เป็นนางเอกงานดีไม่มีขาดอีกคน สำหรับ ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม นางเอกลูกหม้อช่อง 7 ที่อยู่มาทนนานกว่า 10 ปี ตอนนี้ด้วยอายุงานที่มากขึ้น อาจทำให้ต้องเลือกรับงานมากขึ้น แต่ยุ้ยก็บอกว่า รักงานแสดงมากที่สุดจะอยู่ตรงนี้ไม่หนีไปไหน และโอกาสเหมาะยุ้ยมาเยี่ยมเยียนกันถึงเดลินิวส์ “ดาวต่างมุม” เลยต้องเปิดใจอัพเดทชีวิตช่วงนี้กันสักนิด
ตอนนี้มีละครเรื่องอะไรบ้าง?ตอนนี้มีละครเรื่อง “เนตรนาคราช” ค่ะ ถ่ายทำไปได้ 80% แล้ว น่าจะได้ออนแอร์เร็ว ๆ นี้ ช่วงนี้ละครอาจมาทีละเรื่อง อยู่ที่เรารับมากกว่าค่ะ ยุ้ยว่ายุ้ยโตแล้ว ไม่ใช่เด็ก ๆ ที่อะไรมาก็เล่นหมด เราผ่านจุดนั้นมาแล้ว ตอนนี้มันไม่ใช่ ต้องสกรีนและเลือกบทมากขึ้น เลือกเยอะขึ้น ไม่ใช่เรื่องมาก เลือกเยอะขึ้นหมายถึงเราไม่สามารถเล่นเป็นนางเอกเด็ก ๆ ใส ๆ เหมือนเดิมได้ เพราะเราผ่านตรงนั้นมาหมดแล้ว เพราะฉะนั้นบทที่จะเล่นก็ต้องเหมาะสมกับตัวเราตอนนี้ด้วย บทแม่ก็เล่นได้ค่ะ ที่ผ่านมาเรื่อง “อาญารัก” ก็เล่นเป็นแม่ “เลือดเจ้าพระยา” ก็เป็นแม่ จริง ๆ แล้วยุ้ยไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกเลย คิดว่าตัวเองเป็นนักแสดงคนหนึ่งที่ถ้าช่องมอบบทอะไรมาแล้ว ยุ้ยตัดสินใจเล่น ก็จะทำมันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นนางร้าย นางรอง หรือบทแม่ เล่นได้หมด อย่างเรื่อง “อาญารัก” ก็มีลูกตั้งหลายคน วันหนึ่งด้วยอายุและคุณสมบัติถ้ามันเหมาะสมก็ต้องเล่นได้ ยุ้ยมองอนาคตไว้อยากจะเป็นเหมือนคุณอาดวงดาว จารุจินดา เล่นได้ทุกบท และอยู่กับช่อง 7 ค่ะ งานในวงการบันเทิงเป็นงานที่ยุ้ยรักที่สุดแล้ว เราคงจะอยู่ตรงนี้ไปอีกนานเท่าที่เขายังจ้างอยู่ เพราะทำแล้วมีความสุขที่สุดค่ะ
ชีวิตที่อยู่กับกองถ่ายเป็นอย่างไรบ้าง?ยุ้ยมีความสุขนะ หลายคนมองว่ามันคงเหนื่อยมาก ยุ้ยยอมรับว่ามันเหนื่อยจริง ถ้าความเหนื่อยนั้นมันอยู่บนสิ่งที่เราไม่ชอบมันคงทุกข์มาก ทุกวันนี้ยุ้ยเหนื่อยแต่กลับมีความสุข ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เข้าฉาก ได้ทำอะไรที่มันแปลกใหม่ ได้เจอสถานที่แปลก ๆ มันไม่ซ้ำซากจำเจ นี่แหละมันคือชีวิตของยุ้ย-จีรนันท์ ที่คงทำอาชีพอื่นได้ไม่ดีเท่านี้ วันไหนไม่ได้ไปกองถ่ายรู้สึกคิดถึงค่ะ ช่วงที่ปิดกล้องนาน ๆ รู้สึกแปลก ๆ เพราะยุ้ยทำงานมา 13-14 ปีเต็มไม่เคยหยุดเลย ช่วงพักนาน ๆ จะรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน อย่างช่วงนี้ยุ้ยปิดละคร “สุสานคนเป็น” ไป ยุ้ยเหลือ “เนตรนาคราช” เพียงเรื่องเดียว แต่ยุ้ยก็ไม่ได้ว่าง เพราะยุ่งอยู่กับการทำร้านอาหารของยุ้ยกับธันญ์ที่เพิ่งเปิดค่ะ
มีช่วงที่อยากจะพักยาว ๆ บ้างไหม?มันก็มีบ้างในช่วงที่เหนื่อยมาก ๆ แต่ขอแค่ 10 วันไปเที่ยวต่างประเทศหรือต่างจังหวัดบ้างก็พอ เหมือนได้ชาร์จแบต แค่นั้นพอแล้ว ไม่อยากหยุดเป็นเดือนสองเดือน เพราะเราเป็นคนทำงาน อยู่เฉย ๆ ไม่ได้ ถ้าตื่นขึ้นมาแล้ววันนี้จะทำอะไรดีหรือไปไหนดีจะไม่ชอบเลย ชอบแบบตื่นขึ้นมามีจุดหมาย วันนี้ต้องไปทำงานที่โน่นที่นี่ มันเหมือนชีวิตมีคุณค่าค่ะ
