Inside Dara
ป่วยหนักจนซูบ “ตู่” เผยความทรมานจากการผ่าตัดรอบ 3 ชักสยอง หมอดูทัก เม.ย.ปีหน้าเจออีก!

“ตู่ นันทิดา” เผยนาทีชีวิต ปวดท้องจนตัวเกร็ง หายใจเองไม่ได้ แอดมิดด่วน “น้องเพลง” เล่าหลังฟื้นหน้าเขียว ด้านอดีตสามีเผยลูกปล่อยโฮเหมือนแม่จะตาย เปิดใจต้องผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี แต่โล่งไม่ใช่มะเร็ง โอดเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ชีวิตทั้งหมด บอกชักสยองหมอดูทัก เม.ย. ปีหน้าเจออีก

ป่วยหนักกะทันหันถึงขั้นต้องผ่าตัดด่วน สำหรับ “ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย” ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่าสาเหตุเกิดจากนิ่วในถุงน้ำดี ตอนนี้ผ่าตัดออกไปแล้ว ทำให้ต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ชีวิตทั้งหมด พร้อมเล่านาทีชีวิตที่เจ็บปวดมากที่สุด แต่โชคดีที่ไม่ใช่มะเร็ง

“บังเอิญมันกะทันหันมากๆ เลย วันที่ 24 ต.ค. ปวดท้องจนตัวเกร็งและหายใจเองไม่ได้เลย ตอนนั้นอยู่บ้านข้างบนคนเดียว ก็โทรศัพท์เรียกรถพยาบาลเลย ก็นั่งรถพยาบาลไปใส่ออกซิเจนด้วย พอไปถึงก็ไม่รู้เรื่องแล้ว ก็เลยมีการให้ยาคลายปวดก่อน เพราะมันจุกแน่นที่สุดเลย ทำให้รู้ว่าอาการปวดแบบนี้มันไม่มีการเตือนมาก่อนเลย”

“มีแค่ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ไปร้องเพลงแล้วเราทานน้ำและรู้สึกว่ามันจุกและคลื่นไส้นิดๆ แค่นั้นเอง เป็นเวลาประมาณ 2 อาทิตย์ หลังจากนั้น 1 เดือน ก็ไม่มีอาการอะไรเลยจนมันเป็นหนักวันนั้นเลยไปโรงพยาบาลเลย ก็เป็นเรื่องฉุกเฉินและปรากฏว่าตรวจเจอเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ก็เลยต้องตัดถุงน้ำดีทิ้ง”

“อยู่คนเดียวเราก็ต้องตั้งสติ ถ้าตอนนั้นเราไม่ช่วยตัวเองหันไปมองตรงนั้นแล้วคุณแม่อยู่ข้างล่าง คุณลุงคนขับรถก็อยู่ที่โรงรถ คือ ตะโกนเรียกไม่มีใครได้ยินเลย จนกระทั่งเราต้องโทร.ไปบอกรุ่นน้องที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน บังเอิญเขายังไม่ออกไปไหนแต่กำลังจะไป จ.ระยอง ก็พูดสั้นๆ ว่า มาหาพี่ทีพี่ไม่สบายเท่านี้เองและตัวเองก็กดโทรศัพท์วางไว้อย่างนั้น ไม่รู้เรื่องแล้ว”

คาดเกิดจากการลดน้ำหนักเร็วเกินไป ผ่าตัดครบ 13 วัน ยังมีอาการท้องอืด

“ของตู่เป็นนิ่วไขมัน คุณหมอบอกมันมาจากหลายเคส แต่ตู่อ่านมาจากหนังสือคิดว่าน่าจะมาจากการลดน้ำหนักเร็วเกินไป น้ำหนักที่มันสวิงเกินไป และเมื่อก่อนตู่เคยเป็นโรคตับอักเสบมันก็จะมีไขมันที่ไม่สามารถจะเอาไปได้หมดก็จะกลายเป็นน้ำดี ตอนนี้ผ่าตัดไปแล้วครบวันที่ 13 อาการท้องอืดยังมีอยู่ เวลาจะดื่มอะไรก็ตามมันก็จะแน่นท้องเพราะมันเป็นช่วงที่ร่างกายเราต้องปรับก่อน ยิ่งเราไม่มีถุงน้ำดีในการพัก ตับก็เป็นตัวผลิตน้ำดีมันก็ต้องรอนิดหนึ่งให้เขาเคยชินและเรียนรู้กันเองก่อนก็คิดว่าน่าจะสัก 3 เดือน”

เปลี่ยนสไตล์ชีวิต ห้ามกินอาหารมัน ใส่กะทิ ต้องเคี้ยวช้าๆ เผยสภาพแรกที่ลืมตา หน้าเขียว

