ก่อนหน้านี้นักแสดงหนุ่ม “แบงค์” ธิติ เคยออกมายืนยันแล้วว่ายังไม่เลิก “บี” แฟนสาวนอกวงการ หลังจากมีข่าวลือว่ารักล่ม ล่าสุด หนุ่มแบงค์ มาร่วมงานแถลงข่าว ONE Championship ณ ห้องรีเจนซี่ บอลรูม 1 ชั้น 5 โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท (BTS นานา) ยอมรับแบบไม่มีกั๊กว่าตนเป็นขอลดสถานะแฟนสาวเป็นแค่เพื่อน
อัปเดทชีวิตช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ?“ก็ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาครับ ก็สนุกดีครับไปเที่ยวมา 7 วัน”
หายเหนื่อยไหม ไปพักผ่อนช่วงปีใหม่ ?“ก็ดีนะครับ เรารู้สึกว่าพร้อมที่จะทำงานในปี 2020 แล้ว แล้วก็รู้สึกว่าได้ไปปลดปล่อย”
ไปกี่คน ?“ไปกัน 2 คนครับ”
คือเป็นแพลนที่เราตั้งใจไว้ว่าจะไปกับแฟนใช่หรือไม่ ?“ไม่ได้ไปครับ (หัวเราะ) เลิกกันแล้ว”
อันนี้ความสัมพันธ์คือ ?“ครับ เลิกกันแล้ว โดยเลิกกันสักพักหนึ่งแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้มีโอกาสออกมาพูด”
สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากอะไร ?“จริงๆ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับปัญหาอะไร มันอยู่ที่พอผมได้ลองศึกษาดูใจกัน แล้วได้ลองคบกันในช่วงนะยะเวลาหนึ่ง แล้วเรารู้สึกว่าพอมันถึงจุดหนึ่งแล้วความรู้สึกเราเปลี่ยนไป เราก็เลยตัดสินใจเองว่า งั้นจะลดความสัมพันธ์ลงให้เป็นแบบเพื่อนเหมือนแต่ก่อนก็ได้”
เลิกกันนานยัง ?“สักพักหนึ่งแล้ว”
“คือเขาเป็นคนที่ดีมากๆ เขาก็เลยรู้สึกยอมรับทุกอย่างที่เราตัดสินใจ ผมก็ไม่รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้วหรือเปล่า แต่ในส่วนของเรา เรารู้สึกว่า เอ่อ เราควรจะต้องทำแบบนี้แหละ และเขาเองก็ยอมรับในการตัดสินใจของเราทั้งหมด”
มีปัญหาเรื่องไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตหรือไม่ ?“ไม่มีเลยครับ จริงๆผมรู้สึกว่าแฟนคนนี้เป็นคนที่ทะเลาะกันน้อยมาก คือแทบจะไม่ค่อยมีปัญหากันเลย แต่พอเราได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ได้ลองศึกษากัน มันก็เลยทำให้เรา ”
ชีวิตในวงการ แฟนคลับ มีผลต่อการตัดสินใจครั้งนี้ไหม ?“จริงๆ เราเคยคุยกัน แล้วก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเขาเลย เขาก็พยายามปรับตัว แต่ในมุมเรา เราก็เห็นใจเขานะ การที่แบบบางอย่างบางทีมันก็ ไม่รู้อะ มันก็อาจจะเเบบ เราอาจจะไม่คบกันเหมือนคนปกติทั่วไปมั้ง”
“ไม่เกี่ยวกันเลยครับ”
แต่ในวันนี้เราสามารถคุยในฐานะเพื่อนได้ ?“ใช่ครับ แต่ไม่รู้เขาอยากคุยกับผมหรือเปล่า (หัวเราะ)”
