Inside Dara
ห้ามเจ็บ ห้ามปวด ห้ามตาย และ ก.ไก่ล้านตัว ของ "แหม่ม คัทลียา"

ก่อนหน้านี้ของฝากที่ แหม่ม-คัทลียา กระจ่างเนตร นำไปให้ใครๆ มักเป็นเค้กหรือของกินชนิดอื่นที่อร่อยๆ

แต่เที่ยวนี้ที่เธอติดมือมาเป็นข้าวสารและข้าวเหนียว ผลผลิตจาก สิรินทร์ฟาร์ม นาข้าวซึ่งตั้งตามลูกสาวคนเล็ก ที่ จ.เชียงราย

ตอนแรกไม่คิดจะทำนาหรอก เธอบอกเสียงแจ่มชัด

แต่ด้วยความชอบซื้อที่ดิน พอมีคนขายที่สวย ด้วยมีน้ำตกขุนกรณ์ไหลผ่าน จึงตัดสินใจซื้อ แล้วเก็บในสภาพเดิม ที่มีทั้งต้นไม้และนาข้าวราว 30 ไร่ไว้ มอบให้คนดูแลทำเป็นฟาร์มออร์แกนิก ปลูกข้าวปลอดสารพิษ พร้อมกับปลูกมะยมชิด แตงโม ฝรั่ง มังคุด และอีกสารพัดผลไม้ที่ลูกๆ คือ แมค-สิริ, คิน-สยาม และ เนสซี่-สิรินทร์ ชอบกิน

พร้อมกันนั้นก็ซื้อวัวและไก่มาเลี้ยง

โดยที่มาของวัวมาจากการเดินตลาดแล้วสงสารวัวที่ถูกนำมาขาย เธอและสามี บีบี๋-สงกรานต์ จึงซื้อกันคนละตัว หวังช่วยชีวิต

แล้วแทนที่จะนำไปมอบให้ชาวนา ชาวไร่ ที่ไหนดูแล ก็นำไปไว้ในไร่ "ทีนี้ก็มั่นใจแน่ว่าชีวิตเธอจะปลอดภัยไปตลอด ไม่โดนฆ่า"

จากนั้นพอมีไก่ฟ้าเข้ามาในไร่บ่อยๆ เธอก็ขนไก่ที่มีในบ้านที่กรุงเทพฯ ไปปล่อยให้อยู่รวม

"เลยเลี้ยงกันสนุกไป" แหม่มบอกพลางยิ้มกว้าง

ฟังจากเสียง ดูจากประกายตา ดูเหมือนว่าเวลานี้ชีวิตของเธอน่าจะเป็นสุข

"ก็สุขในแบบของเรานะคะ" แหม่มรับ

"บางคนความสุขต้องมีนั่น นี่ แต่ของเราคือการอยู่กับครอบครัว มีเวลากับลูก"

และถ้าวัดจากสิ่งที่ว่า ตอนนี้เธอก็มีทุกสิ่งที่ต้องการครบแล้ว

"เรามีบ้านเล็กๆ มีลูก 3 คน วุ่นวาย ทะเลาะกันบ้าง หัวเราะกันบ้าง ตีกันบ้าง รักกันบ้าง แล้วแหม่มกับบีบี๋ก็มีเวลาอยู่ด้วยกันเยอะ"

"แค่นั้นสำหรับแหม่มพอแล้ว"

กับลูกๆ แหม่มว่าหลังเจอเข้ากับตัวเอง ตอนนี้เธอเข้าใจคำว่าเลี้ยงเหมือนกันหมด แต่ทำไมกลับไม่เหมือนกัน

"แมคเป็นคนโต ตอนนี้ 8 ขวบ ดูแลน้องได้ รู้เรื่องหมด ได้เรื่องเลยทีเดียว แต่ก็มีความซนเป็นปกติของเด็กผู้ชาย มีทะเลาะกับน้องบ้าง แย่งกันเล่นก็มี แต่ว่าฝากน้องได้ ดูแล อุ้มเนสซี่ได้"

"ไอ้ตัว 2 คินนี่ เลียนแบบพี่ทุกอย่าง ตัวนี้เฮี้ยวหน่อย 3 ขวบครึ่ง แต่ตัวใหญ่ แมคจะหุ่นเพรียวๆ ผอมๆ ไอ้ตัว 2 นี่ตันไปหมด ตั้งแต่หัวจรดเท้า ยังแซวว่าน่าจะไปเล่นอเมริกันฟุตบอลได้ กินเก่ง แล้วก็เป็นเด็กลุยค่ะ"

เล่าด้วยว่าชื่อเล่นจริงๆ ที่ตั้งให้รายที่ 2 นี้คือ "คิน" แต่ตอนยังเล็ก ใครๆ ชอบเรียก "คินนี่บอย" พอโตขึ้นมีคนถามว่าชื่ออะไร เจ้าตัวจึงตอบด้วยความมั่นใจว่าชื่อ "บอย"

"ไอ้ตัวเล็กผู้หญิงนี่ซนที่สุด" แหม่มบอกพลางทำหน้าเมื่อย

"เรานึกว่าสบายแล้ว ผ่าน 2 คนผู้ชายมา เจอไอ้ตัวเล็กเดี๋ยวก็นั่งเล่นหม้อข้าวหม้อแกงไป ไม่เลย ซนยิ่งกว่าพี่ 2 คนอีก อาจเพราะมีพี่ผู้ชาย เลยต้องเล่นเหมือนพี่ไป"

