‘รักแล้ว เดี๋ยวก็เลิก’ เอ๊ะ อิศริยา เล่าที่มาของความ ‘โสดสนิท’
นับกันตามอายุแล้ว เอ๊ะ อิศริยา สายสนั่น นักแสดงและผู้จัดละครคนดังก็จะครบ 40 ปีบริบูรณ์ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึง และเธอก็ยังคงไว้ซึ่งความโสด
เรื่องนี้เอ๊ะบอกว่า เป็นความคิดและความตั้งใจที่มีมาตั้งแต่อายุได้ 14-15 ปีแล้วว่าไม่อยากแต่งงาน อยากอยู่กับแม่ ซึ่งแม่ของเธอซึ่งนั่งฟังอยู่ด้วย ได้ช่วยยืนยัน โดยบอก “เขาไม่อยากมีแฟน เพราะเขามองว่ารักเดี๋ยวก็ต้องเลิก เขาบอกว่าถ้าลูกขอไม่แต่งงาน ไม่มีแฟนเลยแม่จะว่าไหม” ทั้งยังว่าตอนแรกที่ได้ยิน ยังคิดว่าพอโตขึ้น ลูกคงเปลี่ยนความคิด แต่ก็ไม่ใช่ เพราะถึงวันนี้เวลามีใครโทรมาหา ก็ยังส่งโทรศัพท์ให้แม่
ขณะที่เอ๊ะบอก เป็นโชคดีของเธอที่แม่รับเรื่องการไม่มีแฟนได้
“บางบ้าน 20 ปี เรียนจบ ไม่มีแฟน ไม่แต่งงาน ซีเรียสมากอ่ะ โชคดีคุณแม่ไม่คิดอย่างนั้น แม่บอกแล้วแต่เลย”
อันที่จริงเอ๊ะบอกว่าเธอไม่ได้ตั้งธงว่า “จะโสดซะทีเดียว” เพียงแต่ ถ้ามีแฟน แฟนจะต้องทำให้มีความสุข
“ถ้าสมมุติเจอคนที่ใช่ เราอาจจะคบ แต่มันยังไม่มีคนที่เราหันไปโฟกัสที่เขา มากกว่าสิ่งที่เรากำลังโฟกัสอยู่”
กับผู้ชายที่เข้าหา เอ๊ะบอกว่า “ก็ปฏิเสธ บางทีก็ให้คุณแม่คุย เราปฏิเสธในขั้นต้นก่อน โชคดีโทรศัพท์เอ๊ะจะโอนข้อมูลไปเครื่องคุณแม่ ถ้าไม่รับ เขาก็จะรู้”
จากนั้นคนเป็นแม่ก็จะใช้วิธีบอกไปว่าเอ๊ะไม่ว่าง กำลังอ่านหนังสือ
“เขามองว่าชีวิตแบบนี้ แฮปปี้แล้ว ไม่อยากจะมีอะไรแล้ว เหมือนเรียนจบก็เป็นอาจารย์ และไปเป็นผู้จัด ทำงานของตัวเอง”
ที่เป็นแบบนี้ เอ๊ะบอกว่าไม่อยากให้ใครมองว่าเรื่องมาก เรื่องเยอะ เพียงแต่เราทุกคนสามารถเลือกอะไรที่ตัวเองชอบได้
“นี่คือสิ่งที่เราชอบ เลือกแล้วที่จะมีความสุขในแบบนี้”
ที่เลือกแบบนี้ เอ๊ะยืนยันว่าไม่ใช่เพราะกลัวความรัก
“ไม่ใช่ เพราะว่าเราไม่ได้ผิดหวังในความรัก”
ยังบอกด้วยว่าที่ผ่านมาเคยเหมือนกันที่รู้สึกชอบคนนั้น ปลื้มคนนี้
“แต่ถ้าเป็นรัก ไม่ใช่ค่ะ แค่ชอบในภาพลักษณ์ที่เขามี เหมือนเราชอบพระเอกเกาหลี”
แม่ของเอ๊ะยังเสริมด้วยว่า ส่วนหนึ่งที่เอ๊ะเลือกแบบนี้ น่าจะเป็นเพราะการได้เห็นแม่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด
“เรื่องของเรื่อง พูดตรงๆ เลยนะ เพราะว่าเห็นแม่มีลูก 5 คน ก็ต้องเลี้ยง 5 คนด้วยตัวเอง เขาคงเห็นว่าแม่ทำงานทุกอย่าง บางทีก็กลับดึก ตื่นเช้าก็ต้องรีบไปทำงาน เขาเลยมีความรู้สึกว่าขออยู่คนเดียวดีกว่า”
“คือต้องบอกว่าไม่เคยผิดหวังกับประสบการณ์ตรงนะคะ” เอ๊ะบอก
“มองว่าไม่ใช่ความผิดหวัง มองเป็นชีวิตคน มีรักที่สมหวัง ไม่สมหวัง แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้ารักแล้วมันต้องเลิกก็อย่ารักดีกว่า”
“เราอยู่ได้ เพราะทุกวันนี้เรารักตัวเอง เรารักครอบครัว ก็น่าจะโอเคแล้ว”
