Inside Dara
“แซนดี้ พลอย” ตัวประกอบไทยโกอินเตอร์ สู่นางเอกซุปตาร์แถวหน้า!

ใครจะคาดคิดว่าจากตัวประกอบกลายเป็นนางเอกโกอินเตอร์ สำหรับนางเอกระดับซุปตาร์ “แซนดี้ พลอย” ที่ก้าวข้ามการโดนเหยียดจากตัวประกอบกะโหลกกะลามารับบทนางเอกเรื่อง “Jonsouda” เธอคือหนึ่งเดียวของคนไทยที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ และยังเป็นนางเอกซุปตาร์ที่โด่งดังมากในประเทศอิหร่าน!!

อาจเป็นเพราะในเมืองไทยสาวตาสวยผู้นี้เป็นเพียงตัวประกอบธรรมดาๆ แต่ที่ประเทศอิหร่านนั้นเธอกลับได้รับบทเด่นเป็นนางเอกของเรื่องเลยทีเดียว โดยเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2558 เธอได้ติดปีกโกอินเตอร์ ไปเล่นภาพยนตร์เรื่อง "Jonsouda" ประเด็นนี้เองทำให้สื่อทุกสำนักต่างจับจ้องจ่อไมล์เข้าหา

“ต้องเท้าความก่อนว่าอิหร่านทำหนังเพื่อ film festival โดยตรง ทีนี้เขาก็จะมีเทศกาล international film festival เป็นประจำทุกปีแล้วเขาก็จะมีการโคป์ไปต่างประเทศ เพื่อที่จะออกมาทำหนังแล้วเอาเข้าประเทศ และเอาหนังไปใน international film festival โดยส่วนใหญ่เขาก็จะโดนโคป์ไป แต่ประเทศไทยมันยังไม่เคยมี แล้วเจ้าของหนังเรื่องนี้เขาชอบเมืองไทย เขาก็เลยโคป์มาทางประเทศไทย แล้วก็เข้ามาหาข้อมูล เข้ามาใช้ชีวิต เข้ามาทำการเวิร์กชอปเปิดกล้องแคสติ้ง แล้วพลอยก็เลยได้ทราบเลยลองเข้าไปแคสต์ดู”

“เราไปเอง คือจริงๆ กลุ่มพวกนักแสดงที่เป็นเหมือนกับตัวประกอบหรือว่าสมทบ เขาก็จะมีบอร์ดแคสงานกันเรื่อยๆ เขาก็จะบอก มีหนังต่างประเทศเรื่องนี้เข้ามานะ ถ้าคาแรกเตอร์ใครตรงก็ลองไปแคสต์ดูมั้ย เราก็คิดว่าบทเป็นถึงนางเอกเลยนะ (ยิ้มกว้าง) ก็ลองไปแคสต์ดูหน่อยแล้วกัน เขาเตรียมงานกันทั้งหมดประมาณ 2 เดือน ในส่วนของแคสติ้ง แต่เท่าที่ทราบมาเหมือนเขาหามาเรื่อยๆ ก็ยังไม่ถูกใจซะที จนกระทั่งพลอยไปตอนท้ายๆ แล้ว แล้วเขาก็ไปประชุม ไปประเมินผลกันอีกทีหนึ่งว่าจะยังไงดี แล้วท้ายที่สุดก็เลือกสักประมาณ 1-2 อาทิตย์ได้ก็ทราบค่ะ

เป็นนักแสดงคนไทยคนเดียวเลยค่ะ ตื่นเต้นมาก คือตอนแรกที่ไปแคสต์ก็ไม่ได้หวังหรอกว่าเราจะได้เพราะมันคือนางเอก แต่ทีนี้เราก็คิดว่าไม่เป็นไร ลองดูก็ได้แล้วก็ทำของเราให้มันเต็มที่ พอแคสต์เสร็จก็มีคนแอบมาบอกว่าเขาชอบนะ แต่มันก็มีคนที่แย้งด้วยว่าจะเหมาะมั้ย แต่แอกติ้งโดยรวมคือเขาโอเค ที่นี้ก็คิดว่าจริงเหรอ แล้วจะได้มั้ย (หัวเราะ) เราก็แอบลุ้นๆ แต่ว่าไม่เป็นไร ถ้าได้ก็ถือว่าเป็นโอกาส แต่ถ้าไม่ได้เราก็เอาใหม่ และท้ายที่สุดเขาก็แจ้งมาว่าเราได้ ก็ดีใจมาก (ทำท่าดีใจ)”

