Inside Dara
“ไบรท์-โต๋” เล่าโมเมนต์สุดซึ้งหมั้นต่อหน้า “คุณแม่” เคลียร์ดราม่าจัดงานในโรงพยาบาล

หลังนักร้องหนุ่ม “โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร” คุกเข่าขอผู้ประกาศข่าวสาว “ไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ” แต่งงานกลางรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” และมีพิธีหมั้นภายในครอบครัวต่อหน้าคุณแม่ของไบรท์ ซึ่งนอนพักรักษาตัวที่ รพ.รามาธิบดี เป็นภาพวันสำคัญของครอบครัว

ล่าสุด เจอ โต๋-ไบรท์ ร่วมงาน “Max The Moment” เปิดตัวยาสีฟันเดนทิสเต้ แปรงฟันโดยไม่ต้องใช้น้ำ ตัวแรกของประเทศไทยและของโลก ณ อาคารสมูทไลฟ์ ทาวเวอร์ เลยเล่าความประทับใจร่วมกัน

เริ่มจาก โต๋ “เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผมตั้งใจเลยว่าอยากจะไปขอไบรท์แต่งงาน ผมเลือกวันที่ 25 ธ.ค. เพราะว่ามันเป็นวันที่มีความหมายสำหรับเราทั้งคู่และอยากไปขอในที่ของเค้า แล้วพอวันที่ 2 ม.ค.ปีนี้ เราเลยจัดเป็นงานพิธีสู่ขอและพิธีหมั้นเล็กๆในครอบครัวกันเองที่โรงพยาบาล ผมอยากให้คุณแม่ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่เห็น และมั่นใจว่าลูกสาวจะมีคนดูแล รวมถึงให้คุณแม่ได้อวยพรด้วย มันเป็นสิ่งที่มีความหมายมากๆ”

แววตาสีหน้าของคุณแม่ในวันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง? ไบรท์ “จริงๆ ช่วงนั้นถ้าย้อนไปคุณแม่ก็จะตื่นไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เนื่องจากว่าตัวโรคก็ต้องระงับอาการปวดด้วยมอร์ฟีน แต่ว่าเช้าวันนั้นคุณหมอให้ยากระตุ้นก่อนหนึ่งวัน เพื่อให้การรับรู้คุณแม่ดีขึ้น ซึ่งเช้าวันนั้นเราก็ลุ้นกันอยู่ว่าเช้านี้แม่จะตื่นมาสดชื่นหรือเปล่าแต่ปรากฏว่าเช้าวันนั้นไบรท์ว่าด้วยความเป็นแม่แล้วเราไปบอกเค้ารับรู้ได้ว่าวันนี้มันจะมีอะไรเกิดขึ้น ไบรท์ว่าวันนั้นเค้าฮึบมากนะ ฮึบเพื่อที่อย่างน้อยมีแรงที่จะได้อวยพรลูก วันนั้นเราใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ เพราะว่าคุณแม่จะเหนื่อยมาก คุณหมอก็ถามคุณแม่ว่ารู้สึกอย่างไรบ้างแม่ก็บอกว่าดีใจ ได้ทำหน้าที่สุดท้ายแล้ว (น้ำตาคลอ) ซึ่งโดยส่วนตัวไบรท์ดีใจที่มันเกิดขึ้นเพราะจากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ ถ้าพูดกันตรงๆก็คือการรับรู้มันก็น้อยลงตามลำดับของคุณแม่”

ในฐานะลูกถือว่าเราคอมพลีตแล้วมั้ยกับวันนั้น? ไบรท์ “ไบรท์ว่าอย่างน้อยเนี่ย แม่เค้าได้รับรู้ว่าต่อไปไบรท์จะมีคนดูแล แม่ไม่ต้องห่วง จะมีโต๋ มีครอบครัวของโต๋ มีคุณพ่อคุณแม่ที่จะมาดูแลไบรท์เพิ่ม เพราะว่าไบรท์กับแม่คือสนิทกันมากค่ะ เหมือนกับเป็นคนละครึ่งกันของชีวิตเลย (เสียงสั่น) ดังนั้น ไบรท์ว่าแม่เค้าก็คงคิดว่ามันจะหนักมาก ถ้าเค้าจะไม่อยู่ ไบรท์ก็รู้สึกว่าแม่น่าจะสบายใจมากขึ้น ช่วงที่เค้ายังสื่อสารได้ ไบรท์ก็ถามเค้าว่าเป็นห่วงอะไรไบรท์มั้ย เค้าก็ส่ายหัว ว่าเค้าไม่มีอะไรเป็นห่วง”

