Inside Dara
“พลอย” ปรี๊ดแตกสับทีมงาน “วู้ดดี้” ไม่มีมารยาท ยันไม่เคลียร์เพราะตนไม่ผิด

“พลอย” ฉุนกึกจวกทีมงาน “วู้ดดี้” ไม่มีมารยาทเห็นแก่ได้ ซัดมาเร่งขอสัมภาษณ์ไม่พอ ยังจี้ให้ไปงาน “เกิด อวอร์ด” ทั้งที่ตนรับงานอื่นไว้ก่อนนานแล้ว ป้องวู้ดดี้ไม่ผิด แต่ลูกน้องผิด ถ้าอีกฝ่ายอยากเคลียร์ก็แล้วแต่ แต่ตนคงไม่โทร.เคลียร์ เพราะไม่ใช่คนผิด

กลายเป็นประเด็นไม่น้อย สำหรับกรณีที่นางเอก “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” เหวี่ยงใส่ทีมงานของ “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” หลังโดนทีมงานเร่งรัดจะขอสัมภาษณ์และยังจี้ให้ไปร่วมงาน “เกิด อวอร์ด” เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ที่ผ่านมา ทั้งที่ในวันและเวลานั้น ตนรับงานอีเวนต์ที่ เซ็นทรัล ซิดลม ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว เป็นเหตุให้สาวพลอยไม่พอใจอย่างมากถึงกลับไล่ทีมงานกลับ ซึ่งทางฝ่ายของวู้ดดี้เอง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวไปแล้ว ว่า ไม่ถือสาพลอย เพราะเข้าใจว่าวันนั้น นางเอกสาวคงเหนื่อย อีกทั้งงานฟรีต้องรอคิว ล่าสุด เป็นทางฝ่ายของพลอยขอชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นบ้างว่า….

“ไม่ใช่งอนพี่วู้ดดี้ค่ะ แค่พนักงานบริษัทเขาไม่มีมารยาทค่ะ (ได้เคลียร์กับพี่วู้ดดี้หรือยัง?) ยังไม่ได้เคลียร์ค่ะ พลอย เห็นว่า พี่วู้ดดี้ไม่สบาย เราก็เลยไม่อยากรบกวน เดี๋ยวพี่วู้ดดี้คงคุยกับพลอยเองมั้งคะ เพราะพี่เขาคงยังไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น อีกอย่างนึง คือ พลอยถูกจี้ และกดดันว่าต้องไปงานนั้นก่อนถึงต้องมางาน CENTRAL SUMMER FEST (งาน เกิด อวอร์ด เวลาเดียวกับงานอีเวนต์พลอยที่เซ็นทรัล ชิดลม) แล้วพลอยคิดว่าจะทิ้งงานนี้ได้ยังไง รู้สึกว่าลูกน้องเขาเห็นแก่ได้ไปนิดนึง โดยที่ไม่แคร์ว่าพลอยมีงานนี้อยู่”


“แล้ววันที่เขาตามสัมภาษณ์ เขาบอกว่าจะตั้งกล้องไว้เฉยๆ ซึ่งวันนั้นพลอยมี 2 อีเวนต์ พอมาถึงเขาก็เร่งจะสัมภาษณ์ พลอยก็บอกว่าเดี๋ยวก่อนมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมง งานจะเริ่มแล้วพลอยยังไม่ทำผม เวลาพลอยซ้อมบนเวทีเขาก็จะมาติดไมค์ขอสัมภาษณ์ก่อน แล้วตอนซ้อม คือ พลอยตกใจมาก เพราะบนเวทีงานครบรอบ 40 ปี Jaspal มีเก้าอี้ยักษ์และกล่องของขวัญใหญ่มาก แล้วทีมงานที่จัดงาน Jaspal เขาก็มาถามว่า พลอยให้เอาของมาตั้งบนเวทีเหรอ พลอยก็อ้าว ซวยเราแล้ว ก็บอกไปว่าเปล่านะ ไม่รู้เรื่อง เพราะเขาบอกว่าตั้งกล้องแค่อย่างเดียว ด้วยความที่เราคิวไม่ว่างด้วย”