ในส่วนของคาแรกเตอร์นั้นเป็นดรามาจ๋าเลยทีเดียว เรียกได้ว่าแตกต่างจากตัวตนของเธออย่างชัดเจน เพราะโดยบุคลิกตัวตนของเธอนั้นเป็นคนเฟรนลี่ ร่าเริงและสดใสเอามากๆ

“มันยากนะ เพราะบทที่เขาแคสต์คือหนังมันเป็นดรามาทั้งหมดเลย และด้วยความที่คาแรกเตอร์เราเป็นคนร่าเริง เขาก็เหมือนกับก้ำกึ่งๆ ค่ะ แต่ทีนี้ตอนที่เขาประชุมเขาแอบเห็นความเข้มแข็งในตาลึกๆ แล้วก็เหมือนเป็นคนที่มุ่งมั่นพอควรเลยแหละ เขาก็เลยตัดสินใจเลือกให้ถ่ายทอดอารมณ์ในความดรามาของหนังออกมา แล้วก็ต้องทำเวิร์กชอปเยอะมาก”

โดดเด่นเพราะหน้าหวาน แววตาดุ

ไม่ง่ายเลยที่นักแสดงตัวเล็กๆ จะโดนเลือกให้ไปเล่นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในต่างแดน และยิ่งเป็นตัวประกอบด้วยแล้ว ยิ่งยากเข้าไปใหญ่อาจไม่มีทางเป็นไปได้เสียด้วยซ้ำ ทำให้เกิดคำถามตามมามากมาย เพราะอะไรเธอถึงได้รับเลือก? และอะไรคือจุดเด่นของเธอที่ชาวต่างชาติอย่างร่วมงานด้วย?

“เท่าที่ทราบ เขาบอกว่า 1. เขาเห็นในแววตาพลอยว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งอยู่ข้างในลึกๆ แล้วก็มีความมุ่งมั่นมาก เขาอยากได้คนที่มีคาแรกเตอร์แบบนี้แหละ เพราะในหนังมันดรามาแล้วมันเป็นสู้ชีวิต แล้วคือคุณต้องแสดงออกทางสีหน้าทั้งหมดเลย เพราะว่าบทพูดจะน้อยมาก

2. เขาไม่ได้อยากได้นักแสดงไทยที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว เพราะว่าที่ประเทศเขาชอบหานักแสดงใหม่ๆ แล้วแต่ละคนอาจจะมาจากอาชีพอะไรก็ได้ นั่นมันเป็นวิธีคิดของเขา ทีนี้เขาก็คิดว่าเขาไม่ได้อยากได้นักแสดงที่ดังอยู่แล้ว แล้วด้วยความที่ว่าเรามีผลงานอยู่ในเมืองไทยอยู่ในระดับหนึ่ง แค่เฉพาะคนกลุ่มหนึ่งที่ตามเรา เราก็ไม่ได้มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ เขาก็เลยโอเค”

“กดดันมาก (ลากเสียง) คือตอนที่ถ่ายมันยากมากเพราะว่าอย่างที่เราเล่นมา บทเรามันไม่ได้เยอะแยะอะไรมากมาย แล้วเราก็ไม่ได้แสดงความสามารถหรือว่าอะไรของเรามากนัก อย่างไปเล่นแค่ 1 ตอนอะไรอย่างนี้ แต่อันนี้มันเป็นเรื่องทั้งเรื่องเลย คือตัวละครของเราตัวเดียวที่ต้องดำเนินเรื่องทั้งหมด แล้วจะมีตัวละครอื่นๆ รายล้อมมาบ้าง แต่เรื่องทั้งหมดจะอยู่ที่เราหมดเลย”

“เทคนิคการถ่ายทำของเขาจะต่างจากเมืองไทยโดยสิ้นเชิงเลย อย่างสมมติถ้าเป็นละครบ้านเราจะใช้ 3 กล้อง แล้วก็จะตัดรับหน้าใครหน้ามัน แล้วอย่างถ้าเป็นหนังก็จะเป็น 1 กล้อง 2 กล้อง แล้วก็เปลี่ยนมุมภาพ แต่ของเขาใช้กล้องเดียวแล้วถ่ายแบบ one เทค long เทคไปเลย ไม่มีคัตไม่มี edit ไม่มีอะไรใดๆ ตั้งแต่ต้นซีนจนจบซีน

