Inside Dara
โตแล้วควรรู้อะไรดีไม่ดี ชรินทร์ ฝากข้อคิดถึงหลาน หวาย ปัญญริสา

ชรินทร์เผยชีวิตของเพชราตอนนี้สบายดี บอกอีกฝ่ายชอบแอบมาดูคอนเสิร์ตที่ตนเองเล่นตลอด-ชอบเดินออกกำลังกาย รับมีเตือนหวาย กามิกาเซ่ หลานของตนเรื่องข่าวบ้าง แต่ไม่ได้ไปดุอะไรเพราะมองว่าโตแล้วต้องรู้อะไรดีหรือไม่ดี-พลาดได้แต่อย่าบ่อย

แฟนๆ ของศิลปินรุ่นใหญ่ ชรินทร์ นันทนาคร ได้ยิ้มกว้างๆ แน่นอน เพราะถึงเวลาที่จะได้ดูคอนเสิร์ตคุณภาพอีกครั้ง ซึ่ง “ชรินทร์ อิน คอนเสิร์ต หมายเลข 16 จากฟากฟ้าสุราลัย สู่แดนดิน” ในครั้งนี้จัดเต็มความพิเศษจริงๆ เพราะนอกจากจะเป็นการหยิบยก 28 บทเพลงอมตะจากบทพระราชนิพนธ์ของบูรพกษัตริย์แห่งจักรีวงศ์ ตลอดจนวรรณกรรมในยุครัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลปัจจุบันแล้ว

ยังมีศิลปินรับเชิญมากมาย อาทิ อรวี สัจจานนท์, ศิรินทรา นิยากร, ปาน ธนพร, บุญเกียรติ โชควัฒนา, กล้วย เชิญยิ้ม และเต็มอิ่มกับฉากแสงสีเสียงตระการตา รวมถึงดนตรีสุดไพเราะโดยวงรอยัลแบงค์คอกซิมโฟนีออร์เคสตร้าด้วย โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 24-25 มิ.ย. 2560 เวลา 14.00 น. ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ใครสนใจสามารถจองบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา

งานนี้นอกจาก “บันเทิงไทยรัฐออนไลน์” จะชวนคุณชรินทร์พูดคุยถึงคอนเสิร์ตดังกล่าวแล้ว จึงได้โอกาสถามถึงภรรยา เพชรา เชาวราษฎร์ อดีตนางเอกชื่อดังของไทย ว่าเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งถามถึงหลานสาวอย่างนักร้องสาวเซ็กซี่ หวาย ปัญญริสา เธียรประสิทธิ์ หรือ หวาย กามิกาเซ่ ซึ่งในช่วงหลังมีข่าวออกมาค่อนข้างเยอะด้วย

พูดถึงคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง?

“เราพยายามที่จะทำให้แปลกกว่าเก่าครับ รับรองว่าคราวนี้จะแปลกกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เป็นคอนเสิร์ตปีที่ 16 แล้วนะครับ ส่วนความพิเศษ ทุกครั้งเราก็พยายามไม่ให้เหมือนเดิม พยายามหาบทเพลง เราก็จะเริ่มตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนมาถึงรัชกาลปัจจุบันคือ 10 รัชกาล เราจะเอาไคลแม็กซ์ทั้งบทเพลงที่ไพเราะ เหตุการณ์ที่ทำให้ต้องมีบทเพลง มันมีความแตกต่างกันไปใน 10 รัชกาลที่เป็นมา บทเพลงจะบอกว่าความไพเราะของเพลงแต่ละรัชกาลจะไม่ค่อยเหมือนกัน แต่เป็นบทเพลงที่ไพเราะเหมือนกัน”

แขกรับเชิญที่มาร่วมคอนเสิร์ตครั้งนี้?

“มีคุณอรวี สัจจานนท์, คุณศิรินทรา นิยากร, คุณปาน ธนพร, คุณบุญเกียรติ โชควัฒนา, คุณกล้วย เชิญยิ้ม ดารารับเชิญเราจะไม่เหมือนกันเลย เปลี่ยนไปทุกปีครับ มีอรวีคนเดียวที่ไม่ได้เปลี่ยน เพราะผมอยู่แกรมมี่ เขาก็อยู่แกรมมี่ด้วยกันครับ”

เชิญชวนแฟนๆ มาร่วมชมคอนเสิร์ตครั้งนี้?