“ส่วนตัวพลอยเอง พลอยไม่มีปัญหากับพี่วู้ดดี้นะคะ แค่พนักงานเขาไม่มีมารยาท เวลาทำทุกอย่างต้องมีขั้นตอน และนึกถึงเราด้วย จะให้พลอยทิ้งงานที่ชิดลมไปเหรอ พลอยต้องซ้อมสลิงด้วย เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร พลอยก็เลยบอกว่า ถ้างานนี้พลอยเสียแล้วใครรับผิดชอบ ซึ่งงานที่เซ็นทรัลชิดลม พลอยรับไว้ก่อนนานแล้วค่ะ อย่างที่บอกต้องขอบคุณพี่วู้ดดี้ที่ให้เราอยู่ในรายชื่อรางวัล แต่เราไม่สามารถไปร่วมงานได้จริงๆ อีกอย่างนึง คือ เขาเพิ่งติดต่อมาไม่นานนี้ด้วย”

“แล้วก็มีมาตีเนียนงานแฟชั่นโชว์ F&F มาบอกทีมงานพี่ก้อง ว่า คุยกับพลอยเรียบร้อยแล้วว่าจะสัมภาษณ์ วันก่อนเพิ่งมั่วนิ่ม แล้ววันนี้จะมามั่วนิ่มอีกเหรอ กับพี่วู้ดดี้ไม่มีปัญหาแน่นอน แค่ทีมงานไม่มีมารยาทเท่านั้นเองค่ะ ถามว่ากลัวพี่วู้ดดี้เข้าใจผิดไหม คือ คนเราก็ต้องรู้ข้อเสียของตัวเองว่าจุดตรงไหนผิดหรือถูก พี่วู้ดดี้ ไม่ผิด แต่ลูกน้องผิด เราก็ต้องคุยว่ามันเกิดอะไรขึ้น บังเอิญว่าพลอยมีพยานเยอะด้วยสิ พลอยคงไม่โทรเคลียร์แล้วค่ะ เพราะว่าพลอยไม่ได้ผิด แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ก็คงแล้วแต่ว่าเขาอยากเคลียร์หรือเปล่า”

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าที่ไม่ไปงาน “เกิด อวอร์ด” จริงๆ แล้วเพราะไม่อยากขึ้นเวทีกับ “โดม” ?...“ไม่เกี่ยวแน่นอนค่ะ กับพี่โดมไม่มีปัญหา แค่เคืองทีมงานนิดหน่อยค่ะ”

ติสท์วงแตก “เข็ม ตีสิบ” เลิก “ด้วง” อ้างหาลูกแต่ซบ “ทรายแดง”

ติสท์ไม่ช่วยอะไร ในที่สุดสถาปนิกไฮโซ “ด้วง ดวงฤทธิ์ บุนนาค” ก็ไปไม่รอดกับความรักระหว่างสาว “เข็ม กฤตธีรา อินพรวิจิตร” ที่ต้องสะดุดหลังคบหากันแบบไม่เรียกแฟนแต่หวานซึ้งในหลายรูปแบบแต่ทว่าหลังจากคบหากันจริงจัง ฝ่ายหญิงค้นพบสัจธรรมและออกมายอมรับว่าด้วงกลับไปทำหน้าที่พ่อของลูกอีกครั้ง และตัดสินใจลดความสัมพันธ์แบบไม่ให้เหนื่อย ปิดฉากติสท์นักรักซะเลยไปแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวหึ่งว่าด้วงหันไปซบ “ทราย เจริญปุระ” แบบรวดเร็วทันใจ

หลังจากที่ภาพความรักปรากฏ ระหว่าง “เข็ม กฤตธีรา อินพรวิจิตร” กับ “ด้วง ดวงฤทธิ์” บุนนาค เมื่อฝ่ายหญิง ออกมาให้ข่าวเสมอว่าดูแลกันในฐานะเพื่อนสนิทที่ไม่อยากจำกัดความว่าเป็นแฟนหรือเป็นอะไรในชีวิตเธอ ขณะเดียวกันก็มีข่าวลือว่าเธออุตส่าห์ชิงหนุ่มสถาปนิกรายนี้มาจาก “อุ้ม สิริยากร พุกกะเวส” ที่ปัจจุบันแต่งงานแต่งการไปกับฝรั่งเรียบร้อยแล้ว หลังทำรายการเกี่ยวกับบ้านอยู่พักหนึ่งแต่ก็ไม่เวิร์ก จึงหันเหไปคบฝรั่งจนได้แต่งงานไปเมื่อเร็วๆ นี้

