Inside Dara
ตี๋หล่อ เรียบง่าย ติดดิน ‘อาเล็ก ธีรเดช’

“ธีรเดช เมธาวรายุทธ” หนุ่มตี๋ ขวัญใจสาว ๆ ที่ละครเพิ่งจะลาจอไปกับ “วัยแสบ สาแหรกขาด” ละครน้ำดี ที่คนไทยต้องติดตามว่าจะมีซีซั่น 2 ออกมาเมื่อไร ส่วนพระเอก “อาเล็ก ธีรเดช” ขึ้นแท่นเป็นพระเอกเต็มตัวอย่างภาคภูมิใจในละครเรื่องนี้ ละครที่แม้แต่นายกรัฐมนตรียังพูดถึง เอาละ ...ละครก็ฮิต คนก็ฮอต ขนาดนี้เราเลยต้องจัดหนุ่มฮอตคนนี้ “อาเล็ก ธีรเดช” มานั่งพูดคุยกันเสียหน่อย ตามคำเรียกร้องของสาวเล็ก สาวใหญ่ที่อยากจะทำความรู้จัก “อาเล็ก” กันให้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความรัก ที่ยังไม่ชัดเจน วันนี้ อาเล็กพร้อมแล้วที่จะมาตอบทุกคำถามของเรา ว่าแล้วไปคุยกับเขากันเลยดีกว่า

ละครเรื่อง วัยแสบฯ โด่งดังมากในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา?

“ละครเรื่องนี้ถือเป็นอีกบทบาทหนึ่ง ที่เราได้รับและได้พัฒนาฝีมือด้านการแสดงของเราไปด้วย เพราะบทค่อนข้างยาก และเป็นบทที่เราไม่เคยได้รับมาก่อน คือบทเรื่องนี้ตอนรับเล่นไม่เครียดนะ แต่พอมาถ่ายเริ่มเครียดละ (หัวเราะ) เพราะว่าเราหลุดความเป็นตัวเองออกมาเยอะ ผู้กำกับเขาไม่อยากให้ยิ้มมาก อยากให้นิ่ง ๆ ดูเป็นผู้ใหญ่หน่อย”

อาเล็กคิดว่าตัวเองมาไกลกว่าที่คิดมั้ย เป็นพระเอกแถวหน้าอีกคนของช่องไปแล้ว?

“มาไกลกว่าที่คิดมากครับ ไม่คิดว่าจะได้มายืนอยู่ตรงนี้ เพราะว่าตอนแรกเลย งานนี้ตรงนี้ ไม่ได้เป็นอาชีพที่เราอยากทำ ไม่ได้เป็นสิ่งที่เราฝัน ไม่ได้เป็นสิ่งที่เราต้องการตั้งแต่แรก แต่ว่าด้วยความโชคดีของเรามีผู้ใหญ่สนับสนุน ทำให้เรามายืนตรงนี้ได้ประกอบกับความตั้งใจ คือผมเป็นคนที่ถ้าทำอะไรจะตั้งใจมาก ไม่ใช่แค่ละครเรื่องวัยแสบฯ นะครับ ผมตั้งใจกับละครทุกเรื่องที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้แค่ความตั้งใจของเราอย่างเดียวนะ ผมว่ามันมีหลาย ๆ องค์ประกอบไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจ โชค และการสนับสนุนของผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสผมในทุก ๆ เรื่องที่ผ่านมานะครับและขอบคุณแฟน ๆ ละครที่สนับสนุนและคอยติดตามผลงานละครของผมในทุก ๆ เรื่องที่ผ่านมาด้วยนะครับ”

ตอนนี้กลายเป็นพระเอกชั้นนำ เล็กคิดว่าตัวเองเปลี่ยนไปบ้างมั้ย?

“ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะครับ ผมก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเรื่องวัยแสบฯ เป็นละครเรื่องแรกที่ผมได้ขึ้นมาเป็นพระเอกคนเดียว เพราะเรื่องก่อนหน้านี้จะเป็นพระรอง หรือไม่ก็มีพระเอกหลาย ๆ คน ส่วน วัยแสบฯ ก็เป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรกแต่บทเด่นก็อยู่ที่เด็ก ๆ นะครับ เด็กเล่นกันเก่งมาก ๆ ทุกคน”

พอมาเป็นพระเอกคนเดียวแล้ว ต่อไปก็จะถูกคาดหวัง เล็กกดดันกับละครเรื่องต่อไปหรือเปล่า?

“กดดันก็คงไม่นะครับ แต่มันมีข้อเสียตรงที่ว่าเราต้องพัฒนาตัวเองขึ้นมาเรื่อย ๆ และต้องรักษามาตรฐานของเราเอาไว้ ยิ่งการเป็นนักแสดงเราต้องขยันที่จะพัฒนาตัวเอง เรียนรู้ให้มากขึ้น เพราะอย่างนักแสดงรุ่นใหญ่ ๆ ที่เขาเล่นกันมา 3-4-10 ปีต้องดูว่าเขาทำงานกันยังไง และผมถือว่าผมโชคดีมากที่ผมได้เจอแต่คนเก่ง ๆ ที่อยู่กันมานาน ทำให้เราได้เห็นว่าเขาทำงานกันยังไง อย่างเวลาที่เขามากอง เขาพูด เขาอยู่กันยังไง และผมก็อยู่ในกองผมก็เลยแก่แดดไปด้วย เพราะสิ่งที่ผมเห็นและได้เรียนรู้จากพี่ ๆ หรือนักแสดงรุ่นใหญ่ มันทำให้เราเห็นว่ามืออาชีพเขาเป็นกันยังไง ดู ๆ แล้วก็จำในสิ่งที่ดี ผมถือว่าผมโชคดีมากครับ”

การที่ขึ้นมาเป็นพระเอกเต็มตัวแล้ว ทำให้ต้องดูแลการแต่งตัวมากขึ้นมั้ย?

“ไม่เลยครับ วันก่อนก็ยังกางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบ ถุงเท้าสูง ๆ อยู่เลยครับ (หัวเราะ) คือผมไม่เครียดเลยนะ อย่างที่ผมบอกว่าที่ผ่านมาผมเป็นนักแสดงที่แบบค่อย ๆ โตขึ้นมา จากตัวพระรอง จากพระเอกหลาย ๆ คน แล้วขึ้นมาคนเดียว ทำให้เราไม่ค่อยรู้สึกเท่าไรเพราะว่ามันค่อย ๆ ขึ้นมา คือเราไม่ใช่แบบเล่นละครเรื่องเดียวแล้วดังขึ้นมาข้ามคืน อย่างนั้นมันก็อาจจะตกใจหน่อย แต่อย่างเล็กเราค่อย ๆ เปลี่ยนขึ้นมา ทำให้ไม่รู้สึกว่าต้องเปลี่ยนอะไรเลย เพียงแต่ว่าเราไปไหนมาไหนคนรู้จักเรามากขึ้น มีคนเข้ามาถ่ายรูปซึ่งอันนั้นมันเป็นเรื่องปกติของดาราทุกคนอยู่แล้ว เอาจริง ๆ ผมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ทุกวันนี้ก็ยังเดินห้าง กินข้าวในห้าง บางทีเอาเสื้อผ้าออกงานก็ไปเอง ก็เป็นชีวิตของเราผมว่าไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรที่ต้องเก็บตัว คนเรามันต้องใช้ชีวิตนะ อีกอย่างผมไม่ชอบอยู่บ้าน ชอบที่จะออกไปเที่ยว ผมเป็นคนทั่วไปเลย เพียงแต่ว่าเราก็ต้องดูที่เราจะไปด้วย ในเรื่องของการแต่งตัว ก็คือดูกาลเทศะครับ”

แล้วเวลาไปไหนมาไหนอึดอัดบ้างมั้ย เวลาคนมอง?

