Inside Dara
คือใคร? หญิง เผยคบพระเอกอ. ลับๆ-เคยบอกรักดาราหนุ่มใหญ่ แต่ได้คำตอบจุก!

หลายๆ คนคงจะยอมรับในความสามารถของเธอคนนี้ เธอเข้าวงการมาจากการเป็นนักร้องคุณภาพที่ทั้งร้องและเต้นไม่เป็นสองรองใคร เมื่อเธอผันตัวเองมาเป็นนักแสดงก็ทำได้ดีจนได้โกอินเตอร์และได้เดินพรมแดงที่เมืองคานส์มาแล้ว

แต่เรื่องความรักของเธอจะปังเหมือนเรื่องงานรึเปล่านั้น มาฟังจากปากของเธอเองกับ หญิง รฐา โพธิ์งาม และเป็นครั้งแรกที่เธอยอมเปิดเผยเรื่องความรักตั้งแต่รักครั้งแรกจนถึงครั้งล่าสุดในรายการ “คลับ ฟรายเดย์ โชว์ based on celeb story ทางช่อง GMM25 โดยหญิงเปิดใจอย่างหมดเปลือกว่า

"คุณแม่ห่วงค่ะ เขากลัวว่าผู้ชายจะเข้ามาหลอกเรามั้ย เขาก็เป็นห่วง เพราะชีวิตในครอบครัวเขา เขาก็ไม่ประสบความสำเร็จ เขาก็เลยห่วงนิดหน่อยค่ะ มุมมองในเรื่องความรักของคุณแม่จะหัวโบราณนิดหนึ่งค่ะ แล้วตอนนั้นสมัยเรียน มีคนมาจีบ คุณแม่ก็เรียกเขามาคุยเลยว่าเป็นอย่างนี้ๆ ต้องเป็นอย่างนี้นะ

ความรักทุกครั้งก็ไม่ได้บอกคุณแม่หมดเหรอ?

"ใช่ค่ะ เราเลือกว่าคนที่เรามั่นใจจริงๆ ทั้งชีวิตก็มีแค่ 2 คนค่ะ ที่เราบอกแม่ ก็เป็นแฟนคนแรกค่ะ เป็นครั้งแรกที่เราไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วเขาเป็นนักเรียนอายุ 16 ค่ะ ไปเรียนที่นั่น ซึ่งคนนี้แม่เขาปลื้มมากค่ะ เพราะเขาเทคแคร์แม่มาก และทำงานไปเรียนไปด้วย มารับส่งพาเรากับแม่ไปเที่ยวนั่นนี่ตลอด"

หลังจากนั้นก็ได้คุยกัน 6-7 เดือน จากนั้นก็เหมือนตกลงเป็นแฟนกันแหละ สมัยนั้นยังไม่เหมือนตอนนี้ ก็ส่งจดหมายคุยกัน นานๆ จะได้เจอกันที แต่สุดท้ายก็มาเลิกกัน เพราะเรามารู้ทีหลังว่า เขามีลูกอายุ 2 ขวบแล้ว ซึ่งเขามาเล่าให้ฟังทีหลังว่า ช่วงที่เรามีปัญหากัน เขาเฮิร์ตมากก็เลยไปกินเหล้าเมาและไปทำผู้หญิงท้อง ก็เลยต้องรับผิดชอบ"

ก็เลยเข็ดคนไทยรึเปล่า?

"ใช่ค่ะ คนต่อมาเป็นคนอเมริกัน ชื่อ คริส เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีค่ะ คนนี้เหมือนเป็นพรหมลิขิต เป็นคนที่รักมาก เหมือนเป็นพรหมลิขิตที่ได้มาเจอกัน ก็ตกลงคบกันเป็นแฟนไปได้สัก 1-2 ปี ถึงขั้นที่คิดจะทิ้งวงการบันเทิงเพื่อบินไปอยู่ด้วยกัน

แต่สุดท้ายแล้วมาทบทวนอีกที ก็รู้สึกว่าคริสไม่ใช่ เพราะเหมือนบางสิ่งบางอย่างเขาทำเพื่อเราไม่ได้ เลยตัดสินใจเลิกกัน ซึ่งแม่ก็บอกว่าเสียดาย คริสเขาเป็นคนดีมาก แต่มันมีแค่บางสิ่งที่รู้สึกว่าไม่ใช่ และไปด้วยกันไม่ได้"

เรื่องรักที่แม่ไม่รู้ มีครั้งหนึ่งที่ไปแอบคบ และเป็นคนเจ้าชู้ด้วย?