อีกทั้งสถานะของ ด้วง ดวงฤทธิ์ นั้นได้หย่าขาดกับภรรยา “แอน อัชฌานาท” ที่มีลูกด้วยกัน 2 คนเรียบร้อยแล้ว เข็ม กฤตธีรา จึงเป็นสาวคนล่าสุดที่ด้วงคบหา และในระหว่างนั้น เข็มก็ไม่ค่อยได้มีข่าว หรือรับงาน อีกทั้งขอลาออกจากพิธีกรรายการตีสิบในช่วงเวลาที่คบหากันด้วย

ดูๆ ไปแล้วเส้นทางความรักของทั้งคู่เหมือนจะสดใสไร้อุปสรรค แต่ล่าสุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เข็มเล่าว่าความสัมพันธ์ของเธอกับสถาปนิกด้วงเริ่มจืดจางลง จนห่างกันไปในที่สุด โดยเธอให้เหตุผลว่า เธอสงสารคนที่เธอรักนั้นเหนื่อยเกินไปที่ต้องดูแลเธอ แล้วยังมีครอบครัวที่ต้องกลับไปทำหน้าที่พ่อ สำหรับเธอค้นพบสัจธรรมมากขึ้น แม้ไม่ประสบความสำเร็จในด้านความรัก แต่ยืนยันไม่เข็ดกับความรักอย่างแน่นอน การกลับไปหาครอบครัวของด้วงในวันนี้ เข็มยังบอกว่าไม่ได้กลับไปคืนดีในฐานะสามีภรรยา แต่อยู่ด้วยกันในฐานะพ่อของลูกเท่านั้น หรือนี่จะเป็นเหตุผลของการเลิกราครั้งนี้ซึ่ง เป็นการแยกย้ายที่ดูดีไม่น้อยเมื่อฟังจากการให้สัมภาษณ์ของเข็ม ส่วนฝ่ายชายไม่เคยออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

“มีอยู่ช่วงหนึ่งน้ำท่วม จนมาถึงปีใหม่ อยู่ๆ ไปสักพักเขาต้องไปดูแลครอบครัวเขา แล้วเขาต้องแบ่งภาค อย่างวันปีใหม่เขาต้องไปงานที่บ้านกับภรรยาเก่ากับลูก แล้วเขาต้องวิ่งมาหาเราแล้วต้องกลับไปอีก เราเลยรู้สึกว่าคนที่เรารักรู้สึกเหนื่อย เดี๋ยวบินไปทำงานต่างประเทศ เดี๋ยวต้องไปหาภรรยา หาลูก แล้วเขาเป็นฝ่ายอยู่กับเราเยอะ เวลาเขาเหนื่อย เราเลยสงสาร เราเลยมาคุยกัน เขาจะกลับไปอยู่กับภรรยากับลูก เราก็โอเค เราอยากให้เขาไป ตอนนี้ก็โสด” เข็มกล่าวชัดเจนในงานงานหนึ่งกับสื่อถึงความสัมพันธ์กับด้วง

พร้อมทั้งยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า ด้วงไม่ได้กลับไปคืนดีกับภรรยาเก่าแต่กลับไปทำหน้าที่พ่อของลูก หลายคนอาจงุนงงสงสัยว่าทำไมการเลิกราครั้งนี้ของเข็มถึงจบลงอย่างง่ายดาย เพราะปกติแล้วใครๆก็รู้ว่า เธอไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ ดังเช่นเรื่องมินิคูเปอร์ กับอั้ม พัชราภา และเมย์ เฟื่องอารมย์ที่ปรากฏเป็นข่าวในอดีต โดยเข็มให้เหตุผลของการเลิกราด้วยดีและเข้าใจกัน เพราะว่ากิ๊กเก่าอย่าง “โน้ส อุดม แต้พานิช” แนะนำให้เธอไปเข้าคอร์สชีวิต จึงทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป

ซึ่งสิ่งนี้หากเป็นจริงก็น่ายินดี เพราะจะว่าไปแล้วเข็มผ่านชีวิตรักที่ไม่เคยประสบความสำเร็จ ตั้งแต่คบหากับแฟนคนแรกจนถึงคนล่าสุดก็ไม่สามารถทำให้เธอมีชีวิตแต่งงานที่สมบูรณ์ แม้ว่ากับด้วงนั้น เข็มจะออกตัวว่าคบหาได้ไม่นาน แต่ทั้งคู่ก็รู้จักกันมานานแล้ว และความรักแม้ไม่หวานแหววแต๋วจ๋า หรือหวือหวาเหมือนสมัยคบกับ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” แต่ด้วงมักจะส่งสื่อรักออนไลน์ให้เข็มตลอด แต่จู่ๆ ความสัมพันธ์ลดระดับลงย่อมเป็นที่น่าตกใจ เมื่อคนที่คิดจะอยู่กันจนแก่เฒ่า เคยคิดจะซื้อตึกแถวเก่า ไว้สร้างเรือนหอรอรักด้วยกัน แต่โครงการต้องจบสิ้นลง และเข็มก็ไม่ประสบความสำเร็จในความรักอีกครั้ง หลังจากเธอเงียบหายไป แล้วกลับมาอีกครั้งเธอบอกสื่อว่าเธอโสด จากรักที่เคยหวานส่งดอกไม้ให้ถึงสตูดิโอตีสิบในระยะแรก กลายเป็นปัจจุบันห่างกันจนถึงขั้นเลิกรา ฝ่ายชายกลับไปดูแลครอบครัว ทำหน้าที่พ่อ แต่ไม่ใช่สามี จบง่ายดายเกินคาดเดา


ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเลิกกัน เข็มไม่ได้พูดถึงมือที่สามที่เข้ามาเกี่ยวพันกับด้วง ดวงฤทธิ์ แต่ที่หลายคนเห็นด้วงให้ความสนิทสนมกับ “ทราย เจริญปุระ” ซึ่งเข็มยืนยันว่าไม่มีทางเป็นไปได้ และคงไม่ใช่ความสัมพันธ์ฉันชู้สาว แต่จะว่าไปทั้งดีกรีก็นางเอก และยังมาทางแนวติสท์ ชอบการเขียนคล้ายกัน แถมยังโสด ทรายจึงเข้าข่ายสาวคนใหม่ของด้วงได้ไม่ยาก ต้องถามด้วงว่าจีบจริงหรือไม่ แต่ฝ่ายสาวเข็มยืนยันว่าสองคนนี้รู้จักและเป็นเพื่อนกัน ส่วนความสัมพันธ์จะพัฒนามั้ยไม่รู้ แต่มือที่สามจากสาวคนอื่น เข็มแทงกั๊กไว้แต่เพียงว่า เคยมีคนบอกให้ดูเรื่องนี้ แต่เลิกรากันแล้วจึงไม่ได้สนใจ ไม่หล่อแต่เนื้อหอม สาวรุมตอมสถาปนิกหนุ่มรายนี้ไม่เคยขาด

ในเมื่อกลับไปทำหน้าที่พ่อ ไม่ได้ทำหน้าที่สามี นั่นก็แปลว่าถ้ามีสาวคนใหม่เข้ามาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก สมัยนี้ไม่ต้องหล่อเลือกได้ บางคนไม่หล่อแต่เลือกได้มีถมไป จริงมั้ยด้วง! ไม่ใช่เลือกได้ธรรมดา ถ้าไม่ดาราแถวหน้า ก็คว้านางเอก ติสท์เจอติสท์ คบได้พักหนึ่งติสท์แตก ก็วงแตกจบข่าว แบบนี้ทุกรายไป...

“เมย์” ปัดรีเทิร์นทายาทโรงแรม ยันไม่แย่ง “แตงโม” ถือหมอนงานบวช “อ้วน รังสิต”

“เมย์” โต้รีเทิร์น “เอก” ทายาทเจ้าของโรงแรม รับมีติดต่อกันบ้างแต่ไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน แจงภาพหลุดเป็นผู้จัดการส่วนตัว ยันไม่แย่ง “แตงโม” ถือหมอนงานบวช “อ้วน รังสิต” บอกยินดีหากฝ่ายชายมีคนรู้ใจ ย้ำหัวใจยังว่าง

ปากบอกยังโสดสนิท แต่ยังแอบมีภาพหลุดสาว “เมย์ พิชญนาฏ สาขากร” ควงอดีตแฟนหนุ่มทายาทเจ้าของโรงแรม “เอก นพวินท์ รอดริน” แถมยังมีข่าวแย่งถือหมอนงานบวชหนุ่ม “อ้วน รังสิต ศิรนานนท์” กับสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” แต่แล้วสาวเมย์ก็ออกมาเคลียร์ทุกข่าว กับหนุ่มเอกนั้นไม่ได้เจอกันเลย ส่วนภาพที่เห็นควงผู้ชายเป็นผู้จัดการส่วนตัว