ซึ่งหมายความว่าเราจะต้องเป๊ะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบล็อกกิ้งที่เขาวาง แอกติ้ง ฟิลลิ่ง แม้กระทั่งการหันหน้าให้ตรงองศากล้อง แล้วบล็อกกิ้งเขาจะไม่ได้นิ่งๆ เขาจะมูฟเมนต์เยอะมาก แล้วก็จะให้กล้อง ช่างภาพมูฟตามเรา แล้วแต่ละซีนจะยาวมาก อย่าง 1 นาที 2 นาทีเป็นต้นไปเลย”

"jonsouda" ถ่ายทำทั้งหมดที่ประเทศไทยแต่ฉายที่ประเทศอิหร่าน เธอบอกเล่าเรื่องราวระหว่างการถ่ายทำ และบอกถึงคาแรกเตอร์ที่เธอได้รับให้ฟังว่าเป็นบทที่ยากมาก และเหนื่อยพอควร

“ถ่ายทำเดือนกว่าค่ะ อันนี้คือถ่ายในเมืองไทยทั้งหมด แต่ที่พลอยบินไปคือบินไปเปิดตัวหนัง แล้วก็ไปแถลงข่าวที่ international film festival ถ่ายที่พัทยาหมดเลย ลุยมากค่ะ ต้องวิ่งท่าเรือแหลมบาลีฮายวิ่งจนสุดท่า แล้วก็ขึ้นสองแถว ขึ้นมอเตอร์ไซค์ คือสมบุกสมบันมาก

หลายคนคงเกิดคำถาม การทำงานกับชาวต่างชาติเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก แล้วยิ่งเป็นคนอิหร่านด้วย ถือว่ายากขึ้นไปอีกขั้นหรือเปล่า? เธอตอบกลับทันทีว่านั่นไม่ใช่อุปสรรคเลย เพราะการสื่อสารมีล่ามเป็นตัวช่วย แถมยังเป็นคนที่น่ารักมากๆ เอาเสียด้วย เธอยิ้มหวานพร้อมเล่าให้ฟังด้วยสีหน้าสบายใจ

“เราใช้ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ แต่เขาก็จะมีล่ามที่มาจากทางสถานทูตมาช่วย ล่ามเก่งมากต้องยกความดีความชอบให้เลยเขาเป็นลูกครึ่งไทย-อิหร่าน แล้วเขาจะเข้าใจวัฒนธรรมทั้ง 2 อย่าง เขาก็จะช่วยดูภาพรวมให้ แล้วก็จะอธิบายว่าผู้กำกับอยากได้อะไร

ทั้งหมดนี้คืออีกหนึ่งความท้าทาย และเป็นอีกหนึ่งบททดสอบที่เธอได้รับ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายนัก ที่นักแสดงตัวประกอบตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะมีโอกาสได้ฝากฝีไม้ลายมือให้กับชาวต่างชาติได้ชื่นชม และด้วยความตั้งใจของเธอ ผลสุดท้ายเธอก็ทำมันได้และผ่านมาได้ด้วยดี

โสเภณีในต่างแดนหรือเปล่า?

“ในเรื่องภาพยนตร์ชื่อ ‘Jonsouda’ นะคะ ในเรื่องเขาปูพื้นมาให้ว่าเราเคยเป็นโสเภณีมาก่อน แล้วก็แต่งงานกับคนอิหร่าน แต่ทีนี้ในเรื่องจะไม่มีอะไรใดๆ ที่เกี่ยวข้องกันโสเภณีเลยในภาพยนตร์ คือคนดูไม่รู้หรอก คนดูก็จะเห็นว่าพลอยทำงานอยู่กับคนชราแล้วก็จะดูแลคนชรา เพียงแต่ว่าเขาปูพื้นให้เราฟังเฉยๆ ว่าเราเคยเป็นโสเภณีแล้วเราก็อยู่กับต่างชาติ แต่พอเราอยู่กับสามี เราก็ทำตัวเองเรียกว่าหันมาสู้ชีวิตแทนที่จะไปเริงร่ากับอะไรตรงนั้น แต่โดยภาพรวมคือไม่มีอะไรใดๆ ที่เกี่ยวกับโสเภณีเลย”

