Inside Dara
'หญิง' โต้แตกคอผู้จัดการส่วนตัว ปลื้ม ร่วมงานนักแสดงฮอลลีวูด

หญิง รฐา ปัดมีปัญหาผู้จัดการส่วนตัว แจง งานเยอะเลยต้องการหาคนช่วยดูแลเรื่องคิวเพิ่ม ปลื้ม ร่วมงานฮอลลีวูด ส่วนเรื่องร้านหมูกระทะของป๋าเทพที่มีข่าวถูกโกง เจ้าตัวไม่กล้าออกความเห็น คาดไม่น่าจะมีปัญหาตามข่าว...

สวย เริด เชิด โสด สำหรับนักแสดงสาว หญิง รฐา โพธิ์งาม ที่ตอนนี้มีงานรุมล้อมเข้ามาไม่ขาดสาย ทั้งงานหนังระดับฮอลลีวูดที่เจ้าตัวได้ร่วมแสดงกับนักแสดงระดับแถวหน้าของฮอลลีวูด และงานละครที่คิวแน่นเอี๊ยด ถึงขั้นต้องประกาศหาคนมาช่วยดูแลจัดคิวให้เพิ่ม งานนี้เลยทำให้หลายคนมองว่า สาวหญิงเธอทะเลาะกับผู้จัดการส่วนตัวรึเปล่า ทำไมต้องประกาศหาคนดูแลคนใหม่ ซึ่งงานนี้สาวหญิงเธอมีคำตอบแบบเคลียร์ๆ ส่วนเรื่องร้านหมูกระทะของ ป๋าเทพ โพธิ์งาม ลุงของหญิงนั้น เธอบอกว่าไม่รู้รายละเอียดแน่ชัดและไม่อยากออกความเห็น อยากให้เคลียร์กันเองภายในดีกว่า

เรื่องร้านหมูกระทะของป๋าเทพเจ๊ง เราได้ติดต่อพูดคุยกันบ้างไหม? "คือคุณแม่จะเล่าให้ฟัง แต่ว่าในฐานะของหญิงที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง หญิงก็ตอบไม่ได้จริงๆ ว่าจะสามารถตอบได้มากน้อยแค่ไหน แต่ได้ทราบจากคุณแม่ว่ามีปัญหากัน แบ่งสันปันส่วน แต่ว่าเราก็ไม่ได้รู้รายละเอียด" อย่างคุณแม่ให้ความช่วยเหลือไหม? "คุณแม่ก็ไม่ได้พูดอะไรนะคะ แต่ในความรู้สึกหญิง หญิงรู้สึกว่าการทำธุรกิจมันอาจจะต้องรอเวลาถึงจะเห็นกำไร ณ ตอนนี้หลานๆ เอง ก็มีพื้นที่ในการร้องเพลง ในการทำมาหากิน น่าจะโอเค แต่ว่าในเรื่องของการทำธุรกิจอาจจะมีความไม่เข้าใจกันบ้าง มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ดังนั้นก็คงต้องมานั่งคุยกัน" ได้พูดคุยกับป๋าไหม? "ไม่ได้พูดคุยกับป๋าเลย ฟังจากคุณแม่อีกทีนึง คุณแม่ก็บอกใจเย็นๆ ก่อนนะ เพราะเราก็ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว การที่จะให้เราเข้าไปพูดหรือเข้าไปออกความเห็น มันก็ไม่ถูกต้องค่ะ" ที่คนส่วนใหญ่พูดคือป๋าไว้ใจเค้ามากเกินไป ยังไม่ได้แบ่งสันปันส่วนเรื่องกำไร? "แต่เท่าที่หญิงทราบเค้าขายดีมากนะ อย่างหญิงเจอ ช่างแต่งหน้า หรือช่างทำผมในกอง เค้าก็บอกว่าถ้าไปต่อแถวคือไม่ได้กินนะ แถวรอยาวมาก คือเท่าที่รับรู้ แต่เราก็ไม่รู้ในเชิงธุรกิจมันได้มากน้อยแค่ไหน หักลบต้นทุนแล้วมันได้ยังไง ถ้าเราเข้าไปแต่แรกหรือมีส่วนตั้งแต่แรกก็คงจะช่วยได้ ตอนนี้คือเราก็ไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะเราก็ไม่รู้ข้อมูลทั้งหมด"