“ไม่เลยครับ ผมว่าเดี๋ยวนี้คนไทยเรา เวลาเจอดาราเขาต่ืนเต้นน้อยลงนะ โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ เขาไม่ตื่นเต้นกับดาราเท่าไร อาจจะมีมาขอถ่ายรูป แต่ไม่ได้มารุมอะไรมาก มันก็ทำให้เราสบายใจที่จะไปไหนมาไหนใช้ชีวิตได้ปกติครับ แต่ก็เข้าใจว่าไปไหนก็มีคนจับตามอง”

แล้วกังวลเวลาที่เจอคนแอบถ่ายคลิป หรือแอบถ่ายรูป เวลาไปไหนมาไหนบ้างมั้ย?

“ไม่เลยเฉย ๆ ครับ บางครั้งเราก็รู้ตัวนะว่ามีคนแอบถ่ายอยู่ ผมก็หันไปชูสองนิ้วให้เลยยิ้มให้กล้องด้วย (หัวเราะ) คือด้วยความที่ผมไม่ได้ชอบทำอะไรประหลาด ๆ หรือว่าทำตัวเสียหายเราก็ปกติ ไม่อึดอัดแล้วก็ไม่โกรธเลยครับ”

แล้วมองคนพวกนี้ยังไง คนที่แอบถ่ายเรา?

“ผมเองก็เคยนะครับ สมัยที่เรายังไม่ได้เข้ามาทำงานในวงการนี้ เจอดาราที่เราชอบก็แบบเอามือถือมาถ่ายรูป ก็แค่วันนี้เราเจอดาราคนนี้ด้วย น่ารัก อวดเพื่อนก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เรามายืนตรงนี้ก็ต้องยอมรับ แล้วถ้าจะบอกว่าเราเสียความเป็นส่วนตัวมั้ยก็ไม่นะ เพราะว่าที่ที่เราไปมันก็เป็นที่สาธารณะ เราจะมาขอพื้นที่ส่วนตัวในที่สาธารณะก็ไม่ใช่นะผมว่า เพราะมันเป็นที่ของทุก ๆ คน ใคร ๆ ก็ไปได้ไม่ใช่พื้นที่ส่วนของเรา ยกเว้นเราจะอยู่บ้านนั้นคือพื้นที่ส่วนตัวของเรา”

ทุกวันนี้เห็นเล็กทำงานหนัก เอาเงินไปทำอะไรบ้าง ?

“ก็สร้างบ้านอย่างเดียวเลยครับ โชคดีที่ผมไม่บ้ารถ ไม่บ้านาฬิกา ไม่บ้าของอะไรแพง ๆ แล้วก็ไม่งกนะ (หัวเราะ) เพราะผมชอบกิน ชอบกินอาหารญี่ปุ่น ชอบรองเท้าช่วงนี้เสียกับรองเท้าเยอะแต่ก็ไม่ได้ซื้อแพงมาก แล้วพ่อก็เริ่มปราม ๆ แล้วกับการซื้อรองเท้า และกินอาหารญี่ปุ่น เพราะว่าช่วงนี้กำลังสร้างบ้านอยู่ ”

เสื้อผ้ากระเป๋า สำหรับเล็กต้องแบรนด์เนมหรือเปล่า?

