Inside Dara
คลาวเดีย เผยเบื้องลึกหย่าสามีคนแรก เปิดตัวไฮโซพม่าแฟนปัจจุบัน

คลาวเดีย จักรพันธุ์ อดีตนางเอกชื่อดัง เปิดใจถึงเหตุผลของการจบชีวิตคู่ หลังแต่งงานกันได้ 3 ปีกับอดีตสามี ไม่ขอตอบกรณีถูกอีกฝ่ายทำร้ายร่างกาย พร้อมเปิดใจไม่เข็ดความรัก ฟุ้งตอนนี้เจอคนที่ใช่ คบมา 8 ปี เป็นหนุ่มนักธุรกิจมหาเศรษฐีประเทศพม่า ลุ้นรอฝ่ายชายขอแต่งงาน

คลาวเดีย จักรพันธุ์ อดีตนางเอกวัยรุ่นชื่อดังยุค 90 ที่เคยทิ้งงานในวงการบันเทิงไปแต่งงานกับหนุ่มนอกวงการเพื่อที่จะสร้างครอบครัว แต่สุดท้าย ชีวิตคู่ของเธอกลับไปไม่รอด ต้องยุติสถานะหลังจากที่แต่งงานได้แค่ 3 ปี แถมยังมีข่าวลือหนาหูว่าอีกฝ่ายทำร้ายร่างกายเลยเป็นเหตุให้ตัดสินใจแยกทางกัน

ทำไมตอนนั้นถึงตัดสินใจแต่งงาน ทั้งที่อายุยังน้อย?

“ช่วงนั้นเราเด็กด้วย เหมือนคิดภาพไว้กับตัวเอง ด้วยความที่เราทำงานมาตั้งแต่เด็ก อยากแต่งงานตอนอายุ 25 อยากมีครอบครัว อยากใส่ชุดแต่งงาน ประจวบกับเป็นจังหวะที่เค้าขอพอดี แต่ก็ยอมรับว่าแต่งค่อนข้างเร็วเหมือนกัน เพราะคบกันแค่ 2 ปีเอง ก็ถือว่ายังน้อย

พอแต่งไป มันก็เริ่มเข้ากันไม่ได้ เหมือนอยู่กันไปแล้วตอนหลังก็รู้สึกว่าไม่มีความสุขเลย มันไม่ไหว ก็เลยตัดสินใจออกมาก่อน แล้วค่อยมาคุยกับผู้ใหญ่ว่าเดี๋ยวจะไปเซ็นหย่านะ คือเราอายุห่างกัน 8-9 ปีด้วยค่ะ ซึ่งเค้าอายุมากกว่า”

เพราะอายุที่ห่างกันเลยไปกันไม่รอด แตกต่างกันมากเกินไปรึเปล่า?

“จริงๆ แก่กว่าไม่ใช่ประเด็นหรอก มันอยู่ที่ไลฟ์สไตล์มากกว่า แล้วก็ความคิดของแต่ละคน และเค้าก็เป็นคนละแบบกับเราเลย พออยู่กันไปเหมือนยิ่งทนกัน แล้วเราก็รับไม่ไหว ไม่อยากกลับบ้าน เพราะทะเลาะกัน ความจริงก็พยายามอดทนนะคะ แต่มันไม่ไหวแล้วจริงๆ

อยากออกไปปาร์ตี้กับเพื่อน เพราะอยู่บ้านแล้วไม่มีความสุข เค้าก็จะอยู่กับแก๊งขับรถของเค้า หลังๆ เริ่มทะเลาะกันเยอะ ความคิดไม่ตรงกัน แล้วเป็นเราเองที่เป็นคนรู้สึก ซึ่งไม่รู้ว่าเค้ารู้สึกหรือเปล่า แต่เคยบอกเค้าว่าเราไม่ไหวนะ ขอเถอะ ตอนหลังก็เลยขอแยกตัวออกมา

คือมันอยู่แล้วทรมาน ก็เลยบอกแม่ว่าไม่ไหวแล้วแม่ แม่ก็บอกว่าไม่เป็นไร ถ้าคิดว่าดีแล้วก็โอเค และมันก็จะดีสำหรับเราและเค้า ที่แยกทางกันไปจะได้เจอคนที่เข้ากันได้มากกว่า”

เค้าตีกรอบคลาวเดีย?

“มันหลายอย่าง ทั้งตีกรอบ ทั้งไลฟ์สไตล์มันไม่เหมือนกันเลย เค้าจะกลับบ้านนั่งดูแต่คอมฯ ดูแต่รถ เราชวนไปดูหนังก็ไม่ดู เคยแต่เจอกันตอนกลางวัน ไม่เคยอยู่ด้วยกันเลย บางที่ไลฟ์สไตล์มันก็สำคัญเหมือนกันนะ การที่เราชอบอะไรที่มันคล้ายๆ แต่ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนแบบเดียวกัน แต่มันต้องมีอะไรที่มันมาจูนให้เราเข้ากันได้ มีอะไรที่ทำแล้วมีความสุข”

หลังเลิกกันมีข่าวลือออกมาว่าสาเหตุที่เลิกเพราะคลาวเดียถูกทำร้ายร่างกาย?

“คลาวเดียไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ดีกว่าค่ะ“

ไม่ขอตอบคำถามเรื่องสามีเก่าทำร้ายร่างกาย

ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ เมื่อ คลาวเดีย ได้เจอกับความรักอีกครั้งกับหนุ่ม ออง ทีฮา นักธุรกิจหนุ่มรุ่นน้องชาวพม่า ที่ตอนนี้คบหากันมาถึง 8 ปี แต่ก็ยังไร้วี่แววที่ฝ่ายชายจะขอแต่งงาน ซึ่งสาวคลาวเดียเปิดใจให้กับทีมข่าวบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ฟังว่า

หลังจากเหตุการณ์นั้น ทำให้คลาวเดียโตขึ้น แกร่งขึ้นมั้ย?

“มันก็ทำให้เลือกมากขึ้น ดูมากขึ้น เริ่มคิดมากขึ้น คือสมัยก่อนคลาวเดียเป็นคนที่พอเลิกกับแฟนแล้วมันจะมีคนเข้ามาจีบ 3-4 เดือนก็จะมีแฟนใหม่ละ ด้วยความที่เราเป็นคนขี้เหงาด้วย

แต่หลังจากเลิกกับสามีเก่า กว่าจะมาเจอคนนี้ก็ประมาณ 8-9 เดือน เกือบจะปีเลยนะ คนอื่นมีเข้ามาบ้าง ไปเดตบ้าง แต่เราจะรู้เลยว่าคนไหนดูแล้วไม่น่าจะรอด ก็จะถอยตัวออกมา แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนก็จะลองคบดูก็ได้มั้ง ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย คือมุมมองมันจะเปลี่ยนไปในแง่ที่ว่า เราต้องดูดีๆ ก่อน ลองดู ลองคุย”

ใช้หัวใจมากขึ้น?

“ใช่ค่ะ เพราะปกติใช้ความรู้สึก ความขี้เหงา เดี๋ยวนี้เราใช้ความคิดมากขึ้น เราต้องดูดีๆ กว่านี้นะ ไม่งั้นมันจะเสียเวลา เสียใจ เสียสุขภาพจิต คือจะบอกให้นะคะ ถ้ามีแฟนแล้วมันไม่เวิร์ก อยู่คนเดียวดีกว่า มีแฟนแล้วปวดหัวกว่าอยู่คนเดียวอีก

อยู่กับหมายังสบายใจกว่า เราเลยเปลี่ยนความคิดตรงนี้ แต่ว่าไม่ได้เข็ดเรื่องความรัก เพราะเราคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาเข็ด ชีวิตมันก็ยังมีโอกาส คนอายุ 60 ก็ยังพบรักใหม่ได้เลย”

แฟนคนปัจจุบันชนะใจได้ยังไง?

“ตอนแรกๆ ที่เจอเค้า ค่อนข้างที่จะปิดเยอะเหมือนกัน เพราะว่าเค้าอยู่อเมริกา เราอยู่ไทย มันไกลด้วยระยะทาง ซึ่งเราไม่เคยเชื่อในเรื่องนี้ เวลามันห่างกัน 12 ชั่วโมง มันจะเป็นไปได้ยังไง เค้ากลับมาเมืองไทย 2 อาทิตย์ต่อปี นั่นคือช่วงที่ได้เจอ ก็คุยกันถูกคอ ไปเดตกัน แต่ตอนนั้นมีคนคุยอยู่อีกคนนึงด้วยซ้ำค่ะ

และแปลกมากที่เพื่อนเค้าอยู่ในกลุ่มเดียวกับเรา เพื่อนสนิทเค้าเรารู้จักตั้งแต่เด็กหลายคน เราคุยกันลงตัว ชอบความน่ารักของเค้า เพราะเค้าจะเป็นคนตรงๆ เป็นคนที่เทสต์ คุยแล้วอิน แต่ตอนแรกกะก็จะเบรกไว้ เพราะรู้สึกว่าไกลมาก แต่พอหลังจากที่เค้ากลับไป ก็โทรศัพท์มาคุยวันละสิบชั่วโมง ถ้าทำงานอยู่ก็จะคุยไปด้วยได้ ยกเว้นถ้าไปประชุม