“เป็นผู้จัดการเมย์เองค่ะ ชื่อเบียร์ ให้ถ่ายคู่กันเลย รูปคู่กับผู้จัดการ ลงข่าวบ่อยมาก ครั้งก่อนเขาใส่เสื้อลายทหาร กินข้าวด้วยกันที่พารากอน ก็เขียนว่าเมย์เดทกับทหาร จริงๆ ก็คนเดียวกันนี่แหละค่ะ นักข่าวก็อาจจะสับสนนิดนึง เมย์ยังโสดค่ะ ไม่ใช่พี่เอกอะไรเลย ส่วนกับเขาก็มีบีบีคุยกันบ้าง ทักทายกันปกติ ไม่ได้ไปไหนด้วยกันเลย ตอนนี้โสดสนิทคนเก่าไม่มี คนใหม่ไม่มีค่ะ ทุกวันนี้อยู่กับเพื่อนต่างเพศจนคิดว่าตัวเองเป็นกะเทยค่ะ ก็เวลามีใครเข้ามาก็โดนเพื่อนสาวสกัดหมดค่ะ เลยไม่ถึงตัวสักที”

“คนในวงการก็มีมาคุยๆ เป็นเพื่อนกันค่ะ เมย์ว่าคนนอกวงการยังไม่รอดเลย แล้วคบคนในวงการจะรอดเหรอเพราะว่าบางครั้งการเป็นข่าวบ่อยๆ ก็คบกันลำยากเหมือนกันนะ ยังไม่เคยถูกใจคนในวงการด้วย จะมีแต่เพื่อนกันมากกว่า คนในวงการส่วนใหญ่จะมีมาคุยแป๊บๆ เหมือนหยอกกัน แป๊บๆ ก็หายไป ไม่ได้ถึงขั้นมาคบกันหรอก”

“อย่างกรณี อ้วน รังสิต นี่ก็ไม่มีอะไร ล่าสุดมีข่าวเขียนแซวว่าจะไปแย่งถืออหมอนงานบวชอ้วน คือบ้าเหรอ เขามีข่าวกับคนอื่นแล้วไม่ใช่เหรอ ที่แซวว่าต้องไปแย่งถือหมอนกับแตงโมตลกมาก ให้แตงโมถือดีกว่านะ ไม่ถือดีกว่า ขอถือหมอนทองล่ะกัน เล่นร้ายดีกว่า ก็ถ้าเขาชวนก็ไป ก็สนิทกันเป็นเพื่อนกัน ก็ดีใจกับเขาด้วย คือกับอ้วนเราสนิทกันตอนเล่นละคร พอละครจบมันก็ห่างๆ กันไป ยังมีทักทายกันบ้าง ถ้าเขามีแฟนก็ดีใจด้วย”

เปิดใจคู่กรณี “บอดี้สแลม” ยันโดนกระชากคอเสื้อ-ข่มขู่

คู่กรณี “บอดี้สแลม” ยันโดนกระชากคอเสื้อและโดนข่มขู่ที่สนามบิน บอกไม่คิดแจ้งความและไม่คิดมีเรื่อง แค่เสียความรู้สึกที่อีกฝ่ายทำตัวแบบนี้ทั้งที่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชน พร้อมเผย “ยอด มือกีต้าร์บอดี้สแลม” ไปโพสต์ในอินสตาแกรมว่า “คราวนี้แค่กระชากคอเสื้อ แต่ถ้าเป็นคราวหน้า....” เจ้าตัวลั่นไม่ได้อยากให้ขอโทษ แต่อยากวอนแกรมมี่อบรมศิลปินให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชน ด้านบอดี้สแลมยังปิดปากเงียบ

ยังอยู่ในความสนใจ กรณีที่ก่อนหน้านี้มีสาวนามสกุลไฮโซโพสต์อ้างผ่านเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Rin Mahadumrongkul ว่า เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา พี่ชายของตนถูก “ชัช สุชัฒติ จั่นอี๊ด” มือกลอง “บอดี้สแลม” กระชากคอเสื้อและขู่ทำร้ายร่างกายด้วยถ้อยคำหยาบคาย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งปัญหาเกิดจากกลุ่มนักร้องดังลัดคิวเช็กอินขึ้นเครื่องไปต่างประเทศ จนเกิดความไม่พอใจกัน โดยสาวคนดังกล่าวได้ระบุว่า แม่ของตนเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์และเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ซึ่งหลังจากที่เรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยออกมา ก็ได้กลายเป็นประเด็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ทันที อีกทั้งยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาต่างๆ นานา บ้างก็เห็นใจและตำหนิการกระทำของกลุ่มนักร้องดัง บางคนก็ตั้งข้อสงสัยว่า หากอีกฝ่ายพูดแค่นี้จริงๆ ชัชมือกลองจะของขึ้นขนาดนั้นเชียวหรือ ฯลฯ