ด้านป๋าเทพเขาเครียดไหม? "เขาก็ยังทำอยู่นะคะ แต่หญิงว่าจุดนี้คงให้ต่างคนต่างใจเย็น แล้วนั่งคุยกันมากกว่านะ เรื่องธุรกิจมันเป็นเรื่องของน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่านะ เขาไม่มีเรา เราไม่มีเขา ก็ทำไม่ได้ ต้องนั่งคุยดีที่สุด ด้วยธุรกิจนี้ หญิงว่ามันไปได้อีก มันสามารถเปิดได้อีกหลายสาขาเลยแหละ หญิงว่าใจเย็นๆ แล้วนั่งคุยกันดีๆ ดีกว่า" เจอแบบนี้หญิงกับคุณแม่จะไปคุยกับป๋าไหม? "โอ้โห คุณแม่คุยอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่กับตัวลุงด้วย อย่างที่รู้กันลุงเป็นคนติสท์ๆ เนอะ ต้องค่อยๆ มีวิธีในการพูดนะ แต่ว่าจริงๆ ไม่มีอะไรหรอก ลุงเป็นคนใจดีด้วยซ้ำ แล้วก็เป็นคนที่ไม่ได้ต้องการอะไรเยอะด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่า บางทีในเรื่องของธุรกิจมันจะต้องเปิดกางออกมาเคลียร์เลย" เราคิดว่าจะเคลียร์กันลงตัวไหม เพราะป๋าเทพมีเรื่องอย่างนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่? "หญิงว่าที่เราทำธุรกิจ ตัวเราเองต้องมานั่งดูก่อน อย่างทำธุรกิจ หญิงจะดูทุกเดือน ดูรายรับรายจ่าย ความโปร่งใส คือเราเองก็ต้องทำการบ้านของเราด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องมานั่งคุยกันว่าเราทำในส่วนนั้นแค่ไหน แต่เค้าทำหน้าที่ของเค้าแค่ไหน ถ้าเราทำหน้าที่ของเราดีแล้ว แต่เราไม่ได้ผลตอบแทน ก็ต้องคุยกันว่าเพราะอะไร ดังนั้นในจุดนี้หญิงเองก็ไม่สามารถพูดได้ 100% ว่าเพราะอะไร แต่ถ้าถามหญิง การทำงานกับลุงมันไม่ใช่เรื่องยากเลย แล้วลุงทำด้วยใจอยู่แล้ว ถ้าใจดีไม่น่ามีปัญหา ทางออกที่ดีที่สุดคือนั่งคุยกัน"

กับผู้จัดการส่วนตัว ยังเลิฟๆกันเหมือนเดิมจ้า

มีข่าวว่าเรามีปัญหากับผู้จัดการส่วนตัว? "ไม่ได้มีปัญหาค่ะ คือช่วงนี้พี่เมย์มีนักแสดงที่ดูหลายคน แล้วตัวหญิงเองรับในส่วนของภาพยนตร์และละครซะส่วนใหญ่ อีเวนต์หญิงอาจจะไม่ค่อยได้รับมาก เพราะฉะนั้นอาจจะต้องให้คนมาดูในส่วนละครเพิ่มขึ้น มาคุยคิวงาน พี่เมย์ก็จะรับในส่วนอีเวนต์ไป" แสดงว่าอาจจะจ้างคนมาเพิ่ม? "ก็กำลังดูอยู่ค่ะ จริงๆ ไม่ได้ทะเลาะอะไรนะคะ รู้สึกว่าพี่เมย์ทำหลายคน บางทีมันเยอะเกินไป แล้วเค้าอาจจะไม่ไหว ก็มีการคุยกับพี่เมย์ในขั้นต้นแล้วว่า อาจจะมีคนมาช่วยดูแลในเรื่องของคิวละคร คิวภาพยนตร์" หรือว่าอาจจะมีข้อขาดตกบกพร่องในการดูแลน้องรึเปล่า? "จริงๆ มันก็ต้องมีเป็นเรื่องปกติเนอะ เหมือนเวลาทำงานมันต้องมี พอเวลาทำงานมีการแจกจ่ายไปหลายคน มันก็ต้องมีการรวน ดังนั้น เรียกว่าเอามาช่วยมากกว่า เค้าก็ไม่สามารถไปกองละครกับหญิงได้ทุกครั้ง เพราะเค้าก็มีคนที่ต้องดูแล เรียกได้ว่าคุยกันแล้ว แต่ว่าในส่วนของละครอาจจะต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งดูแลไป ในส่วนของอีเวนต์? หรือด้านอื่นที่พี่เมย์หามา ก็ให้เค้าดูแล" บางกระแสบอกว่าหญิงน้อยใจที่พี่เมย์ดูแลเทคแคร์คนอื่นมากกว่า? "ไม่ได้น้อยใจหรอกค่ะ เราค่อนข้างนิสัยแมนๆ ด้วยซ้ำ สิ่งที่หญิงต้องการคือหญิงรู้สึกว่าเวลาทำงาน หญิงเป็นคนเต็มที่กับการทำงาน 100% ดังนั้น ใครสักคนที่ทำงานกับหญิงก็ต้อง 100% เหมือนกัน ถ้าเค้ามีอะไรหลายอย่าง และไม่สามารถเต็มที่ได้กับเรา เราก็ต้องช่วยตัวเอง ดังนั้น หญิงก็คิดว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด ไม่ได้มีการทะเลาะอะไรกัน เรามองข้อเท็จจริง เราไม่อยากให้มีผลเสียในอนาคต เราก็มีการคุยกันตลอดนะคะ"

