Inside Dara
ดร.สิริพรเผย อยากอุ้มหลานสืบตระกูล ณ ป้อมเพชร ยินดีได้เจนี่เป็นสะใภ้

ความรักไม่มีรูปแบบที่ตายตัว ไม่มีข้อจำกัดเราสามารถมองได้ในมุมมองของแต่ละคน เช่นเดียวกับความรักครั้งล่าสุดของนางเอกชื่อดัง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ที่เธอตัดสินใจแน่นอนแล้วว่า จะสละโสดครั้งที่ 2 กับหนุ่มตระกูลดัง มิกกี้-นนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร

หากพูดถึงข่าวในวงการบันเทิงที่เป็นเรื่อง ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ที่สุดในรอบวันนี้ คงไม่มีอะไรจะฮือฮาไปกว่าข่าวความรักของนางเอกมากฝีมือ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” กับหนุ่มคนดัง “มิกกี้-นนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร” เพราะล่าสุดมีการยืนยันว่าทั้งคู่รักกำลังจะกลายเป็นคู่แต่งงานในเร็วๆ นี้ ภายหลังจากที่ฝ่ายชายได้คุกเข่าขอเธอแต่งงานระหว่างการออกทริปที่สหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายหญิงเองก็ได้ตอบเซย์เยสเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย

และจากเรื่องนี้เองทำให้ แพรวดอทคอม มีโอกาสพูดคุยกับ ดร.สิริพร คุณแม่ของมิกกี้ ในเรื่องนี้โดยบอกว่ากับเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสวยงาม คุณพ่อคุณแม่รออยู่ว่าจะเป็น coast ไหนใน California ลูกชายไม่เคยปิดบัง โดยก่อนที่จะมีการคุกเข่าขอแต่งงานเขาก็ได้ปรึกษาหารือกับตนและผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงมาก่อนแล้ว

“จริงๆ คู่นี้เขารู้จักและสนิทสนมกันมาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่เริ่มรู้จักกันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็อยู่ในสายตาผู้ใหญ่มาตลอด แล้วทางเราก็ให้เกียรติคุณเจนี่ กับเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตของทั้งคู่ มิกกี้เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว ที่ผ่านมาลูกก็ไม่เคยปิดบังอะไรอยู่แล้ว มีอะไรก็จะคุยกันทุกเรื่อง กับเรื่องนี้ก็พอทราบอยู่ ทางเราก็ได้คุยกับผู้ใหญ่ของคุณเจนี่ไว้แล้วด้วย”

ฤกษ์แต่งงานคุณแม่คิดไว้หรือยังว่าจะเป็นช่วงไหน?

“คือตอนนี้อาจต้องรอนิดหนึ่งค่ะ รอฤกษ์จากพระที่ครอบครัวนับถือ ตอนนี้กำลังดูวันที่ดีที่สุดสำหรับสองคนอยู่ ท่านว่าวันไหนก็วันนั้นเพราะบางทีก็เราเลือกไม่ค่อยได้ คิดว่าอีกไม่นานคงจะได้ทราบกันค่ะ”

ตั้งแต่มีความรักคุณแม่คิดว่ามิกกี้เปลี่ยนไปในด้านไหนบ้าง?

“เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีหลายอย่าง เช่นเรื่องงาน ทางคุณเจนี่ก็ช่วยอธิบายและช่วยแนะนำอะไรที่เขาไม่เข้าใจได้ ความคิดก็เหมือนกันมิกกี้อยู่ต่างประเทศมานานเขาเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง บางครั้งเขาอาจจะคิดต่างจากคนอื่นมองต่างมุมจากคนอื่น แต่คุณเจนี่ก็ช่วยแนะนำอะไรได้เยอะ คงเป็นเพราะพูดภาษาเดียวกันอีกทั้งยังเติบโตที่แคลิฟอร์เนียเหมือนกันเลยทำให้เข้ากันได้ดี อีกอย่างหนึ่งคือมิกกี้ใจเย็นขึ้น แม่เลยมองว่าเขาสนับสนุนกันดีและให้เกียรติกันดีมากๆ”

ระยะเวลา 7-8 เดือนที่คบกันจนถึงตอนขอแต่งงาน หลายคนก็อดกังวลไม่ได้ว่า ระยะเวลาอาจเร็วเกินไปหรือเปล่า?

“แม่มองว่าเรื่องเวลาอาจไม่ใช่ปัจจัยหลัก เพราะอย่างคุณแม่กับคุณพ่อก็รู้จักกันแค่ 5-6 เดือน ก็ตัดสินใจแต่งงานกันจนถึงวันนี้ก็ 30 ปีแล้ว แม่มองว่าถึงคบกันไม่ถึง 1 ปี แต่ทั้งคู่ได้เรียนรู้กันเยอะอาจจะมากกว่าคู่ที่รู้จักกันเป็นปีก็ได้ อย่างที่แม่เคยเรียนไปแล้วว่าเขาเป็นเพื่อนทางปัญญากัน ผู้ใหญ่เลยไม่ได้มองว่าระยะเวลามันจะรวดเร็วไปหรืออะไร เพราะว่าเรามามองถึงระยะเวลาที่เขาอยู่ด้วยกันและเวลาที่รู้จักกันมันก็มีส่วน”

อย่าง เจนี่ เคยไม่ประสบความสำเร็จกับชีวิตแต่งงาน มิกกี้เองก็ไม่เคยมีครอบครัวมาก่อน คุณแม่มีคำแนะนำเกี่ยวกับการประคับประคองชีวิตคู่ให้กับทั้งสองอย่างไรบ้าง?

