Inside Dara
มิ้วกี้ ไปรยา ร่ายยาวระบายความในใจทั้งน้ำตา กับปีที่เจอปัญหาใหญ่สุดในชีวิต

เป็นปีที่หนักหน่วงไม่น้อย สำหรับ มิ้วกี้ ไปรยา ยูทูบเบอร์ดัง ทั้งเรื่องราวชีวิตครอบครัวและข่าวคราวต่างๆ ที่ถาโถมมาเป็นคลื่นลูกใหญ่ โดยล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ระบายความในใจผ่านอินสตาแกรมไว้ว่า

เราเข้มแข็งมั้ย ? อะไรคือบททดสอบ? สำหรับมิ้วกี้พอมันถึงเวลานั้นๆที่เราต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้เราจะได้เจอ เราจะทำยังไงให้ผ่านไปให้ได้แบบไม่วิ่งหนี หรือเก็บปัญหาไว้ก่อนค่อยแก้ที่หลัง รู้สึกโชคดีที่ตัวเองเป็นคนซื่อตรง ตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่ายและชัดเจน

ปัญหาในปีนี้ถือว่าใหญ่ที่สุดในชีวิตตั้งแต่เคยเจอมา ปัญหาหรือเรื่องราวที่เข้ามาเราไม่รู้จักมันมาก่อน ไม่รู้มันจะมาเมื่อไหร่ และมันคืออะไร ลักษณะเหมือนคนเมาหมัด สับสน มึนงง ตกใจ หวาดกลัว หลากหลายอารมณ์ผสมรวมกัน

ในชีวิตของมิ้วกี้หลายเรื่องที่ผ่านมาเหมือนในละคร เวลาสุขก็สุดขีด เวลาเศร้าก็เศร้าสุดใจ ถึงเวลาปัญหาคัมมิ่ง ทำยังไงหละที่นี้ ข้อที่ทยากที่สุดแต่ต้องทำคือตั้งสติก่อนอันดับแรก นั่งนิ่งๆอยู่เงียบๆและถามตัวเองว่าเอายังไงต่อดี สิ่งต่อมาที่ยากไม่แพ้กันคือ ยอมรับความจริง ยอมรับความจริงแบบไม่หลอกตัวเองหรือเข้าข้างตัวเอง ผิดพลาดก็แก้ไปทีละเรื่อง บางเรื่องสามารถแก้ไขได้ ถ้าทำได้ทำให้ดีที่สุด บางเรื่องแก้ไขไม่ได้ ยากเหลือเกิน ทรมานเหลือเกิน แต่มันแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ต้องยอมรับความจริงให้ได้ และเข้าใจกับปัญหานั้น อยู่กับมันให้ได้ ถ้าพูดถึงมันแล้วปวดใจ ก็อย่าพยายามไม่นึกถึงและพูดถึงมัน

อะไรตัดได้ให้ตัด อันนี้ยากที่สุดถึงที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของหัวใจ เพราะมิ้วกี้เป็นคนทำอะไรใส่เต็มร้อย เพราะเป็นคนใช้หัวใจในการทำทุกอย่าง ทุ่มเท มีเท่าไหร่ใส่ให้หมด เมื่อเราใช้หัวใจนำ เลยทำให้ทุกอย่างตัดสินใจยากและลำบากใจที่สุด เคยคิดมาตลอดตั้งแต่อายุยังน้อยจนถึงตอนนี้ ว่าถ้าเราเห็นแก่ตัวบ้างก็คงจะดี ได้แค่คิด แต่ไม่เคยทำได้เลย เพราะตั้งแต่เด็กคิดแค่ว่าต้องทำเพื่อแม่เพื่อครอบครัวก่อน หลังจากนั้นค่อยทำให้ตัวเอง พอวันที่มีความรักก็ทุ่มสุดหัวใจ เป็นตายเท่ากัน เลือกแล้วก็ต้องทำให้มันสุด แน่นอนก็นึกถึงคนที่รักมาก่อนตัวเอง พอวันที่มีลูก ก็รู้สึกว่าตัวเองต้องเป็นผู้ให้มากขึ้นกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่าจากที่เป็นอยู่ เพราะลูกคือที่สุดในชีวิต จนถึงทุกวันนี้ วันที่ต้องดูแลลูกน้องมากมายหลายชีวิต คิดมาเสมอว่าเราเหมือนพี่สาวคนโต รับเค้ามาดูแลแล้ว ต้องดูแลให้ถึงที่สุด เค้าเอาชีวิตของเค้ามาฝากเราแล้ว เราต้องให้ความมั่นคงเค้าให้มากที่สุด นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมถึงชอบทำงาน และทำงานหนักเพราะหัวเรือใหญ่ต้องเดินหน้าสุดกำลัง

พอวันที่มี พอวันที่ตัวเองเป็นที่รู้จักยิ่งทำให้รู้สึกว่าอยากเป็นตัวเองให้มากที่สุด เพื่อให้ทุกคนชื่นชอบเรา ได้เห็นเราในแบบที่เป็นเราให้ส่งพลังของเราออกไปอยากสร้างแรงบันดาลใจสร้างความสุข และสิ่งที่จะทำให้ชื่อ มิ้วกี้ ไปรยา ถูกจดจำให้นานที่สุด นั้นคือความจริงใจ ไม่แสแสร้งไม่ต้องแต่งเติม

มิ้วกี้ ไปรยา ชื่อนี้ เหมือนถูกสร้างมาเพื่อเป็นผู้ให้ให้ได้ทุกอย่างกับคนที่รัก มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นคนที่รักมีความสุข จะด้วยวิธีไหนก็ตาม ยินดีและเต็มใจที่จะทำ ตอนนี้นั่งอยู่บนเครื่องบิน ตั้งใจจะดูหนังที่โหลดมา แต่ก่อนเครื่องออกมีเวลาได้อ่านข้อความจากเพื่อนๆที่ส่งมา มันเลยทำให้อยากพูดในสิ่งที่ตอนนี้ตัวเองรู้สึก

เพื่อนๆคะ เวลาเกือบ 6 เดือนที่ผ่านมา มิ้วกี้เจอสิ่งที่หนักหนามากมายเหลือเกิน มิ้วกี้ไม่ได้เก่งเลยค่ะร้องไห้บ่อยมากและร้องหนักด้วย กินข้าวไม่ลง ใจมันสั่นปั่นป่วน กว่าจะผ่าน 1 วันบางครั้งรู้สึกยาวนานเหมือนหนึ่งปี บางวันนอนไม่หลับกระวนกระวายใจแทบขาด คิดฟุ้งซ่านไปหลายอย่างมากมาย สับสน หาทางออกไม่เจอ แต่ต้องลุกขึ้นมาสู้กับชีวิตต่อ เพราะหัวเรือใหญ่นี้ จะล้มไม่ได้ทุกคนรอเราอยู่ ความโชคดีคือมีคนที่รักให้คิดถึงน้องกาเนส แม่ ครอบครัว ลูกน้องและแฟนๆทุกคนเชื่อมิ้วกี้นะ ทุกคนมีความเข้มแข็งอยู่ในตัวเอง เราจะรู้ว่าเราเข้มแข็งแค่ไหน เมื่อเรายอมลุกขึ้นมาสู้กับมัน รักทุกคนจากใจค่ะ ( เขียนต่อไม่ไหว ร้องไห้หนักมาก กลัวตาเลอะ )