เค้าพยายามให้เราบินไปที่นิวยอร์ก พยายามจะส่งตั๋วมาให้ เกิดมาไม่เคยมีผู้ชายซื้อตั๋วเครื่องบินให้ในชีวิต (หัวเราะ) ตอนแรกก็ไม่กล้าไป ก็คุยกันอยู่อย่างนี้ 3 เดือน จนเริ่มสนิทกันมากเลยค่ะ จนเราใจอ่อนมากๆ ก็เลยไป

ตอนแรกไป 2 อาทิตย์กลับมาไทยอยู่เดือนครึ่ง ก็กลับไปอีก 3 อาทิตย์ บินไปๆ มาๆ อยู่พักใหญ่ แล้วก็ไปอยู่ที่โน่นยาว คือตอนที่เลิกกับสามีช่วงแรกๆ คนก็เริ่มติดต่องาน เริ่มมีรายการ แต่เราก็ไปอเมริกา เลยหายไปยาวอีกเหมือนเดิม (ยิ้ม)”

อยู่ที่นู่นทำอะไร?

“อยู่ที่นู่นก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย ส่วนใหญ่ตอนเย็นก็ออกไปกินข้าวกับแฟน เสาร์-อาทิตย์ แฟนก็จะพาไปเที่ยว พาไปเที่ยวตลอดเลย เค้าไปทำงาน เราก็เรียนภาษา หัดทำอาหาร จากที่ทำอาหารไม่เป็นกลายเป็นทำอาหารเก่ง ก็เป็นอีกชีวิตนึง”

ความรักตอนนี้แฮปปี้มาก?

“ยังรักกันดีอยู่นะคะ เพียงแต่ว่าตอนนี้มันก็เปลี่ยนไป ช่วงแรกผู้ชายจะทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้หญิงรัก เราจะดูเป็นเจ้าหญิง แต่พอเรารักเค้าแล้ว เค้าก็จะกลายเป็นองค์ชาย ก็สลับกันนิดนึงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”

คุณออง เป็นมหาเศรษฐีรวยมากในพม่า?

“ไม่ๆๆๆ เค้าเป็นคนทำงานค่ะ บ้านเค้าก็มีฐานะแต่อย่าไปเรียกว่ามหาเศรษฐีขนาดนั้น เพราะเค้าไม่ใช่มหาเศรษฐีหมื่นล้านแบบที่ข่าวพูด เพียงแต่ว่าโปรเจกต์ของเค้ามันใหญ่มาก เค้าทำงานเองแล้วตัวเค้าก็ไม่ได้ใช้เส้นที่บ้านเลย เค้าเป็นคนทำงานหนัก ทำงานแบบตั้งใจจริงๆ เป็นคนเอาการเอางาน แล้วเค้าทำงานเก่ง

ส่วนที่บ้านทางฝั่งบ้านพ่อเป็นทหาร คุณพ่อเป็นทหารแต่เกษียณแล้ว คุณแม่ทำมูลนิธิ ส่วนคุณอองเนี่ยทำเกี่ยวกับไฟฟ้า พวกพลังงานไฟฟ้าค่ะ”

อนาคตต้องอยู่พม่าหรือเมืองไทย?

“คลาวเดียอยู่ไทยค่ะ เค้ามีออฟฟิศอยู่ทั้งพม่าและไทย บางทีก็ไปพม่ากับเค้าบ้าง ช่งเรามีงานก็อยู่ที่นี่”

ตอนนี้คบกันมากี่ปีแล้ว จะแต่งงานมั้ย?

“8 ปีแล้วค่ะ ส่วนเรื่องแต่งงานเราเฉยๆ เพราะเคยแต่งแล้ว แต่ว่าคนก็ถามเยอะ เค้าก็บอกว่าเร็วๆ นี้ แต่เค้าก็พูดแบบนี้มา 3-4 ปีแล้วนะคะ (หัวเราะ) ก็เลยไม่รู้ว่าเร็วๆ นี้คืออะไร เค้าก็ว่าจะแต่ง แต่เราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่ไม่ได้รีบร้อนมาก ไม่ได้รีบเลยจริงๆ ถามว่ากลัวการแต่งงานหรือใช้ชีวิตคู่มั้ย ไม่กลัวค่ะ ตอนนี้ก็เหมือนจะใช้ชีวิตคู่อยู่ค่ะ เพราะเราอยู่ที่เดียวกัน เราก็อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว”

อยากมีลูกมั้ย?

“ส่วนตัวคลาวเดียไม่ได้อยากมีมาก แต่อองน่าจะอยาก เค้าเคยพูดว่าอยากมี เพราะฉะนั้นก็ต้องมี แต่ว่าตอนนี้ก็ 37 แล้วไง เริ่มแก่ ถ้าจะมีลูกก็ต้องเริ่มซีเรียสแล้วล่ะ (ยิ้ม)”.