“คุณหมอไม่ได้พูดอะไรพิเศษ แต่เราต้องเปลี่ยนหลายสไตล์ชีวิตของเราเท่านั้นเองต้องระวังเรื่องอาหารอย่างอาหารที่มันไม่ได้กะทิไม่ได้และต้องเคี้ยวอาหารช้าๆ ค่อยๆ ทานแล้วก็หยุด คือมันอาจจะกลับมาเป็นได้เพราะเราไม่มีถุงน้ำดีแล้วแต่มันอาจจะกลับมาเป็นได้ในลำไส้กระเพาะอาหาร ซึ่งโรคนิวในถุงน้ำดีจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอายุ 40 ขึ้นไปแล้วก็ต้องดูอย่างตู่มัวแต่ดูมะเร็งในลำไส้ แต่พอเป็นนิวในถุงน้ำดีก็ให้ระวังเพราะมันปวดแล้วเอาเรื่อง ก็เบาใจลงนะที่ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงกว่านี้คิดว่าเป็นแค่นี้ก็ดีแล้วแหละ เพราะวันที่ลืมตาขึ้นมาครั้งแรกน้องเพลง (ลูกสาว) บอกว่าหน้าเขียว”

“ตอนนี้หมอก็ให้เริ่มเดินตั้งแต่วันแรกเพราะเราใช้การผ่าตัดแบบส่องกล้อง อาการท้องอืดยังมีอยู่แต่มันดีที่เราไม่มีอาการจุกเสียดก็รู้สึกรำคาญเพราะเราไม่เคยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบนี้ ก็ค่อนข้างจะอึดอัดเพราะเราเป็นนักร้องพอร้องเพลงนะรู้สึกมันแน่นไปหมดเลยก็คงต้องใช้เวลานิดหนึ่ง”

รับน้องเพลงร้องไห้หนัก อดีตสามียังบอกลูกร้องเหมือนเธอจะตาย เปิดใจเพื่อนเอาดวงไปเช็กให้ เดือน เม.ย. ปีหน้าต้องเจออีก

“น้องร้องไห้คือตอนนี้น้องกำลังเรียนคอร์สสั้นๆ อยู่จริงๆ ตู่จะไม่บอกให้ลูกรู้ ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะผ่าตัดด้วยซ้ำแต่พอดีแม่ของตู่ให้โทร.ไปบอกน้องเพลงเขาก็ออกจากคลาสเรียนมาทันที เขาไม่ได้เรียนเลย พี่เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ เองก็โทร.มาบอกว่าลูกร้องไห้เหมือนเธอตาย (ยิ้ม) เขาก็ถามว่ายังอยู่ใช่มั้ยยังไม่ตาย ตู่ก็บอกว่าโอเคก็ให้กำลังใจปกติ คือ ตู่เป็นคนที่ไม่สบายมากที่สุดในครอบครัว เข้าโรงพยาบาลบ่อยที่สุด พอน้องเพลงขึ้นไอจีปุ๊บคนจะคิดว่าคุณยายป่วยเหรอแต่เปล่าเป็นคุณแม่ค่ะ ด้วยความที่เราไม่เคยปริปากบ่นจะทนก็เลยป่วยจนได้”

“จริงๆ ตู่ก็ตรวจสุขภาพบ่อย เอาเลือดไปตรวจแต่ลืมอัลตราซาวนด์ ซึ่งผ่าตัดมาสามครั้งมาแล้ว ครั้งแรกผ่าตัดเนื้องอกในมดลูก ครั้งที่สองผ่ากระดูกที่คอและใส่ไทเทเนียม แต่ตอนนี้ก็มีไทเทเนียมอีกอันที่เขาขลิบไว้ พอผ่าเอาถุงน้ำดีออกเขาก็ขลิบไว้เลยค่ะ ไม่ต้องเย็บแล้ว ชนะเลิศมาก เพื่อนก็มาเตือนๆ บอกเดือน เม.ย. ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับท้องและคอ จะมีอีกเราก็คิดอะไรล่ะคือตู่เป็นคริสเตียนแต่เพื่อนเอาดวงไปดูให้พอเหอะ”

ขอบคุณการนั่งสมาธิ เผยสติสำคัญที่สุด

“จริงๆ การที่เราเจ็บป่วยทำให้รู้เลยว่าการที่เราไปนั่งสมาธิเรารู้เลยว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเป็นยังไง นับ 123 ให้ตัวเองหายใจและมีสติและพูดรู้เรื่องว่าฉันเป็นอะไรยังไงแม้กระทั่งอยู่ในรถพยาบาลฉุกเฉินเรายังบอกตัวเองได้ว่าเราแพ้ยาอะไร สติสำคัญที่สุดเลยค่ะ 2 ครั้งแล้วที่ใช้วิธีแบบนี้ เดี๋ยวเช็กอาทิตย์หน้าต้องเช็กใหญ่อีกทีนะ”