Inside Dara
“โอ วรุฒ” ให้ลูกเรียก “อา” อยากให้มีชีวิตที่ดีกับพ่อใหม่

“โอ วรุฒ” ตัดใจเฟดตัวออกจากชีวิตลูก จุก! ให้ลูกเรียก “อา” ยอมเสียสละเพื่อให้ลูกมีอนาคตที่ดีกับพ่อใหม่ จำใจทิ้งระยะห่างเยี่ยมลูก ลั่นไม่คิดมีเมียใหม่ อยากรับงานมากขึ้นดูแลพ่อแม่ให้ดี พ้อชีวิตเจอมาหนัก ปัญหารุมเร้าก่อนหนีไปบวช

เลิกกับอดีตภรรยา “เก๋ เจษฎาวัลย์” ไปกว่า 5 ปี มีลูกชายด้วยกันคือ “น้องแอร์บัส” อายุ 7 ขวบ ล่าสุดอดีตพระเอกชื่อดัง “โอ วรุฒ วรธรรม” ได้ออกมาเปิดใจในรายการเอิ๊กโชว์ ทางช่อง 8 เผยยังติดต่อกลับไปหาบ้าง แต่ต้องทิ้งระยะห่าง เพราะอยากให้ลูกชายที่อนาคตที่ดีกับพ่อใหม่ และให้เรียกตนว่าอา เปิดใจตอนนี้ตนไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้ว

“มีบ้างนานๆ โทร.คุยที ตอนนี้มีบ้าง เขามีความสุขแล้วอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นกับแฟนใหม่เขา ซึ่งสามารถดูแลเขาและลูกได้อย่างดี เราไม่ต้องคอยรับผิดชอบแล้ว ผมอยากให้ลูกสนิทกับพ่อใหม่เขา เราพยายามเฟดตัวออกมา”

“ด้วยความเขายังเล็กไม่อยากให้เขาจำเรา อาจจะทิ้งระยะเยี่ยมลูกนานกว่านี้หน่อย แล้วกลับไปเยี่ยมในฐานะคุณอา แม้วันหนึ่งลูกจะรู้ แต่เชื่อว่าความรักและความสนิทกับพ่อใหม่เขา มันจะหักลบกันได้ ส่วนอดีตภรรยาก็ไม่เคยปิดกั้นเรากับลูก”

“อยากให้เขาจำพ่อใหม่เขาดีกว่า ผมไม่น้อยใจเราเองก็ไม่มีเวลาและกำลังจะดูแลเขาอยู่แล้ว สามีใหม่เขามีฐานะก็อยากให้เขาอยู่แบบสบายๆ ผมทำใจยอมเสียสละให้คนอื่นเขามีความสุขในอนาคตดีกว่า น้องเขาไม่ทราบหรอกยังไม่โตพอที่จะรู้อะไรคนไหนพ่อกันแน่ ไปหาลูกเมื่อไหร่ก็ได้เขาไม่ปิดกั้น ตอนนี้ไม่คิดมีภรรยาใหม่ อยากรับงานในวงการมากขึ้น อยากดูแลพ่อแม่ให้มีความสุข”

เผยเลิกเหล้าไม่ขาด นัดปาร์ตี้สังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนทุกเดือน

“เรื่องเหล้ายอมรับว่ายังดื่ม คงเลิกขาดไม่ได้ เพราะยังมีไปปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนบ้าง กลุ่มเพื่อนนัดกันทุกเดือนต้องมีดื่มบ้างนิดหน่อย”

ปัดบวชหนีปัญหา แต่ยอมรับก่อนบวชชีวิตเจอปัญหารุมเร้า

“ผมไปบวชมา 14 วัน บวชแบบเงียบๆ ในวัดที่เชียงใหม่ ที่นี่สงบ เราต้องการความสงบ และที่ผมไม่ได้บอกใครก็คือไม่อยากรบกวนท่านอื่นๆ ที่อยู่กรุงเทพฯ แต่ก็มีเพื่อนๆ โทรศัพท์มา ถามว่าทำไมอยู่ๆ ถึงไปบวช ก็บอกไปว่าอย่างแรกคืออยากทดแทนบุญคุณพ่อแม่ และอย่างสองรู้สึกว่าช่วงนั้นตัวเองมีปัญหาชีวิตเยอะมาก เหมือนกับเจ้ากรรมนายเวรคอยตาม”

“จริงๆ ผมก็มีการวางแผนสักสองอาทิตย์ก่อนจะบวช คิดว่าบวชข้ามปีไปเลยดีกว่า ส่วนมีคนถามว่าผมบวชหนีปัญหาหรือเปล่า คือตอนที่เจอปัญหาหนักๆ รู้สึกว่าจิตใจสับสน ถึงจะไปบวชตอนนั้นมันก็ไม่สงบ แต่ที่มาบวชหลังจากปัญหาต่างๆ มันผ่านไปแล้ว มาเริ่มคิดได้แล้วว่าเวลาคนเรามันสับสน มันควรจะทำจิตทำสมาธิให้นิ่ง คิดและเดินไปในทางที่ถูกต้อง มีสมาธิในการคิดการพูด จนเรานิ่ง จึงมาตัดสินใจบวช คือการบวชครั้งนี้ไม่ได้บวชหนีปัญหาแน่นอนครับ”