เพื่อความกระจ่าง จึงได้ติดต่อไปยัง “วิภาวรรณ มหาดำรงค์กุล” คุณแม่ของรินที่เป็นคนโพสต์ข้อความดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่ง วิภาวรรณ ได้ออกตัวว่าไม่ได้อยากให้สัมภาษณ์เพราะไม่อยากมีปัญหากับใคร และอยากให้ทุกอย่างจบ พร้อมยันการที่ลูกสาวไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก เพียงเพราะอยากปกป้องพี่ชาย ไม่ได้เจตนาเอาเรื่องอะไรเลย

“คนที่เกิดเหตุเป็นหลานค่ะ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับรินลูกสาวที่เป็นคนโพสต์ วันนั้นเราจะกำลังจะเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์ ก็ไปเข้าแถวรอเช็กอินที่สุวรรณภูมิ ก็เข้าแถวทำทุกอย่างเหมือนคนอื่นๆ แล้วกลุ่มเขา(บอดี้สแลม)ก็เดินตัวคิวคนที่ต่อคิวอยู่เหมือนที่รินลูกสาวโพสต์ไป แล้วหลานชายก็พูดดีๆ นะคะ ถามทางโน้นว่าทำไมไม่ต่อคิวครับ แล้วหลานก็พูดครับอย่างสุภาพและไม่ได้พูดน้ำเสียงไม่ดีเลย แล้วตอนนั้นน้องตูนก็หันมาตอบอย่างสุภาพนะคะ ว่าผมก็ไม่ทราบครับ ผมมากับคณะครับ อันนี้ย้ำว่าน้องตูนน่ารักมากนะคะ น้องตูนไม่เกี่ยวเลยนะคะ”

“หลังจากเช็กอินเสร็จแล้วกลุ่มของน้องๆ เขาก็เข้าไปก่อนเราประมาณ 20 นาทีได้ พอหลานชายเดินเข้าไปทางน้องเขา(ชัช มือกลองบอดี้สแลม)ก็เดินเข้ามากระชากคอเสื้อ แต่ตอนนั้นเราไม่ได้ยืนอยู่กับหลาน แต่เห็นเหตุการณ์ไกลๆ ตอนเดินเข้าไปหลานก็บอกไม่มีอะไรครับๆ หลานเขาก็เล่าให้ฟังว่าน้องคนที่กระชากคอเสื้อพูดอย่างที่รินโพสต์น่ะค่ะว่า มึงพูดว่ายังไงนะ พ่อมึงเป็นใคร แล้วเพื่อนๆ เขาก็เข้ามาห้ามบอกว่าปล่อยไปเถอะ แล้วคุณคนเดิมก็หันมาพูดว่า ระวังตัวไว้ให้ดี จะไปเมืองไหน กูมีพวกอยู่ทุกเมือง ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ”

“ตอนนั้นหลานก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะตกใจอยู่ เขาเองก็ตกใจมากนะคะ (ยืนยันว่าหลานชายไม่ได้พูดจาไม่ดีใส่?) ใช่ค่ะ หลานชายเขาไม่ได้พูดจาไม่สุภาพเลยนะคะ ตั้งแต่ตอนแรกที่ถามแล้ว หลานเขาก็หันไปถามดีๆ เพราะมันก็คงจะเป็นธรรมดานะคะที่จะรู้สึกว่าเขาทำไมไม่ต่อคิว เพราะคนอื่นก็ยืนรอแถวกันอยู่ ตอนที่โดนกระชากคอเสื้อเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเพราะเขาก็ตกใจมาก”