"หลังจากเลิกกับคริส ซึ่งคริสเป็นคนดีมาก คิดว่าดีสุดคงไม่ใช่ เอาเลวสุดก็ได้ (หัวเราะ) แล้วค่อยปรับความเข้าใจ ก็ไปเจอเพื่อนของรุ่นพี่ที่เรียนอยู่ต่างประเทศ เรียนจบปริญญาโท ก็กลับมาไทยและรอกลับไปเรียนต่อ ปริญญาเอกต่อ เราก็จีบกัน เขาเป็นเพลย์บอยหน่อย เราก็รับรู้

ก่อนที่จะตัดสินใจคุย เพื่อนของหญิงทุกคนเขาไม่โอเคกับคนนี้ แต่เราคิดว่าดี คนที่ไม่ดีอาจจะดีก็ได้ ช่วงแรกๆ เขาก็แมนๆ กับเรา บอกทุกคนว่าพี่มีแฟนแล้ว ดีกับเรามาก ช่วงนั้นเราเล่นละคร เพื่อนก็จะยกหูมาบอกเราตลอด ว่าไปเจอแฟนเราไปกับคนนั้นคนนี้

จนกระทั่งวันหนึ่งเล่น ฟ้าจรดทรายเสร็จ เพื่อนก็โทรมาบอกเจอแฟนเราอยู่ที่นี่ แล้วก็เจออยู่กับผู้หญิงคนอื่น แล้วเราก็ตามไปที่นั่นเลย พอไปถึงก็ยืนมอง ผู้หญิงคนนั้นเห็นก็สวัสดีเราแล้วเดินออกไป ส่วนแฟนเราก็ถามว่ามาทำไม มายุ่งอะไร นี่ก็เพื่อน แล้วก็เดินออกจากร้านไป เราก็โกรธเขามาก โกรธเป็นระยะเวลานานแล้วเขาก็โทรมานัดกินข้าว เราก็หายโกรธ ดูเหมือนจะดีขึ้น

แล้วตอนนั้นแม่โทรมาบอกให้เราโอนเงินให้หน่อย เพราะเขาต้องใช้ หญิงก็บอกแฟนไปว่า ต้องไปโอนเงินให้แม่นะ ซึ่งแฟนเราก็พูดมาคำหนึ่งเลยว่า หวังว่าหญิงจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้นะ แต่มันเป็นน้ำเสียงที่ดูถูกเรา

ซึ่งหญิงยอมอะไรก็ได้ในชีวิตนี้ แต่ไม่ชอบการดูถูก แล้วหญิงก็ขอเลิกเลย เพราะเราไม่ชอบคนมาดูถูก แต่ต้องขอบคุณเขา ที่ทำให้เรามีพลังมาถึงจุดในวันนี้ได้ เป็นอีกคำพูดหนึ่งที่ทำให้เราฮึดมาทำงาน เล่นละคร"

มีแฟนในวงการบันเทิงไหม?

"ก็มีค่ะ"

อักษรย่อ อ.อ่าง?