“ผมไม่เคยซื้อเสื้อผ้า กระเป๋าแบรนด์เนมเลย ที่เห็นใช้อยู่เพราะได้ฟรีมา ผมไม่กล้าซื้อเลยแบรนด์เนม ยกเว้นกระเป๋าตังค์ใบเล็ก ๆ หมื่นหนึ่งอันเนี่ยกล้าซื้อ ซื้อให้พ่อกับแม่ แต่มากกว่านั้นไม่กล้าซื้อจริง ๆ ครับแล้วก็ไม่ได้ซื้อให้ตัวเองด้วย ผมไม่ได้เหนียวนะ แต่ผมไม่ได้ชอบแบรนด์เนม ผมก็ใช้แบบธรรมดา ๆ ไม่ได้ซีเรียส ส่วนการแต่งตัว ผมก็ชอบใส่เสื้อผ้าสีแบบขาว เทา ดำ เขียว ฟ้า มันก็เลยไม่ต้องไปหายี่ห้อแพง ๆ ใส่อะไรก็ได้ แต่ผมจะแน่นรองเท้า (หัวเราะ) ส่วนนาฬิกา ที่ใช้ออกงานก็มีแค่เรือนสองเรือน ที่เหลือก็ทั่วไป คือพ่อผมบอกเสมอว่าอย่าประมาทกับชีวิตในวงการนี้ เพราะถ้าเราเจอเรื่องอะไรที่ผิดพลาดนิดหนึ่ง ก็สามารถที่จะหลุดออกไปได้เลย เพราะฉะนั้นก็อย่าใช้เงินเยอะเกินความจำเป็น และเราต้องทำตัวให้ดี และรักษามาตรฐานในการทำงานของเราด้วย”

ขอถามเรื่องความรักบ้าง มีคนเข้ามาจีบบ้างมั้ย เพราะสถานะของเรากับจอย-รินลณี ก็ไม่ชัดเจน?

“ไม่มีเลยครับ ไม่มีใครเข้ามาจีบเลย ด้วยความที่เราเป็นดาราด้วยมั้งครับ ไม่มีเข้ามาจีบเลย จริง ๆ จีบได้นะครับ (หัวเราะ)”

พูดแบบนี้เดี๋ยวมีผู้ชาย มีกะเทย เข้ามาจีบทำไงละเนี่ย?

“(หัวเราะ) กับผู้ชายก็เข้ามาเป็นเพื่อนกันได้นะครับ ผมว่ากลุ่มพวกเนี่ยเขาเป็นกลุ่มคนที่สนุก ผมเรียนที่จุฬาฯ มาผมมีเพื่อนแบบนั้นเยอะ อยู่ด้วยแล้วสนุก ขำกันทั้งวัน แล้วผมก็เดินด้วยได้นะ ทำไมอะครับ เป็นเพื่อนกันก็ไปไหนมาไหนกันได้ ผมไม่กลัวนะ ถ้าผมจะมีเพื่อนเป็นแบบนั้น”

แล้วกับจอย-รินลณี สรุปความสัมพันธ์คืออะไร?

“พี่จอย เขาเป็นคนสนิทของผมครับ เขาเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ แต่บางทีเขาก็เป็นน้อง มีอะไรก็ปรึกษากันได้ คู่จิ้นครับ คู่จิ้น (หัวเราะ)”

เล็กเชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาสมั้ย?

“เชื่อครับ คงเป็นดวงของเราที่เราจะเจอใครสักคนหนึ่ง กับพี่จอย ก็ถือว่าเป็นดวงที่ได้มาเล่นละครด้วยกัน แล้วเคมีเข้ากันเฉยเลย”

แต่บางมุมคนก็มองว่าเล็กกับจอย เป็นแฟนกันไปแล้วนะ?

“ก็แล้วแต่คนมองครับ จริง ๆ แล้วแต่คนมองเลย ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากที่คนสองคนจะสนิทกันได้ขนาดนี้ เพื่อนซี้กัน ก็สนิทกันมากนะครับ และอีกอย่างเรื่องแฟน ผมก็ไม่ได้รีบ ทำงานก่อนไม่ได้รีบมีแฟน มีครอบครัวครับ” ได้คำตอบกันแล้วในเรื่องที่หลายคนสงสัย แต่อนาคตจะเป็นยังไง ก็ต้องติดตามให้กำลังใจหนุ่มตี๋ อาเล็ก ธีรเ