วันนั้นได้บอกอะไรกับแม่ของไบรท์บ้าง? โต๋ “วันนั้นผมตั้งใจบอกกับคุณแม่แล้วก็ตั้งใจให้คุณพ่อคุณแม่ของผมไปด้วยอยากให้คุณแม่มั่นใจเลยว่า ผมและครอบครัวผมจะรักไบรท์ดูแลไบรท์เหมือนลูกสาวคนหนึ่ง ผมจะดูแลไบรท์ อยู่ข้างๆไบรท์ตลอด อยากให้คุณแม่ได้เห็น ได้ยินด้วยตัวเอง มันมีความหมายมาก ผมยังจำแววตาที่คุณ แม่ยิ้มรับให้ผมได้ มันเป็นสัญญาที่ผมให้สัญญาไว้แล้ว”

อันนี้ก็คือเหตุผลที่เราเลือกไปจัดงานที่โรงพยาบาลใช่มั้ย? โต๋ “ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมัน ผ่านการปรึกษา ผ่านการขออนุญาตกับคุณหมอหมดแล้วครับ จริงๆแล้วแพลนแต่งงานของผมทุกอย่าง ผมแพลนไว้กลางปีนี้ครับ แต่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว พอคุณแม่ของไบรท์ไม่สบายหนัก คุณหมอก็พูดกับผมว่าถ้าอยากจะทำอะไรควรรีบนะครับ ผมเลยเลื่อนทุกๆอย่างมาเพราะสิ่งที่สำคัญก็คือมันไม่ใช่แค่ตัวเรา เราอยากให้คุณแม่เค้าได้เห็น ว่าไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลลูกสาวเค้า”

ตอนนี้ได้ฤกษ์แล้วหรือยัง? โต๋ “พอเสร็จงานหมั้น ผมวางแผนไว้ว่าเราจะจัดงานกันปลายปี แต่ตอนนี้ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา มันเป็นช่วงเวลาที่หนักสำหรับเราทั้งคู่ เพราะว่าคุณแม่ไบรท์ไม่สบายหนัก ไบรท์ต้องดูแลคุณแม่ ต้องทำงานด้วย เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาผู้จัดการผมก็มาเสียกะทันหันด้วย ก็พยายามอยู่ข้างกันปลอบใจกันตลอดว่ามันจะต้องเดินผ่านช่วงนี้ไปนะ เลยไม่มีเวลานึกถึงเลยว่าเราจะจัดเมื่อไหร่ เราจะหาฤกษ์เมื่อไหร่ เรื่องนั้นยังเป็นเรื่องรองอยู่เลยเพราะว่าตอนนี้ทุกอย่างในชีวิตมันเยอะมากๆ ที่ต้องจัดการ ณ วันนี้ก็เป็นช่วงที่หนักสำหรับเราทั้งคู่ ต้องประคับประคองอยู่ด้วยกันครับ ให้กำลังใจกันทุกวัน เรื่องงานฉลองเอาไว้ก่อนไว้พร้อมเมื่อไหร่ก็เดี๋ยวค่อยบอก”

จะมีจดทะเบียนก่อนมั้ย? โต๋ “ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไรสักอย่างเพราะไม่มีเวลาทำอะไรเลย มันหนักแล้วมาพร้อมกันในช่วงเวลานี้”

ไบรท์ “คือโฟกัสของไบรท์ตอนนี้อยู่ที่คุณแม่เป็นหลัก พยายามจะใช้เวลากับเค้าให้ได้มากที่สุด เรื่องอื่นๆเลยคุยกันว่าเดี๋ยวค่อยว่ากัน เอาตรงนี้ให้มันดีที่สุดก่อน แล้วก็พอดีโต๋มามีเรื่องของพี่วิด้วยก็เลยต้องค่อยๆประคับประคองกันไปค่ะ”.