ผูกพันกับช่อง 7 แค่ไหน?ผูกพันมากเลยค่ะ 10 กว่าปี เป็นบ้านที่อบอุ่น อยู่ด้วยแล้วมีความสุข พอใจแล้วที่อยู่ตรงนี้ เพราะเรารู้จุดมุ่งหมายในการดำเนินชีวิตที่มายืนอยู่ตรงจุดนี้ว่าเพราะอะไร ในแต่ละวันได้ทำงานที่เรารัก เราต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายมาให้ดี ไม่ต้องคิดไปแก่งแย่งกับใครหรือต้องเด่นกว่าคนนั้นคนนี้ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ยุ้ยกลับกลัวว่าช่อง 7 จะไม่เรียกเซ็นสัญญาต่อซะอีก ยุ้ยคงอยู่ที่นี่ค่ะ เพราะอยู่มาตั้งนานแล้ว
มีอะไรที่เราต้องปรับปรุงหรือพัฒนาอีกไหม?มันไม่มีการหยุดนิ่งอยู่แล้วค่ะ สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรให้ตัวเองอยู่ตรงนี้ได้ยาว ๆ มากกว่า ยุ้ยว่ายุ้ยโชคดีที่ได้ครองตำแหน่งนางเอกมา 13-14 ปี โดยที่เราไม่ได้สวยและดังเหมือนคนอื่น คิดว่าเราจะต้องดูแลตัวเองอย่างไรเพราะทุกวันนี้ด้วยอายุขนาดนี้ เรายังเป็นนางเอกได้อยู่โดยที่ไม่ได้มีจุดเด่นหรือจุดขายเหมือนคนอื่นเขา อะไรที่เป็นตัวตนของเราก็ต้องทำให้มันดีที่สุด
อยู่ในวงการมานาน มีงานอะไรที่อยากทำอีกบ้าง?จริง ๆ แล้วยุ้ยชอบการแสดงนั่นแหละ ถ้าเป็นงานเบื้องหลังยุ้ยคงไม่ถนัด พิธีกรก็ทำแล้ว คงเป็นงานแสดงต่อไปค่ะ เพียงแต่ไม่อยากเล่นบทซ้ำ ๆ อยากเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ซึ่งการแสดงมันอยู่ที่การตีความค่ะ อย่างบทร้าย ความร้ายของแต่ละเรื่องจะไม่เหมือนกัน ร้ายแสดงออก ร้ายเก็บกด ร้ายโรคจิต หรืออาจร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ ขึ้นอยู่กับการตีความและการตกลงกันระหว่างเรากับผู้กำกับ การเป็นครูสอนการแสดงยุ้ยว่ายุ้ยทำได้ แต่อาจจะไม่ค่อยชอบเท่างานแสดงโดยตรง
ทุกวันนี้บริหารจัดการตัวเองอย่างไรให้พอดีทั้งงานและชีวิตส่วนตัว?ก็เลือกรับงานโดยที่ไม่ต้องไปโหมงานหนัก 3-4 เรื่องโดยไม่มีเวลาพักผ่อน ตอนนี้ก็ได้ทำอะไรที่เกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง ได้ทำอะไรให้ครอบครัว ได้อยู่กับเพื่อนบ้าง อยู่กับตัวเองบ้างค่ะ ธุรกิจร้านอาหารก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งควบคู่กันไป ทำให้ครอบครัวด้วย เป็นการสร้างพื้นฐานที่แม้วันนี้จะเหนื่อยหน่อย แต่มันเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต เราจะสบายกว่านี้ คือเราเริ่มโตแล้ว อยากทำอะไรให้มันเบากว่านี้ ต่อไปเราก็จะอยู่กับบ้าน ไม่ต้องดิ้นรนอะไรเยอะ ร้านอาหารนี้เปิดที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ที่ตอนนั้นยุ้ยซื้อที่จำนวน 9 ไร่กับธันญ์เอาไว้ ตอนนี้มาเปิดเป็นร้านอาหารแล้ว ซึ่งธันญ์กับครอบครัวยุ้ยช่วยกันดูแลค่ะ
วางอนาคตเรื่องการแต่งงานกับธันญ์ไว้อย่างไร?เราสองคนคุยกันไว้ว่ายังไม่อยากแต่งตอนนี้ เพราะเราก็มีความสุขดี แม้ยังไม่ได้แต่ง แต่เราก็ได้ดูแลกันและกัน ถ้าแต่งงานไป ความโสดมันจะหายไปจากชีวิต สถานภาพก็จะเปลี่ยน อายุความโสดตอนนี้มันเหลือน้อยมาก ขอใช้ให้เต็มที่ก่อนแล้วกัน แต่งงานแล้วจะมีลูกหรือเปล่ายังไม่แน่ใจเลย เลยไม่อยากคิดอะไรเยอะ เพราะทุกวันนี้เราสองคนก็มีความสุขดีแล้ว พ่อแม่ก็ถามบ้างนะ แต่เขาก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร เพราะคงเห็นว่าเราดูแลกันได้ดีและมีความสุขแล้ว
