Inside Dara
“สมาร์ท” วัดดวง โผล่ร่วมงานช่อง 8 เรื่องเดิมบทเดิม! เผยหนีตายช่อง 3 เพราะไม่มีใครจ้าง

ยอมรับไม่มีใครจ้าง “สมาร์ท” หนีตายช่อง 3 โดดร่วมงานช่อง 8 เรื่องเดิมบทเดิม บอกยังไม่เคลียร์ผู้จัดคอนเสิร์ต “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์” ที่สวีเดน หลังอีกฝ่ายแฉเบี้ยวงาน ยันคู่กรณีไม่ยอมส่งหนังสือสัญญาว่าจ้าง จึงไม่สามารถไปร่วมงานได้ มั่นใจไร้ปัญหาพี่อ๊อฟ

โดดมาร่วมงานกับช่อง 8 เป็นครั้งแรกในละครเรื่องเดิมที่เคยสร้างชื่ออย่าง “ดงผู้ดี” สำหรับ “สมาร์ท กฤษฎา พรเวโรจน์” ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่าคงไม่มีปัญหากับทางช่อง 3 เพราะที่ผ่านมาไม่ได้เซ็นสัญญา และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่มีผู้จัดคนไหนติดต่อเข้ามา

“จริงๆ ผมเป็นอิสระครับ ไม่ได้มีสัญญาแต่แรกแล้วครับ อาจเป็นเพราะอยู่ที่นั่นนานครับ แต่ที่มาช่องอื่นอาจจะเพราะด้วยช่วงเวลา คือก่อนหน้านี้อาจจะไม่มีใครรู้ว่าไม่มีใครติดต่อมาครับ จริงๆ ผมเป็นอิสระอยู่แล้วครับ ท่านก็รับได้ มาที่นี่ก็ไม่ได้เซ็นสัญญาอะไร ผมเป็นอิสระอยู่แล้ว ก็ไปได้หมดครับ”

“ถามว่าเป็นเพราะช่อง 3 ป้อนงานน้อยหรือเปล่า จริงๆ แล้วเพราะผมชอบตัวละครตัวนี้ครับ พอมาได้เล่นอีกครั้งหนึ่งผมก็ดีใจที่จะได้กลับมาเล่นเรื่องนี้ครับ ก็ต้องเตรียมตัวพอสมควรครับ เพราะต้องเจอกับทีมงานใหม่ๆ ก็ต้องเรียนรู้กับพอสมควรครับ ส่วนจะกลับไปร่วมงานกับช่อง 3 ได้อีกมั้ยอันนี้ต้องถามทางผู้ใหญ่ครับ ผมตอบไม่ได้ครับ แต่ช่อง3 ก็ยังไม่ได้มีงานติดต่อมาครับ”

เชื่อยังไม่มีใครเคยเห็นเล่นสองเวอร์ชั่น

“จริงๆ ผมมองว่ายังไม่เคยเห็นใครที่เล่นสองเวอร์ชั่นนะครับ เลยรู้สึกว่าครั้งหนึ่งเราได้เล่นสองเวอร์ชั่นมันก็ดีนะ ด้วยตัวเรื่องและนิสัยของตัวละครต่างกันไปเยอะครับ เนื้อเรื่องก็มีเพิ่มให้มันสนุกสนานมากขึ้น ดูแล้วก็จะแตกต่าง คาแรคเตอร์แต่ละตัวก็จะไม่เหมือนกันครับ ส่วนจะต่างจากเดิมมั้ยต้องแล้วแต่คนดูตัดสินใจครับ ไม่กดดันนะ ผมมองว่ามันแปลกใหม่ ไม่เหมือนเดิม อยู่ที่คนดูมากกว่า ไม่ติดคาแรกเตอร์เดิม อันนี้ต่างเลยครับ ทุกตัวมีการเพิ่มครับว่าบุคลิกจะเป็นยังไง เพิ่มเนื้อหามากขึ้นครับ”

ขำๆ ถูกตั้งกระทู้ติงชอบทำหน้าตกใจ บอกหน้านิ่งมากกว่า

“เหรอครับ (หัวเราะ) ไม่เคยเห็นนะ เคยเห็นแต่บอกหน้านิ่งๆ ไม่ซีเรียสครับ ตลกดี ส่วนใหญ่จะเจอบอกว่าทำไมชอบเงียบๆ ขรึมๆ มากกว่า แต่ก็เป็นบุคลิกของผมด้วยแหละ ส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยพูด เลยอาจจะดูแข็งๆ”