ด้วยความที่ประเทศอิหร่านเป็นประเทศที่เคร่งศาสนามาก ดังนั้น ในฉากภาพยนตร์จึงไม่มีฉากที่เปลืองเนื้อเปลืองตัวเลยแม้แต่แต่ฉากเดียว

“ไม่มีฉากเปลืองเนื้อเปลืองตัวเลย เพราะว่าอิหร่านเขาเป็นประเทศที่เคร่งศาสนาและวัฒนธรรมมาก เขาจะค่อนข้างแบ่งแยกระหว่างหญิงกับชาย คือเขาจะให้เกียรติกันมาก อย่างที่พลอยบินไป เขาจะไม่แตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงเลย แล้วเสื้อผ้าก็จะต้องแขนยาวคลุม โพกผม

หลากหลายกระแสในโลกออนไลน์ต่างโหมกระหน่ำ ถึงประเด็นที่สาวพลอยได้โกอินเตอร์ โดยส่วนมากบอกว่าคนไทยที่ได้เล่นภาพยนตร์ในต่างประเทศก็มักจะได้รับบท ‘โสเภณี’ สาวพลอยตอบอย่างใจเย็นโดยเธออยากให้มองในเนื้อหาของเรื่องมากกว่า และยังย้ำชัดอีกครั้งหนึ่งว่าประเทศอิหร่านคือประเทศที่เคร่งศาสนา ดังนั้น จึงเสนอเรื่องราวที่สื่อไปทางนั้นไม่ได้เลยเพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

ถึงจะมีกระแสด้านลบออกมาแต่สาวพลอยก็ไม่หวั่น เธอบอกว่านี่เป็นโอกาสสำคัญของชีวิตและเธอก็ตั้งใจทำมันให้ออกมาดีที่สุดแล้ว และก็ภูมิใจกับการทำงานในครั้งนี้มาก เพราะเมื่อภาพยนตร์ได้ออกโรงฉายปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินคาด และการแสดงที่เข้มข้นตีบทแตกเล่นได้ลึกซึ้ง ทำให้ได้เข้าชิงหนังยอดเยี่ยมในเทศกาลหนังนานาชาติ international film festival อีกด้วย

พลอยภูมิใจมากนะคะ (น้ำเสียงดีใจ) ตอนแรกที่บอกว่าได้ก็ดีใจแล้ว ครั้งที่ 2 บอกว่าเทคนิคการถ่ายทำแบบนี้ เราก็คิดตายแล้วเราจะทำได้มั้ย เราก็ทำได้ ท้ายที่สุดมันก็ผ่านไปด้วยดี มันก็หยุดแค่ตรงนี้ แล้วพอเขาเอาหนังกลับไปที่นู้น เราก็ไม่ได้อะไรนะคะ เขาก็คงไปทำกระบวนการอะไรของเขา

แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เขาก็คอนแทกต์มาแล้วบอกว่าหนังคุณได้เข้าชิงรางวัล international film festival นะ เราก็ ฮะ!! จริงเหรอ แล้วยังไม่พอก็ยังเชิญเราไปที่นู้นด้วย เราก็เลยมีความรู้สึกว่า เฮ้ย..ที่ผ่านมาเราก็แค่ดีใจประมาณหนึ่งเพราะเราได้เป็นนางเอกและหนังก็จะไปฉายที่บ้านเขา พอได้ไปที่นู้นอีก เราก็เลยภูมิใจมาก”

ต่อข้อซักถามที่ว่า งานนี้สาวพลอยได้ค่าตัวถึง 7 หลัก จริงไหม? เธอตอบรับทันทีแล้วบอกว่ามันก็คุ้มกับค่าเหนื่อย “จริงๆ ต้องใช้คำว่าเกือบมากกว่า เพราะว่าหนังต่างประเทศมันก็จะประมาณนี้กันอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้มันก็เหนื่อยจริง พลอยก็ว่ามันก็สมค่าเหนื่อยนะ”

เห็นเป็นแค่นักแสดงตัวประกอบตัวเล็กๆ แบบนี้ แต่เธอผ่านการงานละครมาเยอะมากทั้งซีรีส์ เรื่องสั้น หรือแม้แต่ละครยาวเธอก็ผ่านมาหมดแล้ว และบทส่วนใหญ่ที่เธอได้รับคือนางร้าย โดยคนส่วนใหญ่มองว่าเป็นเธอหน้าหวานแต่ตาดุ เลยมักจะให้เธอเล่นบทแบบนี้เพราะมันเหมาะกับเธอมากกว่า