"ก็เหมือนมันเป็นงานโรดทัวร์ ที่มีระยะเวลางานต่อกัน 4 เดือน เราก็บังเอิญไปเจอเขา เขาเป็นนักแสดงผู้ชาย เจอกันบ่อย ก็เลยขอเบอร์คุยกัน แล้วเริ่มอยากรู้จักกันมากขึ้น ก็นัดกินข้าว ไปดูหนัง

แต่มันเป็นอะไรที่ลำบาก อย่างไปดูหนังก็ต้องสลับเข้าไปก่อน แล้วค่อยตามเข้ามา เวลาไปกินข้าวก็ไปกินแบบไม่มีความสุข เพราะกลัวคนรู้ คือเขาไม่อยากเป็นข่าว เขากลัวอึดอัด เป็นอย่างนี้ได้ 7-8 เดือนค่ะ ก็เริ่มมีมือที่สาม และเราก็รู้สึกว่าเขาไม่ให้เกียรติเราขนาดนี้ เราก็เลยจบดีกว่าค่ะ แต่เราก็ไปแอบดูนะ ซึ่งคนที่เป็นมือที่สามก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่"

กับคนนี้เจอกัน ทักทายกันได้ไหม?

"ก็เคยมีงานที่ต้องทำด้วยกัน เผอิญละครเรื่องนั้นเป็นละครที่ต้องทำพิเศษ แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็มีปัญหา โปรเจกต์เลยล้มไป แต่ว่ามีการแถลงข่าวแล้ว แต่ยังไม่เจอไม่ได้ร่วมงานกันค่ะ คือหญิงสามารถเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ทุกคนนะ ยังสามารถเข้าไปดูเฟซบุ๊กได้ ไปคุยได้บ้าง"

คนต่อมา ก็ อ.อ่างเหมือนกัน อ.อ่าง จัตวา ด้วย เห็นบอกว่าคนนี้เป็นคนที่ปลื้มมาก รักเกิดในกองถ่าย?

"ก็จริงๆ เราปลื้มเขามานาน ผู้หญิงในวัยหญิงก็ต้องปลื้มเขา เป็นผู้ชายในอุดมคติ แล้วพอเรามาร่วมงานกับเขา เราก็เลยเขินอะ พอมาเจอตัวจริง ก็รู้สึกว่าเขาน่ารักมาก"

จริงๆ มีข่าวด้วยแหละ ก่อนหน้านี้?

"เราร่วมงานกันมา เป็นละครที่ยาวมาก ถ่ายเป็นปี เขาชอบกินกาแฟมาก และรู้ว่าเราอยู่แถวนี้ เลยนัดเจอ ณ ซุปเปอร์แห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท ก็ไปเจอกัน แล้วพอดีเขารถเสีย เราก็เลยไปรับเขา และเขาก็ชวนไปทานข้าวด้วยกันค่ะ

คือเค้าชอบทำอาหารค่ะ พอวันเกิดเรา เขาถามว่าเราอยากกินอะไร เราก็บอกเขาไป เขาก็ขนของมาทำให้เรากินที่กองละครค่ะ ไม่ถึงกับขั้นป้อนข้าวนะ แต่มีโมเมนต์ที่เขินมาก โมเมนต์ที่เขาทำซอส เขาก็ทำในครัวแล้วเอาช้อนตักซอสนั้นเดินมาให้เราชิมในห้องแต่งตัว ซึ่งเราเขินมากและเรื่องนี้ไม่เคยเล่าที่ไหนเลย

แล้วเห็นเขาทำอาหารให้เราตลอด เราก็อยากจะตอบแทนมาก เราก็เลยเอาอุปกรณ์ไปทำกล้วยบวชชีที่กองถ่าย ทำให้เขากิน ให้ชิมคนแรก แต่เขาก็กินหมดนะ แล้วบอกว่าน้ำมันยังใสอยู่นะ รอบหน้าเอาน้ำข้นๆ กว่านี้

เสร็จแล้ว โดนัท มนัสนันท์ ก็มาตักชิมน้ำกะทิ แล้วบอกว่ามันเปรี้ยวมาก แกกินเข้าไปได้ยังไง เราว่ามันเสียแล้ว ซึ่งเราก็บอกว่า เอ้า พี่คนนี้ยังกินได้เลย พอเราไปถามพี่เขา เขาก็บอกว่า พี่ว่ามันเปรี้ยวนิดเดียวนะ ก็กินได้ เราก็รู้สึก เห้ย เขากินได้เพื่อเราเหรอ (หัวเราะ)"

เห็นบอกว่าทำกระทงไปลอยด้วยกัน?