โสดคร๊าาาาา

นอกจากนี้ หญิงยังได้เผยถึงการร่วมงานหนังแอ็กชั่นฮอลลีวูด เรื่อง Mechanic : Resurrection ซึ่งเป็นภาคต่อของ The Mechanic โดยเธอได้บอกว่า

"หญิงร่วมงานกับ ทอมมี่ ลี โจนส์ มีเจสซิก้า อัลบา มีเจสัน สเตแธม ซึ่งหญิงเคยพูดไปแล้วว่าหญิงทำงานกับเจสัน ในซีนที่เราร่วมตอนนี้ร่วมแค่เจสันคนเดียว ส่วนของเจสสิก้าหญิงไม่ได้ร่วมซีน ไม่ได้เจอกันในเรื่องเลย ไม่ได้โคจรกันในฉากเลย คือเราเจอเจสันและเราโดนเจสันฆ่าเราก็ตายแล้ว" แล้วอย่างเวลาแถลงข่าวจะมีโอกาสได้เจอไหม? "ยังไม่รู้เลย ยังไม่อยากคิดเลย ไม่กล้าคิด อยากเจออยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ไม่รู้อ่ะ" ฉายเมื่อไหร่? "ฉายมกราคม 2016 ค่ะ" เป็นยังไงบ้างที่ได้ร่วมงาน? "สนุกดีนะ มันเป็นอะไรที่แบบเป็นงานฮอลลีวูดที่เป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้น เพราะแต่ก่อนมันจะเป็นหนังอาร์ต ก็จะมีความชิล จำนวนเงินในการลงทุนมันก็ไม่เยอะ อันนี้มันเป็นโปรเจกต์ใหญ่ หนังแอ็กชั่น เม็ดเงินมันเยอะ เราก็จะเห็นการทำงานที่แตกต่างไป เช่าสตูดิโอ สร้างฉากขึ้นมาใหม่ ติดไฟแบบร้อนมาก" การทำงานต้องโปรขึ้นไหม? "ต้องโปรขึ้น เล่นในกองไม่ได้เลย แบบว่า 5 4 3 2 ทำงาน จะเดินออกไม่ได้เลย หญิงเป็นเบอร์ 9 เค้าจะแบ่งเป็น 1 2 3 4 5 ซึ่ง 1 คือพระเอก เค้าจะไล่ๆ ไปมา ซึ่งหญิงคือเบอร์ 9 เค้าทำงานเป็นระบบ ก็สนุกดีมันเป็นอะไรที่สนุก ได้เรียนรู้ แต่มันก็ไม่ชิล แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ" เทคเยอะไหม? "เทคเยอะ ตอนแรกเกร็งนะ อย่างฉากแอ็กชั่นถ่ายเป็นวันเลย" ถ่ายนานไหมเรื่องนี้? "ของหญิงประมาณ 7 คิวค่ะ" บทพูดเยอะไหม? "ก็เยอะค่ะ แต่ไม่ได้เยอะมาก" ต้องไปเรียนภาษาเพิ่มไหม? "มันก็มีสำเนียง เหมือนอย่างที่ฝรั่งมาบ้านเราก็พูดคำผิด เราก็มีสเตรทคำผิดบ้าง" แต่ไม่ได้ไปเรียนจริงจัง? "ไม่ๆ ค่ะ" ต้องไปเรียนการแสดงเพิ่มไหม? "ไม่ค่ะ แต่มันก็โอเคนะ รอให้งานมันออกมาก่อนดีกว่า" เค้าได้คอมเมนต์อะไรไหม? "ส่วนใหญ่เค้าก็แฮปปี้ค่ะ หลักๆ เค้าก็แค่เรื่องของภาษาบางทีเราฟังเรารู้ว่าเค้าพูดอะไร แต่พอฝรั่งฟังมันเหมือนเราไม่ได้พูดออกมาจากปาก เพราะนิสัยคนไทยไม่ได้พูดเสียงดัง เค้าเลยรู้สึกว่าการพูดของคนในเอเชียมันไม่ชัดเท่าเค้า ก็มีเรียนนิดหน่อย" แต่ก็ถ่ายเสร็จตั้งแต่เดือนธันวาฯ แล้วค่ะ" หลังเรื่องนี้จบมีติดต่อเข้ามายัง? "ไม่ๆ ค่ะ รอเรื่องนี้เสร็จแล้วลองดูว่าจะมีงานอะไรเข้ามาอีกมั้ยค่ะ".