“คุณพ่อ (คุณตาป้อมเพชร ณ ป้อมเพชร) เคยสอนลูกหลานมาตลอดว่า สิ่งแรกในการดำเนินชีวิตคู่คือ 1.ต้องยกย่องกันและกัน 2.ความรักประกอบไปด้วยความเมตตา,กรุณา,เอื้ออาทร อีกสิ่งที่สำคัญคือ 3.การทำตัวให้เล็กๆ ทำหัวใจให้ใหญ่ๆ อันนี้เป็นพื้นฐานของการที่จะรักกันได้นานๆ และในเรื่องของการใช้ชีวิต ทางคุณตาก็เคยสอนทั้งคุณแม่และมิกกี้ด้วยว่า พื้นฐานแรกในการสร้างครอบครัวให้นึกไว้เลยว่า “อยู่อย่างรวยจะไม่มีวันรวย อยู่อย่างจนจะไม่มีวันจน” มันต้องเริ่มและร่วมสร้างมาด้วยกัน จะทำให้เขาเพิ่มมูลค่าในสิ่งที่เขาสร้างมาได้ดีกว่าสิ่งที่พ่อแม่มอบให้”

คิดไปถึงเรื่องหลานบ้างหรือยังคะ?

“อยากให้รีบมีหลานด้วยค่ะ จริงๆ แล้วเดี๋ยวคงต้องคุยกันเพราะว่ามิกกี้เป็นลูกชายคนเดียว ก็เลยคิดว่าถ้าเขามีลูกก็อยากให้ใช้นามสกุล ณ ป้อมเพชร ต่อไป เพราะเราเป็นสายตรง อีกทั้งมิกกี้เป็นลูกชายคนเดียวก็อยากให้เขามีลูก ไม่ว่าชายหรือหญิงอยากจะขอให้ใช้นามสกุลนี้ต่อไป ”

ครอบครัว ณ ป้อมเพชร มีฟีดแบ็คกับข่าวดีนี้อย่างไรบ้าง?

“เป็นข่าวดี ทุกคนก็ยินดีด้วยค่ะ เพราะทุกคนก็ทราบและให้เกียรติกับการตัดสินใจของมิกกี้ และตัวของคุณเจนี่เป็นคนน่ารัก เป็นคนดี เป็นคนที่กตัญญู จิตใจดี คนเก่ง และแกร่ง คุณแม่มั่นใจว่าคุณเจนี่จะเป็นภรรยาและคุณแม่ที่ดี”

ระหว่างทางนี้อาจเจอกับคนที่ยินดีและคนที่วิจารณ์ คุณแม่อยากบอกอะไรกับพวกเขาบ้าง?

“แม่ก็อยากให้ร่วมยินดีกับสองคนนี้ด้วย อย่าไปมองเรื่องอะไรที่มันอาจจะไม่สวยงามนัก อย่างที่แม่เคยบอกว่า มนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา มิกกี้เองก็มีข้อไม่ดี คุณแม่ก็มี ทุกคนมีหมด แต่ถ้าเรารู้ว่าอันไหนเป็นข้อไม่ดีและเอามาพัฒนาย่อมดีกว่า การให้โอกาสให้กำลังใจ การได้เห็นว่าเขาเอาข้อเสียมาพัฒนาตัวเองคุณแม่ว่ามันน่ายินดีออก และอยากจะให้แสดงความยินดีกับคู่นี้ด้วย”

คุณแม่มองว่าสองคนนี้มีอะไรที่เหมือนกันบ้าง?

“เขามีอะไรเหมือนกันหลายๆ อย่าง เช่น นิสัยใจคอ หน้าตาก็คล้ายๆ กัน ตั้งแต่แรกที่เจอหน้าตาก็แอบนึกอยู่ แต่ว่าก็ไม่ได้อะไรมาก เขาก็เกิดที่แคลิฟอร์เนียเหมือนกัน ทั้งคู่เป็นคนจริงใจ เป็นคนตรงๆ ไม่อ้อมค้อม รักก็คือรัก รักใครรักมากเต็มสุดๆ และประการสำคัญคือทั้งคู่เป็นคนที่มีความกตัญญู รู้คุณ รักครอบครัว ตรงนี้เป็นอะไรที่ดีมาก เพราะว่ามิกกี้เป็นลูกคนเดียว ใครที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของมิกกี้ก็ต้องยอมรับว่ามิกกี้ไม่ได้เลือกคู่ครองแค่คนเดียว คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องมีส่วนในการเลือกด้วย เรามีแค่นี้แหละ คุณพ่อคุณแม่ก็ดีใจกับมิกกี้ที่เขาได้เจอคนที่เขารักได้เจอคนที่เขาอยากจะสร้างครอบครัวด้วยอยากจะให้ทุกคนยินดีไปด้วยค่ะ”

อย่างไรก็ตามคุณแม่ทิ้งท้ายว่า “ที่ผ่านมาครอบครัวเราเห็นใจคุณเจนี่มากๆ คุณเจนี่เป็นคนดังเลยเป็นที่จับตามองของสังคมบางครั้งเรารู้สึกสะท้อนว่าทำไมเรื่องความทุกข์ของคุณเจนี่กลับกลายเป็นเรื่องของสาธารณะทำไมเรื่องของความสุขของคุณเจนี่ต้องเก็บไว้คนเดียวจริงๆ แล้วมันไม่ควรเป็นแบบนั้น ชีวิตคนเราสั้นนัก ความสุขก็น่าจะแบ่งปันกันได้แล้ว ความทุกข์ทุกคนก็มีเหมือนกันหมด ก็อยากจะขอพื้นที่ขอให้เกียรติ ให้ความเมตตาในการตัดสินใจทุกๆ เรื่อง คนเรามีทุกข์มีสุขคละกันไปมันเป็นชีวิต”