“ปีนึงก็มีครั้งเดียวนะครับ เราทำกันมา 16 ครั้ง ครั้งนี้เป็นเป็นหมายเลข 16 ก็แปลกออกไป แต่แปลกยังไง รับประกันว่าไม่เหมือนที่แล้วๆ มา แต่ซิมโฟนี่ออเครสตร้าก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ครับ ยังเป็นวงที่ใหญ่ 80-90 คนเหมือนเดิมครับ ยังมีความไพเราะเหมือนเดิม ฟังแล้วอิ่มหู ไม่สามารถจะจัดอย่างนี้ได้บ่อยเพราะต้นทุนสูงมาก (หัวเราะ) แต่ว่าผมอยากทำครับ ผมไม่ได้คิดว่าจะมีกำไรอะไรครับ เท่าไหร่ก็ได้ ขอให้สบายใจ คนที่มาฟังฟังแล้วอืม...ใช้ได้ครับ”

ขอถามถึงคุณอาเพชราช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

“สบายดีครับ เขาไม่สามารถจะไปไหนได้เพราะว่าตาไม่เห็นน่ะครับ แต่ว่าเวลาแสดงที่ศูนย์วัฒนธรรม เขาแอบไปฟัง แอบไปอยู่ข้างหลัง ก็มีคนพาไปครับ เขาก็สบายใจ ปกติเขาเป็นคนชอบฟังเพลงครับ พอได้ฟังก็ยิ้มๆ คอยติชมบ้าง”

ดูแลความรักยังไงบ้าง คนมองว่ารักกันยาวนาน ดูแลกันดีตลอดเวลา?

“ก็ไม่เคยทะเลาะกันเลย แต่บางทีเราผิดพลาดไปบ้าง เขาแว้บๆ ขึ้นมา เราก็บอกว่าโอเคจบ ไม่มีเก็บไว้ จบก็คือจบแล้วครับ ถามว่ามีพาไปไหนมาไหนบ้างไหมก็มีแอบไป อย่างชรินทร์ อิน คอนเสิร์ต เขาก็มาดูทุกครั้ง แต่มาแบบไม่มีใครรู้เลย มาฟังแว้บๆ แล้วก็กลับบ้าน” มีบอกคุณอาเพชราไหมว่าแฟนๆ คิดถึง อยากเห็นบ้าง?

“ก็มีครับ เราพูดถึงเขาก็โบกมือ ทั้งๆ คุณเพชราอยู่ในนั้น แต่คนไม่รู้ว่าใคร ส่วนมากเขาจะดูอยู่ข้างหลังคนดูอีกทีครับ ถามว่าเวลาผมไปไหนมาไหนมีคนถามถึงเขาเยอะไหม ก็มีคนถามว่าเป็นยังไง คุณเพชราสบายดีรึเปล่า ผมก็บอกว่าสบายดีครับ เจ็บไข้ได้ป่วยอะไรหรือเปล่าผมก็บอกว่าไม่มีครับ เพชราเป็นคนแข็งแรงครับ”

ดูแลเรื่องสุขภาพของคุณอาเพชรายังไงบ้าง?

“เขาระวังเรื่องการกิน กลัวอ้วนครับ เพราะอ้วนแล้วโรคเยอะ เขาเดินเก่ง แล้วเผอิญตอนที่เราไปซื้อที่ดินเนี่ยมันกว้างดี เราชอบออกกำลัง ผมชอบวิ่ง ส่วนเขาเดิน คือมันจะมีท่อน้ำ เขาจะเดินตามท่อน้ำ มันเป็นทางน้ำไหลจากสระน้ำ เขาก็เดินตามทาง ก็เดินแล้วเสียงกุกกักถูกตลอดเลย ถ้าไม่มีเสียงกุกกักแสดงว่าผิด (หัวเราะ)