การคบกันยังมีอะไรที่ต้องปรับกันบ้าง?ยุ้ยว่าเราโตขึ้นค่ะ คนเราคบกันใช่ว่าจะเข้ากันได้ทุกเรื่องนะ เราทั้งคู่มีเรื่องต้องปรับหากันเยอะมาก เพราะเราถูกเลี้ยงดูมาคนละแบบเลย รักกันอย่างเดียวอยู่ด้วยกันไม่ได้นะ ต้องเข้าใจและให้อภัยกัน ตอนนี้มันลงตัวมากขึ้นเพราะได้ผ่านอะไรมามากมาย แต่มันก็ไม่ได้เข้าใจกันได้ทุกเรื่อง ยังไงมันก็ต้องขัดแย้งกันบ้างเหมือนลิ้นกับฟัน แม่กับลูกยังคนละความคิดเห็นกันเลย อยู่ให้เป็น อยู่ให้เข้าใจชีวิตก็พอ ยุ้ยกับธันญ์เป็นเหมือนเพื่อนมาโดยตลอด หวานกันน้อยมาก เพราะเราเป็นเพื่อนกันมา รู้ไส้รู้พุงกันหมด รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง เวลาคบกันก็เฮฮากันไป จะมีมุมโรแมนติกอยู่บ้าง แต่ไม่มาก เพราะธันญ์เป็นคนไม่หวานอยู่แล้ว
แล้วเมื่อไหร่จะยอมสละโสดเสียที?คิดว่าน่าจะก่อนอายุ 40 คงรอให้งานและอะไรลงตัวกว่านี้ ใจมันยังไม่อยากแต่ง เพราะตอนนี้ก็มีความสุขดีแล้ว แต่งไปแล้วอาจจะเลิกกันก็ได้ คิดว่าการแต่งงานไม่ได้บ่งบอกว่าเราจะรักกันไปได้ตลอด
เหมือนกลัวการใช้ชีวิตคู่นะ?ก็มีส่วนค่ะ เพราะยุ้ยก็อยู่ในครอบครัวที่แตกแยก คุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน และยุ้ยเคยผิดหวังกับความรักมา เคยคาดหวังอะไรมาเยอะ เลยอยากปล่อยไปตามธรรมชาติ ทุกวันนี้มันมีความสุขพอ หากแต่งงานกันไปอาจจะเลิกกันก็ได้ แบบว่าตอนคบกันก็ยังดีอยู่ พอแต่งแล้วอาจไม่เหมือนเดิม ตอนนี้เลยยังไม่ซีเรียสค่ะ เราอยากดูแลเขา ยุ้ยเชื่อว่าเขาก็อยากดูแลยุ้ย ขอเวลาอีกสักพักแล้วกัน ยังไงก็จะดูแลกันแน่นอน เมื่อก่อนแม่หวงมาก เดี๋ยวนี้แม่ไม่หวงแล้วค่ะ
มุมมองความรักเปลี่ยนไปจากตอนเด็ก ๆ อย่างไรบ้าง?เปลี่ยนมากเลย จากประสบการณ์ความรักสมัยเด็ก ๆ ที่เคยเจอมา ตอนนี้ยุ้ยเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มันจึงทำให้เราอยู่กันได้ยาวนาน มีปัญหาก็ให้อภัยกัน เราไม่ใช่เจ้าของเขา เขาก็ไม่ใช่เจ้าของเรา โชคดีที่ธันญ์ก็เป็นผู้ใหญ่ เวลาโกรธหรืองอนกันก็จะไม่นาน ไม่เล่นตัวมากนัก ชีวิตมันมีเรื่องให้เหนื่อยเยอะแล้ว เราจะไม่สร้างความเหนื่อยให้กันอีก อะไรที่ไม่เข้าใจกันก็ต้องรีบเคลียร์รีบคุยกัน
สุดท้ายนี้ฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานของยุ้ยมาโดยตลอด?ฝากขอบคุณแฟนละครที่เหนียวแน่นของยุ้ยด้วยค่ะ ไม่ว่ายุ้ยเล่นละครเรื่องไหน ทุกคนจะชื่นชอบในบทบาทและคอยเป็นกำลังใจให้เสมอ แม้บางทียุ้ยรับบทร้ายก็ยังรัก ทุกกำลังใจสำคัญสำหรับยุ้ยมาก ๆ เพราะยุ้ยจะมีกำลังใจในการทำงานและสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ให้แก่แฟนละครต่อไป ไม่ต้องกลัวว่ายุ้ยจะทิ้งไปไหนนะคะ ยังจะเล่นละครให้ทุกคนได้ดูอยู่เสมอค่ะ
เชื่อว่าดาราดีมีฝีมือแบบนี้ ยังมีพื้นที่ยืนในวงการและอยู่ไปได้อีกนาน ๆ เลยจ้า.
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012