“หลานชายอายุ 24 เขาเป็นเด็กเรียนนะคะ และไม่ใช่เด็กก้าวร้าว ถ้าเห็นหน้าจะรู้ว่าเขาไม่น่าจะมีเรื่องกับใคร แล้วการที่ริน(ลูกสาว)ไปโพสต์ก็คงเพราะอยากปกป้องพี่ แต่ไม่ใช่อยากให้เป็นข่าวหรืออะไร เพราะเราเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว วันนั้นหลังจากเกิดเรื่องเราแค่แจ้งเจ้าหน้าที่ตรงนั้น แต่ไม่ได้แจ้งความนะคะ เพราะเรายืนยันจริงๆ ค่ะว่าไม่อยากมีเรื่อง”

“พูดตรงๆ ก็คือเราไม่รู้จักน้องๆ(บอดี้สแลม)เลยนะคะ มารู้ว่าเขาเป็นใครตอนถามเจ้าหน้าที่เพราะเห็นคนมาส่งเขาเยอะ น่าจะเป็นคนดัง เจ้าหน้าที่เขาก็บอกว่าน้องๆ เขาเป็นนักร้อง ดังมากเลยนะ เราถึงรู้ตอนนั้น คือหลายชายเป็นเด็กที่ไม่โตเมืองไทยด้วย เขาเขียนภาษาไทยไม่ได้เลยด้วยซ้ำ คือพูดตรงๆ ว่าเรากับหลานไม่รู้จักว่าเขาเป็นนักร้องดัง แล้วก็คิดว่าเพราะน้องๆ เขาเป็นคนดังเรื่องก็เลยมีคนสนใจ เพราะลูกสาวเองเขาก็ไม่คิดเหมือนกันว่าโพสต์แล้วมันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่น้องตูนน่ารักมากค่ะอันนี้ขอย้ำอีกทีว่าน้องตูนไม่เกี่ยวนะคะ”

“เราแค่เสียความรู้สึกที่เขาเป็นคนของประชาชนไม่น่าทำแบบนี้ เรายืนยันว่าเราไม่ได้ใส่ความเราเล่าความจริง คนพูดถึงในอินเตอร์เน็ตเยอะจนเราเองก็ไม่สบายใจ แล้วเห็นในอินเตอร์เน็ตคนชื่อยอด(ธนชัน ตันตระกูล มือกีตาร์บอดี้สแลม) ก็มาโพสต์ในอินสตาแกรมว่า คราวนี้แค่กระชากคอเสื้อ แต่ถ้าเป็นคราวหน้า.... เขาก็ยอมรับแล้วนี่คะ (ข้อความนี้ยืนยันว่ายอดบอดี้สแลมเป็นคนโพสต์?) ก็ดูจากชื่อระบุว่าชื่อยอด เราก็ดูจากที่เขาโพสต์ ก็ไม่รู้ว่าเขายังไง”

พร้อมยันไม่ได้ต้องการมีเรื่องและไม่ได้ต้องการคำขอโทษ แต่วอนทางต้นสังกัดแกรมมี่อบรมศิลปินให้ดีกว่านี้หน่อย

“แล้าเราก็อยากจะบอกว่าเราไม่ใช่ไฮโซนะคะ เป็นคนชั้นกลางธรรมดาคนนึงเหมือนคนอื่นๆ เป็นคนทำงานทั่วไป ไม่ได้มีอะไรใหญ่โตนะคะ (ไม่แจ้งความแต่อยากให้เขาขอโทษมั้ย?) จะขอโทษหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ทางต้นสังกัดเราซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเป็นใครดูแลและอบรมศิลปินให้ดีกว่านี้ ให้เป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชน ให้คุมอารมณ์หน่อย ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ได้ เป็นอภิสิทธิ์ชน การกระชากคอเสื้อเรารู้สึกว่าอภิสิทธิ์ชนไปหรือเปล่า”

อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ทางด้านของ “บอดี้สแลม” ยังคงปิดปากเงียบ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา กลุ่มนักร้องดังมีคิวขึ้นคอนเสิร์ต “ยามาฮ่า พรีเซนต์ คอนเสิร์ต เทพ” ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ปรากฎว่า เจ้าตัวได้แจ้งผ่านประชาสัมพันธ์ว่าไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ จึงทำให้นักข่าวที่ไปดักรอสัมภาษณ์รอเก้อไปตามๆ กัน ขณะที่วงในเผยเจ้าตัวจะไม่มีการชี้แจงอะไรใดๆ ทั้งสิ้น โดยให้เหตุผลว่าอยากให้เรื่องดังกล่าวเงียบไปเอง