโทรศัพท์ตัวเองถ่ายเขากลับไปบ้าง เขาก็ตกใจ ผมบอกกับเขาว่า เข้ามาขอดีๆ ก็ได้นะ เรียกว่าแกล้งเลยดีกว่า

กิจกรรมยามดึกที่ชอบทำ

เอาจริงๆ ช่วงเวลาดึกของผม จะเจอเพื่อนนะ ไปกินข้าวกับเพื่อนตลอด อย่างนี้เลยนะ 4 ทุ่มเลิกกอง 5 ทุ่มเจอเพื่อนแล้ว ประมาณเที่ยงคืนกลับบ้านนอนเลย คือว่าผมจะเลิกดึกแค่ไหน ขอเจอเพื่อนหน่อย สบายใจแล้ว

ความเป็น "พอร์ช" ศรัณย์ เมื่อถูกคนอื่นจับจ้อง อึดอัดบ้างหรือเปล่า

ผมไม่รู้สึกเขินหรือว่าอึดอัดนะ แต่ว่าทำตัวไม่ถูกมากกว่า เวลาออกไปไหน ก็ใส่แว่นอย่างเดียว แล้วก้มหน้าก้มตา ไม่ต้องมองหน้าใคร ง่ายสุดแล้ว จริงๆ นะ เพราะบางครั้งมองหน้าแล้วยิ้มให้ หาว่าบ้าอีก พอผมไม่สนใจบอกว่าผมหยิ่ง (หัวเราะ) ถ้างั้นไม่มองใคร บวกกับว่าโดยปกติแล้ว ผมไม่ค่อยออกไปไหนมาไหนตอนกลางวันด้วย อย่าง สยาม ไม่เดินเลย ไปแล้วทำตัวไม่ถูก ถ้าต้องไปไหนมาไหนกลางวัน ผมจะเดินเร็วมากนะ แต่ถ้ากลางคืน อย่างไปทองหล่อ สถานที่แบบนี้เขาไม่ค่อยสนใจดารา ผมก็นั่งกินข้าว กินอาหารญี่ปุ่นไป ชิล

วางแผนชีวิตเอาไว้อย่างไรบ้าง

ผมยังไม่ได้คิดอะไรเลย ถามว่าอยากเป็นผู้จัดละครไหม ไม่ได้คิดเลยนะ แต่ลึกๆ คิดแค่ว่าอยากทำธุรกิจส่วนตัว ปกติโดยนิสัยผมนะ ผมไม่ชอบเป็นลูกน้อง คือสมมุติว่าถ้าไปทำงานแล้วมีคนมาสั่งๆ จิกๆ แบบนี้ลาออกเลยจ้า (เน้นเสียง) เคยนะ ตอนผมเล่นดนตรีที่ร้านอาหาร เจ้าของร้านสั่งมาก จะเอานั่นเอานี่ ผมลาออกเลยง่ายดี ผมไม่ชอบถูกสั่ง แต่เป็นคนที่รับฟังนะ คือ ตอนนี้ผมขอทำงานละครก่อน เพราะว่ามีเข้ามาเยอะ อย่างตอนนี้ก็มีละครเรื่อง ลูกผู้ชายไม้ตะพดภาค 2 ซึ่งตอนแรกนะ เกือบไม่ได้เล่นเพราะว่ามีละครเรื่องอื่นติดต่อมา แต่ไม่ได้ไง มันเป็นภาคต่อ ต้องมีผมอยู่แล้ว (ยิ้ม) นักแสดงทุกคนกลับมาครบ แต่ว่ากว่าจะได้ถ่ายทำก็ต้องรอเรื่อง คุณผีที่รัก ถ่ายจบก่อน

ตรวจสอบหัวใจ
ไม่เคยมีข่าวเปิดตัวหวานใจ

บอกแล้วว่าไม่มีแฟน (เสียงสูง) แล้วก็ไม่ได้ตอบแบบพระเอกด้วย คือผมเวลาผมคุยกับผู้หญิง เราไม่ต้องมานั่งคุยกันแบบสมัยเด็กๆ คุยกัน เพราะฉะนั้นเวลาที่ผมตอบสื่อ ผมก็บอกว่ามีคนคุย ก็ไม่ใช่แฟน คนเวลาเป็นแฟนไม่ต้องบอกคนอื่นหรอก (หัวเราะ) เรารู้กันสองคน แต่ตอนนี้ไม่มี ก่อนเข้ามาทำงานในวงการผมก็เคยมี แต่ก็เลิกกันไปหมดแล้ว

สาเหตุที่ครองตัวเป็นโสด

อาจเป็นเพราะว่า ผู้หญิงจะมาอยู่กับผมยากนะ ตอนนี้ผู้ชายในกลุ่มของผม ผู้หญิงจะมาอยู่ด้วยยากมากนะ เนื่องจากเป็นผู้ชายที่ติดเพื่อนมาก (เน้นเสียง) แล้วผู้หญิงต้องเข้ามาในกลุ่ม ไม่ใช่เราต้องออกหากลุ่มผู้หญิง เข้าใจป่ะ เรียกว่าเพื่อนต้องมาก่อนเสมอ

สเปกสาวที่เห็นแล้วปิ๊งเลย

ไม่มีสเปกสาวนะสิ อ้าว ไม่รู้จริงๆ นะ บอกไม่ได้เลย บางทีผมเห็นผู้หญิงคนที่สวย แล้วไปจีบไม่มีนะ แต่ถ้าผมจะจีบใครสักคน ผมต้องรู้ประวัตินิดหนึ่งว่าเขาเป็นเพื่อนใคร ต้องมีจังหวะหน่อย จริงๆ มีคนเข้ามาหานะ แต่ผมจะเฉยๆ มากกว่า ผมเคยเจอขนาดหนักสุดๆ แบบว่าพอร์ช ขอไลน์หน่อยสิ ผมจะรีบบอกเลยว่าไม่ได้เอาโทรศัพท์มา สักแป๊ปมาเอาโทรศัพท์ยื่นมาให้ผมพิมพ์ไอดี ไลน์ ผมจะบอกว่าจำไม่ได้ พอบอกว่างั้นเอาเบอร์มา ผมก็จะบอกว่า จำไม่ได้จริงๆ ผมเพิ่งเปลี่ยนเบอร์ ส่วนตัวผมชอบแบบว่า คุยกันเป็นเพื่อนกันไปก่อน สักวันหนึ่งผมอาจจะชอบคุณก็ได้ แต่เราต้องมีการทำความรู้จักกันก่อน

บอกแล้วไงว่าน่า ก๊อด น่ากอด...ด!!
ผู้ชายคนนี้ชื่อ
ชื่อ ศรัณย์ ศิริลักษณ์
ชื่อเล่น พอร์ช
เกิดเมื่อ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534
การศึกษา กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ มหาวิทยาลัยรังสิต
ผลงานที่ผ่าน เพลงรักผาปืนแตก ลูกผู้ชายไม้ตะพด ไฟมาร หยกเลือดมังกร
ผลงานปัจจุบัน คุณผีที่รัก