“จริงๆ เยอะมากเลยนะ คือประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา พลอยมีคาราบาวเดอะซีรีส์ นางงามตู้กระจก บันทึกกรรม มีศีล 5 แล้วถ้าเป็นละครยาวเป็นนางร้ายสายลับ คุ้มนางครวญ ฟาร์มเอ๋ยฟาร์มรัก สามใบไม่เถา แล้วก็เล็กๆ น้อยๆ อีกเยอะมาก เรารับเล่นทุกช่องเพราะพี่เราคืออยู่กันทุกช่องอยู่แล้วก็จะดึงตัวไปเล่น แล้วก็จะปากต่อปาก เหมือนตอนแรกก็ไปแบบขำๆ แล้วก็ยาวเลย (หัวเราะ)

บทส่วนใหญ่จะร้ายค่ะ คือจริงๆ ก็ไม่ได้ซีเรียสหรอกว่ามันจะดีหรือร้าย แต่ตอนแรกที่ไปคือซีนเดียวจริงๆ คือบทไม่มีอะไรเลยเป็นพนักงานขายของ แต่พอมันเริ่มเยอะขึ้นๆ เขาก็เลยให้ลองเล่นร้ายให้ดูหน่อยได้มั้ย เหมือนกับถ้านิ่งๆ มันก็จะนิ่งไปเลยเพราะหน้าเราจะเรียบๆ นิ่งๆ อะไรแบบนี้ และทีนี้ก็เลยลองดูค่ะแล้วปรากฏว่าเขาชอบเพราะเหมือนหน้าเราหวานแต่ว่าตาเราดุ พอเวลาเราเล่นอินเนอร์มันออกเลยกลายเป็นว่าเล่นร้ายแล้วเขาชอบ”

สาวพลอยอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปีแล้ว หากนับตั้งแต่เรียนจบเฉพาะงานเบื้องหลังประมาณ 4-5 ปี และอีกประมาณ 2 ปี ที่อยู่ในวงการการแสดง แต่เธอก็ไม่เคยคาดหวังว่าสักวันหนึ่งจะต้องขึ้นเป็นดาราที่มีชื่อเสียง เธอขอแค่เต็มที่กับทุกโอกาสที่ได้รับและขอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ เท่านั้นเอง

อีกทั้งเธอยังขอเจริญรอยตามเจ้าหญิงในวงการบันเทิงอย่าง “แอน ทองประสม” อีกด้วย เพราะเธอผู้นี้มีชีวิตที่คล้ายกับสาวพลอยเหลือเกิน “มีความรู้สึกว่าพี่เขาสวยมาก สวยแบบมีคุณค่าแล้วพี่เขาเก่งมากแล้วก็ได้ทั้งเบื้องหน้าเบื้อหลังด้วย ชอบมาก ยึดเป็นแบบอย่างเลย”

แม้ว่าเธอจะโกอินเตอร์และมีชื่อเสียงในระดับหนึ่งแล้วก็ตาม แต่เธอก็ถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จเสียทีเดียว เพราะว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น และก็ไม่เคยคิดจะทะนงตัวเอง เพราะเธอก็เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง

“พลอยว่ามันเพิ่งจะเริ่ม เหมือนที่บอกค่ะ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ แล้วอย่างอันนี้เราไปเป็นนางเอกของที่โน่นก็จริง แต่เราไม่ทะนงตัวเลยว่าฉันดังแล้ว ฉันโกอินเตอร์ จะอัปค่าตัวมั้ย เหมือนที่มีคนถามมา พลอยก็ไม่นะคะ คือของพวกนี้มันขึ้นอยู่กับความเหมาะสมแล้วก็การพิจารณาของผู้ใหญ่ด้วย แต่ในส่วนตัวพลอยทุกอย่างเหมือนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย”


ประวัติส่วนตัว
ชื่อ : พลอย-พลอยปภัส วรพิสิษฐ์กุล
การศึกษา : คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุรนารี
ผลงานโดดเด่น : นางเอกภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง “จันสุดา” Brand Ambassader Bolly Thai Dance Venture
ละครที่เล่นเต็มตัว : เรื่อง ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด
ละครที่เคยสมทบ : เรื่อง นางร้ายสายลับ, คุ้มนางครวญ, ฟาร์มเอ๋ยฟาร์มรัก