แล้วได้มีการพูดคุยไหมว่าเขาสามารถมาเจอเราได้?“ก็มีคุยกันครับ เพราะเขาก็ยอมรับในการตัดสินใจของเรา แล้วก็ช่วงนี้มันอาจจะเป็นช่วงที่เขายังไม่อยากมาเจอ ต้องใช้ระยะเวลาในการทำใจ เหมือนต่างคนต่างเฟดตัวเองออกไปก่อน”
ความรู้สึกต่างคนต่างเฟดเป็นความสึกทั้งคู่ หรือเป็นความรู้สึกของเเบงค์คนเดียว?“ก็ คือ ยังไม่ได้คุยกันถึงรายละเอียดขนาดนั้น แต่ผมเพียงแค่รู้สึกว่าความรู้สึกของผมมันก็เปลี่ยนไป แล้วผมก็รู้สึกว่า คือยังไงงะ คือเราไม่ได้ถามเขา แต่คงคิดว่าเขาไม่เปลี่ยนไปหรอก เขายังคงรักผมเหมือนเดิม แล้วก็ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกันเหมือนเดิม แต่พอเรารู้สึกว่าความรู้สึกเราเปลี่ยนไป เราอาจจะเห็นแก่ตัวมั้งในการที่ตัดสินใจในลดความสัมพันธ์อย่างนี้ไป”
ทำไมมองว่าเราเห็นแก่ตัว ?“เพราะมันเป็นความรู้สึกของเราฝ่ายเดียว”
เมื่อมีกระเเสข่าวแบบนี้หลายคนมุ่งเป้าไปที่บุคคลที่ 3 ?“ไม่ ไม่ได้มี”
ได้มีการลองปรับตัวกันก่อนหน้านี้ไหม ?“จริงๆก็เคยมีปรับ”
“มันก็ต้องมีครับ”
ฝ่ายหญิงจะรู้สึกเศร้ามากกว่าเราไหม ?“เขาก็น่าจะเสียใจ และก็น่าจะผิดหวัง ผมว่า”
ยืนยันว่าจากกันด้วยดี ?“ใช่ครับ คือเราได้คุยกับเขา เขาก็ยอมรับในสิ่งที่เราตัดสินใจ”
กลัวไหมว่าฝ่ายหญิงจะออกมาพูดอีกแบบ ?“ ไม่นะครับ เพราะตอนที่เราตัดสินใจ ความรู้สึกของเราก็เป็นแบบนี้จริงๆ“
คิดว่าเราตัดสินใจถูกไหม ?“ผมว่ามันก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี“
เรามูฟออนได้ชัวร์ไหม ?“ไม่รู้ครับ เราไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเป็นยังไง คือคนที่เป็นฝ่ายบอกบางทีเขาก็...“
“ ก็มีคิดทบทวนบ้าง คือพอเราบอกสิ่งนั้นไปแล้ว ก็ต้องกลับมาคิดว่าที่เราทำไปมันถูกต้องหรือเปล่า พอได้ใช้เวลากับตัวเองก็รู้สึกว่า มันอาจจะดีที่สุดแล้วแหละ แต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่ความคิดเห็นของผมฝ่ายเดียว“
ก่อนหน้านี้รู้สึกบ้างไหมว่าจะไปต่อไม่ได้ ?“ มันก็เป็นความรู้สึกที่ค่อยๆเฟด“
ใช้เวลาตัดสินใจนานไหมก่อนจะบอก ?“เราก็มีคิดทบทวนนานเหมือนกันนะ แต่ผมก็เห็นใจเขา ตรงที่เขาไม่มีโอกาสได้คิด“
เหมือนเขาไม่ได้ตั้งรับ ?“ใช่“
ปลอบใจเขายังไง ?“เขาคงไม่อยากได้รับคำปลอบใจจากผม“
ยังเป็นเพื่อนกันได้ไหม ?“ผมก็ยังยืนยันว่าผมยังแคร์เขา ก็ยังเป็นเพื่อน“
“ใช่ๆ“
ยังมีช่องทางติดต่อกันไหม ?“ก็มีเบอร์โทรศัพท์ครับ“
มูฟออนคนใหม่ไหมหรือจะพักก่อน ?“ยังไม่มีดีกว่าครับ“
โสดรับปีใหม่เลย ?“ครับผม“
ใช้คำว่าโสดได้แล้ว ?“ใช่ๆ“
© 2011 - 2019 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012