เรื่องรักยังเงียบ บอกมีโลกส่วนตัวสูง ไม่มีใครเข้ามาให้เลือก

“ก็เหมือนเดิมครับ (หัวเราะ) ยังไม่มีครับ เรื่องธุรกิจยังไม่เรียบร้อย เรื่องนั้นก็ยังไว้ก่อนครับ ไม่ใช่ว่าอยากเป็นโสดหรอกครับ แต่ยังไม่เจอที่มันใช่ และอีกอย่างผมโฟกัสเรื่องธุรกิจมากกว่าด้วยครับ แล้วก็ยังไม่มีใครเข้ามาด้วยครับ เพื่อนก็มีแนะนำครับ แต่บางทีนัดมาเจอกันกินข้าว แต่ไลฟ์สไตล์มันไม่เหมือนกัน ไม่ได้เลือกเลยครับ ไม่มีให้เลือก (หัวเราะ) จริงๆ สเปกผมก็ไม่มีอะไรนะ เข้ากับที่บ้านได้ เข้าใจกันครับ ส่วนที่บอกว่าไม่ชอบผู้หญิง (หัวเราะ) อันนั้นมีแต่แรกแล้วครับ ไม่ซีเรียสครับ”

“เรื่องแต่งงานผมมองว่าถ้าเกิดเจอคนที่ใช่ มันไม่ได้เกี่ยวกับระยะเวลา ถ้าใช่ปุ๊บก็แต่งเลย ที่บ้านก็ไม่ได้เร่งครับ หลานสองคนแล้วครับ ส่วนเรื่องลูก ผมมองว่าถ้าเจอคนที่ใช่มันก็ใช่ครับ ไม่รีบ ไม่ได้เลือกเยอะครับ นิสัยส่วนตัวผมเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว โลกส่วนตัวสูง ถ้าเกิดเขาเข้าใจก็โอเคครับ ก็ไม่ได้ปิดนะครับ แต่ด้วยความที่นิสัยเราเป็นแบบนี้ เราก็ไม่อาจะเปลี่ยนนิสัยเราได้บางอย่างครับ”

พร้อมกันนี้สมาร์ทได้ชี้แจงกรณีที่เฟซบุ๊ก “จุฑารัตน์ ขาวโกมล” โพสต์แฉว่าติดต่อขอไปโชว์ตัวในคอนเสิร์ต “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์” ที่สวีเดน แต่พอผู้จัดยื่นวีซ่าให้กลับเบี้ยวไม่ไปงาน ต่อมาพระเอกหนุ่มก็เดินทางไปแจ้งความที่ปอท. ซึ่งเจ้าตัวยันว่าไม่ได้ขอไป แต่อีกฝ่ายเชิญมา แต่ในเมื่อไม่ส่งหนังสือสัญญามาให้ ตนจึงไม่สามารถไปได้ ยันไร้ปัญหาอ๊อฟเพราะคุยกันแล้ว

“จริงๆ แล้วผมไม่ได้ขอนะครับ แต่เขาเชิญมา และผมเห็นว่าคนติดต่อก็รู้จักกัน ผมเลยคิดว่าผมไปช่วยพี่อ๊อฟก็ได้ เขาขอให้โชว์ตัวผมก็โชว์ตัวด้วย แต่ผมบอกว่าผมทำงานต้องมีสัญญานะ แต่เขาไม่ส่ง เพราะฉะนั้นผมก็ไม่สามารถไปได้ครับ เรื่องวีซ่าทางคนจัดเขาต้องออกให้อยู่แล้ว แต่ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องสัญญาบอกให้ส่งมา แต่เขาไม่ส่ง จะให้เราทำงานจะในประเทศหรือต่างประเทศก็ตามผมต้องชัดเจน ต้องมีสัญญาที่ระบุชัดเจนผมถึงจะทำได้ครับ จริงๆ มีคนติดต่อมาอีกทีหนึ่ง ผมก็ทวงสัญญาไปตลอด แต่ไม่ส่งมาครับ"

“ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยครับ แต่เขาออกมาพูดว่าผมอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็เตรียมไปทำเรื่องไว้ก่อน ก็ไปลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ไม่ได้แจ้งความครับ เรื่องก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ครับ เพราะเมืองไทยกับต่างประเทศก็จะนานหน่อย กับทางพี่อ๊อฟก็ได้คุยแล้วครับ ไม่มีปัญหาเลย พี่อ๊อฟบอกว่าการทำงานต้องมีสัญญาอยู่แล้ว พอมันไม่ลงตัวก็ทำงานด้วยกันไม่ได้ แต่ทางคนที่เชิญบอกทางพี่อ๊อฟก็ไม่มีสัญญานะ แต่มันคนละคนกัน แต่จริงๆ ทางพี่อ๊อฟก็มีสัญญา ทางผมก็ต้องมีสัญญา ต้องได้คนละชุดครับ”