"จริงๆ เป็นความบังเอิญค่ะ วันนั้นถ่ายละครด้วยกัน ไปถ่ายแถวริมคลอง เขาก็ไลน์มาหาบอกวันนี้เป็นวันลอยกระทงนี่นา เราก็บอกเดี๋ยวไปหาซื้อกระทงมาลอย เขาบอกไม่ต้องหรอก ก็เอาขนมปังมาทำเป็นกระทง

แล้ววันนั้นเลิกกองดึกมาก เราก็ไปลอยกระทงกันแถวคลองแสนแสบ ระหว่างทางไปมันเข้าไปลำบากมาก เขาก็บอกให้เรารอริมๆ คลอง แล้วเขาก็พยายามปีนท่อนไม้เพื่อเอากระทงไปลอยในน้ำ"

คนอื่นรู้ไหม?

"ก็ยังมีคนอำๆ กันบ้าง เขาก็ไม่ได้ชัดเจนกับเรา จนโปรเจกต์มันจบไป เขาไปถ่ายละครที่กองอื่น ก็เอากับข้าวไปทำที่อื่น เราก็รู้สึกว่า แสดงว่าพี่เขาทำอย่างนี้กับทุกคน ไม่ใช่เราคนเดียว"

มีโอกาสได้บอกเขาไหม

"ผ่านมา 6 เดือน เขาก็ไลน์มาหาบอกอยากไปกินข้าวที่ร้านหญิงนะ ซึ่งเขาถือศีล 8 ไม่กินข้าวหลัง 6 โมงเย็น เราก็บอกร้านเราเปิด 5 โมงเย็นนะ เขาก็บอกไม่เป็นไรหรอก อยากไปกิน เขาก็มาสั่งข้าวสั่งเบียร์กิน พอเขากลับไป เราก็ไลน์ไปบอกความรู้สึกกับเขายาวมาก และเขาก็ส่งกลับมาว่า ขอบคุณครับ เราก็ไม่ได้ตอบอะไร ก็คิดว่าเป็นความรู้สึกดีๆ ที่มีให้น้องในวงการ และไม่มีอะไรพิเศษ"

ถ้าเขาดูอยู่อยากบอกอะไร

"ความรู้สึกดีๆ มันก็มีอยู่ เขาไม่ใช่คนไม่ดี ถ้าย้อนกลับไปเขาก็เป็นคนดีคนหนึ่ง ณ วันนี้เรารู้สึกว่าเราแมนมากที่เราบอกความรู้สึกไป แต่หญิงกลับมามองว่า วันนี้หญิงต้องการคนที่แมนกว่าเรา สิ่งที่พี่เขาใช้ชีวิต อาจจะเป็นชีวิตประจำวันของเขาก็ได้ เราไม่สามารถไปเปลี่ยนอะไรเขาได้ค่ะ

มาตอนนี้หญิงคิดเสมอว่า แม่มีคนเดียว ผู้ชายเรามีโอกาสเจอได้อีก ถึงแม้แม่จะหัวโบราณ การที่เขาเชื่อว่า การมีผัวเดียวเมียเดียวมันเป็นสิ่งที่คนไทยยึดถือ แต่มันคือความจริงค่ะ และเขาอาบน้ำร้อนมาก่อน และหนูก็คิดว่าจะไม่แต่งงาน ปีนี้จะ 34 แล้ว คิดว่า 36-37 ถ้ายังไม่มีก็จะไม่แต่งงานหรือมีลูก เพราะเรากลัวลูกเราไม่สมบูรณ์หรือไม่พร้อม ในที่นี้หมายถึงทั้งสุขภาพลูกและการดูแลลูก อยากให้มีความพร้อมในเรื่องการเลี้ยงดูลูกด้วยค่ะ".