"เท่าที่เลี้ยงลูกมาไอ้ 2 ตัวโตไม่เคยตกน้ำหรืออะไรนะ คือซนตามอัตภาพ แต่ลูกผู้หญิงนี่ตกบ่อเป็ด มันไหวไหมล่ะ" คนเป็นแม่เล่าถึงลูกสาววัยขวบเศษพลางส่ายหน้า

"แต่เราก็ไม่ใช่คนเรียบร้อย ไม่ได้ต้องการลูกแต่งตัวสวย เป็นเจ้าหญิง เพราะแม่ก็ลุยๆ อยู่ แต่พ่อเขาก็บอกไม่ได้นะ เพราะไอ้เจ้านี่เห็นพี่เล่นรถไฟก็จะเล่นด้วย พ่อบอกเล่นตุ๊กตา ตุ๊กตาซึ่งซื้อมาให้แล้ว 4 ตัว ซึ่งตุ๊กตานั้นต้องเด็ก 3 ขวบขึ้นไป"

"เขาก็กลัวเป็นทอม แต่ไม่เป็นหรอกค่ะ" แหม่มยืนยัน

"เป็นเด็กแก่นๆ เหมือนแหม่ม ตอนเด็กแหม่มก็ไม่ได้เล่นตุ๊กตา"

ประสาแม่ลูก 3 แหม่มบอกว่าการที่ลูกตีกันนั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่แม้กระนั้น ทุกครั้งที่เกิดเหตุก็เป็นอันต้องปวดหัวเหมือนคุณแม่รายอื่นๆ

"แต่ตอนนี้แหม่มใจเย็นขึ้นเยอะมาก"

"ต้องใช้คำว่ามากลากเสียงยาวๆ เลยนะ ก.ไก่ล้านตัว" แหม่มว่า

"บางทีที่ทะเลาะ เขาจะวี้ดกันไอ้นั่นก็ไม่ยอม ไอ้นี่ก็ไม่ยอม แต่เราต้องอดทน มีนะบางที ไอ้นี่เดี๋ยวจะตีซักคนละป้าบ" เธอเล่าความคิดผ่านเสียงเหี้ยมๆ

ก่อนที่เสียงอ่อนๆ จะตามมาว่า "แต่ก็นะ เราก็รักลูก บอกตัวเองใจเย็นๆ ต้องคุยๆ ทั้งที่ข้างในนี่คุกรุ่น"

หากไม่ว่าจะคุแค่ไหน กรุ่นเท่าใด ก็ไม่เคยลงไม้ลงมือ

"ไม่ตีค่ะ" คุณแม่สมัยใหม่บอก

"จะใช้วิธีเข้ามุม แค่รู้ว่าจะต้องเข้ามุมนี่หน้าเสีย ใจเสีย"

โดยก่อนเข้ามุมนั้นแหม่มว่าเธอจะเตือนคนทำผิดล่วงหน้า ถ้าเตือนครั้งที่ 1 ยังไม่หยุด ครั้งที่ 2 ยังอีก คราวนี้จะนับ 1 ถึง 3 ถ้าพ้นขั้นตอนนี้ไปแล้ว คนทำผิดจะถูกจับให้ไปอยู่ในมุมใดมุมหนึ่งของห้องนาน 2-3 นาที แล้วแต่คดี

ระหว่างนั้นคนอื่นๆ ก็เล่นกันต่อไป

"เขาจะกลัวกันมาก"

เพราะอะไร แหม่มก็งง ตอบไม่ได้ รู้แต่เป็นทริกซึ่งครูฝรั่งที่โรงเรียนแนะนำมา

"แล้วพอถึงเวลาก็เข้าไปถามว่าเข้าใจหรือยัง รู้ไหมว่าผิดตรงไหน แล้วจะทำอีกไหม ซึ่งทำอยู่แล้วละ" แหม่มบอกอย่างปลงๆ

ปัจจุบันนอกจากงานใน บริษัทลักษ์ 666 จำกัด ที่ทำร่วมกับพี่ชายคือ วิลลี่ แมคอินทอช กับ เสนาหอย-เกียรติศักดิ์ อุดมนาค แล้ว แหม่มในวัย 42 ปีบอกว่าเวลาส่วนใหญ่เธอทุ่มเทให้กับลูก

"เมื่อก่อนยังอยากเล่นละครเรื่องนี้ ไปเที่ยวนั่นนี่ แต่เดี๋ยวนี้เรื่องของลูกสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง"

ทุกวันนี้จึงพูดได้เต็มปากว่า อยู่เพื่อลูกเป็นหลัก

"บอกตัวเองว่าห้ามตาย"

"ทุกวันนี้จึงเล่นกีฬา ออกกำลังกาย ไม่ทานอาหารตามใจปาก ซึ่งไม่ใช่เกี่ยวกับจะลดความอ้วนและไม่ได้ห่วงสวย"

"แต่คิดว่ายังไงฉันก็ต้องอยู่ในโลกนี้ให้ได้นานที่สุด เพราะฉันจะต้องอยู่ดูแลลูกไปเท่าที่จะอยู่ไหว"

"ห้ามเจ็บ ห้ามปวด ห้ามตาย"

"สั่งตัวเองไว้อย่างนั้น"