ส่วนผมเองก็ไม่รับประทานของหวาน คือผมชอบของหวานนะ แต่คุณหมอบอกว่าของหวานอย่ากินมาก ผมก็เลยไม่ค่อยกินทั้งที่อยากกิน มันก็เลยติดเป็นนิสัยว่าไม่ชอบของหวาน ไม่จำเป็นก็ไม่กินครับ แต่มันมีบางอันจำเป็นก็ต้องกินครับ แล้วผมก็ชอบผลไม้ ก็ระวังแค่เรื่องอาหารอย่างเดียว ส่วนเรื่องวิ่ง คือผมเป็นนักกีฬา ผมเล่นฟุตบอลตั้งแต่รุ่นจิ๋ว เตะตั้งแต่เด็กๆ พอมาอยู่อัสสัมชัญก็เล่นรักบี้

ทุกวันนี้ก็ออกกำลังตอนเช้า พอใกล้คอนเสิร์ตก็วิ่ง 2 รอบ เช้า-เย็น วิ่งรอบบ้านประมาณ 1 กม.กว่าๆ ได้มั้ง บ้านผมประมาณ 2 ไร่ครับ คือเราฝันกันไว้ว่าเราอยากมีลูกชาย 2 คน ต้องการที่กว้างๆ ให้ลูกวิ่ง แต่พอมาแต่งงานจริงๆ แล้วไม่มีลูกมาวิ่ง เราก็เลยวิ่งเอง (หัวเราะ)”

ถามถึงเรื่องน้องหวาย กามิกาเซ่ ช่วงหลังๆ มีข่าวค่อนข้างเยอะ มีแอบเป็นห่วงบ้างไหม?

“ถามแม่เขา เขาก็รายงาน ก็ได้แต่เตือนน่ะนะว่าระวังหน่อย เราจะไปห้ามอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่บอกทางแม่เขาว่าข่าวไม่ค่อยดี มันก็ไม่ควรเป็นอย่างนั้นนะ ดูแลกันหน่อย”

มีได้คุยกับน้องหวายเองบ้างไหม?

“นานๆ คุยที (หัวเราะ) ถามว่าเขามีกลัวๆ ว่าจะถูกถามเรื่องข่าวรึเปล่า ไม่เคยถามเลย แต่จะเตือนเสมอว่าเขาโตแล้วไม่ใช่เป็นเด็ก มันต้องมีความคิด อะไรที่ดีทำ อะไรที่ไม่ดีเลิก จบ ก็รู้นี่ว่าอะไรดีไม่ดี โห...โตป่านนั้นแล้วยังไม่รู้ว่าอันไหนดีไม่ดีก็ไม่ได้ ต้องรู้อยู่แล้ว มีแต่ว่าจะทำได้ไหม มนุษย์ทุกคนมันมีพลาดแต่อย่าบ่อย พลาดทีเดียวก็อย่าพลาดอีก”

มีห่วงหรือกังวลแทนไหมเพราะบางทีจริงๆ ก็ไม่ได้แรงเหมือนอย่างที่เป็นข่าว?

“ข่าวก็คือข่าว เขียนให้คนอ่านตื่นเต้นบ้างครับ ไม่ค่อยซีเรียสครับ แต่เราเตือนตลอดว่าระวัง ไม่มีใครช่วยนอกจากเราช่วยตัวเอง จะไปหวังว่าคนนั้นจะช่วยเราเลิกคิด แต่ก็ไม่มีดุ บอกแค่ว่าโตแล้วนะ อะไรควรทำก็ทำ อะไรไม่ควรทำก็เลิกครับ อย่าไปสะเปะสะปะ เราเป็นมนุษย์ต้องรู้จักคิดแล้วจะอยู่ได้”

ถ้าน้องหวายได้ดูข่าว อยากบอกอะไรไหม?

“จริงๆ คุยกันอาทิตย์ละวันมั้ง อาทิตย์นึงก็หนนึง คืออาทิตย์นึงเราก็จะถามไถ่ไปทางลูกๆ บางทีเขาโทรมา เราโทรไปครับ เดือนนึงอย่างน้อยสองหน ก็ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบมากกว่าครับ ห่วงใยซึ่งกันและกัน เตือนแล้วจะฟังรึไม่ฟังก็แล้วแต่ครับ โตป่านนั้นก็โอเคแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ต้องรับผิดชอบแล้วครับ ตัวเองก็ต้องระวังตัวเองครับ แต่อย่าทำเป็นเด็กอาโนเนะ ไม่ได้ (หัวเราะ) ถ้าอะไรที่มันไม่ดี สงสัยนิดเดียวก็อย่าไปแตะครับ ก็เตือนกันแบบนี้แหละครับ”.